อวิ้นซี ชายหนุ่มในยุคปัจจุบันได้เสียชีวิตลง และดันลืมตาขึ้นมาในร่างเกอผู้หนึ่ง ซ้ำยังได้แต่งงานกับชายโง่เขลาอีกด้วย แต่พอได้เห็นหน้าที่หล่อเหลาของเขาอวิ้นซีได้ตัดสินใจจะเลี้ยงดูเขาในอนาคต
ชาย-ชาย,รัก,ครอบครัว,ชายรักชาย,ชาย-ชาย,ต่างโลก,#BL,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"พี่สะใภ้ ท่านเก่งทุกอย่างจริงๆ ขอรับ" โจรุ่ยอดไม่ได้ที่จะพูดชื่นชมอวิ้นซีออกมา อวิ้นซีเองก็อายุสิบแปดปีเท่าเขา แต่ดูแตกต่างกันเหลือเกิน นี่คือข้อแตกต่างของคนบ้านนอกกับคนนครหลวงหรือไม่
“ฮ่าๆ พอมีความรู้อยู่บ้างเล็กน้อยน่ะ” อวิ้นซียิ้มรับ ไม่คิดว่าสิ่งที่เขาเรียนมาในอดีตยังสามารถนำมาใช้หากินได้ในยุคนี้ จะว่าไปที่นี่ไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ชาติใดในโลกที่เขาจากมาเลยด้วยซ้ำ ที่นี่ผสมผสานทั้งเก่าและใหม่หลายอย่างเข้าด้วยกัน คิดว่าเขาคงหลุดเข้ามาในมิติใดมิติหนึ่งเป็นแน่
“พี่สามล่ะขอรับ” โจรุ่ยมองไปมากลับไม่เห็นพี่สามของเขาตั้งแต่เมื่อเช้าหลังทานข้าวด้วยกันเสร็จแล้ว เขาไปอยู่ที่ใดกัน
“นู่น พอข้าบอกว่าอยากได้บ่อไว้เลี้ยงปลาสักหน่อย นู่นขุดบ่ออยู่นู่นล่ะ” อวิ้นซีพยายามชีไปตรงหลุมห่างออกไป คล้ายเห็นหัวคนผลุ่บๆโผล่ๆ บ้างนั่นคือสามีของเขาเอง ให้ตายสิผู้ชายคนนี้ เมื่อคืนเล่นงานเขาเสียหนัก แต่ตนเองกลับยังสบายๆ ซ้ำยังมีแรงไปขุดบ่อเสียขนาดนั้น
“เช่นนั้นรึ เดี๋ยวข้ากับพี่รองมาช่วยขุดบ่นะขอรับ” โจรุ่ยเลิกคิ้วขึ้น พี่สามของเขากำลังขุดบ่อย่างขันแข็งเลยจริงๆ โจรุ่ยเองก็คิดจะชวนพี่รองมาช่วยพี่สามขุดเช่นกัน
“จะไม่รบกวนพวกเจ้าเกินไปรึ” อวิ้นซีกลัวว่าจะรบกวนเวลาของพวกเขามากเกินไปจึงเอ่ยออกมา
“ไม่รบกวนหรอกขอรับ เมื่อวานพี่สามยังไปช่วยข้าสร้างที่พักเลยขอรับ เรื่องแค่นี้พวกเราช่วยเหลือกันได้ขอรับ” เรื่องแค่นี้พวกเขาพี่น้องย่อมช่วยเหลือกันอยู่แล้ว อีกอย่างช่วงนี้พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องทำมากมายข้าวในนาก็พึ่งปลูกไปไม่นานการเก็บเกี่ยวยังต้องรออีกหลายเดือนทีเดียว
“อ่า ถ้าเช่นนั้นต้องขอบคุณเจ้ากับพี่รองแล้ว” อวิ้นซีขอบคุณพวกเขา ไม่นานสามพี่น้องก็ช่วยกันขุดบ่อ อวิ้นซีไม่ต้องการบ่อที่ลึกมากนัก เพียงแค่กว้างสักเล็กน้อย บ่อนี้นอกจากเลี้ยงปลายังเอาไว้ให้วัวได้กินน้ำด้วย อีกสองเดือนฝนก็จะตกคาดว่าคงเก็บน้ำได้บ้าง ตอนนี้พวกเขาต่างใช้น้ำที่บ่อน้ำที่อยู่ในที่ของโจรุ่ยกันทั้งหมดอยู่
“ท่านพี่ ท่านทำงานพวกนี้อยู่รึ” อวิ้นซีกลับจากเอาหญ้าไปให้วัว มองสามีตนเองที่กำลังนั่งทำโต๊ะไม้อยู่ เขาถึงกับแกะสลักได้สวยงามตามแบบที่อวิ้นซีวาดไว้ให้ไม่มีผิด ยังโชคที่ดีมีไม้ให้ใช้ไม่ขาดที่บนภูเขา ถึงแม้จะตัดไปบ้างพวกมันก็เกิดมาทดแทนมากมาย
“อืม เถ้าแก่จ้าวบอกว่าจะรับซื้อ” อันเฉิงถึงแม้จะสนใจกับงานของเขาอยู่ แต่เมื่อไรได้ยินเสียงภรรยาเขาไม่เคยละเลย อันเฉิงตอบอวิ้นซีออกไป หลายวันมานี้มีคนงานมากมายเข้ามา พวกเขาเริ่มก่อสร้างเรือนในพื้นที่ที่อวิ้นซีเลือกไว้แล้ว หลังจากขุดบ่อให้ภรรยาเสร็จเขาเองก็เริ่มว่างงาน นอกจากเลี้ยงวัวแปดตัวที่ไม่ได้ใช้พื้นที่มากนักเพียงล่ามมันไว้ให้กินหญ้าหรือเกี่ยวหญ้าให้มันบ้าง และพามันไปกินน้ำที่บ่อของน้องสี่แล้วก็ไม่มีอะไรต้องทำอีก อวิ้นซีเลยวาดพวกโต๊ะเก้าอี้ให้สามีของตนทำฆ่าเวลาเท่านั้นไม่คิดว่าเถ้าแก่จ้าวที่มาตรวจงานก่อสร้างจะพบเข้า เถ้าแก่จ้าวเองก็มีร้านขายเครื่องเรือนอยู่แล้ว เขาจึงอยากได้พวกมันไปขายที่ร้านด้วย เมื่อได้ยินว่าได้เงินอันเฉิงกระตือรือร้นยิ่ง
“เช่นนั้นรึ ข้าว่าก็ดีนะขอรับ ตอนนี้ข้าก็วาดแบบได้หลายอย่างแล้วเช่นกัน ให้ท่านทำมันน่าจะขายได้ไม่น้อยเลย” เมื่อเห็นความตั้งใจของสามีแล้วอวิ้นซีย่ิมสนับสนุนเขาเต็มที่ เขาวาดแบบสวยๆ ออกมามากมายให้อันเฉิงเลยทีเดียว
“ภรรยาข้าเก่งที่สุด” ภรรยาของเขาเก่งจริงๆ อันเฉิงมักมองภาพแบบที่ภรรยาวาดขึ้นอย่างหลงใหล เขาคิดเพียงว่าต้องทำออกมาให้ดี ให้สมกับแบบสวยๆ ของภรรยา
“ท่านก็เก่งเช่นกันขอรับ ข้าว่าพรุ่งนี้เราเข้าไปในเมืองหรือไม่ขอรับ” สามีของเขาผู้นี้คล้ายไม่รู้ตัวว่าเขานั้นปากหวานเพียงใด เขาไม่เคยประหยัดคำชมเมื่อตนเองได้ชมภรรยา ทำเอาอวิ้นยิ้นหัวใจพองโตทุกครั้ง ก่อนอวิ้นซีจะเอ่ยชักชวนสามีเข้าเมืองในวันพรุ่งนี้
“ได้ข้าจะไปกับภรรยาข้า” อันเฉิงไม่ได้ถามแม้แต่น้อยว่าภรรยาของเขาจะเข้าไปทำอันใด ขอเพียงภรรยาไปที่ใดของย่อมติดตามไปอยู่แล้ว
“พอดี ข้าอยากจะซื้อม้ากับรถม้ามาไว้สักหน่อยน่ะขอรับ” ถึงแม้อันเฉิงจะไม่ถามอวิ้นซีก็ต้องบอกเขาไว้อยู่แล้ว
“มันแพง เราไม่มีเงิน ข้าจะไปยืมเงินพี่น้องก่อน” อันเฉิงขมวดคิ้ว แม้เขาจะโง่เขลา แต่ซื้อม้ามันต้องแพงมากแน่เขากลัวเงินจะไม่พอคงต้องไปขอหยิบยืมจากเหล่าพี่น้องมาให้ภรรยาของเขาซื้อม้าก่อน เอาไว้เขาจะขยันทำงานมากขึ้นขายของพวกนี้ให้เถ้าแก่จ้าวได้ค่อยคืนเงินให้พวกเขา
“ไม่ต้องไปหยิบยืมพวกเขาหรอกขอรับ ข้ามีอยู่ท่านไม่ต้องห่วง อย่างไรเวลาไปไหนมาไหนเราจะได้ไม่ลำบากไงขอรับ” อวิ้นซียิ้มหวานสามีของเขาไม่ห้ามปรามเขาเรื่องซื้อม้าแม้แต่น้อย ซ้ำยังจะไปหยิบยืมเงินผู้อื่นเพื่อมาให้เขาอีกต่างหาก อย่างไรเขาก็มีเงินอยู่มากไม่จำเป็นต้องไปรบกวนเหล่าพี่น้องของสามี
“เช่นนั้นข้าตามใจเจ้า” ในเมื่อภรรยาของเขาบอกว่ามีก็คือมี ภรรยาเขาเก่งกาจจะมีเงินมากก็ไม่เเปลกนัก อันเฉิงจึงเลิกคิดเรื่องนี้ไปตั้งใจจะทำงานต่อ
"ท่านพี่ขอรับข้ามีเรื่องจะบอกท่าน" อวิ้นซียังมีเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกเขาให้รับรู้ แม้เจ้าของร่างเดิมตั้งใจจะไม่บอกเขา และยอมใช้ชีวิตอยู่กับอันเฉิงอย่างเรียบง่ายก็ตาม แต่อวิ้นซีคนนี้ไม่คิดเช่นนี้ อย่างไรสักวันเรื่องวุ่นวายย่อมตามมาอยู่ดีไม่สู้เขาเป็นคนกลับไปสร้างเรื่องวุ่นวายเองเสียดีกว่า
“ภรรยาข้ามีอะไรรึ” อันเฉิงหยุดชะงัก พร้อมกับมีท่าทีสงสัยน้ำเสียงของภรรยาของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยคล้ายกับเรื่องที่จะบอกเขาเป็นเรื่องที่จริงจังยิ่ง
“ความจริงข้ามิใช่ลูกคนใช้ของคนสกุลอวิ้นดังเช่นฮูหยินอวิ้นได้เล่าให้แม่ของท่านฟังขอรับ แต่ข้าเป็นบุตรที่เกิดจากฮูหยินคนแรกของแม่ทัพใหญ่อวิ้นขอรับ ฮูหยินอวิ้นคนนี้เป็นเพียงแม่เลี้ยงของข้าเท่านั้น ส่วนมารดาจริงๆ ของข้า นางเสียชีวิตตั้งแต่ข้าอายุได้ห้าขวบแล้ว บิดาของข้าตอนนี้ประจำการอยู่ชายแดนตะวันออก ตอนนั้นเขาเอาเพียงน้องชายของข้าไปด้วย ส่วนข้าอยู่ที่นครหลวงกับแม่เลี้ยงมักถูกกลั่นแกล้งรังแกสารพัด ไม่คิดว่าเมื่อฮูหยินอวิ้นคนนี้รู้ข่าวว่าท่านพ่อจะกลับมาอีกไม่นาน ถึงกับเร่งหาทางกำจัดข้าออกมาทั้งยังแอบขโมยสินเดิมของข้าไปมากมายนัก ข้าจึงจำเป็นต้องไปนครหลวงสักครั้งเพื่อทวงทุกอย่างคืนขอรับ” อวิ้นซีบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดของเจ้าของร่างเดิมให้สามีรับรู้ อย่างไรเพื่อความสงบสุขที่แท้จริงของครอบครัว เขาย่อมต้องไปทำทุกอย่างให้มันจบจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง
“ข้าไปกับเจ้าด้วย” อันเฉิงขมวดคิ้ว เรื่องที่เขาได้ยินจำเป็นต้องให้เขาขบคิดอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนจะอันตรายอยู่บ้างภรรยาของเขาต้องไปเจอกับพวกคนไม่ดีแน่ แต่อย่างเราเขาไม่ปล่อยให้ภรรยาไปคนเดียวแน่นอนเขาต้องไปด้วย
“หึ ๆ ข้าเพียงบอกท่านไว้ข้ายังไม่ไปตอนนี้หรอก อย่างไรท่านเป็นสามีของข้า ท่านต้องไปด้วยอยู่แล้ว” เขาเองยังอยากใช้ชีวิตสบายๆเสียก่อน อย่างไรบิดาของเขาได้รับราชโองการเรียกตัวกลับนครหลวงก็ยังเหลือเวลามากกว่าครึ่งปี ถึงตอนนั้นเขาค่อยเข้าไปขอความเป็นธรรมกับบิดาก็ยังไม่สาย แน่นอนว่าสามีของเขาต้องไปด้วยอยู่แล้ว
“อืม พวกเขาจะชอบข้าหรือไม่” อันเฉิงรู้สึกเครียดขึ้นมา คนโง่เขลาอย่างเขาครอบครัวของภรรยาจะรักชอบหรือไม่
“แม้พวกเขาไม่ชอบท่าน แต่ข้าชอบท่าน เราคำนับฟ้าดินสาบานเป็นผัวเมียกันแล้ว พวกเขาจะทำอะไรได้ ท่านไม่ต้องห่วงชั่วชีวิตนี้ข้ามีท่านเป็นสามีคนเดียว” พวกเขาไม่ชอบแล้วอย่างไร อวิ้นซีชอบสามีคนนี้มาก หากคิดจะแยกพวกเขาออกจากกันต้องดูว่าพวกเขาจะสามารถทำได้หรือไม่
“ข้ารักเจ้า” อันเฉิงตอนนี้ในดวงตาของเขามีเพียงแค่ภรรยาเท่านั้น