องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้ - บทที่ 9 การลอบสังหารในยามวิกาล โดย blueb3lls @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น,ความแค้น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ความแค้น,แฟนตาซี

รายละเอียด

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้ โดย blueb3lls @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้

ผู้แต่ง

blueb3lls

เรื่องย่อ

นิยายเรื่องสั้น


TRIGGER WARNING

 การฆ่าบุพการี,เลือด,มีการบรรยายถึงฉากการฆ่าคน,การตัดศีรษะคน,คำดูถูกและด้อยค่า,การวางยาพิษ







“องค์ชายผู้นั้นไงที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ องค์จักรพรรดิเลยไม่ชื่นชอบโอรสองค์นี้ของพระองค์”

“โดนเหล่าพี่น้องเกลียดชังเพราะไร้พลัง มีเพียงองค์รัชทายาทที่ดูจะเอ็นดูเขาเท่านั้น”



คำของสาวใช้ภายในพระราชวังและเสียงหัวเราะเยาะที่ตัวเขา'ออเดรย์'เป็นองค์ชายที่ไร้พลังเวทย์ บิดามารดาของตนไม่เคยยอมรับ แม้จะปฏิบัติตัวดีเพียงใดพวกท่านล้วนไม่เห็นเขาอยู่ภายในสายตา มีเพียงพี่ชายของเขา'เกลนดา' เท่านั้นที่ยอมรับและใส่ใจเขา 







"กระหม่อมจะรับใช้ฝ่าบาทจนชีวิตจะหาไม่"

คำกล่าวสาบานของดยุกคีร์แรนที่เอ่ยต่อหน้าองค์จักรพรรดิคนใหม่ของเขา











เขียนโดย Blueb3lls

ภาพวาดโดย Mochii_roi ,shi_rohebi ,lunardarlia

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านทุกครั้ง

สารบัญ

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 1 ความอดทนที่มลายหายไป (1/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 2 ความอดทนที่มลายหายไป (2/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 3 ข่าวลือ,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 4 พิธีราชาภิเษก,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 5 งานเลี้ยงฉลอง,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 6 ย้อนไปเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 7 งานประลองดาล (1/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 8 งานประลองดาบ (2/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 9 การลอบสังหารในยามวิกาล,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 10 หวานปนพิษ,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 11 ความจริงที่เปิดเผย ความอดทนที่หายไป ไฟแค้นในใจที่เริ่มลุกโชน,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทพิเศษ การพักผ่อนขององค์จักรพรรดิ

เนื้อหา

บทที่ 9 การลอบสังหารในยามวิกาล

องค์ชายห้าเลือกที่เดินทางไปอีกเส้นทางหนึ่งที่ใกล้ยิ่งกว่าควบม้าผ่านตัวเมืองไป ระหว่างนั้นรายล้อมไปด้วยต้นไม้ให้ความรู้สึกเย็นสบายและผ่อนคลายยิ่งตอนนี้เป็นช่วงบ่าย ๆ ของฤดูฝนแล้วนั้น

อากาศยิ่งเย็นกว่าก่อนหน้านี้ ร่างโปร่งขององค์ชายห้าควบม้าตัวโปรดของตนผ่านป่าไม้ตรงไปยังพระราชวัง แต่จุดที่อยู่นั้นเป็นด้านฝั่งตะวันตกของพระราชวังและมันอยู่ใกล้กับส่วนของห้องพักส่วนตัวของเขาด้วยเช่น

เมื่อองค์ชายห้าเข้ามาด้านในพระราชวังแล้วนั้นเขาควบม้าไปไว้ที่คอกเก็บม้าด้านหลังและลงมาจากหลังม้า เดินตรงเข้าไปยังปราสาทโดยที่ไม่สนใจเหล่าข้ารับใช้ที่กำลังมองเขาอยู่


ร่างสูงโปร่งเลือนผมสีเงินก้าวเดินขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นส่วนของห้องพักของเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด ห้องของเขาอยู่สุดทางเดินของโถงเดินยาวนี้
ความเหนื่อยล้าที่ค่อย ๆ กัดกินเขาทำให้เขาเดินช้าลงเล็กน้อย แต่ก็สามารถเดินเข้าไปภายในห้องพักของตนเอง ไม่รอช้าร่างโปร่งขององค์ชายห้าพุ่งตรงเข้าไปยังห้องอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายของตนเอง
อ่างอาบน้ำที่เขาเปิดน้ำอุ่น ๆ ไว้รอขณะที่เขากำลังสระผม น้ำในอ่างเริ่มเต็มอ่างแล้วเขาจึงล้างผมตัวเองให้สะอาดก่อนจะเดินไปปิดน้ำที่เปิดไส้ก่อนจะหย่อนร่างกายที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าลงไป
ร่างกายที่ได้สัมผัสกับน้ำอุ่น ๆ นั้นทำให้ออเดรย์รู้สึกผ่อนคลายกว่าตอนที่ได้รับลม ๆ เย็นระหว่างทางที่กลับมายังพระราชวัง เขาค่อย ๆ หลับตาลงไปเพื่อให้ตัวเองนั้นหายเหนื่อยล้า
ไม่รู้ตอนนี้นั้นผ่านไปนานเท่าไรแล้วออเดรย์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วพยุงตัวเองขึ้นออกจากอ่างอาบน้ำเปิดฝักบัวอาบน้ำเพื่อให้น้ำเย็นไล้ไปตามตัวจนรู้สึกเย็นสบายขึ้นแล้วเขาถึงหยิบผ้ามาเช็ดตัวและสวมใส่เสื้อคลุมพร้อมผ้าผืนหนึ่งที่ไว้สำหรับเช็ดผมให้แห้ง
เขาเดินออกมาจากห้องอาบน้ำโดยที่มีเพียงเสื้อคลุมตัวหนึ่งและผ้าผืนเล็ก ๆ เท่านั้น หยดน้ำที่ไล้ไปตามอกเขาที่ตัวยังไม่แห้งดีนัก ร่างสูงโปร่งขององค์ชายออเดรย์เดินตรงไปยังโต๊ะกลางห้องที่มีอาหารจัดวางไว้อยู่แล้ว เขาไม่รู้ว่ามีสาวใช้คนไหนนำเอาอาหารเย็นมาวางไว้
โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวกับตน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าตัวต้องสนใจ ร่างโปร่งค่อย ๆ นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะที่มีอาหารจัดวางไว้ เขาหยิบซ้อมขึ้นมาและมีดที่ไว้ตัดเนื้อที่อยู่บนจาน
อาหารเย็นในวันนี้เป็นสเต๊กเนื้อที่ย่างมาแบบสุกพอดีผิวข้างนอกกำลังกรอบได้ที่และราดด้วยซอสที่ผสมขึ้นมาจากพ่อครัวของห้องอาหาร
เขาลองชิมรสชาติของซอสนั้นเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของไวน์และเครื่องเทศจากแดนตะวันตกมันผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว ออเดรย์เอ่ยชมออกไปเล็กน้อย

“รสชาติดี” ปลายลิ้นที่แตะชิมซอส

มือที่ค่อย ๆ ขยับหันเนื้อที่อยู่บนจานออกเป็นชิ้นพอดีคำและตรวจสอบเล็กน้อยว่าอาหารตรงหน้าเขานั้นไม่ได้ร้อนจนเกินไป ก่อนจะใช้ส้อมจิ้มเนื้อขึ้นมาแล้วนำเข้าไปในปากค่อย ๆ เคี้ยวชิ้นนั้นให้ละเอียดและละเลียดรสชาติของในปากก่อนจะกลืนมันลงไป
เนื้อที่ย่างมาด้วยไฟแรง ๆ แต่ด้านในกับยังอ่อนนุ่มทำให้เคี้ยวง่ายก่อนจะได้ลิ้มรสของเนื้อชิ้นต่อไปเสียงเคาะประตูเบา ๆ ก็ดังขึ้นมา เสียงของสาวใช้ดังขึ้นมา
ตอนนี้ภายนอกหน้าต่างนั้นท้องฟ้าโดนย้อมไปด้วยความมืดมิดมีเพียงแสงไฟจากรอบพระราชวังเท่านั้นที่ทำให้มันดูน่าอยู่ขึ้น ตอนนี้ยังช่วงหัวค่ำอยู่
เขาไม่ได้คิดอะไรมากเอ่ยปากอนุญาตสาวรับใช้คนนั้นเขามา เธอนำชาที่เป็นของฝากจากท่านพี่เกลนดามาให้เขา ออเดรย์ไม่ได้คิดและให้ความสำคัญกับน้ำชากานั้นเท่าไรนัก
เขาเอ่ยปากให้เธอเพียงวางกาน้ำชาและแก้วไว้ตรงหน้าเขาก็พอ ในตอนเช้าค่อยมาจัดเก็บไปรวมถึงจานที่มีเนื้อสเต๊กที่เขากำลังทานอยู่ด้วย เพราะอย่างไรตอนนี้มันก็เลยเวลาที่เหล่าสาวใช้ในพระราชวังต้องเลิกทำงานแล้ว เขาจึงไม่อยากก่อกวนเวลาพักผ่อนเธอนัก จึงให้เธอกลับไปเลยไม่ต้องเทชาให้เขา
ออเดรย์มองตามแผ่นหลังของสาวใช้คนนั้นจนอีกฝ่ายปิดประตูห้องของเขาลง เขาจึงได้กลับมาสนใจอาหารตรงหน้าอีกรอบนี้เขาใช้ส้อมจิ้มเนื้อขึ้นมาแล้วนำไปจิ้มกับซอสที่ราดไว้ด้านข้างจาน เนื้อสเต๊กที่ย่างมาอย่างที่ตัวเขาชื่นชอบและซอสที่กลมกล่อมยิ่งทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยขึ้นกว่าเดิม
ออเดรย์ค่อย ๆ ทานไปทีละชิ้นตามที่เขาหั่นไว้จนหมดไปครึ่งจานแล้วนั้นเขาจึงหันไปสนใจกาน้ำชาและแก้วน้ำชาที่วางไว้บนโต๊ะด้วย เขายกกาน้ำชาขึ้นมารินชาลงในแก้วใบเล็กตรงหน้า
ชาที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกคาโมมายล์เขายกชาขึ้นมาจิบเล็กน้อยเพื่อพิสูจน์ว่ามันยังคงร้อนอยู่หรือไม่เมื่อได้นำชาเข้าไปสัมผัสกับลิ้นแล้วนั้นเขาถึงรู้ได้เลยว่าอุณหภูมิของชากำลังอุ่นพอดี เขาจึงยกขึ้นจิบจนหมดแก้วก่อนจะวางแก้วลง พร้อมหยิบส้อมขึ้นมาทานเนื้อตรงหน้าต่อจนหมดแล้ว ตามด้วยยกแก้วชาคาโมมายล์ขึ้นมาดื่มตอนนี้ชานั้นเริ่มทำให้เขาง่วงขึ้นมาเล็กน้อยรวมกับที่พึ่งทานอาหารไปจนอิ่ม
แต่เขาก็ไม่อยากที่จะทิ้งตัวลงนอนตอนนี้จึงเดินไปหยิบหนังสือที่เคยยืมท่านพี่เกลนดามาเมื่อช่วงเดือนก่อน มันเป็นเพียงหนังสือนวนิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเขาหยิบหนังสือเล่มนั้นได้แล้วจึงเดินตรงไปยังโซฟาตัวยาว ร่างโปร่งนั่งลงแล้วเอนหลังของตัวเองพิงกับเบาะนุ่ม ๆ นั้นและก้มหน้าอ่านนวนิยายเล่มนี้ที่อยู่ในมือ เพื่อรอให้อาหารที่พึ่งทานเข้าไปย่อยให้จนหมด

เวลาค่อย ๆ ผ่านไปความรู้สึกง่วงนอนเริ่มจางหายไปตามเวลาที่ไหลไป เขาสนใจในเนื้อหาตัวนวนิยายเล่มนี้จนไม่ได้สนใจบรรยายที่ดูอึมครึมและคนชุดดำสองสามคนที่อยู่ภายในห้องของเจ้าตัวเลย
เหล่าคนชุดดำนั้นก้าวย่างอย่างแผ่วเบาไปด้านหลังของออเดรย์ในจังหวะที่ออเดรย์กำลังพลิกหน้ากระดาษเหล่าคนชุดดำก็ยืนดาบขนาดเล็กไปจ่อที่คอระหงขององค์ชายออเดรย์
องค์ชายคนนั้นกับไม่ได้สนใจพวกคนชุดดำที่กำลังเอาดาบมาจ่อที่คอตัวเองเลยสักนิด เขานำนิ้วขึ้นมาดันดาบออกก่อนจะฟาดมือลงที่ข้อมือที่อยู่ตรงหน้าแล้วจึงก้มไปอ่านนวนิยายต่อ
แต่ยังคงโดนก่อกวนจากคนชุดดำพวกนี้ทั้งพยายามล็อกตัวของเขา ออเดรย์ก็ยังคงหลบได้แถมยังเตะเข้าไปที่ก้านคอของใครสักคนตรงหน้าโดยที่สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับหนังสือตรงหน้าแต่ก็ต้องปิดหนังสือเล่มนั้นไปเพราะคนพวกนั้นเริ่มที่จะเกินเลยมากไปกว่าที่ตัวออเดรย์คิด
คนพวกนั้นที่พยายามที่จะเอาดาบมาจ่อที่คอของแล้วพยายามที่จะจับตัวเขาล็อกไว้และยังพยายามจะฟาดมือลงมาเพื่อทำให้เขาสลบไป การโดนก่อกวนในยามวิกาลแบบนี้ทำให้เขารำคาญใจเล็ก
แต่วันนี้ที่เขานั้นเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก เขาจึงทำเพียงตอบโต้และทำให้คนพวกนั้นสลบไป อีกฝ่ายมีเพียงสามคนเท่านั้นจึงไม่ยากเกินไปสำหรับออเดรย์และฝีมือของสามคนนี้ก็ไม่ได้สูงมากนัก
อีกฝ่ายที่เห็นเขาเก็บหนังสือลงแล้วจึงพุ่งตรงเพื่อเข้ามาเอาชีวิตเขาแม้จะไม่แน่ชัดว่าสามคนนี้ทำไปเพื่ออะไร แต่เขาก็ยังสามารถปัดดาบทั้งสามเล่มทิ้งก่อนจะเตะเข้าที่ท้องคนตรงกลางจนอีกฝ่ายล้มลง ส่วนฝั่งซ้ายและขวานั้นจังหวะที่สองคนนั้นพุ่งตัวเข้ามาหาเขาช่างไม่เป็นมืออาชีพเสียเลยฝีเท้าที่ลงน้ำหนักมากเกินไป
จนทำให้เขารู้ตัวว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงจุดไหนและตำแหน่งของทั้งสองที่เผยออกมาออเดรย์นั้นไม่รอช้า เขาจับเข้าที่คอคนฝั่งขวาก่อนจะทุ่มคนนั้นลงที่พื้นอย่างแรงจนสลบไปส่วนอีกคนนั้น ไม่ได้หวาดกลัวเขาที่ทำให้สหายตัวเองสลบไปเลยแม้แต่น้อย ดาบที่จ่ออยู่ที่คอนั้นค่อย ๆ ขยับเข้ามาหาเขาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ทำให้ตัวออเดรย์หวาดกลัวเลยสักนิด เขาปัดดาบออกไปโดยไม่สนใจที่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่ก่อนจะล็อกคอคนนั้นแล้วจับทุ่มลงพื้นไปอีกคนจนสลบไป
สามคนที่นอนสลบอยู่กลางห้องของเขานั้นถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะทำให้สาวใช้ที่มาเก็บจานและพวกเซตน้ำชาตอนเช้าตกอกตกใจ ร่างสูงโปร่งขององค์ชายห้าเดินไปยังหน้าต่างที่เขาเปิดไว้รับลมยามกลางคืน
ก้มหน้าลงไปมองด้านล่างเมื่อยังเห็นมีทหารยามที่เดินตรวจตราช่วงกลางดึกนั้นเขา จึงเอ่ยปากเรียกทหารสองนายนั้นขึ้นมาบนห้องของเขา

“นายทหารสองคนนั้น เรามีเรื่องให้ช่วยหน่อยพอจะขึ้นมาที่ห้องเราได้ไหม” เสียงเอ่ยเรียกที่ไม่ดังมากไม่เบามากเกินไปทำให้ทหารที่เดินสำรวจแถวนี้ได้ยินนายทหารทั้งสองนายที่ได้ยินเสียงเรียกพวกตนมาจากบนชั้นสอง
จึงเงยหน้าขึ้นไปคนที่เรียกพวกเขานั้นคือองค์ชายห้า พวกเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเรียกพวกเขาทั้งสองในตอนนี้ทำไม แต่พวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง เดินขึ้นไปยังชั้นสองและตรงไปยังห้องด้านในสุดโถงทางเดินและเคาะประตูเพื่อเรียกคนด้านใน บานประตูที่ค่อย ๆ เปิดออกให้พวกเขาทั้งสองสามารถเดินเข้าไป
นายทหารทั้งสองนายเดินตามแผ่นหลังขององค์ชายออเดรย์ไปหยุดที่กลางจุดที่มีคนสวมชุดดำสามคนนอนกันอยู่ ด้วยความตกใจนายทหารทั้งสองนายจึงเอ่ยถามองค์ชายออเดรย์ออกไปด้วยความร้อนรนและหวาดกลัวเขาที่ทำหน้าที่ของตัวเองบกพร่องไป แต่องค์ชายห้านั้นกับไม่ได้ใส่ใจเพียงตอบกลับพวกเขามาว่า

“สามคนนี้ เข้ามาก่อกวนตอนที่เรากำลังอ่านหนังสือน่ะ”

“ช่วยนำคนพวกนี้ออกไปจากห้องเราทีได้ไหม” น้ำเสียงที่เหมือนทั้งเอ่ยขอร้องและสั่งให้พวกเขาทั้งสองทำตามคำขออีกฝ่ายแต่ถึงองค์ชายห้าจะไม่ออกคำสั่งหรือขอร้องให้พวกเขาทำ พวกเขาก็ต้องจัดการสามคนที่นอนสลบอยู่
ทหารทั้งสองนายไม่สนใจวิธีที่จะยกร่างของคนชุดดำสามคนนี้ออกไปห้องพักขององค์ชายห้า นายทหารทั้งสองอุ้มคนชุดดำทีละคนแล้วโยนลงไปจากหน้าต่างชั้นสองไม่สนใจว่าคนพวกนั้นจะบาดเจ็บหรืออะไร
เมื่อจัดการคนออกไปจากห้องขององค์ชายห้าเรียบร้อยแล้วนั้น ทหารทั้งสองนายจึงขอตัวไปจัดการสามคนนั้นที่อยู่ด้านล่างต่อ ออเดรย์พยักหน้าให้ทหารทั้งสองกลับไปทำหน้าที่ตนเองต่อ
ส่วนตัวเขาก็หันไปหยิบหนังสือที่วางไว้ขึ้นมาอ่านต่อสักพักเขาหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อนำมาคั่นหน้ากระดาษที่อ่านค้างไว้ ก่อนจะนำไปเก็บเข้าที่ชั้นหนังสือแล้ว จึงเดินไปยังเตียงนอนของตัวเองล้มตัวลงนอนเมื่อหัวถึงหมอน
ความง่วงที่ก่อนหน้านี้หายไปแล้วนั้นค่อย ๆ กลับมาอีกครั้งเปลือกตาค่อย ๆ ปิดลงและจมเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกคืนหนึ่ง