เดลเรียกัดฟันกรอด โผล่มาที่ไหนไม่โผล่ ดันมาโผล่ยันสุดขอบกาแล็กซี่ หนทางกลับดาวหลักช่างมืดบอด! แถมยังต้องรับมือกับชนเผ่าเถื่อนที่วันๆมีแต่จะจ้องทับเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน

ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที! - 3 3 โดย wanna cry @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-ชาย,ย้อนยุค,นายเอกเก่ง,ฮาเร็ม,พระเอกหื่น,พระเอกคลั่งรัก,ท้องได้,ไดโนเสาร์,ดึกดำบรรพ์,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที!

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-ชาย,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นายเอกเก่ง,ฮาเร็ม,พระเอกหื่น,พระเอกคลั่งรัก,ท้องได้,ไดโนเสาร์,ดึกดำบรรพ์,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที! โดย wanna cry @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เดลเรียกัดฟันกรอด โผล่มาที่ไหนไม่โผล่ ดันมาโผล่ยันสุดขอบกาแล็กซี่ หนทางกลับดาวหลักช่างมืดบอด! แถมยังต้องรับมือกับชนเผ่าเถื่อนที่วันๆมีแต่จะจ้องทับเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน

ผู้แต่ง

wanna cry

เรื่องย่อ

ในยุคที่ดวงดาวกำลังก่อสงครามแย่งชิงอาณาเขตและทรัพยากร เดลเรียคือหัวหน้าหน่วยที่ 1 เขาเป็นเผ่ามีปีกตนสุดท้ายที่เหลือรอดจากสงคราม ด้วยความพยายามเขาจึงได้มาเป็นทหารร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านจอมพล


ทว่าหลังจากที่สงครามจบลงเขากลับถูกหลุมดำดูดข้ามมายังยุคดึกดำบรรพ์อย่างไม่ทันตั้งตัว พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้สูงเสียดฟ้า

เดลเรียถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนหากปีกของเขาไม่หักปานนี้คงบินฝ่าอวกาศกลับดาวหลัก

ทว่า

ฝ่าเท้าขาวเนียนยังไม่ทันก้าวเท้าเป็นก้าวที่สาม กลับถูกร่างมหึมาซึ่งไม่รู้โผล่มาจากไหนคร่อมทับไว้ใต้ร่าง

เดลเรีย : ?!

??? : มาเป็นคู่ของข้าเถิด

?!



คำเตือน (รบกวนอ่าน)

นิยายเรื่องนี้ เป็นแนวรักแฟนตาซี สถานที่ต่างๆ เป็นเรื่องที่ถูกสมมุติขึ้นมา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 

สารบัญ

ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที!-1 1,ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที!-2 2,ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที!-3 3,ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที!-4 4

เนื้อหา

3 3

ดวงหน้าอันงดงามค่อยๆหันมามองชายที่ชื่อ 'แอล' ด้วยใบหน้าไม่พอใจเท่าไรนัก ท่าทางของเขาก็บ่งบอกอยู่ทนโท่ว่าไม่อยากเสวนากับผู้ใด แต่ทว่าชายคนนี้กลับตอแยไม่เลิก

"พอใจหรือยัง เห็นแล้วทำไมยังไม่หลีกทางอีก"

ร่างเพรียวบางกล่าวด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงจดจ้องมองมาที่ตนอย่างไม่ลดละ ..และไม่นานก็พบตัวเองได้กลายเป็นจุดรวมสายตาของคนในเผ่าไปโดยปริยาย

"..."อะไร!?

เดลเรียรู้สึกว่าสายตาที่พวกคนในเผ่าจดจ้องมายังตนไม่ปลอดภัยอย่างยิ่งยวน เหมือนตนเป็นสิ่งมีชีวิตหายากอย่างไรอย่างนั้น

"ชู! ข้าขอท้าสู้กับเจ้า ถ้าเจ้าแพ้เจ้าต้องยกตัวเมียให้ข้า!"

จู่ๆชายที่ชื่อแอลก็เอ่ยโพล่งขึ้นมา ดวงตาคู่คมเต็มไปด้วยความต้องการที่จะแย่งชิง

เดลเรียที่นึกว่าทั้งสองคือเพื่อนกัน "..."

ท้องก็หิวแถมร่างกายยังบอบช้ำ ล่าสุดยังมีตัวผู้เข้ามาหาเรื่องตั้งแต่ก้าวเข้ามาในเผ่าไม่ถึงห้าก้าว ..ชีวิตเดลเรียตอนนี้ก็นับว่าดี..ดีมาก

ดีมากก็บ้าแล้ว!



"พวกนายไม่ต้องมาสู้กันให้เจ็บตัว..อีกอย่างอย่ามาทำเหมือนเราเป็นสิ่งของ เราไม่ชอบ" 

นัยน์ตาคู่งามขมวดคิ้วถลึงตาไปยังแอลอย่างดุร้าย ก่อนจะหันมามองบุรุษที่อุ้มตนอยู่ก็พบว่านัยน์ตาคู่คมได้ก้มลงมองมาที่ตนอยู่ก่อนแล้ว "ชูไปเถอะ เราหิวแล้ว"

"ได้สิ" ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มจนคนตัวเล็กตาพร่ามัวไปชั่วขณะ

ชูรู้สึกว่าตัวเมียตนนี้ช่างแตกต่างจากตัวเมียตัวอื่นลิบลับ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่เหนือกว่าและนิสัยที่รักสงบไม่เอาแต่ใจ แถมยังขี้อายเล็กน้อย ..อีกทั้งเมื่อครู่ยังเอ่ยปกป้องตนด้วย

ตัวเมียตัวนี้ต้องรักเขามากแน่ๆ!

หากเดลเรียรับรู้ความคิดของชายหนุ่มคงอดไม่ได้ที่จะมอบคำว่า 'หลงตัวเอง' ให้และกลอกตามองบนใส่อย่างแน่นอน



แต่ทว่า ยังมีคนไม่ยินยอมให้ทั้งสองได้จากไปโดยง่าย..



"ชู เจ้าคิดจะแหกกฎของเผ่ารึ ถ้าไม่สู้ก็ทิ้งตัวเมียแล้วออกจากเผ่าไปซะ เผ่าเราไม่มีที่ของผู้อ่อนแอ"

เป็น 'แอล' คนเก่าคนเดิม เดลเรียเริ่มคิดว่าชายผู้ต้องมีปัญหาที่สมองไม่ส่วนใดก็ส่วนหนึ่ง แค่ไม่สู้ก็หาว่าอ่อนแอมันเอาตรรกะไหนมาเป็นเกณฑ์กัน

"แค่ไม่สู้ก็กล่าวหาว่าอ่อนแอ งั้นนายมาสู้กับเราแทนไหมล่ะ"

คนในเผ่าตะลึงงัน แม้คำพูดจะฟังดูแล้วแปลกๆแต่แค่ความหมายก็ทำให้พวกเขาแปลกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความอิจฉาริษยา

จะมีตัวเมียตัวไหนกล้าเอ่ยปกป้องคู่ของตนเองเช่นนี้บ้าง? 



ตลอดชีวิตพวกมันก็พึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก!



ส่วนคนถูกอิจฉาก็ได้แต่ฉีกยิ้มกว้างอย่างน่าหมั่นไส้

"ว่าเช่นไร" เดลเรียเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว ใบหน้างามบึ้งตึงทว่ากลับเรียกสายตาวาววับจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี จนคนตัวโตต้องจับหัวทุยน้อยๆกดลงแนบอกไม่ให้ใครเห็น

ตัวเมียตนนี้ช่างเสน่ห์แรงจริงๆ

ดูสิ ตัวผู้ตัวอื่นจ้องจนตาแถบถลนออกมาจากเบ้าแล้ว!

แอลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอิจฉาในความโชคดีของชูจนแทบบ้า แต่ก็ต้องยอมรามือลงชั่วคราว เพราะการทำร้ายตัวเมียคือกฎข้อห้ามที่ร้ายแรงมากที่สุด

"เฮอะ ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ" เขากล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป 

"..." เป็นอย่างที่เดลเรียคิดไว้ไม่มีผิด ตัวผู้ในเผ่าไม่สามารถทำร้ายตัวเมียได้อย่างไร้เหตุผล ฐานะตัวเมียที่ได้มาอย่างงงๆ ทำให้เขาอยู่รอดปลอดภัยชั่วคราว

เดลเรียพึ่งระลึกไว้เสมอเมื่อยามอยู่ต่างถิ่นความสงสัยใคร่รู้มักจะนำพามาซึ่งหายนะ ยิ่งเสนอหน้ายิ่งจะกลายเป็นที่จดจำ..จนกว่าจะหาทางกลับดาวหลักได้เขาควรจะอยู่อย่างสงบเสงียมเอาไว้เป็นดีที่สุด 


"ถึงบ้านของข้าแล้วนะตัวเล็ก"



ดวงหน้างามมองถ้ำขนาดกลางซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลจากชนเผ่า บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าชายคนนี้ปลีกวิเวกเพียงใด ภายในตัวถ้ำมีหนังบางส่วนปูเป็นชั้นๆกองอยู่มุมหนึ่ง..ถ้าให้เขาเดานั้นคงเป็นที่นอน ภายนอกถ้ำมีพฤกษาคอยให้ร่มเงา..เมื่อยามมีลมพัดเอื่อยๆ ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

"เจ้านั่งรอตรงนี้ก่อนนะ ข้าจะรีบไปเอาน้ำมาให้ดื่ม..ดูสิปากเจ้าซีดหมดแล้ว"

"อืม"

ในขณะที่นั่งรอ เดลเรียก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ นัยน์ตาคู่สวยกวาดสายตาสำรวจภายในถ้ำก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับกองกระดูกขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นของมนุษย์

เขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ลองคาดคะเนจากรูปร่างลักษณะของกระดูกแล้ว เขาไม่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นของสัตว์สายพันธุ์ชนิดใด เพราะคงไม่มีสัตว์ตัวไหนมีสามเขายื่นออกมาจากกะโหลกแน่ๆ

"แถมโครงกระดูกใหญ่ขนาดนี้ ต้องใช้จำนวนคนเท่าไรถึงจะเคลื่อนย้ายมันได้กัน" เขาเลือกที่จะเก็บคำถามนี้เอาไว้ก่อน เพราะลางสังหรณ์บางอย่างบอกเขาว่าอีกไม่นานคำถามนี้ก็จะถูกคลี่คลายลงในไม่ช้า



"ตัวเล็กอย่าพึ่งเดินไปทั่วสิ ข้ายังไม่ได้ทำความสะอาดเลยนะ"

ใบหน้าหล่อเหลาตื่นตระหนกสุดขีดเมื่อเห็นตัวเมียเดินเข้าไปใกล้กองกระดูกที่มันทิ้งเอาไว้ หากย้อนอดีตกลับไปได้มันจะรีบลากกองกระดูกพวกนี้โยนทิ้งออกนอกถ้ำให้หมด

"มันคือกระดูกของตัวอะไรรึ ทำไมถึงได้มีขนาดใหญ่เช่นนี้"

เจ้าของเรือนร่างพานใจสั่นรับใบไม้ซึ่งใช้เป็นภาชนะใส่น้ำจากมือชายหนุ่ม ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาครู่หนึ่ง

'..แล้วเขาเอาน้ำมาจากไหน?'

ไม่รู้ว่าชายตรงหน้าไปนำน้ำมาจากไหน คนที่อยู่แต่ในป่าจะมีวิธีต้มน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรคหรือไม่

"..."

อืม..เป็นการดีที่สุดถ้าเขาจะไม่ถามมันออกไป 

"เป็นกระดูกของพวกกินพืชน่ะ หากเจ้าอยากกินข้าจะไปล่ามาให้นะ"

เพื่อกลบเกลื่อนและประจบเอาใจตัวเมีย ชายหนุ่มจึงกล่าวเฉไฉไปยังเรื่องอื่น ซึ่งคนตัวบางก็ดูเหมือนไม่ต้องการคำตอบจากฝ่ายอีกต่อไปแล้ว เพราะสายตาคู่งามดันสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างคลับคล้าย 'ลูกน้ำ' อยู่ในภาชนะ

"...แล้วน้ำนี้..เจ้าเอามาจากไหนรึ"

"ข้าเอามาจากบึงขนาดเล็กใกล้ๆนี้เอง อา..ทำไมเจ้ามองข้าเช่นนั้นเล่า"

เดลเรียไม่รู้ว่าตนใช้สายตาแบบไหนมองชายคนนี้ รู้เพียงแค่ว่าหากตนสังเกตช้าไปกว่านี้ ไม่แน่ว่าลูกน้ำพวกนี้อาจลงไปอยู่ในท้องของตนแล้วก็เป็นไปได้

ลูกน้ำ ตัวอ่อนของยุง จะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำนิ่งและถ้าสกปรกยุงจะชอบเป็นพิเศษ!



ผู้ชายคนนี้มันไม่ต้มน้ำให้เขาเลยนี้หว่า!!