องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้
ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น,ความแค้น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้
ผู้แต่ง
blueb3lls
เรื่องย่อ
นิยายเรื่องสั้น
TRIGGER WARNING
การฆ่าบุพการี,เลือด,มีการบรรยายถึงฉากการฆ่าคน,การตัดศีรษะคน,คำดูถูกและด้อยค่า,การวางยาพิษ
“องค์ชายผู้นั้นไงที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ องค์จักรพรรดิเลยไม่ชื่นชอบโอรสองค์นี้ของพระองค์”
“โดนเหล่าพี่น้องเกลียดชังเพราะไร้พลัง มีเพียงองค์รัชทายาทที่ดูจะเอ็นดูเขาเท่านั้น”
คำของสาวใช้ภายในพระราชวังและเสียงหัวเราะเยาะที่ตัวเขา'ออเดรย์'เป็นองค์ชายที่ไร้พลังเวทย์ บิดามารดาของตนไม่เคยยอมรับ แม้จะปฏิบัติตัวดีเพียงใดพวกท่านล้วนไม่เห็นเขาอยู่ภายในสายตา มีเพียงพี่ชายของเขา'เกลนดา' เท่านั้นที่ยอมรับและใส่ใจเขา
"กระหม่อมจะรับใช้ฝ่าบาทจนชีวิตจะหาไม่"
คำกล่าวสาบานของดยุกคีร์แรนที่เอ่ยต่อหน้าองค์จักรพรรดิคนใหม่ของเขา
เขียนโดย Blueb3lls
ภาพวาดโดย Mochii_roi ,shi_rohebi ,lunardarlia
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านทุกครั้ง
ในเช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูเบา ๆ ทำให้เขาตื่นขึ้นมา เมื่อรู้ว่าคนด้านนอกนั้นเป็นสาวใช้คนเมื่อคืน จึงได้เอ่ยอนุญาตให้สาวใช้คนนั้นเข้ามา เสียงประตูที่เปิดออกเบา ๆ และเสียงเท้าที่ก้าวเข้ามา
ตามมาด้วยเสียงของรถเข็นที่นำมาเก็บจานและเซตน้ำชาแม้จะเสียงดังเล็กน้อยแต่มันก็ไม่ได้รบกวนเขามากนักและเสียงประตูที่ปิดตามด้วยเสียงของล้อรถเข็นที่เงียบลง
ร่างโปร่งขององค์ชายห้าจึงล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่หลับไปได้ไม่นานเสียงเคาะประตูที่ไม่ดังและไม่เบานั้นกำลังรบกวนเขา ทำให้ตัวองค์ชายห้านั้นอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่เมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นท่านพี่เกลนดาแล้วนั้นความรู้สึกหงุดหงิดจึงหายไป
อีกฝ่ายเดินมาหยุดยืนข้างกายเขาและนั่งลงบนเตียงและเอ่ยสิ่งที่เขาไม่คิดว่าท่านพี่จะรู้
“เมื่อคืนเจ้าโดนลอบโจมตีใช่หรือเปล่า ได้รับบาดเจ็บที่ไหนหรือไหมให้ข้าดูสักหน่อยได้ไหม ออเดรย์” น้ำเสียงของท่านพี่ที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยเขา ฝ่ามือที่ยกขึ้นมาลูบที่หัวของเขาอีกด้วยท่านพี่ยังคงทำเหมือนเขาเป็นเด็กอยู่เสมอ
เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกังวลมากจนเกินไปออเดรย์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงกลางดึกทั้งหมดให้ท่านพี่เกลนดาฟังจนจบ เขาเริ่มเล่าจากที่ตัวเองกำลังอ่านหนังสือแต่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่เบานัก
นั่นทำให้เขารู้ตัวได้ทันทนว่ามีคนอยู่ภายในห้องเดียวกับเขา ห้องที่มีเพียงแสงเทียนอยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้น หลังจากนั้นคนชุดดำสามคนจึงได้เริ่มที่จะโจมตีเขาแม้ในตอนแรกตัวออเดรย์ไม่ได้รู้สึกรำคาญมากนัก แต่เมื่อสามคนนั้นไม่คิดที่จะหยุดเพราะความเหนื่อยล้าจากเมื่อวาน
จึงทำให้เขารีบจัดการทั้งสามจนสลบไป แล้วถึงเรียกให้ทหารตรวจตราในยามกลางคืนมานำร่างของสามคนนั้นออกไปจากห้องของเขาผ่านทางหน้าต่างและทุกอย่างสงบลงตัวเขาจึงได้เข้านอนไป
ออเดรย์นั่งพิงหลังกับหมอนแล้วเล่าทุกอย่างที่เกิดอย่างละเอียด ส่วนท่านพี่เกลนดาก็นั่งฟังเขาอย่างตั้งใจจนจบและเมื่อรู้ว่าตัวออเดรย์ไม่ได้รับบาดแผลที่ตรงไหนจึงทำเพียงลูบหัวเขาเล็กน้อย
ก่อนจะเดินออกไปและก่อนจะเปิดประตูออกไปนั้นท่านพี่กับหยุดยืนและหันกลับมาคุยกับเขาเล็กน้อย
“เจ้าจะไปทานมื้อเช้ากับข้าที่สวนด้วยกันไหม”
“ท่านพี่ไปรอก่อนเลย ข้าขออาบน้ำและล้างหน้าสักครู่เดี๋ยวข้าจะตามออกไปพ่ะย่ะค่ะ” เขาลุกขึ้นยืนอยู่ข้างเตียงและคำชวนทานมื้อเช้าขององค์รัชทายาท
เมื่อเกลนดาได้คำตอบจากน้องชายตนเองจึงเดินออกจากห้องของออเดรย์ไป ส่วนออเดรย์นั้นเมื่อเห็นท่านพี่เกลนดาออกไปแล้วจึงเดินไปอาบน้ำล้างหน้าให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นขึ้นและเดินออกมาจากห้องอาบน้ำจึงเดินไปหยิบเสื้อที่สวมใส่สบายตัวและกางเกงที่เหมาะจะสามารถให้เขาได้ฝึกดาบในช่วงสายต่อได้
เขาเดินไปเช็กร่างกายตัวเองที่หน้ากระจก เมื่อเห็นว่าผมที่ปล่อยสยายไปด้านหลังของตนยังไม่ได้มัดรวบขึ้นจึงควานหาผ้าผูกผมที่เคยผูกประจำมารวบผมทั้งหมดขึ้นไป
แล้วจึงส่องตรวจดูตัวเองอีกรอบหนึ่งเมื่อทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เขาถึงได้เปิดประตูเดินตรงไปยังสวนด้านข้างพระราชวัง ตรงนั้นมีโต๊ะที่ไว้สำหรับดื่มชาและชมดอกไม้แต่ตอนมีชายหนุ่มคนหนึ่งเลือนผมสีทองและนัยน์ตาสีแดง ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากท่านแม่ของเจ้าตัวนั้น
ทำให้อีกฝ่ายดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามท่านพี่ อีกฝ่ายที่เห็นเขานั่งลงแล้วจึงเรียกให้สาวใช้ที่ยืนรอรับคำสั่ง ให้ไปนำอาหารมื้อเช้าสองที่นำมาให้พวกเขาระหว่างที่รออยู่นั้นเกลนดาก็เอ่ยชวนออเดรย์พูดคุยถึงงานประลองดาบเมื่อวานนี้ ตัวเขาทำเพียงนั่งฟังท่านพี่เอ่ยชมตนเองและพูดถึงความประทับใจในทักษะที่หลากหลายของเขาและการพลิกแพลงวิธีการต่าง ๆ ให้ตัวเองสามารถเอาชนะมา
ได้ จนสาวใช้เดินกลับมาแล้วยกถ้วยที่ใส่อาหารวางตรงหน้าพวกเขาทั้งสองและวางทุกอย่างจนครบแล้วพวกเขาจึงเริ่มทานกัน อาหารเช้าในวันนี้นั้นคือตัวโจ๊กข้าวโอ๊ตที่มีส่วนผสมพิเศษอย่างเนื้อสัตว์ผสมลงไปด้วย เมื่อตักชิมรสชาติที่ไม่ได้จืดจางเหมือนดังเช่นโจ๊กข้าวโอ๊ตในคราก่อน ๆ โจ๊กที่มีรสเนื้อหมูผสมเข้าไปนั้นทำให้ดูกลมกล่อมมากขึ้นชวนให้อยากอาหารและของว่างของวันนี้เป็นแพนเค้กที่ราดน้ำผึ้งพร้อมชาดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกมา วางร่วมด้วย
ถ้วยที่เคยเต็มไปด้วยโจ๊กนั้นในตอนนี้มันหมดไปแล้ว แต่เขายังไม่ได้รู้สึกอิ่มนักจึงใช้มีดตัดแพนเค้กตรงหน้าขึ้นมาทานอีก แต่เมื่อเคี้ยวจนหมดแล้วกลืนลงไปแล้วนั้น
ผ่านไปไม่กี่วินาทีเขาก็รู้สึกแสบร้อนภายในอกจนสำลักออกมาเป็นเลือด เขาเงยหน้าขึ้นไปมองท่านพี่ที่สีหน้าแสดงออกถึงความตกใจ
อีกฝ่ายรีบลุกเดินเข้ามาหาเขาแล้วบอกให้สาวใช้ไปตามนักเวทย์ที่มีพลังรักษามารวมถึงเรียกแพทย์มาด้วย ตัวเกลนดาที่ร้อนรนเล็กน้อยจึงค่อย ๆ ใช้เวทย์รักษาที่ไม่ได้ใช้มานานของตนเองรักษาออเดรย์ไปก่อน
แต่มันกับทำให้ออเดรย์สำลักเลือดมากกว่าเดิม เขาจึงค่อย ๆ สงบใจใช้เวทย์รักษาของตัวเองระหว่างที่รักษาน้องชายของตนนั้นสลบไปแล้ว
ภาพที่ออเดรย์สำลักเลือดออกมาทำให้เกลนดารู้สึกเจ็บปวด เขาร้องไห้ออกมาพยายามร้องให้มีคนเข้ามาช่วยน้องชายตนเอง
ตอนนี้ตัวเกลนดานั้นไม่สามารถสงบใจได้แล้ว ท่านดยุกคีร์แรนที่ไม่รู้อีกฝ่ายเดินเข้ามาในสวนแห่งนี้ได้อย่างไร เดินตรงเข้ามาโอบอุ้มร่างของออเดรย์ที่นอนราบกับพื้นขึ้นไปแม้จะรู้สึกตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย
แต่เกลนดาก็ทำได้เพียงก้าวเดินตามดยุกคีร์แรนตรงไปยังหอคอยเวทมนตร์เท่านั้น ดยุกหนุ่มไม่สนใจเสียงเอ่ยห้ามของศิษย์ในหอคอยเวทมนตร์เลยสักนิด
ร่างสูงของดยุกและองค์รัชทายาทตรงไปยังห้องพักที่อยู่ชั้นบนสุดของหอคอยเป็นห้องที่สร้างขึ้นมาสำหรับมาสเตอร์แห่งหอคอยแห่งนี้เท่านั้น
เมื่อเดินขึ้นมาหยุดอยู่หน้าห้องแล้วนั้นเขาใช้เท้าของตนเองพังประตูเข้าไปและวางร่างขององค์ชายห้าที่เตียงหันไปจ้องมองคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน
มาสเตอร์หนุ่มเลือนผมสีดำยาวนัยน์ตาสีดำสนิทชายคนนั้นที่มีนามว่า บีวิส เป็นชายที่ขึ้นมาเป็นมาสเตอร์แห่งหอคอยเวทมนตร์ได้ในตอนที่อายุเพียง 26 ปีเท่านั้น
บีวิสเป็นคนที่มากความสามารถทางด้านเวทมนตร์ยิ่งกว่าใครเขาถนัดทั้งเวทมนตร์สายโจมตีและป้องกันและสิ่งที่ทำให้ตัวตนของเขามีค่ามากกว่าใครคือบีวิสเป็นนักเวทย์ที่มันเวทย์รักษาที่แข็งแกร่งมากที่สุดเลยทีเดียว แต่เขานั้นไม่เคยคิดจะใช้เวทย์รักษาของตนเองเลยสักครั้ง
แม้จะเป็นองค์จักรพรรดิจะมาขอร้องด้วยตนเองก็ตาม เกลนดาไม่เข้าใจว่าทำไมท่านดยุกคีร์แรนถึงพาน้องชายของเขามาหาชายคนนี้ทั้ง ๆ ที่มีนักเวทย์สายรักษามากมายที่สามารถช่วยออเดรย์ได้ แต่เขาก็ไม่มีหนทางมากนักชายหนุ่มที่เป็นองค์รัชทายาทจ้องมองไปยังมาสเตอร์หนุ่มคนนั้น
อีกฝ่ายไม่มีการขยับเขยื้อนเลยตั้งแต่ที่พวกเขาเดินเข้ามาจนเกลนดาได้ยินเสียงไอของออเดรย์ ชายหนุ่มจึงเดินไปตรงหน้าชายคนนั้นแล้วเอ่ยขอร้องให้เขารักษาน้องชายของตนเอง
“ท่านบีวิสเราขอร้องละ รักษาออเดรย์ให้เราเถิดในที่แห่งนี้มีเพียงท่านที่สามารถทำได้แล้ว ได้โปรดล่ะ” ชายร่างโปร่งเดินไปหยุดยืนด้านหน้าโต๊ะทำงานที่มีร่างของมาสเตอร์แห่งหอคอยเวทมนตร์อยู่ เขาเอ่ยขอร้องอีกฝ่ายโดยไม่กลัวที่จะต้องทำอะไรตอบแทน
อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาจ้องมาเขาเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาเดินตรงไปยังเตียงที่มีร่างขององค์ชายห้านอนอยู่ แสงสีทองสว่างไสวขึ้นมาทำให้เกลนดารู้ได้ทันทีว่านี้คือเวทย์รักษาของบีวิสอย่างแน่นอน อีกฝ่ายวางมือบนอกของออเดรย์ไม่กี่นาทีต่อมาร่างที่นอนสลบอยู่นั้นก็เริ่มไอออกมาเป็นเลือดสีดำจนเปื้อนผ้าปูที่นอนของบีวิสไปหมด
ด้วยความตกใจเกลนดาเดินเข้าไปดูน้องชายของตัวเองและเมื่อสังเกตสีหน้าที่สดใสขึ้นมาก็ทำให้เขาเบาใจขึ้น เกลนดาหันไปขอบคุณทั้งตัวดยุกคีร์แรนและมาสเตอร์หอคอยเวทมนตร์อย่างบีวิสด้วยความซาบซึ้งใจ
ส่วนตัวของดยุกคีร์แรนเมื่อเห็นการรักษาเสร็จสิ้นแล้วจึงเดินเข้าไปดูแล้วลูบที่หน้าผากขององค์ชายห้าอย่าถือวิสาสะ ส่วนตัวบีวิสนั้นหันหลังกลับไปโดยไม่ได้กล่าวอะไรเลย
เดินไปทำงานของตนเองต่อไป ดยุกคีร์แรนและเกลนดารอให้ออเดรย์ฟื้นขึ้นมาก่อนจึงจะพาตัวของร่างโปร่งกลับไปพักที่ห้องของเจ้าตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปเกลนดายังไม่วาย
เอ่ยขอบคุณบีวิสอีกครั้งแต่ก็ยังคมไม่ได้รับคำตอบรับจากอีกฝ่าย เขาจึงเดินออกจากห้องแล้วตามหลังของดยุกคีร์แรนที่อุ้มตัวออเดรย์ตรงไปยังห้องพักของชายร่างโปร่งที่อยู่ในอ้อมกอดของดยุกหนุ่ม
ออเดรย์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากรับรู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองอยู่ที่หอคอยเวทมนตร์ตอนนี้เขาคงอยู่ที่ห้องของตนเองแล้ว ออเดรย์ถึงค่อย ๆ พยุงร่างตัวขึ้นพิงหลังกับหมอนมองไปรอบ ๆ ห้อง
เขาคงหลับไปนอนพอสมควรสินะท้องฟ้าด้านนอกถึงมืดสนิทไปเสียแล้ว เขาก้มมองไปยังข้างเตียงที่เหมือนจะมีคนฟุบตัวนอนอยู่เป็นท่านพี่เกลนดาเหมือนท่านพี่นั้นจะขอเฝ้าตัวเขาจนกว่าจะตื่นอีกครั้ง
ถ้วยซุปที่ตั้งไว้ข้างเตียงเหมือนจะเริ่มเย็นขึ้นมาแล้ว ท้องที่เริ่มร้องประท้วงเล็กน้อยนั้นทำให้เขาเอื้อมตัวเพื่อจะไปหยิบถ้วยซุปขึ้นมาทานแต่กับทำให้ท่านพี่ที่กำลังหลับอยู่ตื่นขึ้นมา
อีกฝ่ายที่เห็นเขาพยายามจะหยิบถ้วยซุปที่อยู่ข้างเตียง เกลนดาจึงอาสายกมาให้แทนและเอ่ยถามเพื่อตรวจสอบเล็กน้อยและเมื่อแน่ใจแล้วว่าออเดรย์ไม่ได้รู้สึกเจ็บที่อกหรือมีอาการข้างเคียงจากการอาเจียนเลือดก้อนโตออกมา ทำให้เกลนดารู้สึกสบายใจขึ้น ตอนนี้เขาทำเพียงนั่งมองน้องชายที่กำลังตักซุปขึ้นมาทานทีละคำจนหมดถ้วยแล้วจึงยื่นเม็ดยาที่ได้มาจากแพทย์ที่เข้ามาตรวจเมื่อช่วงบ่ายให้ออเดรย์ทาน
เมื่อออเดรย์โยนเม็ดยานั้นเข้าปากจึงยื่นแก้วน้ำให้อีกทีหลังทานข้าวและยาเรียบร้อยเกลนดาและออเดรย์ก็นั่งคุยกันเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปเมื่อเห็นว่าออเดรย์นั้นเริ่มจะง่วงแล้วและตอนที่ออเดรย์ล้มตัวนอนแล้วเกลนดาถึงดับไฟที่จุดไว้แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องนี้ไป
ระหว่างทางเขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อเช้านี้ พิษที่ตัวออเดรย์ได้รับเข้าไปนั้นเป็นพิษที่ร้ายแรงมากถ้าไม่ทำการรักษาภายในหนึ่งชั่วโมงคนที่ได้รับพิษจะตายไปทันทีใครที่มันใส่พิษที่ร้ายแรงขนาดนั้นลงในของว่างหลังอาหารแต่เกลนดาก็ฝากฝังเรื่องนี้ให้ตัวดยุกคีร์แรนเป็นคนไปตามสืบหามาแล้ว
ตัวคนที่น่าสงสัยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเชฟที่ทำของว่างชิ้นนั้น ตัวเขาไม่นิยมทานของว่างหลังมื้ออาหารอยู่แล้ว ณ ตอนนี้มีเพียงแต่ตัวออเดรย์เท่านั้นที่ชื่นชอบทานขนมหวานหลังทานอาหารคาวมากเขาถึงได้ทำการสั่งกับสาวรับใช้ประจำตัวให้ไปสั่งอาหารกับตัวเชฟไว้แล้วตามเขามาที่สวน
ช่างน่าสงสัยนักเมื่อคืนวานออเดรย์ก็โดนลอบโจมตีในยามวิกาลและวันนี้ยังโดนวางยาพิษ ใครมันที่คิดจองหองจะสังหารองค์ชายห้าผู้เป็นเชื้อพระวงศ์
นอกจากคนที่ออกคำสั่งจะเป็นคนที่อยู่สูงจนไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง แค่คิดเกลนดายิ่งหวาดกลัวท่านผู้นั้นเป็นถึงพ่อของออเดรย์ทำไมถึงกล้าที่จะสังหารลูกชายตัวเองกันนะ คิดได้ไปได้ไม่นานเกลนดาก็เดินมาถึงหน้าห้องของตนเองเสียแล้ว เกลนดาเดินเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูห้องตนเองลง