องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้
ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น,ความแค้น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ณ วันงานประลองดาบ
ประชาชนที่เข้าร่วมการรับชมล้วนตื่นเต้นกันถ้วนหน้า ผู้ที่เข้าประลองดาบในรอบแรกมีทั้งหมด 28 คน และได้มีการจับคู่ประลองเรียบร้อยแล้ว
ร่างของออเดรย์นั่งอยู่ด้านบนของอัฒจันทร์แห่งนี้ที่ล้อมรอบสนามประลองและเขาก็นั่งอยู่ห่างไกลสายตาขององค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี ที่ตัวของออเดรย์มานั่งอยู่ตรงนี้ทั้ง ๆ ที่ตัวเขานั้นได้ลำดับการลองในตอนบ่ายเพราะต้องการเรียนรู้ฝีมือดาบและทักษะที่แตกต่างไปจากของเขาเอง เพื่อที่ตัวเขาจะได้เรียนรู้และคิดค้นวิชาดาบมากมายยิ่งขึ้น
ในช่วงสี่ห้าคู่แรกนั้นดูช่างน่าเบื่อในสายตาขององค์ชายห้านัก เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนใช้วิธีพื้นฐานในการประลองดาบกัน แต่เมื่อมีชายร่างสูงใหญ่และหญิงสาวร่างเพรียวโผล่ขึ้นมา ทั้งสนามกับเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้อง
เขาไม่รู้ว่ามันคือการไล่หรือการแสดงความยินดีหรืออย่างไร ออเดรย์เพียงมาเฝ้าสังเกตการณ์เพียงเท่านั้น
เมื่อการแข่งขันของคู่นี้เริ่มการประลองขึ้นชายร่างใหญ่เริ่มพูดจาอวดเบ่ง เพื่อที่จะข่มขวัญหญิงสาวร่างเพรียวตรงหน้า แต่หญิงสาวนั้นได้หากลัวอีกฝ่ายไม่เธอชูดาบของเธอขึ้นมา เพื่อเป็นการประกาศว่าเธอนั้นต้องการที่จะต่อสู้ต่อไป
ชายร่างใหญ่คนนั้นเห็นท่าทางชวนน่าหงุดหงิดของหญิงสาวเขาไม่คิดจะอดทนยกดาบข้างกายของตนขึ้นมาฟาดดาบใหญ่ ๆ นั้นลงไปที่ตำแหน่งของผู้หญิงคนนั้น
แต่เมื่อยกดาบขึ้นกับไม่เห็นผู้ใดอยู่ตรงนั้นเลยแต่ก่อนเขาจะรู้มันก็สายไปเสียแล้ว ในระหว่างที่ชายนั้นเพ่งสมาธิเพื่อจะจบการโจมตีเพียงแค่หนึ่งดาบนั้น
หญิงสาวก็ฉวยโอกาสกระโดดหลบไปอยู่ด้านหลังของชายร่างใหญ่แล้วจ่อดาบไปที่คอของชายคนนั้นและตามมาด้วยเสียงประกาศจบการแข่งขันของคู่นี้ฝ่ายที่ชนะคือหญิงสาวร่างเพรียวคนนั้น
ผู้คนเมื่อเห็นทักษะของเธอแล้วนั้นล้วนตะโกนโหวกเหวกโวยวายทั้งกล่าวแสดงความยินดีและดูถูกว่าเธอฉวยโอกาสตอนที่ชายร่างใหญ่คนนั้นเผลอ
แต่การที่เธอทำแบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎกติกามันคือทักษะการเอาตัวรอดและลอบโจมตีอีกฝ่าย ออเดรย์กล่าวชื่นชมเธอคนนั้นในใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจกับคู่ต่อไป
การแข่งขันในรอบแรกจบไปนั้นก็เป็นรอบที่ตัวของออเดรย์ต้องไปร่วมด้วยแล้ว
ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าที่เดินลงไปยังสนามประลอง ล้วนดึงดูดสายตาของผู้ชมทั้งหลายที่อยู่ด้านในสนามประลองทั้งสิ้นรวมถึงผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ รวมถึงพี่ชายของเขาอย่างองค์ชายสองและองค์ชายสาม
ทั้งสองต่างตกใจเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของออเดรย์ แต่ก็ต้องรักษาบุคลิกของตัวเองเอาไว้ได้ ชุดที่ออเดรย์สวมใส่ในวันนี้คือชุดที่เขาใส่เวลาออกไปล่ามอนเตอร์กับเหล่าสมาชิกคนอื่น
เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเข้มและสวมทับด้วยเสื้อด้านนอกสีขาวที่ปักลวดลายงดงาม กางเกงสีขาวเข้ารูป เลือนผมที่รวบขึ้นทั้งหมดเพื่อไม่ให้เป็นการเกะกะในการต่อสู้ของเขา
พวกเขาทั้งหกและรวมกับคนที่ผ่านประลองรอบแรกมาได้นั้นก็รวมกันเป็น 20 คน พวกเขาทั้งหมดยืนรวมตัวต่อหน้าบัลลังก์ที่มีองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีนั่งอยู่
เขาเงยขึ้นไปมองเล็กน้อยก่อนก้มลงมาเช่นเคย ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 20 คนรวมตัวทำความเคารพผู้สูงศักดิ์ทั้งสอง
ก่อนจะแยกย้ายเพื่อรอลำดับการประลองดาบของตน
คู่แรกที่ลงต่อสู้ในรอบสองนั้นเป็นองค์ชายสามกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ด้วยฝีมือดาบขององค์ชายสามผู้ที่ได้รับการฝึกฝนดาบจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกสาระทิศ ล้วนชนะการต่อสู้ในครั้งนี้และการประลองดาบก็ดำเนินต่อไปจนมาถึงลำดับของเขา
ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าเดินออกไปยืนอยู่ตรงกลางสนามประลองและคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าเขานั้น คือท่านพี่สอง เกินความคาดหมายของตัวออเดรย์เล็กน้อย
เขาคิดว่าจะได้ต่อสู้กับหญิงสาวคนนั้นเสียอีกแต่กับเป็นท่านพี่สอง พวกเขาทั้งสองสบตากันเล็กน้อยก่อนจะได้รับสัญญาณการเริ่มการประลอง
โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว ออเดรย์โดนอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวทันทีเขาไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะใช้เวทมนตร์ร่วมในการประลองครั้งนี้ด้วย ออเดรย์ยกดาบของตัวเองขึ้นมาตั้งรับการโจมตีของอีกฝ่ายได้ทัน
ก่อนจะผลักร่างของอีกฝ่ายออกไปให้ห่างจากตัวเล็กน้อย
ระยะที่อยู่ในจุดที่สายตาเขามองเห็นนั้น ออเดรย์ตัดสินใจทันทีเขาพุ่งตัวทุ่มแรงลงไปเข้าประชิดตัวกับองค์ชายสองและเป็นตามที่ออเดรย์คิด
อีกฝ่ายตั้งรับเขาได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะโต้ตอบเขา ออเดรย์เปลี่ยนมือที่ถือดาบเป็นมือซ้ายพลิกข้อมือกลับ แล้วยกดาบขึ้นโจมตีลงไปให้อีกฝ่ายถอยหลัง ก่อนจะเปลี่ยนดาบกลับไปยังมือขวา แล้วเข้าประชิดตัวองค์ชายสองตวัดพาดดาบไว้กับคออีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด
แต่องค์ชายสองกับไม่ได้ยอมแพ้ อีกฝ่ายพยายามโจมตีเขากับโดยใช้เวทมนตร์ช่วยผลักให้เขาถอยห่างออกไป แล้วหมุนตัว พร้อมยกดาบขึ้นมาโจมตีเขาอย่างแรง
ออเดรย์หลบการโจมตีนั้นได้ทันท่วงทีแล้วสวนกับโดยการเตะอีกฝ่ายถอยไป ร่างโปร่งขององค์ชายห้าพุ่งตัวประชิดองค์ชายสองตวัดดาบลงไปอีกครั้ง และอีกฝ่ายก็ยกดาบของตัวเองขึ้นมาตั้งรับได้ทัน
ในระหว่างที่องค์ชายสองเผลอเล็กน้อยองค์ชายห้าได้ยกดาบของตัวเองขึ้นหมุนปลายดาบเข้าหาตนยกด้ามดาบฟาดลงอย่างแรงที่ท้ายทอยขององค์ชายสองจนสลบไป
เสียงรอบอัฒจันทร์ที่เคยดังกึกก้องในตอนแรกนั้นตอนนี้กลับเงียบงันลงไป มีเพียงเสียงของลมที่พัดเบา ๆ เท่านั้น แต่เมื่อจากผ่านไปไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงโห่ร้อง
แต่ไม่ใช่การโห่ร้องยินดีกับชัยชนะขององค์ชายห้า แต่เป็นการตะโกนไล่เขาแล้วบอกว่าตัวเขานั้นทำเกินกว่าเหตุ กรรมการที่ยืนนิ่งยังคงไม่ได้ตัดสินแน่ชัด ว่าควรตัดสินอย่างไรเขาเงยหน้าขึ้นไปมององค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่นั่งอยู่ด้านบน แล้วหันไปสบตากับดยุกคีร์แรนที่นั่งถัดจากผู้สูงศักดิ์ทั้งสองไป
ดยุกคีร์แรนส่งสัญญาณให้กรรมการเล็กน้อยเมื่อกรรมการผู้นั้นเข้าใจแล้ว จึงประกาศให้ตัวขององค์ชายห้าเป็นฝ่ายชนะในการประลองดาบในครั้งนี้และกล่าวว่าการกระทำขององค์ชายห้ายังคงเป็นสิ่งที่อยู่ในกติกา
แต่ถึงอย่างงั้นเสียงโห่ไล่องค์ชายห้านั้นยังคงดังต่อไป ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าเมื่อได้ยินคำตัดสินแล้วจึงเดินหันกลับเข้าไปด้านใน
โดยไม่สนใจเสียงโห่ไล่จากเหล่าผู้ชมเลยสักนิดและไม่คิดที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับการที่เขาทำแบบนั้น เพราะการกระทำของเขายังคงอยู่ในกฎกติกาที่ได้ตั้งไว้แต่แรกแล้ว
ก่อนจะเริ่มการประลองคู่ต่อไปหน่วยปฐมพยาบาลที่ได้จัดเตรียมไว้เผื่อในสถานการณ์นี้ได้เกิดขึ้น ผู้ที่ทำมาทำหน้าที่ตรวจสอบและทำการรักษาอาการขององค์ชายสองแล้วจึงตัดสินใจให้หามชายหนุ่มเข้าไปด้านใน
การแข่งขันคู่ต่อไปจึงได้เริ่มขึ้น จนมาถึงคู่สุดท้ายในรอบที่สองนั่นคือหญิงสาวที่ออเดรย์เคยเอ่ยชมและชายอีกคน เป็นไปตามที่ออเดรย์คาดไว้หญิงสาวที่เคยล้มชายร่างใหญ่ก่อนหน้านั้นได้รับชัยชนะไป
ในรอบที่สามนั้นจากเหลือเพียงสิบคนที่ต้องต่อสู้กันในรอบนี้เป็นการแบตเทิร์นรอยัล คือทั้งสิบคนต้องต่อสู้กันเพื่อจะตัดสินผู้ที่จะได้ไปประลองในรอบสุดท้ายกับดยุกคีร์แรน
ทั้งสิบคนเดินมายืนรวมกันอยู่จุดตรงกลางสนามประลองและเมื่อได้สัญญาณทุกคนล้วนพุ่งเป้าการโจมตีไปที่ตัวขององค์ชายห้าทั้งสิ้น โดยที่ตัวของออเดรย์นั้นก็ยังไม่เข้าใจแต่เขากับกระโดดถอยหลังหลบการโจมตีจากหญิงสาวร่างเพรียวคนนั้นที่เขาเคยเอ่ยชื่นชมไป
แต่เธอก็ไม่ได้รีรอ เข้าโจมตีองค์ชายห้าอย่างมุ่งมั่นอีกครั้ง เธอกระโดดขึ้นมาเพื่อย่นระยะห่างระหว่างตัวของเธอและองค์ชายห้า หญิงสาวหยิบดาบคู่เล่มเล็กที่เป็นอาวุธที่เธอถนัดขึ้นมา พุ่งเข้าใส่ตัวขององค์ชายห้าอย่างเต็มแรง
แต่อีกฝ่ายยังรับการโจมตีของเธอได้แถมยังปัดป้องออกได้อย่างง่ายดาย เธอถอยหลังไปยืนข้างชายหนุ่มอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าเธอเล็กน้อย กระซิบพูดคุยอะไรกันสักอย่างและเมื่อหญิงสาวผละตัวออกจากชายคนนั้น ชายคนนั้นจึงยกดาบใหญ่ของเจ้าตัวขึ้นมาและเคลือบดาบด้วยเวทมนตร์บาง ๆ ไม่ให้เป็นที่สังเกตผู้ชมได้เห็นทุ่มแรงใส่
ตวัดดาบเล่มใส่ตัวขององค์ชายห้าอย่างรุนแรงออเดรย์ตั้งรับการโจมตีนี้ได้อย่างทันท่วงที
ก่อนที่มันจะฟาดลงมาที่คอของเขา ออเดรย์จับดาบสองมือเพื่อผลักดาบใหญ่นั้นออกไปและถีบเข้าที่ท้องของชายคนนั้นจนล้มลง
แล้วหันด้ามดาบของตนออกมาฟาดอย่างแรงลงที่ท้ายทอยชายหนุ่มคนนั้นจนอีกฝ่ายสลบไป เสียงผู้คนก็ยังคงโห่ร้องยิ่งเห็นการกระทำของออเดรย์ยิ่งส่งเสียงดังมากกว่าเดิม
ออเดรย์ที่โดนรบกวนด้วยเสียงโห่ร้องนั้น เขาเกือบพลาดท่าให้กับชายร่างท้วมคนหนึ่งที่โผล่มาด้านหลังของตัวเอง ชายคนนั้นทุ่มดาบใหญ่ของตัวเองอย่างแรงลงในตำแหน่งที่ตัวของออเดรย์เคยยืนอยู่
ตอนนี้เขากระโดดถอยห่างจากตำแหน่งนั้นแต่ก็ไม่พาลโดนร่างของหญิงสาวคนหนึ่งลอบโจมตีจากด้านหลังอีกครั้ง ตอนนี้ที่ออเดรย์ต้องตั้งรับการโจมตีจากอีก 7 คนที่เหลือ
ยังไม่รวมกับองค์ชายสามที่ยืนนิ่งมองเขาอยู่เขาเพ่งสมาธิแล้วตั้งดาบของตัวเองรับดาบของอีกฝ่ายสะบัดข้อมือเล็กน้อยก่อนจะฟาดสันมือลงอย่างแรงที่ท้ายทอยหญิงคนนั้น
“สลบไปสองเหลืออีกหก” เขานับจำนวนคนที่เหลือจำนวนหกคนนั้นถือว่าเยอะ ถ้าเขาต้องรับการโจมตีเพียงอย่างเดียว ออเดรย์ที่ยืนนิ่งคิดไปเพียงชั่วคราว
จึงนึกวิธีการเพื่อล้มทุกคนในสนามนี้ได้เสียแล้ว เขากระโดดถอยออกไปเกือบสุดขอบของสนาม คนที่เหลือเมื่อเห็นเขาถอยไปตรงนั้นต่างพุ่งตรงเพื่อไปโจมตีองค์ชายห้าอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงโปร่งที่เห็นอย่างงั้นจึงคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด เขาดีดตัวกระโดดขึ้น ทิ้งตัวลงในตำแหน่งที่คนอื่นกำลังวิ่งพุ่งตรงเข้าหาอีกฝ่าย
เขาฟาดมือลงที่ท้ายทอยของทุกคนอย่างรวดเร็ว จนไม่มีใครตามทันจังหวะของเขาที่โจมตีคนพวกนั้นได้เลย จนทั้งหกสลบไปแล้วถึงมีเสียงโต้ตอบดังขึ้นมา
ทั้งแปลกใจแล้วสงสัยว่าองค์ชายห้าอย่างเขาทำแบบนั้นได้อย่างไร ตัวไร้ประโยชน์ไร้พลังเวทมนตร์แบบเขาทำแบบนั้นได้อย่างไร
เขาไม่คิดที่จะอธิบายให้ใครรู้วิชาดาบหรือวิธีการต่อสู้ของตนเองสักคน และเมื่อคนอื่นๆ โดนเขาทำให้สลบไปแล้วนั้น
ในสนามประลองรอบที่สามจึงเหลือเพียงองค์ชายสามและองค์ชายห้าที่ประจันหน้ากันเท่านั้น ทั้งสองสบตากันแล้วพุ่งเข้าประชันดาบกันจนเกิดเสียงกระทบกันของดาบจากทั้งคู่
ทั้งสองผลัดกันเป็นทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายตั้งรับการโจมตีแต่คนที่ได้เปรียบในการประลองดาบนี้ คงไม่พ้นองค์ชายห้าผู้ที่มีประสบการณ์ทั้งดาบการฝึกฝนดาบและต่อสู้กับเหล่ามอนเตอร์หลากหลายชนิด
แถมเขายังได้เรียนรู้และคิดค้นวิชาดาบขึ้นมาให้เหมาะสมกับตัวเองอีกด้วย ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้ากระโดดถอยห่างออกมาจากองค์ชายสามเล็กน้อย เขาอาศัยจังหวะเล็กน้อยนั้นที่ถอยห่างออกมา แล้วพุ่งเข้าไปดาบตวัดคมดาบลงไปก่อนเปลี่ยนมือที่จับดาบแล้วพลิกมือเพื่อที่จะสามารถปัดดาบขององค์ชายสามทิ้งไป
เสียงของดาบที่ได้รับการตีขึ้นมาด้วยช่างฝีมือมาก เสียงกระทบของดาบที่หล่นลงบนพื้นสนามประลองดังก้องไปทั่วให้ทุกคนได้ยิน ทำให้ผลการประดาบหรือแบตเทิลรอยัลในรอบที่สามนั้นองค์ชายห้าเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะไป
ผลการประลองดาบในรอบที่สามเมื่อได้รับการตัดสินว่าตัวของเขาได้รับชัยชนะไป
ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าก็เดินเข้าไปด้านในอัฒจันทร์เพื่อไปพักผ่อนและเตรียมตัวในประลองดาบกับดยุกคีร์แรนผู้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้
และในครั้งนี้ยังเป็นการตัดสินแพ้ชนะหลังจากที่พวกเขาสองคนไม่เคยตัดสินผลการประลองดาบกันอีกเลยนับตั้งแต่ตอนนั้นมา