"ห๊ะ!!!อะไรนะท่านจะจ้างให้ข้าแต่งงานกับท่านเนี่ยนะท่านแม่ทัพ ข้าฟังผิดไปหรือเปล่า" เจ้าฟังไม่ผิดหรอกข้าจะจ้างเจ้ามาแต่งงานหลอกๆแต่ข้ามีค่าจ้างให้เจ้ามหาศาลพอที่เจ้าจะนำไปใช้หนี้ให้พ่อของเจ้าได้
รัก,ชาย-หญิง,จีน,ย้อนยุค,คุณหนูรองเยว่,จีนโบราณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หลงรักชายา(กำมะลอ)ภาคต่อพรหมลิขิตด้ายแดง (อ่านฟรีจนจบเรื่อง)"ห๊ะ!!!อะไรนะท่านจะจ้างให้ข้าแต่งงานกับท่านเนี่ยนะท่านแม่ทัพ ข้าฟังผิดไปหรือเปล่า" เจ้าฟังไม่ผิดหรอกข้าจะจ้างเจ้ามาแต่งงานหลอกๆแต่ข้ามีค่าจ้างให้เจ้ามหาศาลพอที่เจ้าจะนำไปใช้หนี้ให้พ่อของเจ้าได้
ท่านแม่ทัพซีฮันถูกบิดาบังคับให้ดูตัวกับลูกสาวท่านแม่ทัพชั้นสูง แต่ซีฮันไม่อยากแต่งงานกับคนที่บิดาของตนหาให้จึงคิดหาวิธีที่จะทำให้บิดาไม่ต้องเสียหน้าและบังคับตนได้ บังเอิญเจอกับฟางเซียนที่นิสัยไม่มีความเป็นกุลสตรี ก๋ากั่นนิสัยเหมือนผู้ชายและเป็นบุตรสาวของท่านขุนนาง พ่อของนางเป็นหนี้พนันเศรษฐีที่มีอำนาจชาวบ้านต่างก็เกรงกลัวในอำนาจของเศรษฐีคนนี้แถมเศรษฐีคนนี้มีภรรยาอยู่แล้วหกคนและหมายปองคุณหนูฟางเซียนที่กำลังโตเป็นสาวเต็มตัวมีหน้าตาที่สวยงามจนอยากได้มาเป็นภรรยาคนที่เจ็ดของตนจึงยุยงให้พ่อของฟางเซียนเล่นพนันและกู้ยืมเงินตนจนเป็นหนี้มหาศาลแถมยังบีบบังคับให้ยกฟางเซียนแต่งงานกับตนเพื่อแรกกับยกหนี้ทั้งหมดให้แต่ฮูหยินไม่ยอมให้บุตรสาวของตนต้องเป็นภรรยาน้อยใคร เศรษฐีคนนั้นจึงขู่ว่าจะทำร้ายทุกคนในจวนและทำลายข้าวของในจวน เมื่อแม่ทัพซีฮันได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจึงตกลงจ้างฟางเซียนมาเพื่อเเต่งงานหลอกๆและทำสัญญาแต่งงาน ถ้าทั้งคู่แต่งงานครบ 1 ปี จะได้ค่าจ้างที่มหาศาลเพื่อใช้หนี้ให้บิดาของตน เมื่อทั้งคู่แต่งงานกันได้ 3 เดือน ท่านแม่ทัพซีฮันก็ตกหลุมรักฟางเซียนจากการแต่งงานหลอกๆก็ก่อเกิดเป็นความรักจริงๆ ความรักและความวุ่นวายของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้เลย
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537
ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนใดในนิยายไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
เมื่ออาหารเที่ยงเสร็จฮูหยินจางจื่อเหมย คุณหนูฟางเซียน คุณหนูเหลียนซิงเยียน ท่านแม่ทัพซีฮัน จงเฟิงและท่านแม่ทัพโม่ทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
"อาหารเสร็จแล้วเจ้าค่ะมาทานกันเถอะ วันนี้ฟางเซียนนางเป็นคนลงมือทำเองเลย"
ท่านแม่ทัพโม่หลังจากที่ปลดระวางจากตำแหน่งแม่ทัพแล้วก็ได้เป็นที่ปรึกษาทางการทหาร
ท่านพี่กลับจากราชการแล้วหรือเจ้าคะ มาทานอาหารพร้อมกันเถอะเจ้าค่ะ
ย้อนความกลับไปเมื่อเช้าก่อนที่ท่านแม่ทัพจะไปราชการหลังจากที่ท่านแม่ทัพโม่โกรธท่านแม่ทัพซีฮันที่ปิดบังตนฮูหยินจางจื่อเหมยจึงมาพูดให้ท่านแม่ทัพโม่เข้าใจท่านแม่ทัพซีฮัน
ท่านพี่อย่าโกรธลูกเลยนะเจ้าคะ ที่ลูกทำไปเพราะไม่อยากให้ท่านพี่บังคับแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ให้ลูกเลือกคู่ชีวิตเองเถอะเจ้าค่ะ ขนาดท่านพี่กับข้าเรายังเลือกคู่ชีวิตของกันและกันเองเลยถึงแม้ว่าท่านพ่อจะจับข้ากับท่านหมั้นหมายกันไว้ แต่เราก็ยังใช้เวลาที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกันเลย ชีวิตของลูกให้เขาเลือกเองเถอะเจ้าค่ะ
"ก็ถูกของเจ้า ไว้พี่ขอคิดก่อนนะ ตอนนี้พี่ต้องไปราชการแล้ว ไว้พบกันตอนเที่ยง"
ท่านพี่เนี่ยยังตั้งใจทำงานเหมือนเดิมเลยนะเจ้าคะตั้งแต่ปลดระวางตำแหน่งแม่ทัพมา
ก็พี่รักในงานนิ ดีแล้วที่พี่ยังได้ทำงานเกี่ยวกับการทหารอยู่ เพราะฝ่าบาททรงเห็นว่าพี่ทำคุณงามความดีไว้เยอะ จึงให้พี่เป็นที่ปรึกษาทางการทหาร พี่ไปราชการก่อนนะ
"เจ้าค่ะท่านพี่ ไว้ข้าและลูกจะรอทานอาหารเที่ยงพร้อมท่านพี่นะเจ้าคะ"
ตัดภาพมาตอนนี้
ท่านพี่นั่งก่อนเจ้าค่ะ
ขอบใจมากนะฮูหยิน
หลังจากที่ทุกคนมาครบแล้วจึงเริ่มทานอาหารเที่ยงกันบรรยากาศในการทานอาหารเที่ยงเต็มไปด้วยความอึมครึมอดีตท่านแม่ทัพโม่จึงเริ่มตักอาหารให้ท่านแม่ทัพซีฮันและเริ่มบทสนทนา
"พ่อ ไม่โกรธเจ้าแล้วนะซีฮัน พ่อรู้ว่าที่เจ้าทำไปเพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่พ่อหาให้ พ่อทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ให้อภัยพ่อนะ ชีวิตของเจ้าให้เจ้าเลือกเองเถอะ พ่อรู้ว่าเจ้าเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเองได้ "
ขอรับท่านพ่อ ลูกไม่เคยโกรธท่านพ่อเลย ลูกผิดเองที่ปิดบังท่านพ่อ ไม่ยอมบอกท่านไปตามตรงลูกขอโทษนะขอรับ
เจ้าชื่อ ฟางเซียนใช่ไหม
เจ้าค่ะทะ ทะ ท่าน....
เรียกข้าท่านพ่อเถอะอย่างไรเสียเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
"ท่านพ่อ "
พ่อของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหมข้ายังไม่เคยพบหน้าพ่อเจ้าเลย ไว้เจ้าชวนมาทานอาหารด้วยกันบ้างนะ แล้วฮูหยินบอกลูกๆหรือยังว่าจะให้พวกเขาไปอยู่ที่จวนสกุลจางของเจ้า
ข้าบอกลูกแล้วเจ้าค่ะ
ถ้าพวกเจ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปได้เลยนะ
ขอรับท่านพ่อ
"เจ้าค่ะท่านพ่อ"
หลังจากที่บรรยากาศอึมครึมมานานทุกคนจึงเริ่มพูดคุยกันเพื่อสร้างบรรยากาศดีๆให้การทานอาหารเที่ยงครั้งนี้ไม่อึมครึมจนเกินไป