เพราะผิดหวังในความรักหลินจึงเลือกที่จะปิดหัวใจตัวเองจากคริสต์

ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน - บทที่8 เลิกยุ่ง โดย khunsifa @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,รัก,ชาย-ชาย,ครอบครัว,ไทย,รักข้างเดียว,ผัวรวย,โรแมนติก,พนักงานออฟฟิศ,ประธานบริษัท,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน,นิยายวาย,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,รัก,ชาย-ชาย,ครอบครัว,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักข้างเดียว,ผัวรวย,โรแมนติก,พนักงานออฟฟิศ,ประธานบริษัท,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน,นิยายวาย,ดราม่า,#BL

รายละเอียด

เพราะผิดหวังในความรักหลินจึงเลือกที่จะปิดหัวใจตัวเองจากคริสต์

ผู้แต่ง

khunsifa

เรื่องย่อ


หลินผู้ที่เคยถูกหักหลังและผิดหวังจากความรักทำให้หลินปิดประตูหัวใจและสร้างกำแพงขึ้นมากำบังตัวเอง จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับคริสต์หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัท ได้เข้ามาทำให้หัวใจที่ด้านชาของหลินกลับมาเต้นอีกครั้ง

.

แนะนำตัวละคร



 

หลิน

นริลิน วงค์นิรักษ์

อายุ28ปี

ส่วนสูง173 น้ำหนัก58

ภายนอกเย็นชา หยิ่ง ปากร้ายแต่จริงแล้วเป็นคนที่มีนิสัยเด็ก ใจดี พูดเก่ง ยิ้มง่าย

แต่เพราะเคยผิดหวังจากความรักจึงปิดใจและใจร้ายกับทุกคนที่เข้ามาจีบ

.

.

"ของที่ส่งมาเป็นของคุณใช่ไหมครับ "เขาเลือกเปิดบทสนทนาด้วยคำถามที่สงสัยตั้งแต่ตอนช่วงเช้า น้ำเสียงเยือกเย็นของหลินยิ่งทำให้คริสต์ทำตัวไม่ถูก

"ครับ หลินชอบไหม พี่ตั้งใจเลือกซื้อให้เลยนะครับ" แต่เขาก็ตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"เลิกซื้อของบ้าๆ นั้นมาให้ผมเถอะครับ มันไม่มีประโยชน์อะไร ถึงคุณจะซื้อมาอีกผมก็ทิ้งมันอยู่ดี"

สิ้นสุดคำพูดของหลิน ทำเอาคนที่ได้ยินใจแป้วลงทันที

"ทำแบบนี้ทำไมครับชอบผมเหรอ"

หลังจากหลินพูดจบ คริสต์นิ่งเงียบไปสักพักราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะตอบคำถามของคนที่นั่งข้างๆ

"ผมชอบคุณ"

"เอ่อ.... ผมขอจีบคุณได้ไหม"

"ผมว่าเราเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกันเถอะนะครับ"

"ผมไม่อยากรักใครอีกแล้ว ผมว่าคุณเลิกชอบผมตอนนี้ยังทันนะครับ" น้ำเสียงนิ่งเรียบที่ตอบมานั้น ยิ่งทำให้คริสต์รู้สึกเจ็บในใจ คนตัวเล็กปิดกั้นเขาเอาไว้และสร้างกำแพงสูงใหญ่เกินกว่าที่เขาจะพังมันลงได้ในตอนนี้ คริสต์ไม่ตอบกลับอะไรไป เขาเพียงแค่ขับรถไปส่งคนตัวเล็กจนถึงบ้านและเก็บซ้อนความผิดหวังและความเสียใจเอาไว้

เมื่อส่งหลินถึงบ้าน คริสต์กลับมานั่งนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้าที่อยู่ในรถก่อนที่จะพูดพึมพำกับตัวเองพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตา

 

“เลิกชอบคุณตอนนี้ยังทันนั้นเหรอครับ หึ ใช่ครับมันยังทันถ้าเราพึ่งรู้จักกันแต่สำหรับพี่ที่รักหลินมาสิบปี จะให้เลิกรักเลิกชอบพี่ทำไมได้แล้วครับมันไม่ง่ายเลย” 

Trigger warin : Emotional hurt , Angst , Fluff and Angst , Smut ,Cheating

มีการนอกใจ การใช้ความรุนแรง เลือด การหลอกลวง



 

 

สามารถเล่นแท็กนี้ได้นะคะ #ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน

 

ช่องทางติดต่อนักเขียน

ทวิตเตอร์: @sky20061997

FB:นามปากกาคุณสีฟ้า

TikTOK: sky0659h6s

 



สารบัญ

ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่1 ความเจ็บปวดครั้งที่1,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่2 ความเจ็บปวดครั้งที่2,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่3 จุดเริ่มต้น,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่4 เฉยชา,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่5 ไม่ชอบ,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่6 ไม่ยอมแพ้,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่7 ทิ้ง,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่8 เลิกยุ่ง,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่9 อุบัติเหตุ,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-บทที่10 ลืม,ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน-มีอีบุ๊คจ้า ตอนนี้อีบุ๊คกำลังลดราคาอยู่นะคะ

เนื้อหา

บทที่8 เลิกยุ่ง

ภารกิจพิชิตหัวใจคุณพนักงาน

ตอนที่แปด เลิกยุ่ง

แต่งโดย คุณสีฟ้า





หนึ่งสัปดาห์ต่อมาคริสยังคงทำแบบเดิมทุกวันคือการที่ซื้อของที่หลินชอบไปให้ในทุกทุกวันไม่ว่าจะเป็นของกินที่ชอบ ขนม ดอกไม้ เขาทำแบบนี้ประจำแม้จะรู้ว่าทุกครั้งที่ให้ไปหลินจะทิ้งมันทุกครั้งก็ตาม



เสียใจแค่ไหน  แต่เพราะรักถึงยังอยู่ตรงนี้ ทำอยู่แบบนี้



ทั้งคู่เจอกันแค่เพียงเวลาที่มีงาน ตอนเช้าคริสต์มักจะพยายามมาให้ตรงกับเวลาที่หลินมาในตอนเช้า แค่ได้เจอกันเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ยังดีสำหรับคริสต์ แต่ในอาทิตย์ที่ผ่านมาคริสต์ได้เจอกับหลินมากขึ้นเพราะโปรเจกต์ของคุณมาตินการออกแบบเครื่องเพชรล้ำค่าประจำตระกูลของคุณมาตินจะมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ไม่ได้เขาจึงต้องมาคุมงานนี้ด้วยตัวเอง ทำให้เขาได้มีโอกาสทำงานร่วมกันและใกล้ชิดกับหลินมากขึ้น ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลยแม้แต่น้อย หลินยังคงเฉยชาเมินคริสต์ เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือฝีปากที่เก่งกล้าขึ้นกล้าดุด่าคริสต์มากขึ้น แต่คริสต์ก็ไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด มีเพียงในบางครั้งที่แอบรู้สึกน้อยใจ และเสียใจกับบางคำพูดของหลิน



ณ ห้องประชุม



"ผมขอขอบคุณทุกคนที่ทำงานหนักกันมาตลอดหนึ่งอาทิตย์นี้นะครับ จนทำให้โปรเจกต์นี้ของเราสำเร็จ วันนี้หลังเลิกงานผมจะขอเลี้ยงพวกคุณเองนะครับ"



"อู้ยหล่อ รวย พ่อพระของเจ๊ รักเลยค่ะบอส"



"ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอจบการประชุมเพียงเท่านี้นะครับ"



"ส่วนคุณนริลิน อยู่พบผมก่อนนะครับ"

"ครับท่านประธาน" หลินตอบรับด้วยความจำใจ



หลังจากที่ทุกคนทยอยออกจากห้องประชุมไปจนหมดในห้องเหลือเพียงความเงียบ หลินมองคริสต์ที่ตอนนี้เอาแต่จองหน้าของเขาไม่พูดไม่จ้า ทั้งๆ ที่เป็นคนบอกว่าจะคุยแต่กลับเงียบเสียเอง เมื่อความอดทนหมดลงหลินจึงตัดสินใจเปิดบทสนทนาเสียเองเพื่อทำลายความอึดอัดภายในห้อง



"ท่านประธานมีเรื่องอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ"



หลังจากพูดจบคริสต์หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้กับหลิน



"นี่ผมให้ครับ"



"อะไร?"

"เปิดดูสิ"



หลินรับกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มจากมือคริสต์และเปิดออกตามคำบอกของคริสต์ เมื่อเห็นของข้างในกล่องนั่นดวงตาของหลินเบิกโพลงด้วยความตกใจ



"สร้อยเพชร?"

สร้อยเพชรมูลค่ากว่าห้าล้านบาท ถึงการดีไซน์เพชรที่ใช้จะไม่ใหญ่มากแต่เพชรอันเล็กๆ นั้นละคือเพชรที่หายากและมีมูลค่าสูง



"ใช่ครับ ชอบไหม อันนี้มีชิ้นเดียวในโลกเลยนะครับ ผมตั้งใจออกแบบเองใช้เวลาเกือบสองอาทิตย์เลยกว่าจะเสร็จ"



คริสต์ยิ้มและพรีเซนต์ของสร้อยในมือหลิน แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อหลินยื่นกล่องสร้อยเพชรคืนแก่เขา ภายในใจมีคนถามมากมาย ไม่ชอบเหรอ หรือเกรงใจ หรืออาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นของที่มาจากเขาคนตรงหน้าถึงไม่อยากรับมัน





"เอาคืนไปครับ ผมไม่รับ"



"แต่หลินครับพี่ตั้งใจทำให้หลินนะ รับไว้เถอะไม่ต้องเกรงใจ"



"ก็ว่าไม่เอาไงวะ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง "  เมื่อพยายามยื้อกันไปมาหลินทนไม่ไหวจึงปัดกล่องสี่เหลี่ยมในมือทิ้งลงพื้น สร้อยเพชรในกล่องกระจายไปคนละทิศทาง เขาไม่ได้เกรงใจ แต่หลินรำคาญคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะไม่ฟังคนพูดของเขาเลย

จนหลินอดที่จะพูดจาทำร้ายจิตใจมากตรงหน้าไม่ได้



"ผมว่าผมพูดบอกคุณหลายต่อหลายครั้งแล้วนะครับ ว่าให้เลิกเลิกยุ่งกับผมได้แล้ว ถึงคุณจะพยายามแค่ไหนผมก็ไม่มีวันรักคุณหรอก"



"….."



หลังจากนั้นหลินก็เดินออกไปจากห้องประชุมทันที คริสต์ได้แต่มองไปยังสร้อยที่ตนเองอดหลับอดนอนตั้งใจสรรค์สร้างออกแบบมันขึ้นมาให้กับคนตัวเล็ก

แต่ดูเหมือนเจ้าของสร้อยเส้นนี้จะไม่ต้องการมัน



คริสต์ก้มลงหยิบกล่องและสร้อยเพชรราคาแพงขึ้นมาเขาค่อยๆ บรรจงเอาสร้อยใส่เข้ากลับเข้าไปในกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจต่อให้สร้อยของเขาราคาแพงเพียงใด หากคนที่ครอบครองมันไม่เห็นค่า มันก็คงเป็นเพียงสร้อยธรรมดาเส้นหนึ่งเท่านั้น



อีกด้านหนึ่ง



หลินเดินเข้ามาในแผนกด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งอย่างกลับไปกินรังแตนที่ไหนมาอย่างงั้น จนเจ๊ดาและดลต้องเอ่ยทักถามเพราะความสงสัย



"โดนท่านประธานด่ามาเหรอหลิน"



"เอ่อฟึดฟัดมาแต่ไกลเลย"

ดลพูดเสริม



"ป่าวหรอกเจ๊ ไม่ได้โดนดุหรือด่า"

หลินส่ายหน้าไปมาเบาๆ เพื่อปฏิเสธ



"อ้าวไม่ได้โดนท่านประธานว่ามาแล้วแกเป็นอะไร" เจ๊ดาและดลมองหน้ากันด้วยความมึนงง ถ้าหากไม่ได้โดนตำหนิอะไรมาทำไมถึงมีท่าที่



"หลินรำคาญอีตาประธานบ้านั้น บอกว่าให้เลิกยุ่มย่ามให้ยอมแพ้ไปก็ไม่ยอม"



"เออจะว่าไปแล้วมึงกับท่านประทานมีซัมติงป่ะ" ดลยกยิ้มขึ้นก่อนจะถามเชิงเอ่ยแซวหลิน จนคนที่ถูกแซวมองขว้างด้วยสายตาที่ไม่พอใจ



"ไม่หวั่นไหวบ้างเหรอถ้าเจ๊เป็นแกนะ ฉันตอบตกลงเป็นแฟนตั้งแต่ท่านประธานขอจีบเลย คนอะไรก็ไม่รู้เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ทั้งหล่อรวย การงานก็ดี อบอุ่นใครได้เป็นแฟนคงโชคดี ฉันโคตรอิจฉาแกเลยนะที่คุณคริสต์มาตามจีบแก"



"งั้นคงไม่ใช่กับหลิน เพราะหลินรักใครอีกไม่ได้หรอกครับ"

"หลินขอตัวไปทำงานก่อนนะเจ๊"

เมื่อพูดจบหลินก็เดินไปทำงานที่โต๊ะของตัวเองทิ้งให้เจ๊ดากับดลนั่งพูดคุยกันต่อ



"ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมนะ เวลามีคนมาจีบหลินมันต้องปิดกั้นขนาดนั้น"



"ผมเข้าใจมันนะเจ๊ไอ้หลินมันเจ็บมาเยอะกับเรื่องความรัก แต่ที่มันยังไม่เปิดใจให้กับใคร อาจจะเพราะว่ามันยังไม่ลืมคนเก่า"



เวลา21:30น.



ณ ผับหรูใจกลางเมือง



คริสต์มองไปยังโต๊ะของพนักงานที่มีหลินนั่งดื่มอยู่ด้วย ตอนนี้หลินมีท่าทีเมามาก เพราะมีคนมาขอชนแก้วไม่ขาดสาย คริสต์ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ เพราะเข้าไม่มีสิทธิ์ห้าม ไม่มีสิทธิ์ห่วง ไม่มีสิทธิ์อะไรเลยเพราะเขาและหลินไม่ได้เป็นอะไรกัน จนกระทั่งคริสต์บังเอิญไปได้ยินชายคนหนึ่งกำลังคุยกับบาร์เทนเดอร์ให้ใส่ยาบางอย่างลงไปในแก้วของหลิน

ก่อนที่พนักงานคนนั้นจะรับเงินและเดินไปเสิร์ฟแก้วน้ำแก้วนั้นให้กับหลิน



คริสต์ที่เห็นท่าไม่ดีเขารีบเดินตามพนักงานไปที่โต๊ะของหลินทันที





"ขออนุญาตนะคะ ผมเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟครับ"





"แต่ผมไม่ได้สั่งไว้นะครับ"

หลินทำหน้างงเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆ พนักงานก็มาเสิร์ฟเครื่องดื่มทั้งที่เขาไม่ได้สั่ง



"พอดีผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นเขาส่งให้คุณครับ"



"อ่าครับ"

หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟพูดจบหลินขยักหน้ารับเชิงบอกว่าเขาเข้าใจแล้ว ก่อนจะรับแก้วแล้วมองไปยังผู้ชายที่สั่งเครื่องดื่มให้กับตัวเอง หลินไม่ได้คิดอะไรเขาเพียงแค่นับตามมารยาทเท่านั้นแต่ก็ไม่วายถูกเพื่อนในโต๊ะแซว



"ฮอตจังนะตั้งแต่มาเหยียบผับผู้มาไม่ขาดสาย"



"ถึงจะมาไม่ขาดสายไอ้หลินมันก็ไม่สนใจหรอกเจ๊ "  ตามที่คำของดลพูดบอกกับเจ๊ดา เขาไม่ได้คิดอะไรกับใครเลยแม้แต่น้อย ผู้ชายที่มาขอคอนแทกต์มาขอชนแก้วเขาแค่รับและให้พอเป็นพิธีเท่านั้น หลังจากกลับห้องไปหลอนก็บล็อกที่คนอยู่ดี



"เออก็จริง"



หลังจากจบบทสนทนาภายในโต๊ะหลินกำลังยกแก้วค็อกเทลสีสันน่าทานขึ้นมาดื่ม ทว่าแก้วน้ำยังไม่ทันได้จรดปากบางก็ดันถูกมือหนาปัดทิ้งจนแก้วในมือหล่นแตก คนที่ปัดไม่ใช่ใครที่ไหน คริสต์เองที่เป็นคนปัด การกระทำของเขาทำให้หลินรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่อยู่ดีๆ เจ้านายของตัวเองมาทำแบบนี้



"คุณทำบ้าอะไรเนี่ย"



"คุณกินน้ำในแก้วนี้ไม่ได้นะ มันมียา"



"ยาอะไร แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย ต่อให้แก้วนี้มันมียาหรือไม่มียาคุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่มย่ามกับผมแบบนี้ ผมไม่ชอบต้องให้ผมพูดอีกกี่รอบ"



เมื่อได้ยินดังนั้นทำเอาคริสต์เสียใจไม่น้อย ทำไมต้องตอกย้ำสถานะของเขาขนาดนั้นด้วย เขารู้ดีว่าหลินไม่ได้รักไม่ได้ชอบเขา แต่ครั้งนี้เขาเพียงแค่เป็นห่วง และปกป้องคนที่เขารักเท่านั้นเอง เขาผิดมากเลยงั้นเหรอ



"หลินมึงใจเย็นๆ ก่อน" ดลเอามือมาจับไหล่ของหลินเอาไวพลางตบเบาๆ ให้เพื่อนสนิทเขาใจเย็นลงแต่ดูเหมือนว่าหลินตอนนี้ไม่ฟังอะไรแล้วด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มบวกกับการที่หลินไม่ชอบคริสต์อยู่แล้วเป็นทุนเดิม





"ผมเป็นห่วงไงหลิน คุณไม่ต้องค่อยย้ำหรอกว่าไม่ได้ชอบผมข้อนี้ผมรู้ดี"



"ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ไม่มีอารมณ์จะกินต่อแล้ว"

หลังจากพูดจบหลินก็เดินออกไปจากโต๊ะทันที



ณ ลานจอด



คริสต์รีบวิ่งตามหลินออกมาหวังว่าจะอาสาไปส่งเพราะตอนนี้หลินเมาเอามากๆ ถ้าปล่อยให้ขับรถกลับเองเขากลัวอีกคนจะเกิดอันตรายที่เขาไม่อยากให้ก่อนขึ้น



"หลินคุณจะกลับยังไง ผมไปส่งไหมคุณเมามากแล้วนะผมเป็นห่วงมันอันตราย"



แต่ดูเหมือนว่าความหวังดีของเขา หลินนั้นไม่ต้องการ ดวงตาที่แฝงไปด้วยความโกรธและรำคาญคริสต์รับรู้ได้ผ่านสายตาคู่นั้นที่กำลังมองเขาอยู่ตอนนี้



"ไม่ต้องผมขับรถมา เลิกตอแยเลิกตามเลิกยุ่งกับผมได้ไหม ผมจะเป็นตายร้ายดียังไงมันก็เรื่องของผม"





"ผมไม่ได้อยากจะยุ่งความเป็นส่วนตัวของคุณหรอกนะหลิน คุณรู้ไหมถ้าผมไม่ปัดแก้วนั้นออก ถ้าคุณดื่มมันเข้าไปแล้วถูกไอ้บ้านั้นลากคุณไปมันจะทำอะไรกับคุณบ้าง ผมแค่เป็นห่วงคุณเข้าใจไหม"



“…..”



"ถ้าความเป็นห่วงและความหวังดีของผมมันทำให้คุณรำคาญ ผมขอโทษ"





"อืม งั้นทีหลังก็เก็บความหวังดีของคุณกลับไปด้วยนะครับผมไม่ต้องการ"

หลังจากพูดจบหลินเดินไปไปยังรถของตัวเองและรีบขับออกไปทันที คริสต์ที่เห็นแบบนั้นเขารีบเดินไปที่รถของตัวเองและขับหลังตามไปอย่างห่างๆ ถึงแม้จะเสียใจกับคนพูดของหลิน แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดอะไรแบบนั้น ยิ่งอีกคนกำลังอารมณ์ร้อนและมีสติไม่ครบถ้วนเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้ว อย่างน้อยแค่ได้เห็นอีกคนถึงบ้านอย่างปลอดภัยแค่นั้นที่เขาต้องการ ส่วนความรู้สึกของเขามันจะพังแค่ไหนเขาจะรับมันไว้เอง เพราะเขาเป็นคนที่เอาตัวเองมาอยู่ในภวังค์นี้ด้วยตัวเอง




ซ่อนสปอยล์
เอี๊ยด!! ตู้ม!!!



ดวงตาพลางมั่วพยายามเพ่งเล็งภาพตรงหน้าแต่ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาสู่ร่างกายจนแทบจะลืมตาต่อไปไม่ไหว เสียงที่บอกให้เขารออดทน อย่าพึ่งหลับตาลง แต่ตอนนี้เขาคงทำไม่ได้ เจ็บไปหมดทั้งตัวเหมือนกำลังจะตาย นี่สินะความรู้สึกเจ็บปวดจนจะสิ้นใจ ม่านตาค่อยๆ ปิดลงจนสนิท ด้วยพิษของการเจ็บปวด

ในตอนต่อไปเนื้อหาจะค่อยๆดราม่า และซับซ้อนขึ้นแล้วนะคะ  ไหนใครเดาออกไหมว่าตอนต่อไปจะมีอะไรให้ตกใจหรือพีคไหม

 ไรท์หายไปหลายวันเพราะไรท์อ่านหนังสือและไปสอบมานะคะ หวังว่าจะยังมีคนรออ่านผลงานของเรานะคะ