ชัดเจนผู้ครองตำแหน่งขวัญใจหลานสาวมาโดยตลอด อยู่ ๆ หลานสาวก็มีขวัญใจคนใหม่อย่างสัตวแพทย์หนุ่มนามว่าเดียร์ ที่น้องชมพูถึงกับพูดว่าเขาคือเจ้าบ่าวในอนาคตของเธอ เขาคงต้องลงมือกำจัดกวางให้พ้นทางเสียแล้ว

come to be my deer - บทที่ 4 สายตาคืออาวุธ โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ไทย,อื่นๆ,นิยายเกย์,นิยาย18+,boylove ,#BL,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

come to be my deer

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายเกย์,นิยาย18+,boylove ,#BL,รักวัยรุ่น,นิยายวาย

รายละเอียด

ชัดเจนผู้ครองตำแหน่งขวัญใจหลานสาวมาโดยตลอด อยู่ ๆ หลานสาวก็มีขวัญใจคนใหม่อย่างสัตวแพทย์หนุ่มนามว่าเดียร์ ที่น้องชมพูถึงกับพูดว่าเขาคือเจ้าบ่าวในอนาคตของเธอ เขาคงต้องลงมือกำจัดกวางให้พ้นทางเสียแล้ว

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ

Come to be my Deer : หลงกวาง


#หลงกวาง



เมื่อหนุ่มนักธุรกิจอย่าง ชัดเจน ผู้ครองตำแหน่งขวัญใจหลานสาวมาโดยตลอดอยู่ ๆ

บัลลังก์ก็สั่นคลอนเพราะมีขวัญใจคนใหม่อย่างสัตวแพทย์หนุ่มนามว่า เรนเดียร์

ที่น้องชมพูหลานสาวเพียงหนึ่งเดียวถึงกับพูดว่า "ครู (หมอ) เดียร์ คือ เจ้าบ่าวในอนาคตของเธอ" ด้วยวัยเพียง 5 ขวบ

อย่างนี้เขาคงต้องกำจัดกวางป่าให้พ้นทางเสียแล้ว

สารบัญ

come to be my deer-บทที่ 1 ขวัญใจ (คนใหม่),come to be my deer-บทที่ 2 ผู้ปกครองน้องชมพู,come to be my deer-บทที่ 3 ลงสนาม,come to be my deer-บทที่ 4 สายตาคืออาวุธ,come to be my deer-บทที่ 5 พ่อทูนหัว,come to be my deer-บทที่ 6 สวัสดีเพื่อนใหม่,come to be my deer-บทที่ 7 ติดตามผลงาน,come to be my deer-บทที่ 8 กระแสใหม่,come to be my deer-บทที่ 9 เด็กดี,come to be my deer-บทที่ 10 มองหา,come to be my deer-บทที่ 11 เป็นข่าว,come to be my deer-บทที่ 12 วันหยุด,come to be my deer-บทที่ 13 ถอย,come to be my deer-บทที่ 14 เคลียร์,come to be my deer-บทที่ 15 เริ่มต้น,come to be my deer-บทที่ 16 พร่ามัว,come to be my deer-บทที่ 17 คืนฉลอง,come to be my deer-บทที่ 18 ความกลัว,come to be my deer-บทที่ 19 สิ่งที่เลือนหาย,come to be my deer-บทที่ 20 ภาพถ่าย,come to be my deer-บทที่ 21 รับรู้,come to be my deer-บทที่ 22 ประกาศตัว,come to be my deer-บทที่ 23 เยือนถิ่นกวาง,come to be my deer-บทที่ 24 เข้าฝูง,come to be my deer-บทที่ 25 ล่อ(ลวง)กวาง,come to be my deer-บทที่ 26 หลงกวาง,come to be my deer-บทที่ 27 พิเศษ1 ฝูงกวาง,come to be my deer-บทที่ 28 พิเศษ2 กวางเชื่อม,come to be my deer-บทที่ 29 พิเศษ3 กวางเหลียวหลัง

เนื้อหา

บทที่ 4 สายตาคืออาวุธ

มาถึงที่หมายผมกับคุณหมอก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ ผมที่ยังไม่ถึงคิวดีก็แยกมาเซตผมแต่งหน้า รออยู่ในเต็นท์เย็น ๆ ส่วนคุณหมอก็ทำไม่ต่างจากผม เพียงแต่ว่าจัดผมจัดหน้าเรียบร้อยก็ออกไปถ่ายคิวกับใบพลูก่อนเลยเป็นคิวแรก

การถ่ายก็ออกแนวกึ่งเรียลลิตี้ตรงที่ไม่มีสคริปต์ตายตัว เล่นกันเอาหน้างานเลยเสียส่วนมาก อันที่จริงผมและอีกหลายคนไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกันเพื่อมารอถ่ายแบบนี้ก็ได้

แต่คงเพราะวันนี้เป็นคิวแรกของแต่ละคนในการรับตัวน้องเด็กจรตามที่คุณหมอเรียก บวกกับมีสื่อมวลชนมาทำข่าวด้วย ก็เรียกว่าเป็นการถ่ายรายการเทปแรกแบบกึ่งโปรโมตไปด้วยในตัว เพราะแขกรับเชิญวันนี้มีมาให้สัมภาษณ์กันหลายคนทีเดียว



"ชัด นั่นลูกเราแหละ น่ารักไหม" ใบพลูเดินมาหาพร้อมชี้ไปที่กรงที่มีลูกหมามอมแมมสีไม่รู้ว่าจะครีมหรือขาวสั่นหางด๊อกแด๊กอยู่กับคุณหมอที่ย่อตัวลงไปนั่งคุยเล่นกับเจ้าหมาน้อย

ผมสังเกตอยู่หลายครั้งว่าสัตว์ส่วนใหญ่ในกรงที่เตรียมส่งมอบให้แขกรับเชิญ แม้บางตัวจะขดตัวกลัวคนอยู่มุมกรง ก็มักจะสายหางให้คุณหมอในที่สุดเมื่อคุณหมอได้แวะไปทักทายระหว่างรอทีมงาน

ตากลมสีดำสนิทอย่างกับตากวางตามชื่อเจ้าตัวคงจะเป็นอาวุธพิฆาตประจำกายที่ใช้กับใครก็ต้องหลงใหลไปเสียทุกที ไม่เว้นแม้แต่สัตว์หรือเด็กอนุบาล

จะว่าไปแล้วก็น่าจะมีผมเป็นข้อยกเว้น เพราะตากวางคู่นั้นไม่สามารถทำอะไรผมได้

ถึงแม้ว่าตอนยิ้มจะอันตรายมากเป็นพิเศษก็ตาม

"ก็ดี แล้วนี่เสร็จแล้วหรือทำไมไวจัง"

"อือ ก็ไม่ได้ไปจับเองนี่ รอบนี้เขาพาน้องมาให้เลย แค่ไปรับมอบหน้าสื่อพอเป็นพิธี ก็ซีซั่นที่แล้วมีหมาดุมากเลย เขาเลยเซฟขึ้นล่ะมั้ง ไม่ต้องไปรับเองถึงในท่อในซอยอีก"

"งั้นเขาจะให้หมอมาทำไม ถ้าแค่รับมอบพอเป็นพิธี" ผมจับเก้าอี้ให้ใบพลูนั่งลงข้าง ๆ

"อ้าว ก็เขาต้องมีพาร์ทตรวจสุขภาพเด็ก ๆ เบื้องต้นด้วยนี่ อีกอย่างนอกจากเราเป็นพ่อแม่ทูนหัวแล้ว แก๊งคุณหมอก็พ่วงเป็นพ่อแม่ทูนหัวร่วมกับทุกคนเลย เรียกว่ารายการนี้จริง ๆ แล้ว ทีมหมอรับจบ มีหมอมาวันนี้น่ะถูกแล้ว"

"พามาร้อนเปล่า ๆ ส่งไปให้ตรวจก็ได้อยู่หรอกมั้ง"

"ชัดว่าอะไรนะ"

"เปล่าหรอก" ผมมองไปที่เพื่อนร่วมทางที่รับติดรถมา เจ้าตัวเดินไปเดินมาไม่เห็นได้หยุด คงเพราะต้องเข้าพาร์ทตรวจสัตว์ของแขกรับเชิญทุกคนแบบเทคโอเวอร์คนเดียว แก้มที่เพิ่งหายแดงจากแดดก่อนหน้านี้ไปไม่นานก็กลับมาขึ้นสีอีกรอบ

แล้วถ้าแค่ถ่ายส่งมอบสัตว์พอเป็นพิธี ทำไมไม่หาถ่ายในสตูหรือที่ไหนที่มันร่ม ๆ แอร์เย็น ๆ

"นี่ ๆ ซี่ซั่นนี่พลูว่าน่าจะได้รับกระแสตอบรับดีนะ ดีเหมือนกันคนจะได้มาสนใจรับหมาแมวจรไปเลี้ยงเยอะ ๆ"

"ทำไม"

"ก็มีใบพลูนางเอกสาวสวยสุดฮอตที่กำลังเป็นข่าวกับชัดไง ไม่เห็นกล้องนักข่าวหรอ ส่องมาที่ชัดกับพลูตั้งนานล่ะ" ผมเหล่ไปมองด้านข้างไม่ไกลนักที่เป็นโซนของสื่อมวลชนก็เป็นไปตามที่ใบพลูบอกไม่มีผิดเพี้ยน

"คิดว่าตัวเองฮอตขนาดนั้นเลยหรือ"

"ก็พอตัวนะ นี่ไม่ได้ตามข่าวสารเพื่อนบ้างเลยหรือ พลูน่ะเนื้อหอมไม่แพ้ชัดหรอกนะ"

"เล่นอะไรเป็นเด็กไปได้ สุดท้ายคนเขาก็ต้องรู้อยู่ดีว่าชัดเป็นเพื่อน เพื่อนที่โดนใช้เป็นเครื่องมือกันหนุ่ม ๆ ของพลูเสียด้วยซ้ำ"

"แหม เอาน่าช่วยเพื่อนหน่อย ว่าแต่ทำไมคุณหมอถึงมากับชัดได้ล่ะ ไหนเล่า" ฉายาสายตานกเหยี่ยวของใบพลูไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรอกนะครับ

"เล่าอะไร เขารถเสียก็ติดรถกันมาแค่นั้นแหละ"

"เฮ่อ แค่นี้จริงหรอ ไม่สนุกเลย นึกว่าจะมีเรื่องสนุก ๆ แบบศึกชิงนาย ในรายการเสียอีก" พลูทำหน้าเสียดายเสียใหญ่โต

"ศึกชิงนายอะไร"

"ก็นั่นไง คนนั้นน่ะ ชัดรู้จักใช่ไหม" ผมมองตามสายตาส่งสัญญาณของพลูไปยังจุดที่เขาถ่ายทำกันอยู่ ชายหนุ่มรูปร่างสมาร์ตหน้าตาดีตามแบบฉบับลูกครึ่งที่หลุดมาจากนิตยสาร เรียกว่าหล่อจนขึ้นเป็นพระเอกได้แบบสบาย ๆ เพียงแค่เขาคนนั้นไม่ใช่พระเอกแบบที่รูปร่างหน้าตาเอื้ออำนวยให้ควรจะเป็น แต่คือหนึ่งในนักธุรกิจหนุ่มมาแรง ผู้ถือหุ้นบริษัทนำเข้ารถยนต์หรูรายต้น ๆ ของประเทศ

"คุณแฟรงค์"

"ใช่ คนนั้นแหละ ชาวเน็ตเขาจิ้นกับหมอเดียร์มาตั้งแต่ซีซั่นแรก นี่กลับมาเจอกันอีกซีซั่นสามถึงกับขึ้นเทรนทวิตเลยนะ"

"ว่าไปเรื่อยก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" ผมตอบไปตามที่เห็น เพราะเท่าที่ดูตอนนี้ก็ไม่เห็นว่าคุณแฟรงค์จะทำอะไรให้คุณหมอพิเศษกว่าที่ทุกคนได้รับ และคุณหมอเองก็ไม่ได้ทำอะไรแตกต่างจากที่ทำให้ทุกคนเช่นกัน

"ชัดนี่ไม่เข้าใจความฟินของสาววายเลยอะ พลูยังชอบเลยคู่นี้ น่ารักดีออก"



ต่อจากคิวคุณแฟรงค์ก็ถึงคิวผม การถ่ายมีทั้งส่วนที่มานั่งฟังประวัติความเป็นมาเจ้าลูกแมวดำปี๋ตัวนี้ ผมต้องปั่นน่าเอ็นดู (เท่าที่พอทำได้) แล้วก็ส่งต่อให้คุณหมอตรวจสุขภาพเบื้องต้น

แก้มแดงไปหมดแล้ว

สรุปว่ากว่าจะถ่ายมาถึงคิวผม ไม่รู้สภาพหน้ากล้องของคุณหมอจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง แขกรับเชิญหน้าแป๊ะเข้าฉากทุกคน ในขณะที่สัตวแพทย์เพียงหนึ่งเดียวมีเพียงทีมงานหนึ่งคนคอยซับเหงื่อเติมหน้าให้ในเวลาอันสั้นระหว่างรอคิวถ่ายเท่านั้น

"ดำจนไม่รู้ว่าตาอยู่ไหนเลยนะไอ้หนู" ผมเอานิ้วจิ้มหัวเล็ก ๆ แทนการลูบ ก็มอมแมมแบบนี้เอาแค่จิ้มหัวจากพ่อทูนหัวไปก่อนนะเอ็ง

"เดี๋ยวพออาบน้ำ หยอดตา ก็น่ารักแล้วล่ะครับคุณพ่อ" หมอเอ่ยตอบ

ได้ยินแบบนี้แล้วมันยุบยิบหัวใจแปลก ๆ เหมือนกัน

ตาคู่โตดำสนิทคู่นี้ เวลาส่องประกายตอนยิ้มนี่อันตรายน่าดู มิน่าทั้งครูทั้งนักเรียนถึงหลงใหลกันนัก

"เดียร์ ได้ยินว่ารถเสีย งั้นกลับกับผมไหม" คุณแฟรงค์ เดินเข้ามาทักคุณหมอหลังจากที่คิวสุดท้ายของผมถ่ายเสร็จ

"เอ่อ…คือผม"

"อ้าว คุณชัดน้องคุณชิดใช่ไหมครับ ผมแฟรงค์ ที่เคยไปงานเปิดตัวสินค้าใหม่บริษัทคุณเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว จำได้ไหมครับ" คุณแฟรงค์หันมาทักทายผมอย่างเป็นมิตร

"จำได้สิครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานอีกครั้งนะครับ"

"แล้วนี่เดียร์ติดรถมากับคุณชัดหรือครับ"

"ครับ ใช่" ฟังดูแล้วคุณแฟรงค์ก็ดูจะสนิทกับคุณหมอถึงเรียกชื่อเล่นกันแบบชินปาก แล้วไหงเจ้าของชื่อกับทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนั้น

"ขอบคุณแทนเดียร์ด้วยนะครับ ยังไงขากลับผมขอรับตัวเดียร์กลับแล้วกันนะครับ" เรื่องแบบนี้จะมาขออนุญาตผมมันก็ฟังดูแปลก ๆ อยู่ ผมใช่พ่อแม่คุณหมอเสียเมื่อไหร่ที่จะมีสิทธิอนุญาตหรือไม่อนุญาต

"กลับกันครับเดียร์" ข้อมือคุณหมอถูกจับจองโดยมือคุณแฟรงค์ ผมเห็นสำนักข่าวและเหล่าแฟนคลับของใครบ้างไม่ทราบล้วนหันเลนส์กล้องและมือถือมาถ่ายความเคลื่อนไหวของคู่นี้กันทั้งนั้น เชื่อแล้วว่าคงกระแสแรงจริง ๆ

คุณหมอมองหน้าผมอยู่สักพัก จึงเอ่ยขอบคุณที่ให้ติดรถมาด้วยกัน ก่อนจะเดินตามคุณแฟรงค์ขึ้นรถยนต์คันหรูที่มีคนขับยืนรอเปิดประตูให้ทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว

"เป็นไง น่ารักไหมคู่นี้ เดินจูงมือกันขึ้นรถ ชัดต้องจำไปใช้บ้างนะรู้ไหม" ใบพลูที่เพิ่งเสร็จจากการสัมภาษณ์สื่อเดินเข้ามายืนยันความน่ารักของคู่ที่ตัวเองเอ่ยชมไว้

"ไม่รู้สิ ชัดก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรพิเศษ ชัดก็เคยจูงมือพลูเหมือนกัน ไม่เห็นต่างกันตรงไหน"

ใครว่าล่ะ ผมว่ามวลบรรยากาศคุณหมอเมื่อกี้มันแปลกสุด ๆ สวนทางกับรอยยิ้มคิกคักของเหล่าเด็ก ๆ และสื่อมวลชนที่ดูจะมีความสุขเป็นพิเศษเสียคนละทาง

แต่แปลกแบบไหนผมเองก็นึกไม่ออก รู้เพียงแต่ว่ามันแปลกก็เท่านั้น

แต่จะอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่ดี

"ชัดเนี่ย ยุไม่เคยขึ้นเลย"