การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง

เนื้อหา

Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง


" ครืน... " เสียงฟ้าคำรามดั่งสนั่นหวั่นไหว เมฆอึมครึมภายใต้ท้องฟ้ามืดมิด ประกายไฟแลบขึ้นทั่วผืนฟ้า หยาดฝนตกลงบนพื้นดินส่งเสียงดังระงม แสงสว่างวาบขึ้นจนขาวโพลนไปทั่ว เผยให้เห็นร่างของสัตว์ป่าที่ดุร้าย กำลังรายล้อมพวกเขาทั้งหมดอยู่ในตอนนี้

แอนนี่กำมีดสั้นในมือไว้แน่น ตั้งท่าเตรียมพร้อมเข้าต่อสู้ ขณะที่เคนเนทจ้องมองเพื่อนของเขานอนแน่นิ่งไม่ไหวติงจมกองเลือดเบื้องหน้าอยู่ไม่ไกล 

อาร์ตี้กำลังมองหาเส้นทางเพื่อหลบหนี แต่ทว่ามีพวกมันอยู่เต็มไปหมดทุกพื้นที่ กระจายตัวไปตามซากปรักหักพังและบนต้นไม้ใหญ่ 

" แอนนี่... หาช่องทางให้พวกเราหนีออกไปจากที่นี่ได้หรือเปล่า " เขาเอ่ยถาม 

" ถ้าแค่พวกเราคงได้ แต่ถ้าไปช่วยเด็กคนนั้นด้วย คงจะยาก " เธอตอบ 

' ทำยังไงดี อลันอยู่ด้านหลังของพวกลิง จะเข้าไปช่วยได้ยังไง ' ในขณะที่เคนเนทกำลังคิดหาวิธี ด้วยร่างกายที่สั่นไม่หยุดเพราะความหวาดกลัว 

และแค่เพียงอึดใจเดียว ฝูงลิงก็ตรงเข้าจู่โจมพวกเขาในทันที มันเล่นงานแอนนี่ก่อนเป็นคนแรก ในบรรดาทุกคนที่อยู่ตรงนี้เธอเป็นคนที่มีพลังอนิม่าสูงที่สุด เมื่อเทียบกับเคนเนทที่ยังไม่รู้วิธีใช้พลัง และอาร์ตี้นักสำรวจที่ควบคุมพลังตัวเองได้ดี

พวกลิงพุ่งเข้าประชิดหญิงสาว จู่โจมเธออย่างบ้าคลั่ง แอนนี่หลบเลี่ยงพวกมันอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอเหวี่ยงแขนฟันมีดสั้นในมือสวนกลับพวกมัน 

' ฮึ่ม!ไม่ถึงตัว แขนมันยาวจริงๆ ' 

ความคล่องแคล่วว่องไวของพวกมัน ประกอบกับผืนดินนั้นชุ่มไปด้วยน้ำเจิ่งนอง ทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก 

ผู้พิชิตฝีมือดีของกองทัพคนนี้ ใช้ประสบการณ์ในการต่อสู้ของเธอ ประมือกับพวกมันอย่างไม่ลดละ ถึงแม้จะโจมตีสวนกลับไปได้ แต่ก็ทำได้แค่ฟันเฉี่ยวแขนของพวกมันถากไปนิดเดียว 

ฝูงลิงจำนวนหลายตัวสลับกันเข้าจู่โจมเธออย่างไม่คิดชีวิต แม้พวกมันจะโดนฟันเข้าที่แขนจนเกิดบาดแผลเลือดอาบ แต่ก็ไม่มีทีท่าของความหวั่นเกรงหรือรู้สึกเจ็บปวด 

ในขณะที่อาร์ตี้และเคนเนทยืนหันหลังชนกัน พวกเขาป้องกันตัวคอยระวังให้กันและกัน เคนเนทหยิบโล่ไม้ที่เขานำติดตัวมาด้วย ใส่แขนยกขึ้นป้องกันการจู่โจม เขาหลบเลี่ยงเขี้ยวเล็บของพวกมันอย่างฉิวเฉียด

" อาร์ตี้ระวังหลังให้หน่อย ฉันจะเข้าไปช่วยอลัน " 

" อย่าบ้าน่า! นายเข้าไปไม่ถึงหรอก " 

ฝูงลิงเข้ารุมล้อมเต็มไปหมด จนไม่เหลือช่องว่างให้เขาเข้าถึงตัวอลันได้เลย 

" โธ่เว้ย! ทำไมมันเยอะยังงี้ " 

อาร์ตี้คอยระวังพวกลิงที่เข้ามาจู่โจม มีตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาประชิดตัวพวกเขา ชายหนุ่มพลันใช้เชือกบ่วงบาศก์คล้องแขนของมัน และกระชากมันกดลงพื้น 

" ฉึก! " คมมีดปักเข้ากลางขมับจนมันนอนแน่นิ่ง 

" แฮ่ก... แฮ่ก... " อาร์ตี้เริ่มหายใจเหนื่อยหอบ เขาสังเกตเห็นแอนนี่ที่ถูกฝูงลิงรุมทำร้ายอย่างคลุ้มคลั่ง สถานการณ์ตึงมือของเธอมากในตอนนี้ 

และแล้ว... 

" ฉัวะ! " กรงเล็บข่วนเข้าบนแผ่นหลังของแอนนี่ ในตอนที่เธอไม่ทันระวังตัว 

' อึก!! บ้าเอ๊ย! ' 

ถึงมันจะเป็นแผลไม่ฉกรรจ์ แต่เธอก็รับรู้ถึงพิษที่กำลังแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกาย ประสาทสัมผัสเริ่มด้านชาและแขนซ้ายของเธอก็เริ่มหมดแรงลง 

" หนอย! ไอ้พวกลิงบ้า " แอนนี่สบถด้วยความโกรธ เธอพลันคว้าดาบยาวในฝักด้านหลังของตน 

" แอนนี่อย่า! " อาร์ตี้ตะโกนลั่นเพื่อเตือนในทันที

" วูบ! " ในพริบตาที่เธอจับดาบ แสงสีแดงก็ส่องสว่างขึ้น ดาบที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้พลังของผู้พิชิต ใต้โกร่งดาบถูกฝังไว้ด้วยอัญมณี ในตอนนี้มันส่องแสงเป็นประกายแวววาว เธอกำดาบไว้แน่นทั้งสองมือและใช้มันฟาดฟันศัตรูอย่างแม่นยำ 

พลังอนิม่าช่วยเสริมกำลังให้กับดาบเล่มนี้ เธอจ้องมองเป้าหมายตาเป็นมัน ในขณะที่เข้าประชิดตัวพวกมัน " ฉัวะ! " เพียงแค่ฟันครั้งเดียว ร่างของพวกมันก็ขาดออกเป็นสองท่อนจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ล้มลงนอนสิ้นใจในทันใด 

" หึ! เข้ามา ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด! " เธอกัดฟันฉีกยิ้มด้วยความโกรธแค้น ในตอนที่รอยเลือดของพวกมันเปรอะเปื้อนใบหน้า

' แย่แน่... แอนนี่สติหลุดไปแล้ว ' อาร์ตี้นึกขึ้นด้วยใบหน้าพรั่นพรึง

สิ่งที่เขากลัวนั้นไม่ใช่ความบ้าคลั่งหรือการอาละวาดของน้องตัวเอง แต่คือสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจะเห็นมันในตอนนี้... 

" ตึง!! " เสียงดังสนั่นจนผืนดินสั่นไหวไปชั่วครู่ มันดังมาจากใจกลางของเมืองโบราณแห่งนี้

" ฮูมมม!!! " สุ้มเสียงคำรามดังลั่นออกมา ทำเอาพวกเขาหวาดผวา แม้กระทั่งลิงตัวอื่นๆก็ยังสะดุ้งจนหลีกหนีไปหลบซ่อนกาย

" นั่นมันมันเสียงของอะไร... " เคนเนทหยุดชะงักทันใดและหันไปมองหาที่มาของเสียงร้องนั่น 

เงาดำทะมึนขนาดใหญ่ กระโจนออกมาจากซากเมืองโบราณ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามที่แสงสว่างวาบของสายฟ้ากระพริบไปทั่วก้อนเมฆ ร่างอันมหึมาของมันกระทืบลงบนพื้นดินจนสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น บัดนี้ลิงตัวผู้ขนาดสูงใหญ่ ยืนอยู่ต่อหน้าอาร์ตี้และเคนเนท 

จ่าฝูงลิงที่แข็งแรงความสูงกว่าสามเมตร น้ำหนักตัวร่วมสี่ร้อยกิโลกรัม กล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งและมีกรงเล็บสีดำยาว ถูกปกคลุมไปด้วยผลึกสีนิลตั้งแต่ปลายเล็บยันต้นแขน 

สิ่งที่ทุกคนเห็นในตอนนี้ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวด้วยสีหน้าอันตื่นตระหนก หัวใจพลันหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม เพียงแค่ลมหายใจและแววตาของมันก็ทำเอาทั้งสามคนขวัญผวา

" มะ... มันคือตัวอะไร " เคนเนทพูดเสียงสั่น 

" จ่าฝูงของพวกมัน... " อาร์ตี้หัวใจเต้นดังจนหายใจไม่เป็นจังหวะ 

และในพริบตานั้นเอง มันพุ่งตัวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วว่องไวผิดกับขนาดของมัน ตรงดิ่งผ่านทั้งสองคนไปโดยไม่แยแส " หลบเร็ว! " อาร์ตี้คว้าตัวเคนเนทหลบเลี่ยงอย่างทันท่วงที

สัตว์ป่าดุร้ายตัวนี้มุ่งหน้าไปยังสิ่งที่ทำให้มันหงุดหงิด และหญิงสาวผู้พิชิตถือดาบยาวคือเป้าหมายของมัน 

แอนนี่ตาเบิกโพลงขึ้นทันใด เธอพลันยกดาบเตรียมตัวรับการจู่โจม " เปรี้ยง! " ท่อนแขนขนาดยักษ์เหวี่ยงเข้าใส่เธอเต็มแรง จนร่างกระเด็นทะลุกองเศษซากหิน ลอยออกไปไกลหลายสิบเมตร ดาบเล่มยาวหมุนติ้วลอยละลิ่วขึ้นฟ้าและร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน

" แอนนี่!! " อาร์ตี้ตะโกนเรียกชื่อ ในขณะที่เธอนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน 

' โธ่เว้ย!! ' ในยามที่เส้นทางเปิดโล่ง แม้ความหวาดกลัวเข้ากัดกินจิตใจของเขา เคนเนทก็ยังพยายามตั้งสติและก้าวขาที่สั่นไม่หยุด พยายามฉวยโอกาสนี้วิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่นอนจมกองเลือดอยู่ข้างหน้า หวังจะช่วยเหลือให้ได้โดยเร็ว

" เคนเนท เดี๋ยว...!! " 

ในช่วงเวลาเพียงแค่พริบตาเดียวนั้น... เขาพุ่งตัวไปยังทิศที่อลันนอนสลบอยู่ สายตาจดจ่อไปยังเป้าหมาย

' อีกนิดเดียว ' อีกแค่เพียงคืบเดียวก็จะคว้าตัวมาได้ 

" ระวังทางซ้าย! " อาร์ตี้ตะโกนไล่หลังมา 

เขาเหลือบปลายหางตาไปเห็นลิงตัวหนึ่ง กำลังพุ่งกระโจนตรงมาอย่างรวดเร็ว ในเสี้ยววินาทีที่ไม่ทันได้ระวังตัว " กึด! " ลิงจมูกยาวคว้าเอาแขนซ้ายของเคนเนทในพริบตา สายตาของเขามองไปที่แขนตัวเองในตอนนี้มันกำลังอ้าปากขึ้นกว้างเผยคมเขี้ยวยาว และขย้ำกัดลงไปที่แขนของเขาจมมิดจนถึงกระดูก... 

" อ๊ากกกกก!!! " เคนเนทกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส โลหิตแดงสดพุ่งกระฉูดออกมาท่วม

อาร์ตี้พุ่งเข้าไปหาในทันที เขาหยิบมีดสั้นขึ้นมาและปักมีดลงไปที่หัวของลิงตัวนั้น จนมันอ้ากรามออกและตัวสั่นระริก เลือดไหลอาบลงมาทั่วตัวและค่อยๆคลายปากที่กัดแขนของเคนเนทออก สิ้นใจล้มลงในที่สุด 

เขาคว้าเอาตัวเคนเนทไว้และหันหลังกลับทันที หมายที่จะหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เลือดไหลอาบแขนซ้ายของเคนเนทเต็มไปหมด ความเจ็บปวดรุนแรงค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกด้านชา และตอนนี้ร่างกายของเขากำลังจะเป็นอัมพาต

' ต้องรีบออกไปจากที่นี่ ไม่งั้นหัวใจได้วายแน่ ' อาร์ตี้หน้าซีดเผือดด้วยความตื่นตกใจ

" ปล่อย.... ฉัน อลัน... " เคนเนทเอ่ยขึ้นเบาๆด้วยแววตาที่เลื่อนลอย ใบหน้าของเขาซีดขาวจากการเสียเลือดปริมาณมาก

" แอนนี่!! " อาร์ตี้ตะโกนลั่น

แอนนี่ยังคงมีสติรู้สึกตัวอยู่ เธอพยายามขยับตัวขึ้นช้าๆ ใช้ฝ่ามือยันพื้นเพื่อจะยืนขึ้นในตอนที่แขนขาของเธอสั้นระริก 

เบื้องหน้าที่ขวางทางพวกเขาอยู่คือ สัตว์ร้ายขนาดมหึมา จ่าฝูงของพวกมันหันขวับมาจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังหอบหิ้วร่างอันหมดเรี่ยวแรงของเพื่อนหนีออกมา และมันตรงดิ่งเข้าไปหาพวกเขาอย่างฉับพลัน เสียงหัวใจเต้นดังรุนแรง อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านจนอุณหภูมิของเลือดร้อนระอุ ' ตายแน่... ' อาร์ตี้เสียขวัญกำลังใจ สีหน้าของเขาสิ้นหวังแล้วในยามนี้

ทันใดนั้น... หมอกควันลอยเข้ามาขวางกั้นพวกเขากับลิงยักษ์ตัวนั้นเอาไว้ 

' หมอก? ' เขานึกขึ้นอย่างประหลาดใจ 

เมฆหมอกมืดสลัวเข้าบดบังการมองเห็น ลิงจ่าฝูงเหวี่ยงแขนทุบลงตรงที่พวกเขากำลังวิ่งไป ทว่าพลาดไปนิดเดียว อาร์ตี้หลบเลี่ยงได้อย่างฉิวเฉียดเพราะกลุ่มควันที่มาปกคลุมบริเวณ 

กลุ่มควันลอยวนเวียนอยู่รอบตัวของลิงยักษ์ มันพลันใช้แขนปัดไล่หมอกดำออกจากตัว ยิ่งปัดป้องหมอกยิ่งหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปกคลุมไปทั่วบริเวณของเมืองโบราณ และในจังหวะที่สบโอกาสอาร์ตี้ตัดสินใจหลบเลี่ยงหนีออกจากพื้นที่ทันที เขาวิ่งตรงไปพยุงร่างของแอนนี่ขึ้นและพากันหลบหนีออกจากเขตแดนแห่งความตายแห่งนี้... 

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พื้นดินเฉอะแฉะจนอ่อนนุ่ม ทำให้เคลื่อนไหวได้ยากลำบาก ทั้งสามคนกลิ้งล้มลุกคลุกคลานจนดินโคลนเปื้อนตัวไปหมด พยายามวิ่งอย่างทุลักทุเล น้ำในปริมาณมากที่ตกลงมาทำให้ลำธารสูงขึ้น ร่องน้ำเก่าจากนครลืมเลือนเชื่อมเข้ากับแม่น้ำสายหลักของดาร์ย่า พวกเขาจึงตัดสินใจกระโจนลงน้ำเพื่อว่ายกลับไปยังหมู่บ้าน และในท้ายที่สุดก็หลบหนีออกมาได้สำเร็จ 

ในเวลาเดียวกันนั้น... หมอกควันเริ่มหายไป หลงเหลือเพียงกลุ่มก้อนจางๆลอยขึ้นสูงสู่ยอดไม้ใหญ่ กลับกลายเป็นผ้าคลุมสีดำทมิฬ และบุรุษลึกลับผู้นี้ก็เผยตัวขึ้นมาอีกครั้ง 

จามาล... เหลือบสายตาอันเย็นชามองลงมายังฝูงลิงเบื้องล่าง 

ขณะนี้พวกมันกำลังรายล้อมร่างของเด็กหนุ่มที่นอนสลบไสลไม่ขยับเขยื้อนตัว ฝูงลิงจมูกยาวหลายตัวเข้ามารุมล้อมรอบตัวของอลัน ส่งเสียงร้องดังโหวกเวก 

เงาดำทมิฬร่างยักษ์เดินผ่ากลางเข้ามาท่ามกลางฝูงลิง จ่าฝูงของพวกมันคว้าเอาร่างที่นอนแน่นิ่งของเขา หอบหิ้วตัวของเด็กหนุ่มกลับเข้าไปยังนครลืมเลือน ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย และโลหิตที่ไหลรินลงมาจากใบหน้า...




......

♪......♪......

ท่วงทำนองประกอบกันขึ้นเป็นจังหวะ เครื่องดนตรีบรรเลงเพลงดังขึ้น... 

แสงแดดสว่างจ้าส่องแสงเข้ามาแยงตา เสียงของผู้คนพูดคุยกันจ้อกแจ้กจอแจ อลันลืมตาขึ้นช้าๆใต้ร่มเงาของใบไม้ 

" อือ... นี่เรา... อยู่ที่ไหนนะ " เขาอ่อนเพลียยามเมื่อลืมตาขึ้น พลันชำเลืองมองซ้ายมองขวา 

บริเวณนี้อาคารบ้านเรือนโดยรอบเป็นอิฐหรือหินอ่อน มีโครงสร้างเป็นเสาและคาน ผสมผสานไปกับแมกไม้เขียวขจีให้ความร่มรื่นงดงาม

บรรยากาศอบอุ่น แวดล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา พวกเขากำลังรวมตัวกันมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในเมือง ที่นี่ดูไม่คุ้นตาเลย เด็กหนุ่มมองไปรอบๆเขานึกไม่ออกว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง

" พิธีจะเริ่มแล้ว เร็วเข้า... " ชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นขณะวิ่งตรงมาที่อลัน

" เอ่อ... ขอโทษนะครับ " เขาเอ่ยทักชายผู้นั้นหวังจะถามถึงสถานที่แห่งนี้

" ฟุ่บ... " ชายผู้นี้วิ่งผ่านตัวเขาไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

' อะ... ไม่เห็นเราหรอกเหรอ ' เด็กหนุ่มฉุกคิดขึ้นในใจ ' นี่เราฝันอยู่หรือเปล่านะ ' เขาเดินตามฝูงชนไปจนถึงลานกว้างด้านใน ที่ตอนนี้มีงานเลี้ยงรื่นเริงและคับคั่งไปด้วยผู้คน พวกเขาเหล่านั้นมีสีหน้าที่อิ่มเอมมีความสุข งานสังสรรค์นี้คงจะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองอะไรบางอย่าง

" ขอแสดงความยินดีกับองค์ราชาและราชินี ที่ได้ให้กำเนิดราชธิดา " เสียงประกาศดังกึกก้อง และฝูงชนต่างปรบมือพร้อมกันด้วยความยินดีปรีดา

" เครื่องราชบรรณาการ ถูกส่งมาถวายให้เป็นของขวัญแด่ราชธิดาขอรับ " 

" จอกศักดิ์สิทธิ์โบราณ " องครักษ์คนหนึ่งส่งมอบมันให้กับกษัตริย์ ผู้ซึ่งประทับอยู่บนบัลลังก์

' นั่นมัน... จอกแห่งความจริงเหรอ? ' อลันพลันสังเกตเห็น เขายืนจ้องมองมันอยู่ท่ามกลางฝูงชน

" ขอบคุณมาก ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานฉลองให้กับธิดาคนแรกของเรา " องค์ราชาโบกมือให้กับผู้คนด้วยความปลื้มปิติ 

แสงอาทิตย์ส่องแสงสว่างจ้า ภาพกลับขาวโพลนจนอลันต้องหรี่ตาลง และความสว่างไสวนั้นก็จางลงไป... เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในห้วงเวลาที่ทิวทัศน์รอบตัวได้เปลี่ยนไป

ผ้าม่านใสปักลายดอกไม้สีขาว พลิ้วไหวไปตามแรงลมจากหน้าต่าง มุ้งสีนวลแขวนอยู่เหนือเตียงขนาดใหญ่ มันเปิดออกด้านหนึ่งของเตียง 

อลันเหลือบไปเห็นหญิงสาวกำลังนอนกอดเด็กทารกในผ้าห่อตัว ข้างกายเธอนั้นชายสูงวัยใส่ชุดผ้าไหมแต่งกายดูมีภูมิฐาน เขาจดจำใบหน้าที่พึ่งเห็นเมื่อครู่ได้ บุรุษผู้นี้คือกษัตริย์ของเมือง 

" ข้าจะตั้งชื่อให้นางว่า ลาน่า (Lana) ที่แปลว่าแสงสว่างอันบริสุทธิ์ " 

" ลูกสาวของเรา " กษัตริย์สวมกอดกับราชินีและทารกตัวน้อย ด้วยรอยยิ้มที่เบิกบานใจ


......


แสงสว่างอันบริสุทธิ์กลืนกินห้องบรรทม จ้าเกินกว่าจะลืมตาดู พร่าเกินไปจนมองไม่เห็นฉากนั้น... 

ทิวทัศน์นั้นได้ผันแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง 

' ภาพเปลี่ยนไปอีกแล้ว ' อลันหรี่ตามองใต้เงาของใบไม้ เวลานี้แสงอ่อนๆเล็ดลอดลงมากระทบบนพื้นหญ้าสีเขียว พร้อมกับความอบอุ่นของดวงตะวันที่สัมผัสได้

" ลาน่า... อย่าไปเล่นไกลนะลูก " เสียงแว่วจากหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นมา

เด็กหญิงตัวน้อยกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาของเธอเพียงลำพังอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ท่ามกลางสวนสวยเต็มไปด้วยดอกไม้ 

อลันมองเห็นความน่ารักของเด็กหญิง เขาก็ยิ้มแย้มขึ้นเพราะความไร้เดียงสา เขาก้าวเดินเข้าไปใกล้เธอ เพื่อจะได้มองเห็นชัดเจนขึ้นอีกสักนิด 

" ฉันชื่อว่า... ลาน่า "  

" เธอมีชื่อว่าอะไรเหรอ? " ในวันที่อากาศดีอย่างนี้ เด็กน้อยพูดคุยกับตุ๊กตาของตน ขณะนั่งเล่นอย่างสนุกสนานอยู่ใต้ต้นไม้

' น่ารักจัง เธอชื่อว่าลาน่าเหรอ ' อลันพลางนึกขึ้นในใจ พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนและเฝ้ามองดูเธออยู่ข้างๆ 

" น่าสนุกจังผมเล่นด้วยได้ไหม " 

" ....... " ลาน่าจ้องมองมาที่เขา ด้วยแววตากลมโตอันบริสุทธิ์ของเด็กน้อยคู่นั้น 

" สวัสดีครับ ผมชื่อว่าอลันนะ " เขากล่าวทักทายพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้เธอ

" สวัสดีค่ะ หนูชื่อว่าลาน่า " เธอยิ้มตอบ 

' อะ...!! เห็นเราด้วยเหรอ ' อลันตกใจสะดุ้งเฮือก เขาแปลกใจมากที่เด็กหญิงตอบกลับมา นี่มันคือความจริงหรือความฝันกันแน่...


ณ ความฝัน... อันพร่ามัว เอื้อมมือเข้าไปสัมผัสความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในความมืดมิดของวันวาน

ความบริสุทธิ์ที่ทอแสงแห่งความหวังเอาไว้อย่างเลือนราง และความงดงามอันซีดเซียวที่เปราะบางราวกับจะแตกสลายไปในฝ่ามือ 

แอบเข้าหาเธออย่างเงียบงันเพื่อไม่ให้ความจริงเหล่านั้นพังทลายไปเสียก่อน

แสงของดวงตะวันนั้นมันสว่างเกินกว่าจะมองเห็นวันพรุ่งนี้ และความรู้สึกที่สัมผัสได้ คือความเศร้าโศกของโชคชะตา...  


จบตอน.