เดลเรียกัดฟันกรอด โผล่มาที่ไหนไม่โผล่ ดันมาโผล่ยันสุดขอบกาแล็กซี่ หนทางกลับดาวหลักช่างมืดบอด! แถมยังต้องรับมือกับชนเผ่าเถื่อนที่วันๆมีแต่จะจ้องทับเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน
รัก,แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-ชาย,ย้อนยุค,นายเอกเก่ง,ฮาเร็ม,พระเอกหื่น,พระเอกคลั่งรัก,ท้องได้,ไดโนเสาร์,ดึกดำบรรพ์,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ภรรยา..หยุดหยุมสามีเสียที!เดลเรียกัดฟันกรอด โผล่มาที่ไหนไม่โผล่ ดันมาโผล่ยันสุดขอบกาแล็กซี่ หนทางกลับดาวหลักช่างมืดบอด! แถมยังต้องรับมือกับชนเผ่าเถื่อนที่วันๆมีแต่จะจ้องทับเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน
ในยุคที่ดวงดาวกำลังก่อสงครามแย่งชิงอาณาเขตและทรัพยากร เดลเรียคือหัวหน้าหน่วยที่ 1 เขาเป็นเผ่ามีปีกตนสุดท้ายที่เหลือรอดจากสงคราม ด้วยความพยายามเขาจึงได้มาเป็นทหารร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านจอมพล
อย่างที่คาด เขากำลังถูกตัวผู้ในเผ่ารุมเอาใจจนแทบไม่ได้พัก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนล้วนถูกพวกเขาตามห้อมล้อมอย่างน่าอึดอัด แถมยังต้องมาฟังพวกเขา 'ขาย' ตัวเองอีกด้วย
"อยู่กับข้าเจ้าจะได้กินเนื้อทุกวัน เจ้าจะมีหน้าที่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูก เป็นอย่างไร..ตัวผู้เช่นข้าดีใช่หรือไม่"
"ข้าดีกว่า ข้าจะเชื่อฟังเจ้าทุกอย่าง เจ้าอย่างได้สิ่งใดข้าล้วนหามาให้ หากเจ้ารับข้าเป็นตัวผู้ของเจ้าต่อให้สั่งให้ข้าไปเก็บเม็ดพืชขาวข้าก็ยอม"
และข้อเสนออีกมากมายที่บรรดาตัวผู้ให้เผ่าสรรค์หามาบรรยายโอ้อวดสรรพคุณของตัวเองอย่างเต็มที่
ใบหน้างามสะคราญของเดลเรียยับยู่ยี่ลงด้วยความรำคาญเหลือจะกล่าว พอลุกเดินหนีอีกครั้งก็ถูกพวกเขาตามมาไม่จบไม่สิ้น
เดลเรียกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ขนาดชูออกจากเผ่าไปยังไม่พ้นหนึ่งวันดียังเป็นขนาดนี้ แล้วถ้าผ่านไปถึงวันที่ห้า เขาคงถูกผู้ชายพวกนี้รุมทึ้งจนไม่เหลือกระดูกไว้ดูต่างหน้าเป็นแน่
"เฮ้อ เราว่าพวกเจ้าเลิกกล่าววาจาไร้สาระทีเถิด เรามีเพียงชูเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เข้าใจหรือไม่"
คนตัวบางเอ่ยช้าๆ อย่างใจเย็น เขายังไม่อยากมีเรื่องกับคนในเผ่าในขณะที่ชูไม่อยู่
เดลเรียมองเจตนาและความต้องการของคนในเผ่านี้ออกหมด อุบายเล็กน้อยเพียงใดก็ไม่อาจเทียบได้กับอุบายในสนามรบ
สถานะ 'ตัวเมียหลงฝูง' ของเขาอาจจะทำให้หัวหน้าเผ่าคิดว่าจะไม่สามารถรั้งตัวเขาไว้ได้ จึงคิดจะใช้ตัวผู้ในเผ่ามารั้งเขา
ประชากรตัวเมียในเผ่ามีน้อยมากเมื่อเทียบกับตัวผู้ เทียบอัตราส่วนแล้วราวๆ 2 ใน10ส่วน
เพราะฉะนั้นในความคิดของหัวหน้าเผ่าก็คงจะมีแต่การเพิ่มจำนวนและพัฒนาความเป็นอยู่ของคนในเผ่า
แต่ต้องไม่มีเขารวมอยู่ด้วย!
เป้าหมายของเขาคือการกลับดาวหลัก จะให้อยู่บนดาวดวงนี้ตลอดไปนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
แต่ทว่ากลับมีชายคนหนึ่งเอ่ยโพล่งออกมาเสียก่อน "เจ้าคิดจะมีชูเป็นคู่เพียงตัวเดียวรึ?"
สิ้นประโยค ตัวผู้หลายตัวพลันส่งเสียงดังเซ็งแซ่ชุลมุนขึ้นทันที
"เจ้าจะเฝ้ารอตัวผู้เพียงตัวเดียวไม่ได้ หากตัวผู้ตัวนั้นเกิดไม่กลับมาจากการเข้าร่วมการล่าเล่า เจ้าจะอยู่อย่างไร"
"อีกอย่างตัวเมียที่อยู่ตัวคนเดียวมักจะตกเป็นเป้าหมายของ 'พวกไร้เผ่า' ได้ง่าย นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เจ้าควรมีตัวผู้มากกว่าหนึ่งตน"
ยิ่งฟังพวกตัวผู้ตรงหน้าพูด สีหน้าของเดลเรียก็ยิ่งย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ต้องเป็นคนแบบไหนถึงกล้าเอ่ยคำพูดอัปมงคลออกมาเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาได้กัน
ถึงความคิดของโลกใบนี้จะยังไม่พัฒนา แต่การที่คนในโลกใบนี้จะมีเล่ห์เหลี่ยมก็ใช่ว่าจะมีไม่ได้
ดวงตาคู่งามของเดลเรียขุ่นมัวลงครู่หนึ่งก่อนจะจางหายไป "ถึงอย่างไรชูก็เป็นคู่ของเรา พวกเจ้าไม่อยากให้เขากลับมา แต่เรายังอยากให้เขากลับมาอยู่ อย่ามามัวแต่ตามเราเลย ไปตามตัวเมียตนอื่นเถิด"
เดลเรียลุกขึ้นเดินหนีอีกครั้ง แต่เพราะคำประกาศกร้าวเมื่อครู่ทำเอาพวกตัวผู้อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ทำให้พวกเขาไม่ได้ตามเดลเรียมาอีก
...
ชีวิตในเผ่าของเดลเรียนับว่าไม่ง่ายเลย ไม่ใช่ว่าเขามีปัญหาหรือเข้าสังคมไม่ได้ แต่เป็นเพราะติดปัญหาที่ใบหน้าของผู้หญิงในเผ่านี้ก็เท่านั้นเอง
อย่างที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ เดลเรียพบเจอผู้คนมาทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้หญิง... แม้เขาจะเคยพบคนที่มีหน้าตาไม่สวยนักแต่พวกนางก็สะอาดสะอ้าน ตามร่างกายไม่มีคราบสกปรกเลยสักนิด แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงในโลกนี้!
"คิดว่ามีตัวผู้ล้อมหน้าล้อมหลังเข้าหน่อย อย่าคิดว่าจะทำให้เจ้าดูสูงส่งนักเล่า เจ้ามันก็แค่ตัวเมียไร้ประโยชน์ตัวหนึ่ง "
หัวหน้ากองทัพสู่ตัวเมียไร้ประโยชน์ที่ว่าคนหนึ่ง "...."
ดวงตาคู่สวยหลุบตามองต่ำมองพื้นดินที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าสีเขียวชอุ่มแทนการมองใบหน้าของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติที่แม้แต่เดลเรียเองก็ไม่รู้ตัว
"นี่ข้าพูดกับเจ้าอยู่ เงียบเช่นนี้เจ้าคิดจะท้าทายข้ารึ"
อีกฝ่ายก้าวเดินเข้ามาใกล้หมายจะประทุษร้ายตัวเมียตรงหน้า แต่ทว่าเดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นอีกฝ่ายเอามือปิดจมูกแล้วหันหลังเดินหนีจากไปอย่างรวดเร็ว
"..."
ทางด้านเดลเรียที่วิ่งหนีออกมา ตอนนี้กำลังก้มหน้าอาเจียนอย่างหมดไส้หมดพุงอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
ดวงตาคู่สวยแดงก่ำอย่างน่าสงสาร ยามหวนนึกถึงกลิ่นของอีกฝ่ายที่ยังตลบอบอวลอยู่บริเวณจมูกก็พลันพานอย่างจะอาเจียนอีกรอบ
ผู้หญิงในเผ่ามีหน้าที่เพียงแค่คลอดและเลี้ยงดูลูกในช่วงระยะแรกเท่านั้น พอเด็กเติบโตขึ้นก็ไม่สนใจไยดีอีก ส่วนหน้าที่หาอาหารและงานต่างๆล้วนยกให้ตัวผู้ทำทั้งหมด ฉะนั้นพวกนางจึงไม่แม้แต่จะดูแลรูปร่างหรือความสะอาดตัวเองเลย ซึ่งขัดกับนิสัยรักสะอาดของเดลเรียเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ร่างบางไม่อยากเข้าไปสุงสิงหรือทำความรู้จักกับพวกนางแม้แต่น้อย
...
3 วันผ่านพ้นไปไวเหมือนโกหก ช่วงเวลาที่อยู่ในเผ่าเดลเรียหาความสงบไม่ได้เลยสักวัน หากไม่มีผู้ชายมาตามต่อแยก็เป็นพวกผู้หญิงเดินเข้ามาหาเรื่อง
พอตกดึกก็แทบไม่ได้นอน ก็เพราะมีพวกผู้ชายแอบย่องเข้ามาในถ้ำ หากเขาไม่เปิดประสาทรับรู้ตลอดเวลาปานนี้เขาคงพวกผู้ชายยัดเยียดความเป็นสามีได้สำเร็จ
สุดท้ายทางออกที่ดีที่สุด คือการระเห็จตัวเองออกมานอนอยู่บนยอดไม้ ด้วยรูปร่างเพรียวบางของเดลเรีย หากโดนผู้ชายพวกนั้นจับได้ขึ้นมาเขาคงจะหนีออกมาได้อย่างยากลำบากแน่นอน
แต่ทว่าพอได้มานั่งคิดอยู่คนเดียว กลับปรากฎว่ายามเขามีชูอยู่ด้วย เขาไม่เคยต้องมาระเห็จตัวเองมานอนอยู่ข้างนอก ไม่ต้องคอยระวังตัวแจเฉกเช่นนี้ ยามนอนกับชูอีกฝ่ายก็ไม่แตะเนื้อต้องตัวเขาเลยสักนิด
กลายเป็นว่าเขาสบายใจที่มีชูอยู่ด้วย
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่นานอีกฝ่ายก็จะกลับมาแล้ว ยอมทนอยู่บนต้นไม้อีกหน่อยจะเป็นอะไรไป
เดลเรียก้มมองชุดที่ตนเองถักขึ้นพร้อมกับลูบไล้ไปมา สัมผัสเรียบลื่นนุ่มมือไม่ระคายผิวแถมยังคลายร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ร่างบางถักให้ตัวเองหนึ่งชุดแล้วถักให้ชูสองชุด
"หวังว่าเขาจะชอบนะ"
มือเรียวสวยจับชุดซ่อนไว้บนต้นไม้ก่อนจะนั่งเหม่อมองดวงจันทร์สองดวงบนท้องฟ้า
ค่ำคืนนี้เดลเรียก็ยังคงนอนไม่หลับเหมือนเคย สายลมยามค่ำพัดพาความเงียบสงบมาเยือนอีกครั้ง
แต่ในขณะที่เดลเรียกำลังดื่มดำกับบรรยากาศยามค่ำ ฉับพลันเสียงเคลื่อนไหวในพุ่มไม้ซึ่งห่างออกไปไม่ไกล พลันกระตุ้นให้เดลเรียตื่นตัวขึ้นทันที
เสียงเสียดสีกันของพุ่มไม้ทำให้เดลเรียวิเคราะห์ได้ทันทีว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างมนุษย์
แต่พอห่างไกลออกไปอีกกลับมีเสียงย้ำเท้าหนักๆบ่งบอกน้ำหนักและขนาดตัวเป็นอย่างดี
เดลเรียทำหน้าเคร่งเครียดทันที ในยามนี้แม้จะมีคนคอยเฝ้าทางเข้าเผ่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงหรือสังเกตุความผิดปกติพวกนี้ จากที่หัวหน้าเผ่าเคยพูดเอาไว้ว่ามีกลุ่มกินเนื้อกลุ่มใหม่เข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะใกล้ขนาดนี้!
"หากเพียงแค่บังเอิญหลงเข้ามาเฉยๆ ก็ดี แต่ดูท่าแล้วคงจะพยายามมาสังเกตุการมากกว่า"
ทว่าเดลเรียไม่คิดจะเอาเรื่องพวกนี้ไปพูดให้หัวหน้าหรือคนในเผ่ารู้ เนื่องจากเสียงของเขาไม่มีน้ำหนักในเผ่านี้เท่าไรนัก
ดวงหน้าโฉมสะคราญจับตาดูพวกมันจนกระทั่งแสงแห่งเช้าวันใหม่โผล่พ้นขอบฟ้า เสียงฝีเท้าหนักๆจึงค่อยเริ่มล่าถอยจากไป
อีกหนึ่งวันกลุ่มหาเสบียงก็จะกลับมา หากพวกมันไม่บุกคืนนี้ก็คงจะเป็นพรุ่งนี้เช้า แต่พอมาคิดดูอีกที เดลเรียไม่คิดว่าคนเป็นหัวหน้าเผ่าจะไม่รู้ว่าหากกลุ่มหาเสบียงออกจากเผ่าไปแล้ว จะไม่มีการเตรียมแผนรับมือเชียวหรือ
แต่ไม่นานก็มีผู้ชายมาเรียกทุกคนไปรวมตัว
"หัวหน้าเผ่าเรียกรวมตัว ให้ทั้งหมดไปรวมกันที่ลาน!!"คนมาเรียกเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดหัวหน้าเผ่า แต่ชื่ออะไรนั้นเขาไม่ได้จำ
เจ้าของเรือนร่างบอบบางตรวจดูของที่ซ่อนไว้ ก่อนจะกระโดดม้วนตัวลงจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครเห็นแม้แต่น้อย เขาเดินหลบหลีกสายตาผู้คน ก่อนจะเลือกยืนพิงต้นไม้แถวนั้นแทน
"อย่างที่ข้าเคยบอกพวกเจ้าว่าไม่นานมานี้มีฝูงกินเนื้อฝูงใหม่เข้ามาใกล้มาใกล้เผ่าของพวกเรา ให้ทุกตัวเตรียมตัวเก็บซ่อนเสบียงให้ดี ตัวผู้ทุกตัวเตรียมตัวให้พร้อม หากเจรจากันไม่ได้ก็จะมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"
เดลเรียลอบสังเกตุสีหน้าซีดเผือดของพวกผู้หญิงแล้ว คาดว่าพวกที่มาอาจจะมีเรื่องของพวกนางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
"ส่วนพวกตัวเมียให้หลบอยู่ในถ้ำของตนเอง อย่าออกมาเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่"
หัวหน้าเผ่าพูดกำชับสมาชิกเผ่าอีกสองสามคำก่อนจะปล่อยทุกคนให้ไปจัดการเสบียงของตนเอง
เดลเรียเดินเอ้อระเหยลอยชายอย่างไร้ความกังวล แต่ก็แอบผิดหวังกับหัวหน้าเผ่าผู้นี้ไม่น้อย เพราะแผนรับมือของพวกเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากเจรจาและต่อสู้กันซึ่งๆหน้า
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชน-ของเขาการเจรจาไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี เพราะจะทำให้ศัตรูฮึกเหิมคิดว่าเผ่านี้อ่อนแอ จากที่จะได้เป็นฝ่ายขับไล่ศัตรูออกไป กลับกลายเป็นเปิดช่องให้พวกมันเข้ามายึดเผ่าได้อย่างง่ายดายแทน
"แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเราอยู่ดี"
นี่คือการตัดสินใจของพวกเขา นอกเหนือจากชูแล้วเดลเรียก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก
ตะวันบ่ายคล้อย เสียงเท้าหนักๆจากที่ไกลๆพลันดังเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง เดลเรียลืมตาจากการงับหลับขึ้นก่อนจะปลายตามองไปยังทางต้นเสียง
เป็นเสียงย่ำเดินเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิดเพี้ยน ตัวเมียทั้งหมดได้เข้าไปซ่อนตัวในถ้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้างนอกจึงเหลือแต่เพียงตัวผู้กระจัดกระจายไปตามมุมต่างๆเพื่อเฝ้าระวังเหตุไม่คาดฝัน
เดลเรียเองก็หลบอยู่บนต้นไม้ โดยใช้มุมอับสายตาและความใหญ่ของใบไม้พลางตัวได้อย่างแนบเนียน
จนกระทั่งเสียงย่ำเท้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นจนเห็นรูปร่างของผู้มาใหม่ชัดเจน
โดยไม่คาดคิด ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นอย่างตื่นตะลึง เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปเมื่อหลายร้อยล้านปี
สัตว์ที่เขาเคยเห็นเป็นเพียงแค่ฟอสซิลและภาพจำลองเท่านั้น
"ไดโนเสาร์"
*ยังไม่แก้คำผิด