เมื่อปลาทูนักล่าอยากลองเป็นเหยื่อลูกเสือกิน งานนี้เลยต้องขนทุกกระบวนครีบให้ได้เสิร์ฟตัวเองถึงปากถ่ำ แต่เรื่องไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา เพราะเสือตัวนี้เจอกี่ทีปลาทูช่ำกระแสน้ำแทบจะลืมวิธีว่ายจมน้ำตายทุกที
รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,18+,วาย,boylove ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พ้นผ่านช่วงเวลาพัก พวกสโมฯ ใหม่ปีสองก็พร้อมหน้าพร้อมตากันที่ห้องโถงชั้นล่าง ซึ่งถูกเตรียมไว้สำหรับทำกิจกรรม เสียงกลองสันทนาการดังเป็นจังหวะตามบทเพลงรับน้องบ้าง บทเพลงลูกทุ่งสุดมันบ้าง
ดูท่าการรับน้องคราวนี้ก็คงเป็นการหาเรื่องออกมาเที่ยวพักผ่อนเพื่อเพิ่มความสนิทสนมระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องสโมฯ อย่างที่พี่ทูเคยบอกไว้ในวันแจ้งกำหนดการ
เราเริ่มกิจกรรมแรกของวันด้วยบรรดาเกมละลายพฤติกรรมหลากหลายรูปแบบ รุ่นพี่สโมฯ บางส่วนลงมาร่วมเล่นกับพวกเราด้วย (ไม่นับรวมพี่ๆ ที่รับหน้าที่ดำเนินกิจกรรมด้านหน้าโถง 2-3คน)
“พี่ทูแม่เลื้อยคลานแทรกตัวมาอยู่กลุ่มที่มีเสือตลอดเลย มึงสังเกตป่ะ” โก้พูดขึ้นมาเบาๆ ในระหว่างที่พี่หลิวคนนำเกมกำลังจับกลุ่มที่ผิดกติกาในเกมรวมเหรียญออกไปยืนหาด้านหน้าห้องเพื่อรอรับบทลงโทษ
“เราเริ่มเชื่อโก้มันแล้วนะว่าพี่เขาจีบเสืออ่ะ” โอมสมทบตาม
“เพ้อเจ้อ” ในขณะที่ตอบโอมและโก้ไป ผมก็หันไปทางพี่ทูที่นั่งเยื้องไปไม่ไกลมากในกลุ่มเรา
ทำไมมองไปทีไรก็ต้องสบตาพี่แกตลอดเลย
ถึงจะไม่ได้คิดอะไรแต่เจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ ก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
“เอ้าละรอบสุดท้าย เหมือนเดิมนะจ๊ะ ผู้หญิงเป็นเหรียญ 1 บาท ผู้ชายเป็นเหรียญ 25 สตางค์นะ เล็งกันไว้ให้ดีๆ ” หลังจบประโยคทุกคนก็ลุกขึ้นยืนเป็นวงกลมเหมือนเคย เพื่อที่จะเริ่มเต้นตามจังหวะสันทนาการไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีคำสั่งรวมเหรียญ
และเป็นอันรู้กัน กลุ่มที่รวมกันเอาตัวรอดมาได้ตลอดทั้งเกมอย่างโก้ โอม ผม และทรายเพื่อนร่วมสาขากายภาพก็ยืนแทบจะติดกัน เพื่อเตรียมพร้อมรวมกลุ่มและคอยดึงบุคคลรอบข้างในกรณีที่จำนวนคนไม่พอกับโจทย์เหรียญที่สั่งให้รวม ซึ่งต้องขอชมโอม ที่ใช้ประโยชน์จากแขนขาที่ยาวในการดึงสมาชิกได้ดีสมเป็นประธานสโมฯ รุ่นนี้ ทักษะการเอาตัวรอดโดดเด่นเหนือผู้ใดมาก
“รวมเงิน รวมเงิน วันนี้
รวมกันให้ดี อย่าให้มีผิดพลาด
ผู้หญิงนั้นเป็นเหรียญบาท
ผู้หญิงนั้นเป็นเหรียญบาท
ผู้ชายเก่งกาจเป็นยี่สิบห้าสตางค์”
พี่ๆ ที่รับหน้าที่สันทนาการเริ่มร้องเพลงวนไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความตื่นเต้นของผมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะหลังจากจบรอบนี้ คนที่ถูกทำโทษทั้งหมดจะต้องออกมาเต้นไม่เพลงใดก็เพลงหนึ่งต่อหน้าผู้คนเป็นแน่
ความจริงแล้วไม่ใช่บทลงโทษที่หนักหนาเลย แต่การออกไปเต้นต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้ ยิ่งเป็นเพื่อนและพี่ที่ยังต้องเจอหน้ากันอยู่ ผมไม่เอาด้วย ขืนรอบนี้พลาดโดนทำโทษได้อับอายขายหน้าแน่ๆ เพราะสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดบกพร่องและน่าอายมากๆ ของผม คือการทำกิจกรรมเข้าจังหวะทั้งหมดผมไม่ได้เลยแม่แต่น้อย อย่าว่าแต่ให้เต้นเลย แค่ปรบมือให้ตรงจังหวะยังต้องรวบรวมสมาธิหนัก
“รวมเงิน…. “ ทุกคนต่างตั้งท่า เล็งเพื่อนๆ พี่ๆ ซ้ายขวา
“สองบาท!”
เกิดการชุลมุนขึ้นย่อมๆ กลุ่มผมสี่คนรีบจับกลุ่มรวมกันในขนาดที่ด้านโอมและโก้ต่างก็มองหาสมาชิกมาเพิ่ม หลายกลุ่มที่รวมกันได้ตามโจทย์ ทยอยกันนั่งลงแย่งชิงการรอดพ้นบทลงโทษครั้งนี้
ในขณะที่โอมและโก้มองหาคนมาเพิ่มยังไม่ได้ ผมก็หันไปเห็นทิวเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่ไม่ไกลมือพอดี
“ได้แล้วๆ ” เสียงโอมแว่วมาจากขวามือ
“ครบๆ ” เสียงโก้ดังขึ้นจากทางซ้าย
“นั่งเว้ยๆ ”
“อ้าว เฮ้ย”
“ดะ เดี๋ยว”
การชุลมุนรวมเหรียญรอบนี้ทุกอย่างดูวุ่นวายและรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน รู้เพียงแต่แขนผมที่กำลังเอื้อมไปดึงทิวมารวมกลุ่มถูกใครดึงไปก่อนที่มือจะถึงแขนเสื้อของเป้าหมายอย่างทิว ส่งผลให้ผมเซถลาตามแรงนั้นไปชนกับอะไรสักอย่างหรือ...ใครสักคน
รู้ตัวอีกทีก็เหมือนโดนใครครอบงำให้นั่งลงเสียแล้วเมื่อทุกอย่างดูจะเรียบร้อยผมถึงได้เงยหน้าไปมองสถานการณ์รอบข้างที่ดูจะเงียบผิดปกติไป
และเรื่องที่ทำผมปั้นหน้าไม่ถูกก็เกิดขึ้น ณ กลางห้องโถงกิจกรรมนี้ ผู้คนรายรอบต่างมองมาที่จุดจุดเดียว
ผมเห็นโอม โก้ ทราย และรุ่นพี่ผู้ชายอีกสองคน (ซึ่งเดาว่าน่าจะมาจากการดึงคนเข้ากลุ่มพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายของโอมและโก้) จับกลุ่มนั่งอยู่ใกล้ๆ แล้วทำไมผมถึงไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นล่ะ
ผมใช้มือผลักอกผีที่เข้าครอบงำผมด้วยท่อนแขนแข็งแรงที่พาดอยู่ที่คอและโอบที่เอวออกเบาๆ ซึ่งผีก็ยอมคลายออกไป โดยง่าย
และการคาดเดาที่ผมไม่อยากให้เป็นจริงที่สุดก็เป็นจริงจนได้ เป็นพี่ทูนั่นเองที่รับบทผีแม่นาคทำมือยืดยาวมาดึงผมออกจากกลุ่ม แถมตอนนี้ยังนั่งกอดผมกลมอยู่กลางห้อง
โอ้…แม่ธรณี ช่วยสูบลูกเสือลง ณ ตอนนี้ทีได้ไหม (ผมได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ)
“ไอ้ทู ฉันให้แกรวมเหรียญ ไม่ใช่รวมร่าง”
“ปลาทูเป็นสัตว์เลื้อยคลาน รัดน้องนานๆ ระวังน้องขาดใจตายก่อนนะมึง”
“เอาเว้ยๆ ”
“ว้าย… จิ้นเลยๆ ”
และเสียงแซวอีกมากมายก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จากรอบห้อง
นี่มันน่าอายกว่าการออกไปเต้นเสียอีก
“อ่ะๆ อย่าตาขวางใส่เพื่อนค่ะ ลุกเลยๆ ”พี่หลิว ผู้นำเกมเดินเข้ามาหาผมและพี่ทูที่ตอนนี้พี่แกยอมปล่อยผมออกจากอกแล้วโดยสมบูรณ์ ผมที่ทำหน้าไม่ถูกและเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบที่หน้ากับคำแซวสารพัดที่แม้จะบางลงแต่ยังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะได้แต่ก้มหน้ามองพื้น
ผมไม่ได้อายที่โดนกอดหรอก แต่อายที่โดนแซวขนาดนี้มากกว่า
“อะไร ก็มึงบอกรวมสองบาท” เสียงพี่ทูค้านขึ้น
“คุณปลาทูคะ ผู้ชายคือเหรียญ 25 สตางค์ค่ะ” เกิดเสียงหัวเราะเฮฮาขึ้น แน่ล่ะซิ… ใครใช้ให้พี่แกรวมเหรียญอยู่กับผมแค่สองคนล่ะ ไม่ครบสองบาทแถมยังไปเถียงเขาอีก
“ไม่ครบสองบาทนะจ๊ะคุณทู อ่ะลุกๆ ” ตอนนี้มีแต่ต้องยอมจำนนลุกเดินไปหน้าห้องเท่านั้น
“ไม่ครบบาท แต่อาจจะคบกัน ฮี้วววว” เสียงพี่โรลแซวขึ้นในตอนที่ทั้งห้องเริ่มเงียบไปแล้ว ทำให้มีคลื่นโห่ร้อง เป่าปากมาอีกเป็นระลอกที่สอง
บ้าจริง พื้นกระเบื้องที่นี่ลายสวยดีเหมือนกันนะ
“ไอ้โรล เงียบปากไปเลยมึง” พี่ทูที่ยืนอยู่ข้างๆ โต้กลับไป
“อ่ะๆ เหล่าขาแดนซ์ออกมายืนรวมด้านหน้าเลยจ้ะ” คนที่โดนจับออกมาจากรอบก่อนๆ ออกมายืนเรียงกันด้านหน้าระดับเดียวกับผมและพี่ทู
“เพลงอะไรดีๆ ” การโหวตบทเพลงทำโทษเริ่มต้นขึ้นและจบลงด้วยมะหมี่
“เป็นมะหมี่ก็ต้องสวยหน่อยป่ะ อัญเชิญเครื่องแต่งหน้ามะหมี่ค่ะ” โดนให้เต้นว่าหนักแล้ว ตอนนี้มีการเบิกเครื่องแต่งหน้ามาด้วย เอาเลยเอาให้สุด แล้วหยุดที่ปี๊บมาคุมหัวผมเลย
และเครื่องแต่งหน้าก็เป็นแป้งกับลิปสติกหลายเฉดสี คนอยู่หัวแถวถูกเขียนหนวดเคราและทาแป้งจนหน้าขาจากนั้นก็เริ่มไล่มาคนถัดๆ ไป จนมาถึงพี่ทู รายนี้โดยทาแป้งอย่างเดี๋ยวเต็มสองแก้มและหน้าผากอีกนิดหน่อย ถือว่าเบากว่าคนอื่นแต่ก็มองแล้วหน้าตาตลกใช้ได้
ผมแอบยิ้มขำปลาทูชุบแป้งข้างๆ จนเกือบลืมไปว่ารายต่อไปที่จะโดนก็คือตัวผมเอง พี่หลิวเทแป้งเต็มสองมือ
“เบาๆ ” เสียงพี่ทูเอ่ยกับเพื่อนที่มือนั้นกำลังจะยื่นมาถึงแก้มผม ผมเห็นพี่หลิวมองบนแวบหนึ่งก่อนจะเทแบ่งแป้งในมือให้รุ่นพี่คนข้างๆ ที่เตรียมจะแต่งหน้าคนถัดจากผม
“เอาออกอีก” ยังคงเป็นเสียงพี่ทูคนเดิม ที่เอ่ยขัดจังหวะการเป็นเสือชุบแป้งของผม
“อ่ะ งั้นมึอทำเองเลย หวงเหลือเกินเอาไป” พี่หลิวจับมือพี่ทูมาเทแบ่งแป้งแล้วเดินไปแต่งหน้าคนอื่นๆ
พี่ทูหันมายกยิ้มร้ายใส่ผม “พี่เห็นนะ ว่าเราแอบขำพี่” เวรแท้ๆ เรียกพี่ทรายกลับมาเหมือนเดิมทันมั้ย
“พี่ทู” ผมเอ่ยเสียงหงอย จำยอมรับต่อชะตากรรม หันไปหลับตาพร้อมรับกรรมแล้วครับ
ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนตรงหน้าพร้อมกับความสัมผัสที่แผ่วเบาบริเวณแก้ม เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นว่าพี่ทูแค่ใช่นิ้วตัวเองจิ้มลงที่ผงแป้งแล้วนำมาวาดบนหน้าผม ที่เดาจากการลากบนแก้มทั้งสองว่าคงเป็นหนวดแมวข้างละ 3 เส้น
“ปลาทูเขาชุบแป้ง แต่เสือเขาไม่ชุบแป้งหรอกนะ เป็นลูกเสือก็พอแล้ว” จบท้ายด้วยแต้มจุดแป้งบนปลายจมูก
“น่ารักทะลุหนวด เหมียวววว” เสียงผู้นำในการแซวอย่างพี่โรลดังขึ้นเมื่อผมหันกลับไปเผชิญคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้ารอชมการเต้นของมะหมี่
และคลื่นแซวระลอกที่สามก็กระหน่ำถาโถมเข้ามาแทรกให้ผมเกิดอาการร้อนวูบวามบนไบหน้าเป็นระยะตลอดเพลงมะหมี่จนจบบทเพลง
หลังมะหมี่ทั้งหลายมอบความบันเทิงให้ผู้ชมจนอิ่มหนำ พวกเราก็ถูกปล่อยให้ไปพักทานเบรก ผมรีบเดินแยกจากพี่ทูกลับมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ตามเดิม
“ชัดอยู่นะ ว่าป่ะ” โก้เปิดบทสนทนาขึ้นในกลุ่ม
“พี่ทูกับเสือน่ารักมาก เราฟินไม่ไหวล่ะนะ งุแง” ทรายที่ตอนแรกเฉยๆ ตอนนี้ก็ดูหวีดเต็มขั้น
“เสือ แกรู้ป่ะ ตอนแกเต้นอ่ะ พี่ทูแม่งมองแกโคตรเอ็นดูเลย” โก้ หันมาพูดกับผมที่ตอนนี้แทบกินอะไรไม่ลงแล้ว
“ไม่รู้ แต่เรารู้อย่างหนึ่ง”
“รู้อะไรๆ ” โอมที่นั่งด้านข้างก็ดูจะกระตือรือร้นให้ความสนใจขึ้นมาทันที
“กระเบื้องที่นี่เป็นลายหินอ่อน สีขาวผสมเทามีชมพูแทรกอ่อนๆ ”