องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้
ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น,ความแค้น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้
ผู้แต่ง
blueb3lls
เรื่องย่อ
นิยายเรื่องสั้น
TRIGGER WARNING
การฆ่าบุพการี,เลือด,มีการบรรยายถึงฉากการฆ่าคน,การตัดศีรษะคน,คำดูถูกและด้อยค่า,การวางยาพิษ
“องค์ชายผู้นั้นไงที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ องค์จักรพรรดิเลยไม่ชื่นชอบโอรสองค์นี้ของพระองค์”
“โดนเหล่าพี่น้องเกลียดชังเพราะไร้พลัง มีเพียงองค์รัชทายาทที่ดูจะเอ็นดูเขาเท่านั้น”
คำของสาวใช้ภายในพระราชวังและเสียงหัวเราะเยาะที่ตัวเขา'ออเดรย์'เป็นองค์ชายที่ไร้พลังเวทย์ บิดามารดาของตนไม่เคยยอมรับ แม้จะปฏิบัติตัวดีเพียงใดพวกท่านล้วนไม่เห็นเขาอยู่ภายในสายตา มีเพียงพี่ชายของเขา'เกลนดา' เท่านั้นที่ยอมรับและใส่ใจเขา
"กระหม่อมจะรับใช้ฝ่าบาทจนชีวิตจะหาไม่"
คำกล่าวสาบานของดยุกคีร์แรนที่เอ่ยต่อหน้าองค์จักรพรรดิคนใหม่ของเขา
เขียนโดย Blueb3lls
ภาพวาดโดย Mochii_roi ,shi_rohebi ,lunardarlia
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านทุกครั้ง
รอบการแข่งขันรอบสุดท้ายคู่ต่อสู้สำหรับผู้ที่ชนะในรอบการแข่งขันในรอบที่แล้วนั้น ต้องได้ต่อสู้กับดยุกหนุ่มผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจที่สุด ดยุกคีร์แรน
ดยุกหนุ่มที่ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งเป็นดยุกของตระกูลบริดเจตตระกูลเก่าแก่ที่อยู่เคียงคู่กับราชวงศ์แองเจอโลมาตลอด ดยุกคีร์แรนชายที่ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจนั้นเพราะตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นดยุกเข้าล้วนสร้างผลงานมากมายจนได้ขึ้นเป็นจอมพลปราบปรามเหล่าสัตว์ประหลาดและมอนเตอร์รอบ ๆ ดินแดนของอาณาจักรแองเจอโลแห่งนี้
ผลงานมากมายที่ตัวเขาสร้างมาจนทำให้ประชาชนของอาณาจักรแห่งนี้ไว้ใจดยุกคีร์แรนเป็นอย่างมาก
เมื่อเขาก้าวเดินออกมายืนกลางลานประลองเสียงเชียร์จากเหล่าผู้ชมล้วนดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามประลองแห่งนี้ แต่เมื่อผู้ชมหันมาเจอกับองค์ชายห้าองค์ชายที่ขึ้นชื่อว่าเกิดมาไร้พลังเวทมนตร์ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวนั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ หลายๆ
คนยังคงมีข้อครหาเกี่ยวเรื่องนี้แต่เมื่อได้มองใบหน้าอันงดงามนั้น นัยน์ตาสีแดงก่ำดังสีของเลือดและเลือนผมสีเงินสว่างแม้ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นจะขัดหูขัดตาผู้คนไปบ้าง
แต่องค์ชายก็ยังเป็นที่ยอมรับว่าเจ้าตัวนั้นทั้งหล่อเหล่าและงดงามกว่าองค์ชายคนอื่น ๆ ใบหน้าที่แทบจะถอดแบบมาจากองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี แต่เมื่อเขากำเนิดขึ้นมาเหล่านักเวทย์จากหอคอยเวทมนตร์ล้วนยืนยันแล้วว่าองค์ชายห้าหรือองค์ชายออเดรย์นั้นไร้พลังเวทมนตร์
เกิดมาโดยที่ไม่มีแกนพลังเวทย์อยู่ในร่างกายเลยแม้แต่น้อย คำพูดจากปากของมาสเตอร์แห่งหอคอยเวทมนตร์ ตั้งแต่ตอนนั้นองค์ชายห้าก็ได้รับการตราหน้าเป็นองค์ชายไร้พลังเวทมนตร์ ไร้ประโยชน์ต่าง ๆ นานา และในความแตกต่างของชายสองคนที่ได้รับคำชื่นชมและคนที่ได้คำตราหน้าว่าไร้พลังเวทย์นั้น
เสียงที่เคยดังกึกก้องล้วนเงียบหายไปทันที แต่ตัวองค์ชายออเดรย์หาได้สนใจเสียงพวกนั้นไม่ เขาเดินมาหยุดยืนตรงกลางลานประลองต่อหน้าดยุกคีร์แรน
ทั้งสองมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการเคารพและการให้เกียรติกับคู่ต่อสู้ อดีตดยุกอย่างท่านคีทธีเมื่อเห็นภาพที่น่าชื่นชมนั้นจึงเอ่ยปากชมออกไป โดยไม่สนใจเหล่าขุนนางหลาย ๆ คนที่นั่งอยู่ข้างเขา
แต่ตลอดทั้งงานท่านคีทธีเขาก็เอ่ยปากชมองค์ชายห้ามาตลอด เพราะองค์ชายห้านั้นทำตามธรรมเนียมการแข่งขันประลองดาบได้อย่างสมบูรณ์การทำความเคารพคู่ต่อสู้ท่าตั้งดาบขึ้นเพื่อเริ่มการต่อสู้
ท่วงท่างดงามเหล่านั้นอยู่ในสายตาของท่านคีทธีที่เป็นอาจารย์สอนวิชาดาบให้องค์ชายออเดรย์เองกับมือ ช่างเป็นลูกศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจยิ่งนัก ยิ่งคิดท่านคีทธียิ่งเอ่ยปากชมทั้งตัวขององค์ชายห้าและลูกชายของตนออกไป
ตัดกลับมาที่ชายสองคนที่ยืนอยู่กลางสนามประลองทั้งสองโค้งศีรษะทำความเคารพกันเอง ทั้งสองยกดาบประจำตัวของตนเองขึ้นมาดาบสองเล่มที่แตกต่างกัน
ดาบของดยุกเป็นดาบที่ยาวกว่าดาบปกติเล็กน้อยและขนาดของดาบที่แตกต่างจากขององค์ชายห้าอย่างชัดเจน ตัวดาบของดยุกคีร์แรนนั้นคล้ายคลึงกับดาบของชาวตะวันออกมากกว่าที่จะเป็นดาบเหมือนของแองเจอโลเช่นนั้นดาบของดยุกเป็นดาบที่ตีขึ้นมาเพื่อให้เจ้าโดยเฉพาะ และตัวดาบนั้นเป็นสีดำทั้งเล่มรวมทั้งด้ามดาบอีกด้วย
ส่วนตัวดาบของตัวองค์ชายห้านั้นเป็นดาบที่มีขนาดมาตรฐานในการใช้ต่อสู้แต่ที่แปลกไปคือตัวดาบนั้นเรียวเล็กแต่กับแหลมคมมากด้ามดาบที่หลอมขึ้นมาจากเหล็กกล้าโดยเฉพาะตัวกลางด้ามดาบก็ฝั่งด้วยอัญมณีสีแดงเหมือนสีนัยน์ตาของเจ้าของมันตัวดาบนั้นเป็นสีเงินอย่างสวยงาม
ความแตกต่างแต่ดาบทั้งสองเมื่อได้อยู่ต่อหน้ากันและกันกับรู้สึกเข้ากันเป็นอย่างมาก
ทั้งสองตั้งท่าสำหรับการแข่งประลองดาบ
เมื่อได้สัญญาณการเริ่มประลองทั้งสองไม่ได้พุ่งเข้าหากันเลยทันทีแต่กับถอยห่างกันไปเล็กน้อย เพื่อหาจังหวะที่สามารถโจมตีอีกฝ่ายได้
ดยุกคีร์แรนที่สังเกตเห็นช่องว่างและจังหวะที่สามารถเข้าหาตัวองค์ชายห้า ร่างสูงวิ่งเข้าหาร่างโปร่งขององค์ชายห้าอย่างรวดเร็ว แต่เขาหารู้ไม่ว่านั่นคือสิ่งที่องค์ชายออเดรย์ได้วางแผนสร้างช่องว่างและจังหวะทีเผลอไว้ให้อีกฝ่ายเข้าหาตนเองแทน เมื่อดาบสีดำเล่มนั้นพุ่งมาด้วยความเร็ว
องค์ชายห้ายกดาบของตนขึ้นมาตั้งรับและเป็นฝ่ายกดดันให้อีกฝ่ายถอยแทนแต่เมื่อวัดด้านพละกำลังนั้นตัวของดยุกคีร์แรนล้วนชนะเสมอ ร่างกายที่ผ่านการฝึกฝนมามากมายนั้นย่อมไม่พ่ายแพ้ให้กับใครง่าย ๆ
สิ่งที่องค์ชายคิดไว้มาได้เป็นไปตามที่เจ้าตัวคิด เขาจึงเลือกที่ปัดดาบเล่มออกแล้วถอดห่างออกมาแทน แต่ดยุกคีร์แรนนั้นไม่ได้ใจดีนักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถอยห่างออกไปเขากับตามเขาไปประกบทันที
ชิ้ง ชิ้ง
เสียงปะทะกันของดาบสองเล่มดังไปทั่วทั้งสนามประลองที่กำลังลุ้นระทึกแห่งนี้ ทั้งสองต่างเป็นทั้งคนตั้งรับการโจมตีอีกฝ่ายและเป็นฝ่ายตั้งรับไม่มีใครยอมใคร
องค์ชายห้าลองใช้วิธีการเดิมที่พลิกข้อมือตนเองแล้วจับด้ามดาบเพื่อเข้าปะทะอีกครั้ง แต่ตัวของดยุกคีร์แรนรู้ทันแผนการขององค์ชายห้าเสียก่อน เขาตั้งรับการโจมตีนั้นแต่ไม่ได้คาดคิดว่ามืออีกข้างที่ว่างขององค์ชายห้าจะฟาดเข้าที่ขมับเข้าอย่างแรง ทำให้ดยุกหนุ่มรู้สึกมึนหัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีบาดแผลอะไรนัก
ในตอนที่ดยุกคีร์แรนเผลอนั้นองค์ชายห้ากระโดดไปด้านหลัง เพื่อที่จะให้การประลองครั้งนี้จบแต่ไม่เป็นผลร่างสูงกำยำของดยุกหนุ่มยังคงยกดาบคู่กายของตนขึ้นมาตั้งรับการโจมตีนั้นได้
เหมือนได้ประจันหน้ากันอีกครั้งนัยน์ตาสองคู่ที่สบเข้าหากันทั้งสองไม่ลังเลที่จะถอยห่างกัน แล้วพุ่งตัวปะทะดาบกันอีกครั้งและอีกครั้ง ไม่มีใครยอมใครเลยกระบวนท่าที่ร่ำเรียน
พวกเขานำมันออกมาใช้กันและตอบโต้กันทั้งหมด การปะทะดาบของทั้งสองยังคงเป็นที่ลุ้นระทึกของทั้งสนาม ณ ตอนนี้ทุกคนล้วนคาดหวังให้คนที่ตัวเองเชียร์ชนะ
แต่สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาทั้งหมดนั้นทำให้ไม่สามารถทราบได้เลยว่าใครนั้นได้เปรียบยิ่งกว่า ดาบทั้งสองเล่มที่ยังคงเขาฟาดฟันใส่กันเสียงที่เกิดจากการปะทะกันของทั้งสองดังไปทั่วทั้งสนาม
ออเดรย์ที่เริ่มเหนื่อยหอบขึ้นมาเล็กน้อยแล้วนั้น กระโดดถอยไปด้านหลังเพื่อให้ตัวเองได้หายใจเพียงชั่วคราวแต่ตัวดยุกหนุ่มกับไม่ปล่อยให้เขาได้พักหายใจเลย
ชายหนุ่มพุ่งตรงเขาหาเขาอย่างรวดเร็วดาบสีดำเล่มนั้นฟาดลงมาอย่างแรงแต่ ตัวขององค์ชายห้ายังคงตั้งรับการโจมตีนั้นได้แม้จะรู้สึกเรี่ยวแรงเริ่มหายไปแล้วเล็กน้อย
เขาจึงตัดสินใจใช้กลยุทธ์สุดท้ายที่คิดไว้เพื่อที่จะล้มดยุกหนุ่มตรงหน้าให้ได้ ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้ากระโดดถอยห่างจากตัวของดยุกคีร์แรนออกไปไกลเล็กน้อยเขาหายใจเข้าลึก ๆ ปัดผมด้านหน้าที่กำลังบดบังทัศนียภาพของเขาอยู่ เขาใช้สายตาของตนสำรวจดยุกคีร์แรนเล็กน้อยจากการที่พวกเขาปะทะดาบกันมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมงทำให้เขาสังเกตอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
เมื่อได้โอกาสถอยออกมาและสามารถมองเห็นทั่วทั้งร่างกายอีกฝ่ายได้ชัดเจนองค์ชายห้าก็ไม่รีรอ ยิ่งตัวดยุกหนุ่มที่พุ่งเขาหาเขาแล้วนั้นเขากระโดดกลับไปด้านหลังอีกฝ่ายเมื่อตอนนี้เป็นจุดบอดสายตาของดยุกคีร์แรน ออเดรย์ตวัดด้ามดาบให้มั่นพุ่งเข้าใส่และทุบเข้าที่กลางหลังดยุกคีร์แรนอย่างเต็มแรง
ชายหนุ่มที่ได้รับแรงกระแทกที่รุนแรงจากด้านหลังทรุดตัวลงไปเล็กน้อย และนี้คือจังหวะองค์ชายห้าใช้มือทั้งสองข้างของตนรอดเข้าไปที่ช่วงท้องของดยุกหนุ่มและจับเขาทุ่มไปด้านหลังส่งตัวเขาก็ปล่อยอีกฝ่ายและกระโดดออกมาชี้ปลายดาบไปที่ใบหน้าของดยุกหนุ่มที่ปลายดาบนั้นอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นจะแทงเข้าที่ลูกตาด้านซ้ายของดยุกคีร์แรน
ตัวดยุกหนุ่มที่นอนแผ่หลาอยู่ตรงพื้นสนามประลองนั้นไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกแล้วและเมื่อเห็นปลายดาบที่จ่อตรงหน้า ยิ่งทำให้ผลการประลองในครั้งนี้ชัดเจน
แม้การที่องค์ชายห้าทำจะไม่ใช่การประลองดาบอย่างแท้จริงๆ แต่เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่มีความชนะเท่านั้นที่พิสูจน์ถึงความสามารถและเล่ห์เหลี่ยมการพลิกแพลงสถานการณ์ของอีกฝ่ายได้
ดยุกคีร์แรนเมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นก็ยกมือขึ้นยอมแพ้ทันที นั่นจึงเป็นสัญญาณในการตัดสินผลการประลองในครั้งนี้ ผู้คนที่กำลังรับชมการประลองนี้อยู่นั้นล้วนตกใจและช็อกไปตามๆ กัน ทุกคนล้วนไม่คิดว่าดยุกคีร์แรนผู้แสนเก่งกาจผู้นั้นจะพ่ายแพ้ให้องค์ชายไร้พลังเวทย์คนหนึ่งเท่านั้น
ดยุกคนนั้นพ่ายแพ้ให้กับองค์ชายคนนั้นแม้จะยอมรับกันไม่ค่อยได้แต่มันก็คือเรื่องจริง องค์ชายไม่ได้ใช้วิธีการที่นอกเหนือจากกติกาที่ตั้งไว้ในการประลองนี้ แต่ถึงการใช้วิธีการนี้จะผิดแต่ผู้ที่ใช้เวทมนตร์เขามาช่วยอีกแรงก็ผิดเช่นเดียวกัน วิธีการนี้จึงไม่ได้ผิดกติกาแม้แต่อย่างใด
กรรมการผู้ตัดสินเมื่อเห็นว่าตัวดยุกได้ยอมแพ้และองค์ชายห้าที่จ่อดาบไปที่ตรงหน้าของดยุกนั้นก็ถือว่าผลเป็นเอกฉันท์
“การแข่งขันการประลองดาบในครั้งนี้นั้นผู้ชนะคือองค์ชายห้า องค์ชายออเดรย์!” เสียงของกรรมการที่ยืนอยู่ตรงกลางลานประลองเอ่ยพูดถึงผลแพ้ชนะในรอบนี้และยังประกาศถึงผู้ที่ชนะมาตลอดการแข่งขันอย่างองค์ชายห้า
เมื่อได้ประกาศผลแล้ว พิธีการมอบรางวัลสำหรับผู้ที่ชนะก็เริ่มขึ้น เหรียญสีทองอร่ามแสดงถึงยศตำแหน่งและองค์จักรพรรดิยังเอ่ยเสริมอีกว่า
“ผู้ที่ชนะนั้นคือปรมาจารย์แห่งวิชาดาบที่แท้จริง” เสียงประกาศก้องจากองค์จักรพรรดินั้นยิ่งทำให้ตอกย้ำว่าคนที่ชนะในการประลองนี้คือองค์ชายห้าองค์ชายออเดรย์ผู้นั้น
ผู้คนที่เข้ามารับชมการประลองทำเพียงแค่ปรบมือแสดงความยินดีเท่านั้น แต่ก็มีกลุ่มคนที่โห่ร้องด้วยความยินดี เป็นเพียงแค่กลุ่มนักผจญภัยเท่านั้นมีเพียงไม่กี่คนแต่พวกเขาตะโกนเสียงดังเพราะดีใจกับองค์ชายห้าชนะการประลองนี้
องค์ชายห้าที่ได้ยินเสียงเชียร์นั้นเขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหุบยิ้มไป ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าเขาเงยหน้าที่กำลังก้มลงมองเหรียญทองที่ติดไว้กับชุดของตน เงยขึ้นไปสบตากับองค์จักรพรรดิ
แต่สายตาที่เขาได้รับเป็นเพียงสายตาที่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน สายตาที่มองเขาด้วยความเฉยเมย เย็นชาเหมือนเขาไม่อยู่ในสายตาเลยสักครั้ง
แม้การแข่งขันนี้ตัวเขาจะได้รับชนะมาก็ตามและเมื่อออเดรย์มองไปยังด้านหลังที่มีองค์จักรพรรดินียืนอยู่สายตาอีกฝ่ายดันเต็มไปด้วยความระแวงในตัวเขาและรังเกียจ ออเดรย์เหลือบมององค์จักรพรรดิเพียงเล็กน้อยก่อนจะหลบสายตาออกไป
เมื่อการมอบรางวัลและประกาศถึงชัยชนะขององค์ชายห้าแล้วนั้นก็ถือว่าเป็นการจบแข่งขันการประลองทันที ร่างสูงโปร่งเมื่อเห็นพิธีการตรงหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นเขาจึงเดินลงมาและตรงออกไปจากสนามประลองดาบแห่งนี้ ความเหนื่อยล้าแรงกายที่ใช้ไปทั้งหมด เขากระโดดขึ้นหลังม้าของตัวเองก่อนจะควบมันกลับไปที่พระราชวัง