องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้ - บทที่ 4 พิธีราชาภิเษก โดย blueb3lls @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น,ความแค้น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ความแค้น,แฟนตาซี

รายละเอียด

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้ โดย blueb3lls @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้

ผู้แต่ง

blueb3lls

เรื่องย่อ

นิยายเรื่องสั้น


TRIGGER WARNING

 การฆ่าบุพการี,เลือด,มีการบรรยายถึงฉากการฆ่าคน,การตัดศีรษะคน,คำดูถูกและด้อยค่า,การวางยาพิษ







“องค์ชายผู้นั้นไงที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ องค์จักรพรรดิเลยไม่ชื่นชอบโอรสองค์นี้ของพระองค์”

“โดนเหล่าพี่น้องเกลียดชังเพราะไร้พลัง มีเพียงองค์รัชทายาทที่ดูจะเอ็นดูเขาเท่านั้น”



คำของสาวใช้ภายในพระราชวังและเสียงหัวเราะเยาะที่ตัวเขา'ออเดรย์'เป็นองค์ชายที่ไร้พลังเวทย์ บิดามารดาของตนไม่เคยยอมรับ แม้จะปฏิบัติตัวดีเพียงใดพวกท่านล้วนไม่เห็นเขาอยู่ภายในสายตา มีเพียงพี่ชายของเขา'เกลนดา' เท่านั้นที่ยอมรับและใส่ใจเขา 







"กระหม่อมจะรับใช้ฝ่าบาทจนชีวิตจะหาไม่"

คำกล่าวสาบานของดยุกคีร์แรนที่เอ่ยต่อหน้าองค์จักรพรรดิคนใหม่ของเขา











เขียนโดย Blueb3lls

ภาพวาดโดย Mochii_roi ,shi_rohebi ,lunardarlia

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านทุกครั้ง

สารบัญ

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 1 ความอดทนที่มลายหายไป (1/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 2 ความอดทนที่มลายหายไป (2/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 3 ข่าวลือ,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 4 พิธีราชาภิเษก,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 5 งานเลี้ยงฉลอง,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 6 ย้อนไปเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 7 งานประลองดาล (1/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 8 งานประลองดาบ (2/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 9 การลอบสังหารในยามวิกาล,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 10 หวานปนพิษ,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 11 ความจริงที่เปิดเผย ความอดทนที่หายไป ไฟแค้นในใจที่เริ่มลุกโชน,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทพิเศษ การพักผ่อนขององค์จักรพรรดิ

เนื้อหา

บทที่ 4 พิธีราชาภิเษก

ณ วันพิธีราชาภิเษก ช่วงเช้า



ร่างโปร่งที่กำลังหลับใหลอย่างสบายใจ โดนปลุกขึ้นโดยสาวใช้คนสนิทหญิงสาวเข้ามาสะกิดเขาเบา ๆ ให้ตัวเขาตื่นขึ้นมาแต่งตัวให้พร้อมสำหรับงานพิธีการช่วงเช้า
ชายหนุ่มที่เมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงลุกขึ้นในทันที เดินตรงเข้าไปยังห้องอาบน้ำส่วนตัว เข้าไปทำธุระภายในนั้นเกือบชั่วโมง เพื่อจะทำให้ทั่วทั้งตัวมีกลิ่นที่หอมอบอวล
เมื่อรู้สึกพอใจแล้วออเดรย์จึงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ แล้วให้เหล่าสาวใช้ที่จัดเตรียมชุดเครื่องแต่งกายสำหรับสวมใส่ในพิธีการนี้ เข้ามาช่วยแต่งตัวให้กับเขาเพราะชุดเครื่องแต่งกายเหล่านี้
นั้นเป็นชุดเครื่องแต่งกายที่สั่งตัดมาอย่างประณีต ถ้าตัวเขาสวมใส่มันเองนั้นอาจจะทำให้ชุดเครื่องแต่งกายอันงดงามนั้นนี้มีรอยยับขึ้นมาเป็นได้ เขาค่อย ๆ สวมใส่เสื้อผ้าแต่ละชิ้นตามที่สาวใช้หยิบและบอกให้เขาสวมใส่ เมื่อเขาสวมใส่ชุดเครื่องแต่งกายทั้งหมดครบเรียบร้อยแล้วนั้น แต่ก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อยทั้งหมด
สาวใช้คนสนิทของตนให้เขาไปนั่งลงที่หน้ากระจกและค่อย ๆ รวบผมสีเงินยาวของเขาขึ้นมา ผูกมันด้วยเชือกผูกผมสีแดงตัดกับสีผมเขาได้อย่างพอดิบพอดี รวมทั้งยังเข้ากับชุดเครื่องแต่งกายที่เขาสวมใส่อีกด้วย

เครื่องแต่งกายที่ออเดรย์นั้นสวมใส่อยู่เป็นชุดเครื่องแต่งกายที่สั่งตัดมา สำหรับพิธีราชาภิเษกของเขาโดยเฉพาะ ผ้าสีขาวตัดกับสีครามคอเสื้อที่ปักเป็นลายดอกลิลลี่อย่างละเอียดลออ
ดอกไม้ประจำตัวของเขาด้วยผ้าสีทองและกระดุมที่ประทับตราประจำราชวงศ์ นั้นคือท่านเทพธิดาที่กำลังโอบอุ้มดอกไม้ไว้ในอุ้งมือของเธอ กระดุมสีทองที่เรียงตัวอย่างสวยงาม
ทำให้องค์ประกอบของชุดเครื่องแต่งกายนี้เหมาะสมกับเขาและรับเข้ารูปกับร่างสูงโปร่งขององค์จักรพรรดิออเดรย์เป็นอย่างมาก ตรงคอเสื้อยังมีเครื่องประดับอีกชิ้นที่ต้องติดใส่ลงไปเป็นเข็มกลัดที่ติดด้วยเพชรทับทิมเม็ดใหญ่สีแดงฉาน เข้ากับนัยน์ตาสีแดงสดของออเดรย์และผ้าคลุมตรงไหล่สีดำ ที่ปักเย็บลวดลายสวยงามอย่างประณีตร้อยเชือกสีทองเพื่อให้ตัวผ้าคลุมไหล่ยึดอยู่กับตัวของเขา
อย่างสุดท้ายที่อยู่บนฉลองพระองค์ของเขาคือเข็มกลัดที่แสดงถึงยศถาบรรดาศักดิ์ของออเดรย์ในตอนนี้ เมื่อสวมใส่เครื่องแบบทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น
เขาจึงลุกขึ้นให้เหล่าสาวใช้ตรวจสอบความเรียบร้อยของชุดทั้งหมด หลังได้รับคำตอบแล้วร่างโปร่งจึงเดินออกไปจากห้องนี้พร้อมที่เหล่าสาวใช้เดินตามออกมาด้วย
เมื่อบานประตูเปิดออกไปมีคนที่ยืนรอเขาอยู่นั่นคือดยุกคีร์แรน ออเดรย์คาดไว้ว่าต้องเป็นตัวท่านพี่เกลนดาที่ต้องขึ้นมาหาเขามันกับไม่ใช่ แต่เขาก็ได้หาใส่ใจกับอีกฝ่ายไม่

ออเดรย์เหลือบสายตามองคีร์แรนสักพัก ก่อนจะเดินนำหน้าอีกฝ่ายออกมาจากในห้อง คีร์แรนที่เห็นองค์จักรพรรดิเดินนำออกมาแล้วนั้น ถึงได้เดินตามประกบและคอยอธิบายเกี่ยวกับพิธีการในช่วงเช้าคร่าว ๆ ให้ร่างโปร่งได้รับฟัง
ก่อนจะเดินไปถึงลานที่จัดเตรียมพิธีการไว้ 
เหล่าแขกจากต่างแดนนับร้อยคนที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากฝ่ายต้อนรับที่ทางตัวมิลเลียได้เป็นผู้รับผิดชอบเตรียมไว้ ก่อนที่จะเริ่มพิธีราชาภิเษก เขาเดินเข้าไปกล่าวทักทายเหล่าแขกจากต่างแดน โดยที่มีดยุกคีร์แรนเดินประกบตามหลังมาตลอดทาง ออเดรย์อดีตที่เคยเป็นองค์ชายไร้ตัวตนคนหนึ่งตอนนี้เขาได้รู้จักกับผู้คนมากยิ่งขึ้น
ระหว่างเขาเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วมีเหล่าขุนนางชั้นผู้น้อยเข้ามากล่าวทักทาย ตัวออเดรย์นั้นล้วนรู้ถึงความต้องการของคนเหล่านี้ แต่เขาก็ทำได้เพียงรับฟังแล้วเดินออกไป ทั้งที่ข่าวลือจักรพรรดิทรราชของเขาแพร่ออกไปมากมายขนาดนั้น เหล่าขุนนางผู้โลภมากนั้นกับไม่คิดจะเกรงกลัวเขาเลยสักนิด
คงคิดเพียงว่ามันคือเรื่องตลกขบขันเสียมากกว่า แต่เหล่าขุนนางหรือพวกมาร์ควิสยังคงต้องเกรงใจออเดรย์อยู่บ้างเพราะตัวตนของดยุกคีร์แรนนั้น
ที่มีกองกำลังทหารหลายหมื่นนายภายใต้การควบคุมเมื่อชายคนนั้นเลือกฝั่งแล้ว ล้วนไม่มีใครคิดที่จะต่อต้านเขาอีกเลย ในตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นจึงทำได้เพียงยกยิ้มแล้วกล่าวทักทายออเดรย์พร้อมแสดงความยินดีแต่ยังคงไม่วายซุบซิบนินทาออเดรย์ลับหลังอยู่บ้าง ออเดรย์คิดว่ามันเป็นเพียงเสียงร้องของพวกสัตว์ตัวน้อยเพียงเท่านั้นจึงไม่ได้คิดจะนำมาใส่ใจ

เมื่อจวนจะถึงเวลาเขาเดินเข้าไปภายในโถงที่จัดเตรียมไว้สำหรับพิธีในครั้งนี้โดยเฉพาะ มาสเตอร์แห่งหอคอยเวทมนตร์ผู้ที่มาเป็นพยานการประกาศแต่งตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่
รวมถึงพระสันตะปาปาที่มาเพื่อกล่าวอวยพรให้กับเขาในครั้งนี้ ออเดรย์เดินตรงเข้าไปยังหน้าบัลลังก์โดยที่มีตัวของดยุกคีร์แรนและที่ปรึกษาอย่างเกลนดาประกบคู่ไปด้วย ผู้คนที่เริ่มสังเกตเห็นออเดรย์แล้วนั้นค่อย ๆ เงียบสงบลงแล้วหันมาให้ความสนใจพื้นที่ตรงกลาง
ร่างโปร่งหยุดยืนตรงหน้าบัลลังก์ที่มีมงกุฎเพชรที่ได้รับเจียระไนออกมาเป็นอย่างดีประดับล้อมรอบมงกุฎนั้น ตรงกลางของมงกุฎเป็นทับทิมสีแดงฉานเหมือนสีของนัยน์ตาของเขา ส่วนตัวเค้าโครงของมงกุฎนั้นเป็นทองที่ได้รับการตัดแต่งให้เป็นรูปทรงพอดีกับศีรษะของเขาเอง
มงกุฎที่วางอยู่บนแท่นนั้นโดนยกขึ้นมาด้วยมือของมาสเตอร์ของหอคอยเวทมนตร์ราว์ฟ มงกุฎที่สร้างขึ้นมาเพื่อเขามันวางลงบนศีรษะของออเดรย์อย่างพอดี
ยิ่งทำให้ชายหนุ่มที่รูปลักษณ์นั้นสะดุดตาอยู่แล้วยิ่งทำให้เจ้าตัวดูดีและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ความภูมิฐานและอำนาจ ออเดรย์หันหน้ากลับไปมองทางคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา เขากล่าวคำสาบานต่อหน้าเทพธิดาคาเทรีน่า



“ข้า ออเดรย์ ฟาร์น แองเจอโลผู้ที่ได้โค้นล้มบัลลังก์ของจักรพรรดิคาร์ถาน ฟารีอาน แองเจอโล ตัวข้าที่ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 13 แห่งอาณาจักรแองเจอโล ขอสาบานต่อท่านเทพธิดาและเหล่าปวงชน ตัวข้าจะไม่ทำให้ประชาชนของตนนั้นต้องลำบาก จะไม่ทำให้สัตว์ประหลาดตนใดทำร้ายพวกเขาได้ ข้าขอสาบานด้วยชีวิต ข้าจะปกครองอาณาจักรแห่งนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไปมากยิ่งกว่าเดิม ท่านเทพธิดาจงรับฟังคำสาบานของข้าผู้นี้”



เมื่อออเดรย์กล่าวคำสาบานจบ ทั่วทั้งลานกว้างกับล้วนปกคลุมไปด้วยความเงียบ แต่เมื่อท่านที่ปรึกษาเกลนดายกแก้วเครื่องดื่มของตนขึ้นพร้อมกล่าว “แด่องค์จักรพรรดิ ออเดรย์ ฟาร์น แองเจอโล” และดยุกคีร์แรนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เกลนดานั้นยกแก้วเครื่องของตนและกล่าวคำอวยพรของตัวเองเช่นกัน “แด่องค์จักรพรรดิ ข้าคีร์แรนจะขอรับใช้ท่านจนชีวิตข้านั้นจะหาไม่”

สิ้นคำกล่าวของดยุกคีร์แรน เหล่าทหารที่ยืนเฝ้าและคอยตรวจสอบรอบตัวงานล้วนยืนตรงและกล่าวคำแสดงความเคารพออกไปดังก้องกังวานไปทั่วพระราชวัง

“พวกข้าเหล่าทหารแห่งอาณาจักรแองเจอโลจะปกป้องตัวพระองค์และประชาชนของอาณาจักรแห่งนี้ด้วยชีวิต!!” สิ้นเสียงของเหล่าทหารทั้งหมดแขกภายในงานต่างล้วนกล่าวแสดงทั้งความยินดีและแสดงถึงความเคารพต่อตัวจักรพรรดิออเดรย์กันถ้วนหน้า
เครื่องดื่มที่ถูกยกขึ้นชนกันและต่อมาเป็นการแสดงพลุเวทมนตร์จากตัวแทนมาสเตอร์แห่งหอคอยเวทมนตร์ราว์ฟ ที่สร้างมันขึ้นมาด้วยเวทมนตร์อันหลากหลายนั้นช่างสวยงาม
พระสันตะปาปาเดินเข้ามากล่าวอวยพรกับเขาสองสามประโยคก่อนจะขออนุญาตเดินทางกลับไปยังโบสถ์ดังเดิม

ออเดรย์ถอนสายตาออกจากภาพตรงหน้าไปหยุดยืนตรงหน้าบัลลังก์เขาค่อย ๆ นำมือไปลูบมันเบา ๆ สัมผัสจากพรมที่ถักทอขึ้นด้วยเวทมนตร์อย่างละเอียดลออทำให้สัมผัสของพรมนั้นนุ่มนวลกว่าพรมจากที่ไหน
ออเดรย์ยืนเหม่อมองอยู่ตรงนั้นสักพักใหญ่ ก่อนจะโดนที่ปรึกษาของตนเองสะกิดให้ไปกล่าวทักทายกับท่านหญิงอลิน่าท่านแม่ของเจ้าตัวนั่นเอง
แม้นี้จะเป็นครั้งแรกที่พวกเราทั้งสองได้พบกัน แต่ความรู้สึกที่เหมือนท่านพี่เกลนดานั้นทำให้เขารู้สึกอบอุ่นที่หัวใจ ท่านหญิงอลิน่าที่เห็นออเดรย์เดินตรงมาที่เธอ เธอค่อย ๆ ก้มตัวทำความเคารพ กับโดนชายหนุ่มหยุดไว้เสียก่อน อลิน่ากล่าวทักทายองค์จักรพรรดิไปก่อนแม้จะไม่คุ้นชินนัก
แต่อีกฝ่ายที่ยิ้มรับกับคำทักทายของเธอทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

ทั้งสามคนที่ยืนรวมตัวกันเป็นเหมือนครอบครัวนั้น กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ เล็กน้อยก่อนจะแยกตัวออกมา เพื่อให้ท่านหญิงอลิน่าได้ไปพักผ่อนเพราะตัวเธอในตอนนี้นั้นเริ่มอายุมากขึ้นแล้ว ยังก็ยังดูสวยเหมือนวันวานไม่มีผิด ออเดรย์กล่าวชมท่านหญิงไปเล็กน้อยจึงได้แยกย้ายกันมา
เป้าหมายต่อไปที่ตัวของออเดรย์นั้นจะเดินเข้าไปหานั่นคือครอบครัวตระกูล “บริดเจต” ออเดรย์กวาดตาไปโดยรอบลานกว้างแห่งนี้ เพื่อมองหาชายที่เคยยืนประกบด้านข้างเขามาตลอด
เมื่อเจอชายหนุ่มที่ยืนเด่นสะดุดตาเขาแล้ว ร่างสูงโปร่งขององค์จักรพรรดิจึงก้าวขายาว ๆ ของตนเองไปหาชายคนนั้นรวมทั้งอดีตดยุก"คีทธี" ผู้ที่สละตำแหน่งของตนแล้วเกษียณตัวเองให้ลูกชายของเขาอย่างคีร์แรนได้ขึ้นมารับตำแหน่งดยุกแห่งตระกูลบริดเจตแทนตนเอง คีทธีถือว่าเป็นผู้มีพระคุณสำหรับตัวเขามาก
ในตอนองค์ชายอย่างเขาที่โดนหมางเมินจากบิดาและมารดาตนนั้น มีเพียงแค่ผู้ใหญ่อย่างท่านดยุกคีทธีที่เห็นคุณค่าในตัวเขาและเป็นคนที่เชิญชวนเขาให้ไปฝึกฝนดาบกับเจ้าตัวเองและชื่อออเดรย์นั้นก็เป็นชื่อที่ท่านผู้นี้ตั้งมันขึ้นมาสำหรับเขา ตัวเขาจึงรู้สึกขอบคุณท่านคีทธีคนนี้เสมอมา

ชายแก่ที่เป็นอดีตดยุกอย่างคีทธีที่เห็นสายตาของลูกชายตนหันไปมองยังด้านหลังของตน เขาจึงหันกลับไปมองด้วยเช่นกัน คนผู้นั้นที่สายตาของลูกชายเขากำลังจ้องมองตลอดก็คือองค์จักรพรรดิออเดรย์
จักรพรรดิพระองค์ใหม่แห่งอาณาจักรแองเจอโลและในตอนนี้พระองค์นั้นกำลังทรงเดินตรงมายังที่ที่เขายืนอยู่ ชายแก่สังเกตปฏิกิริยาของลูกชายตนตั้งแต่ที่อีกฝ่ายมองไปยังด้านหลังของตนและตอนนี้คีร์แรนยังทำพฤติกรรมที่ตัวเขาที่เป็นพ่อของชายร่างสูงไม่คาดฝัน
คีร์แรนผละตัวออกไปจากเขาแล้วเดินตรงไปหาองค์จักรพรรดิแล้วก้มตัวพูดคุยกับอีกฝ่ายเล็กน้อยแล้วเดินขนาบข้างองค์จักรพรรดิออเดรย์มาติด ๆ คีร์แรนทำตัวเชื่อฟังจักรพรรดิออเดรย์อย่างที่ตัวคีทธีไม่คาดคิด แต่เมื่อชายแก่ที่เห็นองค์จักรพรรดิกำลังทรงเดินตรงมาที่เขา
คีทธีจึงก้าวเดินเพื่อที่จะไปพูดคุยกับอีกฝ่าย พวกเขาทั้งสองกล่าวทักทายกันและพูดคุยถึงเรื่องราวในอดีตกันเล็กน้อย ก่อนที่ตัวออเดรย์นั้นจะขอตัวกลับไปพักผ่อนเพราะในช่วงค่ำนั้นยังมีงานเต้นรำกำลังรอเขาอยู่

ร่างโปร่งขององค์จักรพรรดิเอ่ยขอแยกตัวจากท่านคีทธีออกมา เพราะเจ้าตัวนั้นเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าแล้ว จึงขอตัวไปพักผ่อนเผื่องานในช่วงค่ำอีกด้วย ขายาว ๆ ของออเดรย์ค่อย ๆ ก้าวเดินตามโถงทางเดินที่ไร้ผู้คนเพราะทุกคนที่เคยอยู่ตรงนี้นั้น
ต้องไปรับผิดชอบในการต้อนรับแขกและคอยดูแลแขกจากต่างแดนตลอดจนจบงานช่วงเช้า ตอนที่ออเดรย์เดินออกมาจากลานนั้นผู้คนที่มาร่วมงานลดน้อยลงไปจากตอนเช้าลงมาเยอะมาก
เพราะงานในช่วงเช้านั้นจบไปแล้วแต่ยังคงมีอาหารต่าง ๆ มากเพื่อให้ทุกคนได้รับประทานกัน จึงยังคงมีแขกอีกมากที่ยังไม่เดินทางกลับกัน

ออเดรย์ที่เดินมาถึงหน้าห้องของเจ้าตัวแล้วนั้น จึงเปิดประตูเข้าไปถอดเสื้อผ้าคลุมไหล่และเสื้อตัวนอกออกนำไปแขวนกับราวแขวนเสื้อที่ตั้งไว้ใกล้ ๆ กับหน้าประตู
ออเดรย์ล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนของตนโดยไม่สนใจชายอีกคนที่เดินตามประกบเขามาตลอดจนถึงตอนนี้ เขาค่อย ๆ ปิดเปลือกตาตัวลงแล้วหลับไป
ชายร่างสูงที่เห็นองค์จักรพรรดิหลับไปแล้ว เขาจึงถือวิสาสะยกผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้าตัวก่อนจะยื่นมือไปลูบเลือนผมสีเงินนั้นเบา ๆ อย่างถือวิสาสะก่อนจะผละออกแล้วเดินออกจากห้องนอนไป