“กูอยากถามมึงว่ามึงคิดยังไงกับยัยว่าน”
วิญาดาเอ่ยถามเพื่อนด้วยความอยากรู้ เธอจะได้เอาไปบอกเพื่อนถูก แต่ดูจากหน้าตอนที่ยัยว่านสารภาพรักกับวรวิทย์ เธอก็รู้แล้วว่ามันคิดยังไง แต่ก็อยากถามมันให้แน่เธอจะใจ
“มันมีแฟนแล้ว มันจะไปคิดอะไรยัยวิ มึงนี่ก็ถามแปลก”
ทศวรรษว่าให้เพื่อนสาวไม่จริงจังนัก
“กูรู้ แต่กูก็อยากรู้จากปากมึงไง มึงคิดยังไงกับว่าน เอาความจริงนะ”
วิญาดาบอกเพื่อนน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับตั้งใจฟังคำตอบของวรวิทย์
วรวิทย์มองหน้าเพื่อนสาวก่อนจะตอบ
“กูไม่ได้ชอบว่าน กูคิดกับมันแค่เพื่อน กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเลย กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันแอบชอบกูอยู่ ตอนกูได้ยินที่มันพูดกูก็ตกใจ ไม่คิดว่ามันจะชอบกู”
วรวิทย์บอกความในใจให้เพื่อนฟัง เขาคิดกับว่านแค่เพื่อน
รัก,ชาย-หญิง,ไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,วรวิทย์,รัก,ว่านรัก,ดลวัฒน์,วิญาดา,เพื่อนสนิท,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนที่ 45
วันต่อมา
“ว่าไงโทรมาแต่เช้าจังวะ”
วิญาดาพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เหมือนเพิ่งตื่นตอนที่เขาโทรไป
(เช้าบ้าอะไรมันเก้าโมงแล้วนะเว้ย)
“เหรอ ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมกูได้จะนอน”
วิญาดานอนพูดกับโทรศัพท์โดยที่ยังไม่ได้ลืมตาอาการจะหลับก็ไม่หลับ เพราะต้องคุยสายกับไอ้เสือ
(เดี๋ยว!)
“อะไรวะรีบพูดมาเลย กูอยากนอนแล้ว”
วิญาดาว่าให้เพื่อนชายน้ำเสียงหงุดหงิดที่มันมากวนการนอนของเธอ เมื่อคืนเธอกับยัยว่านจัดของใส่กระเป๋ากว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน
(มึงมาช่วยกูถือของขึ้นไปบนห้องหน่อย)
“มึงอยู่ข้างล่างเหรอ”
วิญาดาลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าเพื่อนจอดรถอยู่ข้างล่างคอนโด จะมาก็ไม่บอก คนยิ่งง่วง นอน อยู่
(เออ กูซื้อของมาเยอะแยะเลย อยากให้มึงทำกับข้าวให้กินหน่อย ขนมที่มึงชอบ กับของฝากก็มีนะ”
“ได้ ๆ กูลงไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ได้ยินทศวรรษว่ามีของฝากมาให้เธอ วิญาดาก็หายง่วงนอนขึ้นทันที พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน และมาปลุกเพื่อนที่ยังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่มอยู่
“ว่าน ว่าน ยัยว่าน!”
วิญาดาปลุกเพื่อนเสียงดัง แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย เธอเลยเขย่าแขนเพื่อปลุกมันอีกครั้ง มันก็ยังไม่ตื่นอีก ตื่นยากตื่นเย็นจังวะ คราวนี้เธอเอาโทรศัพท์มาเปิดเพลงแดนซ์กระจายใส่หูยัยว่าน มันตื่นขึ้นมาทันทีพร้อมกับเอามือปิดหูไว้ ด้วยความรำคาญเสียงเพลงที่เธอเปิด
“มึงจะเปิดเพลงทำไมวะ กูจะนอน!”
ว่านรักพูดเสียงดังด้วยความโมโห และล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม
“ไอ้เสือมันอยู่ข้างล่าง”
“เกี่ยวไรกะกู”
ว่านรักพูดโดยที่ยังนอนลับตาอยู่
“ก็มันบอกให้พวกเราไปถือของช่วยไง มันซื้อของมาเยอะ มันเอาของฝากมาให้พวกเราด้วยนะ”
“เหรอ”
“เออ!รีบไปล้างหน้าเลยมึง เดี๋ยวกูลงไปช่วยมันถือของก่อน เสร็จแล้วมึงลงมาเลยนะ”
“เออ”
พอขนของออกจากรถของทศวรรษเสร็จ วิญาดาก็เข้าครัวไปทำอาหารส่วนว่านรักก็เดินเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำ อาบเสร็จก็มาเปลี่ยนกับวิญาดาให้มันไปอาบน้ำ
“อาหารที่มึงทำยังอร่อยเหมือนเดิมเลยวะ”
“อร่อยก็กินเยอะ ๆ มีอีกเยอะเลยในหม้อ”
ว่านรักบอกเพื่อน เมื่อเห็นทศวรรษซดแกงจืดไม่วางช้อน
“ที่นั่นไม่มีอาหารไทยเหรอวะ มึงถึงได้กินเอากินเอาอย่างนี้”
วิญาดาถามด้วยความสงสัย เมื่อเพื่อนกินแกงจืดกับแกงเขียวหวานที่พวกเธอทำหมดไปแล้วสองถ้วย อะไรจะหิวขนาดนั้น
“มี แต่มันไม่อร่อยเท่าพวกมึงทำ”
บอกเพื่อนเสร็จก็ตักข้าวเข้าปากคำโต
“มาถึงไทยแม่มึงไม่ทำอาหารไทยให้กินเหรอ วะถึงได้มาให้พวกกูทำให้กินเนี่ย”
ว่านรักถามขึ้น
“แม่กับพ่ออยู่ไม่อยู่ไปต่างจังหวัดเมื่อวาน”
“ถึงว่าไม่เห็นมารับมึงที่สนามบิน”
“แล้วแฟนมึงอะ”
“ไปทำงาน”
“ออ”
“มึงไม่กินข้าวเหรอวะวิ”
เสือถามวิญาดาเมื่อไม่เห็นมันตักกับข้าวใส่จานเลย
“ไม่กิน กูรอกินของฝากจากมึงเนี่ย”
บอกเพื่อนน้ำเสียงน้ำเสียงปกติ
“เปิดเอาเลยมันอยู่ในกระเป๋าเป้”
ทศวรรษบอกเพื่อน แล้ววิญาดาก็เปิดกระเป๋าเป้ออกก็เห็นพวกขนมช็อกโกแลตที่มันซื้อมาห้าหกแท่ง และยังมีน้ำหอมสองขวด ไม่รู้ว่ามันคือกลิ่นอะไร
วิญาดาไม่ได้สนใจน้ำหอมสักนิด เพราะเธอสนใจำวกขนมมากกว่า
ว่านรักไม่ได้สนใจวิญาดาที่เอาของฝากออกมาจากกระเป๋าเป้เลยสักนิด เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังก้มหน้ากดโทรหาใครบ้างคนอยู่ โทรไปยังไงก็ไม่ติดเพราะเขายังไม่เลิกปลดบล็อกเบอร์ของเธอ หรือไม่เขาก็อาจซื้อซิมใหม่ไปแล้วก็ได้ มันก็ตั้งนานแล้วนิเนอะ ไม่รู้ว่ามันเลิกกับแฟนมันยัง หรือว่ามันจะแต่งงานไปแล้ว เธอไม่อยากให้เป็นอย่างหลังเลย ว่านรักไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเพื่อนชายสองคนอีกเลย ตั้งแต่เรียนจบ พวกนายสองคนจะเป็นยังไงบ้างนะ เธอคิดถึงเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ เธออยากรู้แต่ก็ติดต่อเขาไม่ได้เลย ทั้งเฟสบุ๊คและไลน์ ทั้งของวรวิทย์และดลวัฒน์
เธออยากเจอเขามาก ๆ เธอไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ถ้าเธอรู้เธอไปหาเขาตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ผ่านมาหลายปีแบบนี้หรอก
“ว่านแกลองชิมอันนี้ดูสิโครตอร่อยเลย”
วิญาดาชิมช็อกโกแล็ตแท่ง เคลือบด้วยช็อกโกแลตอีกที ข้างในมีถั่วกับคาราเมล กินเข้าไปแล้วมันหอมกลิ่นคาราเมล กัดเข้าไปก็โดนถั่ว มัน ๆ เคี้ยวเพลินดี
“ว่าน! ยัยว่าน”
“หะ ห๊ะ!”
ว่านรักที่ได้ยินเพื่อนเรียกเสียงดังก็หันหน้ามาและเลิกคิ้วเป็นเชิงถามวิญาดา
“เมื่อกี้กูบอกให้มึงชิมอันนี้ดูมันอร่อยมาก”
วิญาดาบอกเพื่อนพร้อมกับยื่นขนมแท่งช็อกโกแลตให้เพื่อน ว่านรักรับมาถือไว้ และกำลังอ้าปากงับขนมเข้าปาก ทศวรรษก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
“มึงคิดอะไรอยู่ กูเห็นมึงมองโทรศัพท์แล้วก็ถอนหายใจ”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
บอกกับทศวรรษแล้วก็กัดขนมเข้าปากคำโต
“ร้านมีปัญหาเหรอว่าน”
วิญาดาถามว่านรักขึ้น
ร้านที่วิญาดาหมายถึง คือร้านคาเฟ่ที่เธอกับยัยวิทำร่วมกัน เธอกับเพื่อนลาออกจากงานได้เดือนกว่าแล้ว ว่านรักกับวิญาดาวางแผนที่จะเปิดร้านคาเฟ่ ด้วยกัน เธออยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เลยชวนวิญาดาลงทุนด้วย ป้าของเธอได้ยินว่าพวกเธอจะเปิดร้านคาเฟ่ ก็เลยบอกให้เธอไปเปิดร้านที่บ้านของป้าสิที่ขอนแก่น ตอนแรกเธอก็เกรงใจป้าสิ เพราะนั้นเป็นบ้านของป้ากับสามี เธอไม่กล้าไปทำเป็นร้านคาเฟ่ พอเธอบอกป้าสิริมาว่าจะไม่ไปเปิดร้านที่นั้น ป้าก็บอกเธอว่า“เปิดร้านที่นั้นเถอะลูกจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า ในเมืองขอนแก่นคนเยอะ แถมบ้านป้าก็อยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น ด้วย ถ้าว่านลำบากใจ ป้าจะเก็บค่าเช่ากับว่านก็ได้ ป้ากลับเมืองไทยตอนไหนว่านค่อยย้ายของออกก็ได้ ถึงตอนไหนว่านก็มีเงินเปิดร้านใหม่แล้ว กว่าป้าจะกลับเมืองไทยก็อีกหลายเดือน”
ได้ยินแบบนั้นเธอก็ไม่รู้จะตอบป้าสิไปยังไง ก็เลยตอบตกลงท่านไป จริง ๆแล้วเธอยังไม่ได้หาที่ทำร้านเลย แต่จะว่าไป
มันก็ดีนะ ที่จะได้ไปเปิดร้านที่ขอนแก่น รถคงจะไม่ติดเหมือนกรุงเทพว่าแล้วก็เธออยากลองไปเปิดร้านที่นั่นดู เพื่อว่าเธอจะขายดี เพราะที่กรุงเทพมีก็ร้านคาเฟ่หลายร้อยร้าน เธอคงจะสู้ร้านดัง ๆ ในเมืองกรุงไม่ได้แน่ เริ่มทำร้านที่ขอนแก่นก็น่าจะดีกว่า ว่านรักคิด
เธอกับวิญาดาไปลงเรียนชงชา กับชงกาแฟ เรียนทุกอย่างเกี่ยวกับเครื่องดื่มในร้านคาเฟ่ ไม่เว้นแม้แต่พวกขนมเค้กต่าง ๆ ด้วย
เธอพร้อมทุกอย่างยกเว้นพื้นที่เปิดร้าน ดีที่ป้าสิโทรมาบอกให้เธอเปิดร้านที่บ้านท่านได้ เธอจะได้รีบเปิดร้าน และจะได้ขายของเร็ว ๆ อยากรู้ว่าฝีมือการชงของเธอกับเพื่อนจะอร่อยถูกปากลูกค้าไหม ไปถึงขอนแก่นเธอกับเพื่อนต้องไปหาซื้อพวกของตกแต่งร้าน และ เฟอร์นิเจอร์ มาทำร้านเสียก่อนเป็นอันดับแรก
“ร้านไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก”
“เหรอแล้วมึงถอนหายใจทำไม”
“กูคิดว่าจะเอาของไปหมดไหม”
ว่านรักโกหกเพื่อนทั้งสองคน
“หมดสิ ก็เอารถไปคนละคันไง”
“เอ่อ ว่าแต่มึงจะเดินทางไปวันไหนวะ”
“วันพรุ่งนี้”
ว่านรักตอบเพื่อน เธอเก็บของทุกอย่างหมดแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกจากคอนโดไอ้เสือตั้งแต่เช้า
“ให้กูไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้พ่อมึงให้มึงเข้าไปฝึกงานที่บริษัทตั้งแต่ไม่ใช่เหรอ”
วิญาดาถามเพื่อน พร้อมกับหยิบขนมอีกอันเข้าปาก
“กูก็ลางานไปส่งมึงสองคนไง”
“ตั้งแต่วันแรกเนี่ยนะ พ่อมึงได้ด่ามึงเละแน่ กูกับว่านไปกันสองคนได้ ถ้าถึงที่นั้นเมื่อไหร่กูจะรายงานมึงทันทีเลย ไม่ต้องห่วงพวกกูหรอก”
พ่อของทศวรรษอยากให้ลูกชายดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เพราะพ่อของมันอยากจะพักผ่อนอยู่บ้านเต็มทีแล้ว ก็เลยให้ลูกชายคนเดียวไปเรียนต่อโทไกลถึงลอนดอน เพื่อที่กลับมาบริหารบริษัทตัวเอง พอทศวรรษเรียนจบพ่อมันก็ให้เข้ามาฝึกงานทในบริษัททันทีห้าเดือน พอฝึกงานจบมันก็จะขึ้นเป็นผู้บริหารทันที บริษัทพ่อของทศรรษเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ บริษัทพ่อมันให้บริการออกแบบและรีโนเวท รับเหมาก่อสร้างโรงแรม รีสอทร์ขนาดกลางและขนาดเล็ก อาคาร คอนโด ที่พักขนาดใหญ่ และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก โรงแรมครบวงจร บ้านมันโครตรวย แถมยังมีธุรกิจกิจอีกอย่างหนึ่งของพ่อมันอีก คือธุรกิจโรงแรมห้าดาวตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ
“ก็ได้ถึงแล้วโทรมาบอกกูด้วย”
ทศวรรษบอกเพื่อนเสร็จก็ก้มหน้ากินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
“อืม”