พั้นซ์จ้างเด็กช่างสุดเกเรอย่างทัชให้มาดูแลตนที่ตาบอดแต่เหมือนราวกับว่าเขาจะคิดผิดและเริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาดูแลตนหรือพาเรื่องร้าย ๆ มาให้ตนกันแน่

don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช] - บทที่2 การย้าย โดย คุณหนูแก้วใส @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตลก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,รักวัยใส,พระเอกดื้อ,พระเอกเกเร,ฟีลกู๊ด,ฮีลใจ,นิยายตลก,ตาบอด,เด็กช่าง,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตลก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักวัยใส,พระเอกดื้อ,พระเอกเกเร,ฟีลกู๊ด,ฮีลใจ,นิยายตลก,ตาบอด,เด็กช่าง,รักวัยรุ่น,นิยายวาย

รายละเอียด

don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช] โดย คุณหนูแก้วใส @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พั้นซ์จ้างเด็กช่างสุดเกเรอย่างทัชให้มาดูแลตนที่ตาบอดแต่เหมือนราวกับว่าเขาจะคิดผิดและเริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาดูแลตนหรือพาเรื่องร้าย ๆ มาให้ตนกันแน่

ผู้แต่ง

คุณหนูแก้วใส

เรื่องย่อ

พั้นซ์หนุ่มตาบอดที่ต้องมาอาศัยอยู่บ้านนอกเพียงลำพังกลับถูกแกล้งโดยเด็ก ๆ ภายในหมู่บ้านนำตัวเขามาปล่อยทิ้งไว้ในซอยเปลี่ยวยามค่ำคืน เขาจึงต้องเดินร้องขอความช่วยเหลือไปเรื่อย ๆ ทั้งที่มองไม่เห็นแต่กลับไม่มีใครอาศัยอยู่เลยจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงลมหายใจที่หอบแรงออกมาเขาจึงรีบเอ่ยปากขอความช่วยเหลือทันที คนที่นอนกองอยู่บนพื้นนั้นคือทัชเด็กช่างสุดเกเรที่พึ่งจะไปต่อยตีกับคู่อริมาและมานอนพักอยู่ที่นี้เขาปฏิเสธที่จะช่วยแต่สุดท้ายใบหน้าซาลาเปาดูเศร้าน่าสงสารเขาจึงต้องจำใจ และต่อมาด้วยความจนของเขาจึงได้มากลายเป็นคนดูแลของหนุ่มตาบอดที่ไม่แน่ใจเช่นกันว่าดูแลหรือพาประสบภัยกันแน่!

สารบัญ

don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช]-บทนำ หลงทาง,don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช]-บทที่1 อุบัติเหตุ,don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช]-บทที่2 การย้าย,don't see her ไม่เห็นเธอแต่เห็นรัก[พั้นซ์×ทัช]-บทที่3 ความหิว

เนื้อหา

บทที่2 การย้าย

"ญาติพี่น้องกันแท้ ๆ ทำไมทำกันแบบนี้"

"พั้นซ์มาอยู่ที่บ้านลุงก็ได้นะ"

"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากเป็นภาระ"

"แต่จะว่าไปแล้วถ้าพี่พั้นซ์อยู่ที่นี้หนูว่าต้องโดนตามรังควานแน่ ๆ เลยค่ะ" เด็กสาววัย15ปีที่ชื่อหนูนากล่าวระหว่างที่เธอนำน้ำมาค่อย ๆ จับมือร่างบางให้ถือแก้วน้ำก่อนที่เขาจะรีบดื่มเฮือกใหญ่ด้วยความกระหาย

"ผมจะไปอยู่บ้านยายครับ"

"แล้วจะไม่โดนหาเจอหรอ"

"ที่นี้ยายใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อแล้วโอนให้เป็นของผม คนพวกนั้นไม่รู้หรอกครับเพราะเขาไม่ได้อะไรจากยายผมนอกจากเงินที่เขาไถ่แกทุกวัน"

"แล้วนี้ก็คือเรื่องที่ผมจะมาขอให้ช่วยครับ เพราะลุงคือคนที่ผมไว้ใจได้ที่สุด"

"ผมอยากให้ลุงช่วยจ้างรถขนของหลายคันมาย้ายเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านและตัวผม"

"เรื่องเงิน...ในนี้น่าจะมีเงินอยู่ ช่วยกดมาทั้งหมดมาให้ด้วยนะครับ"เขายื่นสมุดบัญชีพร้อบัตรATMเหยียดตรงเอาให้คนตรงหน้า

ครอบครัวของลุงยศมองหน้ากันและพยักพเยิดเห็นด้วยที่จะช่วยเหลือพั้นซ์ ตั้งแต่จำความได้พั้นซ์ได้เห็นลุงยศมาตั้งแต่ยังไม่ภรรยาคนนี้เสียอีก ทั้งไปเล่นกินนอนอยู่บ้านของลุงยศเป็นประจำ คนนิสัยเดียวกันจึงอยู่ด้วยกันได้ทั้งภรรยากับลูกสาวของเขาก็ต่างใจดีไม่แพ้กัน

พวกเขาทั้งสามคนเร่งหาเบอร์ติดต่อตามอินเตอร์เน็ตเพื่อโทรหารถรับจ้างให้มาขนของในยามค่ำคืน แม้จะมีบางสายที่รับและบางสายที่กล่าวว่าจะมาช่วยขนในวันถัดไป แต่ก็ยังมีบางคนที่รับงานแต่เงินที่จ่ายก็อยู่ในขั้นที่ต้องเพิ่มเงินเป็นสองเท่าแต่พวกเขาก็ไม่เกี่ยงเรื่องราคาอยู่แล้ว

ณ เวลา เที่ยงคืน รถทุกคันพร้อมกันที่บริเวณหน้าบ้านของพั้นซ์เป็นรถพ่วงคันใหญ่และกระบะช่วยกันคนละไม้คนละมือขนของขึ้นรถจนครับทั้งบ้านแม้แต่เตียงนอนพ่อแม่พั้นซ์ก็ไม่เหลือเอาไว้เพราะด้วยความแค้นจึงต้องการนำสิ่งของไปให้หมดแม้ไม่มีที่ไว้ก็ตาม ทุกคนใช้เวลาจวนเช้ากว่าจะขนของขึ้นรถได้ครบทุกคัน ลุงยศขอเป็นคนขี่นำพารถขนย้ายไปบ้านของคุณยายเพื่อที่จะจัดการเรื่องให้พั้นซ์

พั้นซ์บอกเลขที่อยู่ของบ้านและลักษณะบ้านไม้สองชั้นขนาดใหญ่ให้ลุงทราบและลองค้นหาขับไปตามพิกัดในGPS

"อันนี้น้ำส้มกับแซนวิช น้ากับหนูนาทำให้กินระหว่างทางกันนะทั้งสอง"

"ขี่รถดี ๆ นะคะพ่อพี่พั้นซ์โชคดีค่ะ"

"ถ้าว่างอย่าลืมให้พ่อไปหาพี่ด้วยนะหนูนา"

"ค่ะพี่!"

ทั้งสองโบกมือลามองรถ4คันค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปในยามฟ้าสาง จะหาที่ไหนได้คนที่จิตใจดีคอยช่วยเหลือผู้อื่นเช่นนี้ ผู้ที่นั่งเบาะหลังด้วยความเมื่อยล้าจึงพล่อยหลับไปอย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะควรเขาจะเป็นคนที่ตื่นอยู่ตลอดทั้งทางเพื่อคนอีกผู้ที่คอยช่วยเหลือเขาเพราะนั้นคือมารยาท แต่ผู้ขับกลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างไร

"กรี๊ดดดดดด!!!"

"อะไร! พี่เป็นอะไร!?"

"ของในบ้านหายไปหมดเลย" หญิงผมยาวรีบปล่อยของที่ถืออยู่ในมือวิ่งเท้าเปล่าขึ้นไปที่ชั้นสองเปิดประตูห้องนอนของพั้นซ์ด้วยหัวใจที่เต้นเร็วผิดปรกติ

"อีพั้นซ์อีเด็กบ้า!!!!" เธอวิ่งเปิดประตูทุก ๆ ห้องที่อยู่รอบข้างอย่างเสียสติ

"ไม่มี!"

"ไม่มี!!!!" เธอยืนนิ่งด้วยความโทสะเล็บกำจิกจนจะเข้าเนื้อพร้อมกัดริมฝีปากก่อนที่เธอจะกรี๊ดออกมาเพราะของทุกอย่างล้วนแต่มีค่าและของใช้ที่บ้านเก่าของเธอนั้นทำการขายทิ้งแบบลดราคาไปหมดเรียบร้อยแล้ว

รถปิคอัพสี่ประตูบรรทุกของค่อย ๆ เคลื่อนตัวนำพารถขนย้ายข้ามจังหวัดผ่านเข้าไปยังแถบอีสาน ผู้คนที่พบเห็นตามบ้านหรือไฟแดงต่างมองพวกเขาทั้งหมดแต่ก็เข้าใจได้ว่าต้องทำการย้ายบ้านเป็นแน่ วัฒนธรรมทำให้การเป็นอยู่แตกต่างจากในเมืองไม่มากนักแต่ก็ต้องปรับตัว แต่บรรยายกาศธรรมชาตินั้นช่างหอมละมุนกว่าในเมืองต้นไม้ขึ้นเป็นจุด ๆ ทุกทุกพื้นที่มีต้นไม้เสมอ

"พั้นซ์ ที่นี้รึเปล่าลูก" หลังจากขี่รถมาด้วยความเหนื่อยล้าก็ได้หยุดลงที่บ้านไม้สองชั้นทรงสี่เหลี่ยมธรรมดาสีฟ้าตัดกับกำแพงรั้วสีขาวมีสวนหน้าบ้านกว้างพอให้นั่งแต่เพราะไม่ได้รับการบำรุงรักษามานานจึงทำให้ต้นวัชพืชขึ้นรกอีกทั้งด้านในบ้านยังมีฝุ่นเกาะค่อนข้างเยอะและเศษหญ้าแห้งที่คาดว่านกจะเป็นตัวนำพาเข้ามา

"แบบนี้ต้องทำความสะอาดหลายวันเลยน้องพั้นซ์"

"ยังไงลุงให้เขาขนของลงก่อนแล้วเดี๋ยวผมทำความสะอาดเองนะครับ"

"เดี๋ยวพวกผมช่วยก็ได้นะครับ" ชายฉกรรจ์วัยสี่สิบผู้ขับรถบรรทุกของกล่าวด้วยความที่เขาสงสารพั้นซ์จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยที่มองไม่เห็นสิ่งรอบข้างอย่างไรก็แค่ปัดกวาดเช็ดถูช่วยกันทำสิบกว่าคนคงไม่นานก่อนค่อนวันก็แล้วเสร็จ

"งั้นเดี๋ยวผมจะรีบไปซื้อไม้กวาดกับถุงขยะและเสบียงมาให้ทานนะครับ"ลุงยศกล่าวแกมยิ้มด้วยความสุขที่ยังมีผู้คนมากมายใจดีคอยช่วยเหลือ เขาปลีกตัวออกไปทั้งยังพาพั้นซ์ไปด้วยในระหว่างที่คนที่อยู่บ้านก็ใช้มือเปล่าเก็บเศษขยะและดึงถอนหญ้านำไปกองกันเอาไว้รอ

"พั้นซ์.."

"ครับลุง"

"ลุงจะบอกเราให้นะ ถึงแม้ว่าภายในร่างกายจะมีบางส่วนที่หายไปแต่เรายังมีชีวิตนะ ถึงแม้ว่าไม่มีญาติพี่น้องมาดูแลแต่เราต้องดูแลตัวเองให้นะรู้ไหม"

"ครับ...."

"เราอย่าคิดว่าโชคชะตาฟ้าทำร้ายสั่งให้เป็นแบบนี้จนหนูไม่อยากมีชีวิตต่อไปนะ ลุงคิดว่าหนูเป็นคนที่เก่งมาก ๆ คนหนึ่งหนูต้องผ่านมันไปได้แน่นอน"

"หนูอาจคิดว่าคนใกล้ตัวเราทำไมถึงทำร้ายเราเราผิดตรงไหน จริง ๆ หนูไม่ได้ผิดนะมันเป็นเพราะเขาคิดร้ายเองคิดถึงแต่สิ่งที่จะได้แต่คนดี ๆ ที่เขาคอยช่วยเหลือเราโดยไม่รู้จักก็มี หนูต้องมองให้หลายมุมนะบางทีคนที่เขาไม่อยากช่วยเหลือเราเป็นเพราะเขาก็อาจจะมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบดูแลเช่นกันแต่เรามองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง"

"เพราะฉะนั้นหนูอย่าคิดทำร้ายตัวเองนะลูก"

"ครับลุงยศ..."

"เดี๋ยวลุงจะคุยกับผู้ใหญ่บ้านและพาไปซื้อของใช้กับของกินมาตุนไว้เยอะ ๆ นะ พอหาคนดูแลพั้นซ์ได้เมื่อไหร่พั้นซ์ก็ค่อย ๆ พัฒนาและปรับตัวนะรู้ไหม"

"ครับ..."

"ลุงยศครับ"

"ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม ขี่รถมาตั้งไกลคงเหนื่อยแย่แถมยังไม่ได้นอนด้วย"

"ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเดี๋ยวลุงพาป้ากับหนูนามาเที่ยวหานะ"

"มาได้เสมอเลยนะครับ"

"ถ้าติดต่อได้อย่าลืมโทรหาลุงด้วยนะ"

"ครับลุง"

รถหักเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้านอย่างไม่ทราบเส้นทาง รถลดกระจกลงคนขับหันออกไปถามทางบ้านของผู้ใหญ่บ้าน และค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกไปตามที่เขาบอก ผ่านเส้นทางของผู้ที่ที่ใช้ชีวิตมากมาย บางคนเป็นคนแก่ที่นั่งเฝ้าหลาน บางคนก็ทำกับข้าวให้อีกหลายชีวิตที่รอคอยมื้ออาหาร บางคนเป็นเด็กวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานไม่รู้เส้นทางชีวิตเช่นเดียวกับพวกเราที่ไม่ทราบว่ามันจะเป็นเช่นไร

รถหยุดนิ่งในขณะที่เครื่องยังติดไว้ให้ร่างบางนั่งคอยอยู่ด้านในรถ ผู้ลงจากรถยกมือไหว้พ่อผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่บนแคร่กับครอบครัว เขาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันและก็เข้าเรื่องทันทีอย่างไม่หลงประเด็น พวกเขามองมาที่พั้นซ์ก่อนจะทราบว่าเขาตาบอดและต้องการจ้างคนมาดูแล มีหญิงผู้สูงอายุท่านหนึ่งค่อย ๆ ใช้ไม้เท้าจากท่อนไม้เดินมาหาเขาที่รถและค่อย ๆ เปิดประตูออก พั้นที่ได้ยินเสียงจึงตกใจแต่ใบหน้าที่แสดงออกนั้นเรียบร้อย

"เอาข้อมือมานี้" เธอกล่าวด้วยเสียงสั่นกลิ่นหมากพลูพัดเข้ามาภายในรถร่างบางยื่นแขนออกไปตรง ๆ แต่เธอกลับดึงเข้ามาใกล้หาฝั่งเธอ

"ขวัญเอยขวัญมาเด้อ ขวัญมาไปอยู่ไสให้มาอยู่ตัวเด้อ ฝากปู่ย่าตายายดูแลลูกหลานอยู่ใหม่ด้วยเด้อ อย่าให้เจ็บอย่าให้ไข้ " สายสิญจน์สีขาวเส้นเล็กถูกดึงให้ตึงก่อนที่จะถูขึ้นถูลงตามข้อแขน หัวใจที่สั่นเกรงกลับรู้สึกถึงการโอบกอดด้วยความอบอุ่นของผู้คนที่รายล้อมรอบตัวเขาและรู้สึกโชคดีอย่างเลี่ยงไม่ได้

"มีหยังให้ยายซอยก็มาหายายเด้อหล่าเด้อ"

"ขอบคุณครับยาย"

"บ่ต้องคึดหลายเด้อหิวยามใด๋ก็อย่าลืมมาหายายเด้อ"

"ครับ"

หนุ่มวัยรุ่นที่สีหน้าอมทุกข์จนเฝื่อนกลับถูกแต่งแต้มเติมสีจากหลายแห่ง ๆ ให้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้นกว่านี้ สัญญาณแห่งการมีชีวิตใหม่กำลังรอเขาอยู่