องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้ - บทพิเศษ การพักผ่อนขององค์จักรพรรดิ โดย blueb3lls @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น,ความแค้น,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดาร์ค,ตะวันตก,เรื่องสั้น,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ความแค้น,แฟนตาซี

รายละเอียด

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้ โดย blueb3lls @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

องค์ชายที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ บิดามารดาล้วนไม่ยอมรับในตัวตนของเขา พูดเหมือนตัวเขาเองนั้นไร้ประโยชน์ พี่น้องล้วนเกลียดชัง แต่มีเพียงพี่ชายคนโตที่รักเขาเหมือนคนในครอบครัวเท่านั้น จนกระทั่งในวันนั้นทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป เหตุการณ์น่าสยดสยองที่ไม่มีใครที่จะลืมเลือนมันไปได้

ผู้แต่ง

blueb3lls

เรื่องย่อ

นิยายเรื่องสั้น


TRIGGER WARNING

 การฆ่าบุพการี,เลือด,มีการบรรยายถึงฉากการฆ่าคน,การตัดศีรษะคน,คำดูถูกและด้อยค่า,การวางยาพิษ







“องค์ชายผู้นั้นไงที่เกิดมาไร้พลังเวทย์ องค์จักรพรรดิเลยไม่ชื่นชอบโอรสองค์นี้ของพระองค์”

“โดนเหล่าพี่น้องเกลียดชังเพราะไร้พลัง มีเพียงองค์รัชทายาทที่ดูจะเอ็นดูเขาเท่านั้น”



คำของสาวใช้ภายในพระราชวังและเสียงหัวเราะเยาะที่ตัวเขา'ออเดรย์'เป็นองค์ชายที่ไร้พลังเวทย์ บิดามารดาของตนไม่เคยยอมรับ แม้จะปฏิบัติตัวดีเพียงใดพวกท่านล้วนไม่เห็นเขาอยู่ภายในสายตา มีเพียงพี่ชายของเขา'เกลนดา' เท่านั้นที่ยอมรับและใส่ใจเขา 







"กระหม่อมจะรับใช้ฝ่าบาทจนชีวิตจะหาไม่"

คำกล่าวสาบานของดยุกคีร์แรนที่เอ่ยต่อหน้าองค์จักรพรรดิคนใหม่ของเขา











เขียนโดย Blueb3lls

ภาพวาดโดย Mochii_roi ,shi_rohebi ,lunardarlia

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านทุกครั้ง

สารบัญ

ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 1 ความอดทนที่มลายหายไป (1/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 2 ความอดทนที่มลายหายไป (2/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 3 ข่าวลือ,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 4 พิธีราชาภิเษก,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 5 งานเลี้ยงฉลอง,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 6 ย้อนไปเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 7 งานประลองดาล (1/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 8 งานประลองดาบ (2/2),ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 9 การลอบสังหารในยามวิกาล,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 10 หวานปนพิษ,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทที่ 11 ความจริงที่เปิดเผย ความอดทนที่หายไป ไฟแค้นในใจที่เริ่มลุกโชน,ไร้เวทมนตร์นั่นคือตัวตนที่ข้าโดนตราหน้าไว้-บทพิเศษ การพักผ่อนขององค์จักรพรรดิ

เนื้อหา

บทพิเศษ การพักผ่อนขององค์จักรพรรดิ

บทพิเศษ วันพักผ่อน



เช้าวันหนึ่ง ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศในยามเช้าสดใส ที่คฤหาสน์ตระกูลบริดเจ็ตมีชายร่างสูงคนหนึ่งกำลังฝึกดาบอยู่ที่ลานฝึกของตัวคฤหาสน์ตนเองโดยที่คนที่มาเป็นคู่ฝึกซ้อมให้กับชายหนุ่มในวันนี้คือองค์จักรพรรดิผู้เป็นนายเหนือหัวของเจ้าตัวเอง
ดยุกหนุ่มในตอนแรกคิดเพียงว่าชายร่างโปร่งตรงหน้าเพียงต้องการมาทานมื้อเช้าด้วยกันเพียงเท่านั้นแต่กับไม่ใช่ อีกฝ่ายเมื่อได้ทานมื้อเช้าและของหวานจนอิ่มแล้วจึงเชิญชวนเขามาฝึกซ้อมดาบเหมือนในวันวาน เขาผู้ที่ไม่เคยคิดอยากขัดคำเชิญชวนขององค์จักรพรรดิจึงได้ตอบรับคำชวน
จนในตอนนี้ร่างกายพวกเขาทั้งสองล้วนชุ่มไปด้วยเหงื่อเสียแล้ว คีร์แรนจึงเอ่ยปากให้ตัวจักรพรรดิขึ้นไปอาบน้ำล้างตัวที่ห้องรับแขกของคฤหาสน์เสียก่อน

"ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนดีไหมพ่ะย่ะค่ะ หลังจากนั้นกระหม่อมจะไปส่งพระองค์ที่พระราชวังเอง" เขาเอ่ยถามชายตรงหน้าออกไป องค์จักรพรรดิหนุ่มเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงตอบรับดยุกหนุ่มออกไป

"อืม แต่เราขอไม่กลับวังดีกว่า วันนี้เป็นวันพักผ่อนของเราทั้งทีขอเราพักที่คฤหาสน์ของเจ้าก่อนได้หรือไม่ ท่านดยุกคีร์แรน" น้ำเสียงอันคุ้นเคยเอ่ยตอบดยุกหนุ่ม ก่อนจะเดินไปอีกฝ่ายได้มีการเอ่ยขออนุญาตจากตัวเขาที่จะพักในคฤหาสน์เพราะวันนี้เจ้าตัวนั้นต้องการที่จะพักผ่อนหลังจากที่ทำงานติดต่อกันมาหลายวัน

"ถ้าเป็นสิ่งที่ฝ่าบาทต้องการ กระหม่อมย่อมยินดีเสมอพ่ะย่ะค่ะ หลังพระองค์อาบน้ำเสร็จแล้วกระหม่อมจะให้ท่านพ่อบ้านนำชากับเค้กรสโปรดของพระองค์นำไปเสิร์ฟให้พ่ะย่ะค่ะ"

"ขอบใจท่านมาก งั้นเราขอตัวก่อน" เมื่อตอบรับคำพูดของดยุกคีร์แรนจบแล้วร่างของจักรพรรดิออเดรย์จึงเดินตามสาวใช้ที่มานำทางเขาไปยังห้องพักสำหรับแขก
ส่วนตัวชายร่างสูงอย่างดยุกคีร์แรนนั้นเก็บดาบไม้ที่ทั้งสองใช้ฝึกซ้อมกันเสร็จกลัว จึงเดินไปออกคำสั่งกับทหารที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง
แล้วตนเองจึงได้ไปอาบน้ำล้างตัวที่ห้องตนเอง เพื่อไปทำงานส่วนที่เหลือของตนเองในห้องทำงานของตนเองต่อ

ร่างสูงโปร่งของจักรพรรดิออเดรย์เมื่ออาบน้ำล้างกายของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเดินออกจากห้องพักตรงไปยังสวนดอกไม้ของคฤหาสน์ตระกูลบริดเจต
โต๊ะที่มีทั้งน้ำชาและของหวานวางอยู่ท่านตัวดยุกคีร์แรนคงสั่งพ่อบ้านประจำตระกูลจัดเตรียมไว้สำหรับเขา ระหว่างที่ก้าวเดินไปทั่วคฤหาสน์หลังนี้เขาล้วนโดนสายตาหลากหลายคู่จับจ้องมองมาที่ตัวเขา
ออเดรย์ล้วนไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสาวใช้เหล่านั้นทำไมถึงจ้องมองมาตนเองขนาดนั้นเพราะเสื้อผ้าที่ทางพ่อบ้านจัดเตรียมไว้ให้ก็เป็นเพียงชุดที่ดูเรียบง่ายไม่โดดเด่นอะไรมากนัก ออเดรย์ขมวดคิ้วคิดไประหว่างเดินทางตรงไปยังสวนดอกไม้ของตระกูลบริดเจต



เหล่าสาวใช้พวกนั้นมองข้าทำไมกันนะ?



แต่ตัวองค์จักรพรรดิเองนั้นหารู้เลยไม่ว่าถึงแม้ตัวเขาจะสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูธรรมดาขนาดไหน แต่เป็นเพราะเส้นผมสีเงินและนัยน์ตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์นั้นรวมกับใบหน้าที่หล่อเหลาและงดงาม ล้วนทำให้มีผู้คนต่างก็เหลียวมองเขาไปตาม ๆ กัน ความงดงามและหล่อเหลาที่ไม่สามารถมีใครเทียบเคียงได้
เส้นผมที่ปลิวไสวไปตามสายลมยิ่งทำให้ร่างโปร่งนั้นดูงดงามในสายตาคนอื่นที่ผ่านไปผ่านมา เหล่าข้ารับใช้ต่างไม่มีใครรู้ตัวตนของชายหนุ่มหล่อเหลาคนนี้เลยแม้แต่คนเดียว
พวกเขาคิดเพียงว่าชายหนุ่มแสนหล่อเหลาคนนี้ คงเป็นมิตรสหายของท่านดยุกเป็นแน่ พวกเธอมองตามแผ่นหลังของชายคนนั้นจนเกือบชนเข้ากับท่านดยุก
ด้วยความตกใจพวกเธอเอ่ยขอโทษไปแล้วขอตัวไปหน้าที่ของตนเองต่อแต่ก่อนเหล่าสาวใช้จะเดินออกไปพวกเธอได้ยินคำพูดของท่านดยุกที่เกือบทำให้พวกเธอเป็นลม

"ระวังด้วย ชายผู้นั้นคือองค์จักรพรรดิอย่าบังอาจมองเช่นนั้นอีก เข้าใจหรือไม่" น้ำเสียงดุดันที่เอ่ยดุเหล่าสาวใช้ออกไปเกือบทำให้พวกเธอล้มลงไปต่อหน้าเขา แต่ดยุกหนุ่มนั้นกับได้หาสนใจไม่
เขาเดินตามแผ่นหลังขององค์จักรพรรดิไปยังที่สวนดอกไม้ สวนดอกไม้ที่ท่านแม่ของเขาได้เป็นคนปลูกดอกไม้หลากชนิดไว้ชื่นชม ดูท่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ชื่นชอบขององค์จักรพรรดิเป็นอย่างมาก
ร่างโปร่งหยุดยืนมองดอกไม้ที่อยู่รอบ ๆ เพียงชั่วครู่แล้วจึงก้าวเดินต่อไปอย่างช้า ๆ เพื่อได้มองเหล่าบุปผาอันงดงามพวกนี้ สายตาที่เคยเย็นชาไร้ความรู้สึกขององค์จักรพรรดินั้น
ณ ตอนนี้มันกับดูอ่อนโยนขึ้นหลายเท่า อีกฝ่ายทั้งมองและก้มตัวดอมดมกลิ่นของดอกไม้พวกนั้นทีละชนิดโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่เดินตามหลังตนเองมาเลยสักนิด

ดยุกหนุ่มก้าวเดินตามแผ่นหลังนั้นเขาไม่ได้สนใจดอกไม้หลากชนิดที่ท่านแม่ปลูกไว้แม้แต่นิดเดียว แม้ดอกไม้พวกนี้จะดูงดงามเพียงใด
แต่ร่างของคนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นล้วนงดงามกว่าเป็นไหน ๆ แผ่นหลังที่คุ้นเรย แผ่นหลังที่เขาเคยโอบอุ้มมันเพียงแค่หนเดียว เขาก้าวเดินตามร่างสูงโปร่งไปหยุดที่โต๊ะน้ำชาตัวหนึ่ง ที่ตัวดยุกหนุ่มได้สั่งพ่อบ้านจัดเตรียมไว้ตั้งแต่แรกเพื่อรองรับการพักผ่อนครั้งนี้ขององค์จักรพรรดิ
ร่างโปร่งหย่อนตัวลงนั่งหันหลังกลับมาสั่งให้ชายที่เดินตามหลังตัวเองมาตลอดนั่งลงตาม

"นั่งลงเสีย ท่านดยุกเราแค่อยากพักผ่อนไม่ต้องคุ้มกันเราขนาดนั้นเสียหรอก" ชายที่นั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอ่ยบอกดยุกที่อยู่ด้านข้างให้นั่งลงที่โต๊ะน้ำชานี้เป็นเพื่อนตน
ร่างสูงที่ไม่เคยจะขัดคำสั่งของชายร่างโปร่งตรงหน้านั้นนั่งลงตรงข้ามอีกฝ่ายแล้วเอ่ยให้พ่อบ้านที่ยืนหลบมุมอยู่ด้านข้างมาเทน้ำชาให้พวกเขาทั้งสอง
กลิ่นชาหอมอ่อน ๆ ลอยขึ้นมาให้พวกเขาผ่อนคลายลมที่พัดเบา ๆ ในยามสายและดอกไม้หลากสายพันธุ์ที่แห่งนี้ช่างเป็นจุดดื่มน้ำชาที่ดียิ่งนัก

ท่านหญิงแห่งตระกูลบริดเจตคงตั้งใจจัดแต่งสวนดอกไม้แห่งนี้เป็นอย่างมากแน่นอน

ออเดรย์เอ่ยชมมารดาของดยุกคีร์แรนในใจระหว่างที่ยกชาขึ้นดื่ม บรรยากาศที่ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไรออกมานั้นไม่ได้ดูอึดอัดนักองค์จักรพรรดินั่งพักผ่อนและค่อย ๆ จิบชาริมลองบรรยายภายในสวนดอกไม้ของตระกูลบริดเจตแต่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ผู้ช่วยของท่านดยุกเดินเข้ามาเรียกชายหนุ่มกลับไปทำงานเอกสารต่าง ๆ ต่อ แม้ร่างสูงจะรู้สึกแอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เฝ้ามององค์จักรพรรดิอย่างใกล้ชิดแต่เขาก็ไม่สามารถทำอย่างไรได้
เพียงแค่เอ่ยกำชับกับพ่อบ้านและทหารเฝ้ายามที่ตัวดยุกหนุ่มเรียกให้มาเฝ้าร่างโปร่งที่กำลังหลับตาจิบชาอยู่ เมื่อแน่ใจทุกอย่างแล้วชายร่างสูงจึงผละตัวเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของตน



ในยามสายของวันแดดอ่อน ๆ และสายลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านใบหน้าขององค์จักรพรรดิเขากำลังยกชาขึ้นจิบและสูดดมกลิ่นของดอกไม้เพราะบรรยากาศที่น่านอนหลับพักผ่อนนี้ทำให้ร่างโปร่งค่อย ๆ เคลิบเคลิ้มเขาฟุบตัววางแขนไว้บนโต๊ะเพื่อเป็นที่รองศีรษะของตนแล้วจึงฟุบหลับไป
กลิ่นหอม ๆ ของดอกไม้และสายลมเย็น ๆ เป็นดั่งคำเชิญชวนให้เขาเข้าไปยังห้วงแห่งนิทรา ร่างโปร่งไม่สนใจใครรอบข้างเขาทำเพียงฟุบศีรษะลงไป แล้วหลับตาลงเพียงเท่านั้น

ความรู้สึกที่ได้พักผ่อนนั้นช่างรู้สึกดียิ่งนัก

เขาคิดอย่างนั้นก่อนจะหลับไป พ่อบ้านและทหารเฝ้ายามเมื่อเห็นองค์จักรพรรดิหลับไปหลังท่านดยุกเดินเข้าไปยังห้องทำงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่ตอนนี้พวกเขาคงต้องเรียกให้ท่านดยุกกลับมายังสวนแห่งนี้เสียแล้วเพราะพวกเขานั้นไม่บังอาจที่จะแตะต้องร่างกายขององค์จักรพรรดิ



ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาชายที่อยู่ข้างในห้องเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเงยหน้าจากเอกสารทั้งหลายที่กองอยู่ตรงหน้าแล้วเอ่ยอนุญาตคนที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามา

“เข้ามา” เสียงทุ้มต่ำอันเป็นเอกลักษณ์ของดยุกคีร์แรนเอ่ยให้คนด้านนอกเข้ามาและคนที่เปิดประตูเข้ามานั้นเป็นพ่อบ้านที่ตัวของดยุกหนุ่มได้ฝากให้ดูแลองค์จักรพรรดิไว้ ด้วยความกังวลเขาไม่รีรออะไรมากให้อีกฝ่ายพูดสิ่งต่าง ๆ ออกมาทันที

“ท่านดยุกครับ องค์จักรพรรดิทรงกำลังหลับอยู่ ข้าเลยมาบอกกล่าวให้ท่านดยุกได้ทราบเพราะกลัวว่าฝ่าบาทนั้นจะรู้สึกไม่สบายถ้าฟุบหลับบนโต๊ะ” ท่านพ่อบ้านเอ่ยใจความหลักทุกอย่างออกมาให้เจ้านายของตนได้รับทราบ ร่างสูงที่ได้ยินอย่างนั้นจึงลุกแล้วเดินออกจากห้องทันทีไม่สนใจพ่อบ้านของตน

ภายในสวนดอกไม้ของตระกูลบริดเจตบนโต๊ะดื่มน้ำชา มีร่างโปร่งขององค์จักรพรรดิกำลังฟุบตัวหลับอยู่ด้านข้างมีทหารยามเฝ้าดูและไม่มีใครที่แตะต้องร่างนั้นเลยแม้แต่คนเดียว
เหล่าทหารยามเมื่อมองเห็นร่างของท่านดยุกเดินมาถึงแล้ว จึงหลบให้ท่านดยุกอุ้มตัวขององค์จักรพรรดิไป ร่างสูงค่อย ๆ พยุงตัวของจักรพรรดิขึ้นมาและโอบอุ้มร่างของอีกฝ่ายขึ้นอย่างเบามือ
เพื่อไม่ให้คนที่กำลังหลับฝันอยู่นั้นตื่นขึ้นมา เมื่อจัดท่าทางได้แล้วท่านดยุกจึงก้าวเดินตรงเข้าไปยังคฤหาสน์ขึ้นไปยังห้องนอนสำหรับแขกที่ทางเขาได้สั่งให้สาวใช้จัดเตรียมไว้ให้ร่างโปร่งในอ้อมกอดของตนเรียบร้อย
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องแล้วพ่อบ้านที่เดินตามหลังของท่านดยุกมาก้าวออกมาข้างหน้าแล้วเปิดประตูออก ร่างสูงจึงก้าวเดินเข้าไปข้างในค่อย ๆ วางร่างของจักรพรรดิหนุ่มลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
ก่อนจะเดินออกไปเขาเปิดหน้าต่างและจุดเทียมหอมกลิ่นโปรดของคนที่กำลังหลับใหลอยู่ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมาห่มให้แล้วจึงเดินออกจากห้องนี้ไปปิดประตูลงปล่อยให้ชายผู้อยู่เหนือทุกคนได้นอนหลับพักผ่อน ส่วนตัวดยุกนั้นเดินกลับไปยังห้องทำงานของตนเอง



แสงแดดยามบ่ายที่เริ่มร้อนขึ้นกว่าช่วงเช้านั้น ปลุกให้คนที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิทราได้ตื่นขึ้น เพราะความร้อนแม้จะมีสายลมแต่ก็ไม่ได้ทำให้ระคายความร้อนได้มากนัก
ร่างโปร่งจึงลืมตาขึ้นด้วยความเกียจคร้านเล็กน้อย ค่อย ๆ พยุงร่างตนขึ้นมาเดินไปยังห้องน้ำด้วยความสะลึมสะลือ แต่ทิศทางที่ชายหนุ่มเดินตรงไปนั้นเป็นเพียงกำแพงโดยไม่ทันตั้งตัวร่างโปร่งเดินชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง
จนเกิดเสียงดังทำให้คนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องนั้นเปิดประตูเข้ามาด้วยความร้อนใจ เมื่อเห็นร่างขององค์จักรพรรดิล้มอยู่ตรงพื้นพวกเขาพุ่งตัวเข้าไปพยุงร่างของอีกฝ่ายขึ้น
แล้วเอ่ยให้เรียกแพทย์และท่านดยุกมาแต่ก่อนจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น พวกล้วนโดนองค์จักรพรรดิเอ่ยหยุดไว้เสียก่อนเพราะความตื่นตระหนกนั้นทำให้พวกเขาไม่ได้มีสติพอและเมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้ว
จึงแบ่งหน้าที่กันออกไปคนหนึ่งไปตามแพทย์ประจำตระกูลมาอีกคนไปตามท่านดยุกและคนที่เหลือนั้นช่วยพยุงร่างของจักรพรรดิหนุ่มไปนั่งรอบนเตียง
ออเดรย์ที่เห็นคนอื่นเริ่มวุ่นวายเพราะตน เขาจึงไม่กล้าที่จะลุกเดินไปไหนจนดยุกคีร์แรนเปิดประตูเข้ามา ชายคนนั้นไม่สนใจคนใช้รอบข้างเดินตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายที่นั่งอยู่บนเตียง ชายหนุ่มคุกเข่าลงเพื่อที่จะมองและสำรวจจุดอื่น ๆ ที่ชายตรงหน้าตนได้รับบาดเจ็บเขาใช้สายตาสำรวจไปทั่ว
จนมาหยุดที่หน้าผากของชายตรงหน้าเขา หน้าผากที่แดงเล็กน้อยทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่ชนอะไรสักอย่างเท่านั้น เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอะไรนักเขาจึงลุกขึ้นแล้วให้แพทย์เข้ามาทำแผลให้องค์จักรพรรดิ



“เรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากเพียงแค่หน้าผากมีรอยแดงเท่านั้น ส่วนนี้คือตัวยาสำหรับทาพ่ะย่ะค่ะ ทาเพียงแค่ไม่กี่ครั้งน่าจะหายถ้าพระองค์รู้สึกเจ็บอะไรเพิ่มขึ้นสามารถเรียกทีมฮีลเลอร์มาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมพร้อมรับใช้ฝ่าบาทเสมอ” แพทย์ที่เข้ามาตรวจอาการขององค์จักรพรรดิเอ่ยเรื่องบาดแผลที่ได้รับเพียงเล็กน้อยของชายร่างโปร่งและนำยาทาให้กับเขา
ก่อนจะเดินออกไปยังเอ่ยทิ้งท้ายถ้าตัวของออเดรย์ได้รับบาดเจ็บอะไรอื่นอีกให้เรียกทีมฮีลเลอร์ของราชวังได้เลย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปกับเหล่าข้ารับใช้ทำให้ภายในห้องแห่งนี้เหลือเพียงองค์จักรพรรดิและดยุกคีร์แรนเท่านั้น ภายในห้องที่ตอนแรกนั้นวุ่นวายตอนนี้กับเงียบลงไปแล้วออเดรย์
เมื่อเห็นเหล่าข้ารับใช้ออกไปกันหมดแล้วจึงเงยหน้าขึ้นแต่ชายหนุ่มกับเงยขึ้นไปสบตากับดยุกที่ไม่ได้ออกไปแทน เขาถอนหายใจออกเบา ๆ ก่อนจะยืนยาทาที่ได้จะหมอมาเมื่อกี้ให้กับชายตรงหน้า
แล้วจับมือที่ยื่นออกมาอยู่ตรงหน้าเขา ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพยุงตัวให้ไม่เสียสมดุลแต่เพราะเขาลุกขึ้นไวไปทำให้เขามึนศีรษะเล็กน้อยร่างกายซวนเซ
ออเดรย์คิดว่าเขาจะล้มลงไปอีกครั้งแต่ไม่ใช่เป็นดยุกหนุ่มพยุงร่างของตนไว้ทำให้เขาไม่ล้มลงอีกครั้ง เมื่อรู้สึกหายมึนแล้วเขาจึงปล่อยมือจากชายข้างกายเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งจากที่เขาเคยเดินไปในตอนแรก

ออเดรย์เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปไปหยุดยืนอยู่หน้ากระจกเปิดน้ำไว้ แล้วควักน้ำขึ้นมาล้างหน้าตนเองให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา น้ำเย็น ๆ ที่รดบนใบหน้าทำให้ร่างโปร่งสดชื่นขึ้นมา
ความง่วงงุนที่มีในตอนแรกก็หายไปแทนที่ด้วยเสียงท้องร้องด้วยความหิวโหยแทน ไม่รอช้าออเดรย์เปิดประตูห้องน้ำออกไปและกำลังจะตรงออกไปยังห้องครัวแต่กับโดนร่างสูงของดยุกคีร์แรนกีดกันตนไว้เสียก่อน
ก่อนจะได้เอ่ยให้อีกฝ่ายหลบไป เสียงรถเข็นอาหารก็ดังขึ้นมาและตามมาด้วยกลิ่นอันคุ้นเคยเพราะความหิวโหยเขาไม่คิดจะสนใจอะไรอีกต่อไป ร่างโปร่งก้าวเดินไปยังโต๊ะที่วางมื้อเที่ยงของตนไว้ แต่บนโต๊ะนั้นกับมีสองจานร่างโปร่งล้วนไม่ได้สนใจเขานั่งลงแล้วเปิดดูเมนูมื้อเที่ยงทันที
กลิ่นหอมของเครื่องเทศยิ่งชวนให้เขาหิวมากขึ้นไม่รอช้าเขาเอ่ยให้สาวใช้ตักข้าวสวยวางลงบนจานของตนเองก่อนจะหยิบช้อนกลางตักอาหารหลักขึ้นมาวางไว้ที่จานตนเอง สีที่ทำให้รู้สึกว่ามันเผ็ดนั้นแต่เมื่อได้ลองชิมกับไม่ได้เผ็ดอย่างที่คิดแต่มันอร่อยกว่าที่เขาได้คิดไว้
ด้วยความหิวโหยชายหนุ่มตักอาหารขึ้นทานโดยไม่รอเจ้าของบ้านเลย ดยุกไม่ได้สนใจว่าจักรพรรดินั้นจะทำอะไรเขาทำนั่งลงตรงข้ามชายที่กำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เอ่ยบอกให้สาวใช้ตักข้าวให้เขาแล้วจึงตักเมนูหลักของมื้อนี้ขึ้นมาชิมเล็กน้อยสีสันของอาหารนั้นชวนให้รู้สึกว่ามันจะเผ็ด
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นกลิ่นเครื่องเทศนี่ลอยออกมาความกลมกล่อมของรสชาติเนื้อสัตว์ที่ไม่คิดว่าถ้านำไปใส่เครื่องเทศแล้วจะอร่อยถึงเพียงนี้
ในอาหารจานตรงหน้านั้นมีทั้งความหวาน ความเผ็ด ความเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ทุกอย่างเมื่อได้อยู่ในเมนูเดียวแล้วนั้นกับทำให้รู้สึกอร่อยเป็นอย่างมากทำให้ความอยากอาหารของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นผ่านไปไม่นานอาหารมื้อเที่ยงนำมาเสิร์ฟก็หมดไปเสียแล้ว ออเดรย์เงยหน้าขึ้นมาจากของหวานที่เสิร์ฟเพิ่มขึ้นมาถามสาวใช้ที่นำอาหารเสิร์ฟถึงเมนูมื้อเที่ยง

“มื้อเที่ยงวันนี้ทางครัวไปได้สูตรอาหารของชาวตะวันออกมาเพคะ เลยนำมาทำเสิร์ฟเป็นมื้อเที่ยงให้ท่านทั้งสองในวันนี้ ถ้าถูกปากฝ่าบาทกระหม่อมจะไปบอกทางครัวให้เตรียมเป็นมื้อเย็นเพิ่มเองเพคะ” สาวใช้ตอบคำถามของออเดรย์ออกไปและยังบอกอีกด้วยว่าจะให้ทางห้องครัวเพิ่มเมนูนี้เป็นมื้อเย็นด้วยเพราะได้ทานอาหารที่แปลกใหม่แถมยังอร่อยถูกปากชายหนุ่มจึงทำให้ออเดรย์นั้นมีความสุขเป็นอย่างมากจึงเพียงพยักหน้าตอบรับคำของสาวใช้แล้วตักเค้กทานไปด้วยความหอมหวานของเค้กสตอเบอร์รี่นั้น ยังคงทำให้ชายหนุ่มมีความสุขเสมอมา
รอยยิ้มที่จะผุดขึ้นเวลาเขาได้ทานของโปรด นั้นทำให้คนที่เห็นรอยยิ้มนั้นมีความสุขตามอีกฝ่าย ระหว่างทานของหวานไปชายหนุ่มทั้งสองที่นั่งอยู่ในห้องพักก็พูดคุยเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องของรสชาติอาหารที่พวกเขาพึ่งทานไปรวมทั้งสวนดอกไม้ของตระกูลบริดเจต
จนไว้เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เป็นผู้ช่วยของดยุกคีร์แรนที่มาตามอีกฝ่ายไปทำงานนั้นเอง ออเดรย์เอ่ยไล่เบา ๆ เพื่อให้ชายร่างสูงไปทำหน้าที่ตนเอง แต่ก่อนที่ดยุกหนุ่มจะเดินออกไปชายที่ยังคงนั่งจิบชาอยู่ก็เอ่ยสิ่งที่พึ่งคิดออกมา

“ช่วงเย็น ๆ ท่านพาเราไปเดินตลาดในเมืองได้หรือไม่” ชายร่างโปร่งคำขอที่ตัวดยุกคีร์แรนเองไม่ได้คาดคิดไว้แต่เขาก็ตอบอีกฝ่ายไปด้วยความเต็มใจ

“ถ้ามันคือพระประสงค์ของฝ่าบาทกระหม่อมย่อมพาพระองค์ไปได้พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม ท่านไปทำงานต่อเถิด ช่วงเย็น ๆ ค่อยเดินทางไปในเมืองกัน”

“งั้นกระหม่อมขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ พักผ่อนให้สบายนะพ่ะย่ะค่ะ” ดยุกหนุ่มเอ่ยตอบรับชายตรงหน้าแล้วจึงเดินหันหลังกลับไปยังห้องทำงานของตนโดยที่มีผู้ช่วยเดินประกบอีกด้วย แต่ชายหนุ่มหาได้รู้ไม่ว่าเขาพลาดรอยยิ้มบาง ๆ ขององค์จักรพรรดิไปเสียแล้ว





ช่วงเย็น ท้องฟ้าที่โดนย้อมเป็นสีชมพูพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ จะรับหายไปจากท้องฟ้า ร่างโปร่งที่นอนอ่านหนังสืออยู่ตรงระเบียงห้องมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ
ชายหนุ่มที่รู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องรอแล้ว จึงลุกเดินเปิดประตูไปยังห้องทำงานของดยุกเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้ เขาเคาะประตูสองครั้งเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างในเขา
จึงเปิดประตูเข้าไปแต่เมื่อเปิดเข้าไปแล้วนั้นออเดรย์ยังคงเห็นดยุกคีร์แรนกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เช่นเดิมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคนที่เดินเข้ามาเลยแม้แต่น้อย 
เพื่อทำให้ชายที่กำลังวุ่นวายกับเอกสารหันมาสนใจเขา ออเดรย์จึงเดินไปเคาะโต๊ะเพื่อให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามองตนเอง ดยุกคีร์แรนที่ได้ยินเสียงเคาะจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง
คนที่เข้ามาในห้องของตนเมื่อเห็นว่าคนนั้นคือจักรพรรดิออเดรย์จึงทำให้เขารู้ว่าตอนนี้เย็นมากแล้วและตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกนั้นเริ่มมืดแล้วด้วยความร้อนใจชายหนุ่มวางเอกสารงานของตนลงแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าร่างโปร่ง เพราะด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำตามคำขอของอีกฝ่ายจึงเอ่ยขอโทษชายตรงหน้าไป

“กระหม่อมขออภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่มีข้อแก้ตัวกระหม่อมผิดคำขอของพระองค์ ฝ่าบาทสามารถลงโทษกระหม่อมตามที่พระองค์ต้องการเลยพ่ะย่ะค่ะ” ร่างสูงของดยุกหนุ่มก้มศีรษะลงเพื่อที่จะขอโทษคนตรงหน้าภาพที่เหล่าทหารในการดูแลของดยุกคีร์แรนถ้าได้มาเห็นภาพตรงนี้ล้วนต่างต้องตกใจกันแน่นอนที่ท่านจอมพลของตนเหมือนสุนัขตัวใหญ่ที่หูลู่หางตก
ชายหนุ่มก้มหน้าขอโทษคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกแต่กับได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นมาเมื่อเงยหน้าดันเจอกับใบหน้าที่กำลังหัวเราะด้วยความสดใส

“ฮ่าๆๆๆ ท่านไม่เห็นต้องขอโทษเราขนาดนั้นเลย เราเข้าใจท่านกำลังทำงานอยู่ไว้วันหลังค่อยไปแล้วกัน แต่ตอนนี้มันถึงเวลาทานอาหารเย็นไปด้วยกันไหม ท่านดยุก” ออเดรย์หัวเราะกับท่าทางสำนึกผิดของดยุกหนุ่มที่ผิดคำขอของเขาแต่ตัวเขาล้วนไม่ได้ใส่ใจเพราะอย่างไรก็สามารถไปวันหลังได้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ถึงเวลาทานอาหารเย็นเสียแล้ว เขาจึงเข้ามาชวนอีกฝ่ายไปด้วยกัน ดยุกคีร์แรนก็ไม่ขัดคำขอของเขาอีก ชายหนุ่มเดินตามเขาออกมาจากห้องตรงไปยังห้องทานอาหารโดยไม่คาดคิดที่ห้องทานอาหารของตระกูลบริดเจตนั้นมีชายร่างโปร่งที่คุ้นเคยนั่งร่วมโต๊ะกับอดีตดยุกและดัชเชสของตระกูลบริดเจตทั้งสามนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อมีเสียงเดินลงมาจากชั้นสองคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทานอาหารจึงเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคนที่เดินลงมานั้นเป็นองค์จักรพรรดิทั้งสามลุกขึ้นจากเก้าอี้และกำลังทำความเคารพเขาแต่ชายหนุ่มเอ่ยหยุดทั้งสามไว้เสียก่อนและให้พวกเขานั่งลง ร่างโปร่งของจักรพรรดิหนุ่มและร่างสูงของดยุกคีร์แรนเดินแล้วมานั่งลงที่โต๊ะทานอาหาร
สาวใช้ที่เห็นมีคนเพิ่มขึ้นจึงไปหยิบจามและช้อนต่าง ๆ เพิ่มวางไว้ตรงหน้าผู้สูงศักดิ์ทั้งสองแล้วตักข้าวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเดินถอยออกมา

ออเดรย์ที่เห็นว่าตรงกลางโต๊ะมีเมนูที่เขาพึ่งทานไปตอนเที่ยงด้วยจึงเอื้อมตัวเพื่อจะไปตัก เกลนดาที่ปรึกษาของจักรพรรดิที่นั่งทานอาหารเย็นร่วมกับอดีตดยุกและดัชเชสอยู่นั้น
เมื่อเห็นร่างโปร่งพยายามจะตักอาหารที่อยู่ตรงหน้าตน เขาจึงขยับถ้วยอาหารถ้วยนั้นเข้าไปหาอีกฝ่ายเพื่อให้ชายหนุ่มไม่ต้องลำบาก ออเดรย์ที่เห็นการกระทำนั้นทำเพียงพยักหน้าขอบคุณเท่านั้น
แล้วจึงหันไปสนใจตักอาหารขึ้นมาทาน ทุกคนที่อยู่บนโต๊ะเมื่อเห็นคนที่ตำแหน่งสูงสุดในที่นี้เริ่มทานแล้ว จึงหยิบช้อนและส้อมขึ้นมาทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าพวกตนบ้าง
ระหว่างมื้ออาหารไม่มีเสียงพูดคุยอะไรเกิดขึ้นพวกเขาทั้งห้าทำเพียงทานอาหารไปอย่างเงียบ ๆ เพื่อรักษามารยาทกันและเมื่อรู้สึกอิ่มกันแล้วพวกเขาจึงวางช้อนและส้อมลงอย่างสำรวมปล่อยให้สาวใช้เข้ามาเก็บจานอาหารกลับไปแต่ก่อนจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องตนเองชายหนุ่มสามคนและผู้สูงอายุอีกสองก็พูดคุยกันเล็กน้อย



หนึ่งชั่วโมงผ่านไป



เรื่องที่พวกเขาพูดคุยกันนั้นคงหนีไม่พ้นการจัดสวนของท่านหญิงเพียงคนเดียวบนโต๊ะอย่างแน่นอน ออเดรย์เอ่ยปากชมการจัดสวนดอกไม้ที่ดูงดงาม
จนทำให้รู้สึกหลงใหลไปชั่วคราวและการเลือกสรรดอกไม้ต่าง ๆ กลิ่นหอมของดอกไม้ภายในสวนแห่งนั้น ยังคงตราตรึงใจออเดรย์อยู่ความผ่อนคลายตอนที่เขาไปนั่งจิบชาในสวนดอกไม้นั้น
ช่างรู้สึกสบายเหลือเกิน พวกเขาพูดคุยสัพเพเหระกันมากมายจนตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิทแล้วเกลนดาที่มายังคฤหาสน์ตระกูลบริดเจตเพียงมาตรวจสอบดูน้องชายของตนเท่านั้น เมื่อสอบถามอะไรกันเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มจึงขึ้นรถม้าเดินทางกลับพระราชวังดังเดิม ส่วนตัวออเดรย์นั้นขอพักผ่อนที่คฤหาสน์ของดยุกคีร์แรนเสียก่อน
ระหว่างเดินไปส่งทั้งสองก็พูดคุยเล็กน้อยก่อนจะบอกลากัน ตอนเดินกลับนั้นก็ยังคงมีชายร่างสูงอย่างดยุกคีร์แรนที่ตามเขาไปตั้งแต่แรกเดินกลับมาเป็นเพื่อน
ทั้งสองไม่ได้เดินขนาบข้างกันเช่นออเดรย์และเกลนดาแต่เป็นดยุกหนุ่มนั้นเดินตามหลังร่างโปร่งมาตั้งแต่แรก ระหว่างเดินกลับนั้นออเดรย์ได้เอ่ยให้อีกฝ่ายให้มาเดินด้านข้างตนแต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธเขา ออเดรย์จึงไร้หนทางให้อีกฝ่ายมาเดินด้านข้างเขา

ระยะทางจากหน้าประตูคฤหาสน์จนไปถึงตัวคฤหาสน์นั้นไม่ได้ห่างกันมากแต่ก็สามารถทำให้ชายหนุ่มสองคนที่เดินด้วยกันสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสงบสุขในยามค่ำคืนได้
พวกเขาไม่ได้ก้าวเดินไวขนาดนั้นเพียงก้าวตามจังหวะปกติของตนเองระหว่างทั้งสอง ล้วนไม่มีอะไรที่ต้องพูดคุยกันมากนัก จึงทำให้ระหว่างทางเงียบสนิทแต่ก็ไม่ได้อึดอัดต่อกันเลยสักนิด
พวกเขาก้าวเดินไปกันเสียงเท้าทั้งสองที่เหยียบย่ำลงบนพื้น เสียงสายลมอันแผ่วเบาพัดผ่านชวนให้รู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อยแต่ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าสิ่งใดคือท้องฟ้าในยามกลางคืน ออเดรย์ไม่ได้เดินตรงไปยังตัวคฤหาสน์เขาหยุดยืนอยู่ที่สนามหญ้าและนั่งลงเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามที่เต็มไปด้วยแสงดาววาววับ ส่วนดยุกคีร์แรนนั้นไม่ได้นั่งลงด้านข้าง
ร่างของจักรพรรดิเขาทำเพียงแค่ยืนอยู่ด้านหลังของร่างโปร่งและแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยกัน ไม่มีอะไรที่ต้องพูดคุยทำเพียงแค่ดื่มด่ำไปค่ำคืนอันงดงามนี้เท่านั้น





เมื่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าจนพอใจแล้วชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินนำดยุกผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ไป เดินตรงไปยังห้องพักของตัวเอง เขาเปิดประตูเข้าไปเดินเข้าไปในห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกายของตนให้รู้สึกสดชื่นขึ้นผ่านไปสามสิบกว่านาทีร่างของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรแองเจอโลจึงเดินออกมาเขา
สวมใส่เพียงเสื้อคลุมตัวเดียวเท่านั้น เดินตรงไปล้มตัวนอนบนเตียง เมื่อเขายังเห็นดยุกคีร์แรนยังคงอยู่ให้ห้องเขาทำเพียงแค่เดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าชายร่างสูงคนนั้นแล้วเอ่ยไล่ให้อีกฝ่ายกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตนเอง

“ท่านกลับไปที่ห้องนอนตนเองเถิด เราดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วง” น้ำเสียงที่ลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการกล่อมให้ชายร่างสูงกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตน

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอให้ค่ำคืนเป็นค่ำคืนที่แสนสุขของพระองค์ ราตรีสวัสดิ์พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม ราตรีสวัสดิ์ดยุกคีร์แรน” ก่อนที่ดยุกหนุ่มจะกลับไปยังห้องของตนเองเบาเอ่ยบอกฝันดีกับจักรพรรดิแต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยตอบตนเองกลับมา
คีร์แรนยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยเพราะความสุขก่อนจะหันหลังกลับไปยังห้องตนเอง ส่วนออเดรย์นั้นเมื่อเห็นดยุกคีร์แรนเดินจากไปเขาจึงปิดประตูล้มตัวลงนอนบนเตียงเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครา