เจมส์ คานิแวน มือปืนรับจ้างสังหารกับลูกชายคนโต ผูกพันอยู่กับแก๊งค์มาเฟียที่มีวอลเตอร์ ซามูเอลเป็น หัวหน้า และวันหนึ่งลูกชายคนโตของเจมส์ได้รู้ความ ลับของแก๊งค์ครอบครัวของคานิแวนก็ถูกไล่ล่าเพื่อ ฆ่าปิดปาก
ดราม่า,แอคชั่น,อาชญากรรม,เลือดสาด,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ณ อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นมีคนมุงดูมากมายและตำรวจก็เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ
และได้มีนักข่าวเข้าไปทำข่าวในที่เกิดเหตุ
“ขอทางหน่อยครับนักข่าวครับ” นักข่าวที่ชื่อเอริกเป็นชายร่างผอมมีหนวดเคราที่เข้ามาพร้อมกับกล้องตัวใหญ่
เขาได้เข้ามาในห้องที่เกิดเหตุ และเขาได้ยื่นเงินให้ตำรวจเพื่อที่จะให้ตำรวจออกไป และเขาก็ตั้งกล้องเพื่อที่จะถ่ายศพ
และขณะที่เขากำลังจะถ่ายรูปนั้น เขาก็เห็นชายที่นอนจมกองเลือดชายคนนั้นว่าเขายังไม่ตายและเขาขยับแขนเพื่อจะส่งสัญญาณบางอย่างแต่เอริกก็เดินเข้าไปหาเขาแล้วเอาผ้าปิดหน้าให้หายใจไม่ออกและชายคนนั้นก็หมดลมหายใจและแน่นิ่งไป
และเขาก็เอาภาพที่ถ่ายมาล้างที่ห้องและสักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
"นี่เอริก แมนเนอร์พูด------สวัสดีครับคุณซามูเอล--16000ดอลลาร์หรอ--ใช่ราคาผม16000ดอลลาร์ครับ--ส่วนภาพนี่เป็นของผม--อ๋อไม่เคยเจอครับ--แต่ผมรู้ฝีมือเขา--เขาเดินทางคนเดียวรึเปล่า--กี่ขวบ--10หรอ--แล้วให้ผมทำยังไงกับเด็ก--ตกลง--ขอบคุณครับ"
และเขาก็วางสายลงแล้วก็มองไปที่กำแพงที่มีแต่รูปศพนับร้อยที่เขาได้ไปถ่ายมา
"แกคงได้มาอยู่บนนี้สินะ คานิแวน"
---------
สองพ่อลูกที่กำลังขับรถไปเมือง ฟิลาเดลเฟีย
"ลูกจำป้าซาร่าได้รึเปล่าพี่สาวของแม่น่ะ--เธออยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย--ลูกต้องไปอยู่กับป้านะ"
"มันอยู่ที่ไหนล่ะฮะ"
"อยู่ในเมืองติดกับแม่น้ำ--เราเคยไปหนหนึ่ง--ไปด้วยกันหมดตอนลูก3หรือ4ขวบนี่แหละ--สวยมากเลย--จำได้มั้ย"
"บ้านที่มีหมาหรอครับ"
"ใช่--จำได้แล้วสินะ"
ทั้งสองก็ต่อไปเรื่อยๆจนทั้งสองคนได้มาจอดที่โบสถ์แล้วเข้าไปข้างใน เจมส์ก็ได้มาขอพรต่อพระเจ้า ส่วนมาตินก็นั่งรออยู่ข้างหลัง และเขาเหลือกไปเจอกับตุ็กตาพระเยซูคริสต์เขาจึงหยิบมาด้วย และทั้งสองคนก็ออกมาจากโบสถ์แล้วขับรถไปต่อ
----------
เอริกได้แฝงตัวมาที่งานศพแมรี่กับแจ็คที่น้าของมาตินเป็นคนจัดงาน เขาได้เดินสำรวจที่บ้านของครอบครัวคานิแวนและเขาก็เดินมาเจอรูปของเจมส์และได้รู้จักหน้าของเจมส์ และสักพักก็มีเสียงโทรศัพท์คุณน้าก็เดินมารับโทรศัพท์
"เจมส์ โอ้ขอบคุณพระเจ้า"
"ผมโทรมาบอกว่าเราปลอดภัย"
"เธออยู่ที่ไหนน่ะ"
"เราจะไปหาที่บ้านถ้าทุกอย่างเรียบร้อย"
"มาเลย--ฉันจะกลับในสองวันนี้แหละ--มาตินล่ะเป็นไงบ้าง"
"เขาสบายดี"
"งานศพเป็นไงบ้าง" เจมส์พูดด้วยเสียงสั่นคลอและน้ำตาก็คลอเบ้า
"โธ่เจมส์....."
เจมส์ถึงกับไม่พูดต่อไม่ออกเพราะเขาเสียใจที่ไม่อยู่ในงานศพลูกกับเมีย
"ฮัลโหล--ฮัลโหล"น้าแนนซี่พูด
"แล้วเจอกันครับ" เจมส์ก็กดวางสายไป
เอริกที่แอบฟังอยู่ก็เดินมาที่โทรศัพท์แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่โทรศัพท์
"ฮัลโหลครับ โอเปอเรเตอร์"
"ค่ะ"
"พอดีสายหลุดน่ะครับช่วยต่อสายใหม่ได้มั้ยครับ"
และเอริกก็รู้ที่อยู่ว่าเจมส์นั้นโทรศัพท์มาจากที่ไหน
-------
เช้าวันต่อมาสองพ่อลูกก็เดินทางไปที่ฟิลาเดลเฟียกันต่อ เขาได้ขับผ่านสู่สาน มาตินก็เลยนึกถึงแม่กับน้องชายขึ้นมา เจมส์ก็เหมือนกันทั้งสองคนต่างพากันเงียบไม่พูดจาอะไร เพราะทำได้แค่คิดถึง
------
เอริกก็ได้มาที่โรงแรมเก่าๆที่สองพ่อลูกนั้นพักเมื่อคืนและเขาก็เดินมาเจอกับตุ๊กตาพระเยซูคริสต์ที่มาตินเอามาจากโบสถ์เมื่อวานและเขาก็ได้ตามสองพ่อลูกต่อไป
------
สองพ่อลูกขับรถมาจนถึงค่ำทั้งสองคนได้มาจอดอยู่ที่ร้านขายอาหารเล็กๆข้างทาง
"หิวมั้ย" เจมส์ถามมาติน
"ไม่ครับ"
"แต่อาจจะไม่มีร้านอาหารอีกไกลเลยกินซะตอนนี้ดีกว่า"
"ผมไม่หิว--ผมแค่อยากอ่านหนังสือ"
แล้วเจมส์ก็ได้ลงรถไป มาตินก็ได้นอนรอในรถ
เจมส์ก็เข้าไปในร้านแล้วสั่งอาหาร
--------
และมีรถสีดำคันหนึ่งได้ขี่มาจอดที่ร้านและเอริกได้ลงรถมาแล้วมองไปที่รถของเจมส์แต่ไม่เจอใครเขาเลยคิดว่าเจมส์ต้องอยู่ในร้านแน่ๆเขาเลยเดินเข้าไปในร้านแล้วเห็นเจมส์นั้งอยู่ แล้วเขาได้ไปนั่งโต๊ะตรงข้ามเจมส์
"คืนนี้เงียบนะ" เอริกพูดกับเจ้าของร้าน
"ไม่หรอกนี่แหละยุ่งแล้ว--รับอะไรดีคะ"
"มีอะไรพิเศษมั่ง"
"พิเศษทุกอย่าง"
"งั้นหรอ"
"ทุกอย่างยกเว้นอาหาร"
"ทุกอย่างยกเว้นอาหารหรอ--เธอนี่น่าจะเป็นดารานะ"
"555หรอคะฉันไม่อยากจะรู้" สาวเจ้าของร้านพูดด้วยความเขิน
"ผมขอไก่อบน้ำผึ้งและกาแฟดำ"
"ได้เลยค่ะ"
เจมส์ได้จ้องชายคนนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ เจมส์จึงยกขวดเหล้าเปล่าขึ้นมาเพื่อที่จะให้เอริกนั้นชวนคุย
"อย่าถือสาเลยนะครับ--นี่เป็นประเทศเสรีเมื่อก่อนนี้น่ะ"เอริกพูด
แล้วเจมส์ก็ทำท่ายื่นขวดเหล้าให้เอริก
"ไม่ครับ ขอบคุณ"เอริกตอบ
และเอริกก็เอากล้องฟิล์มมาใส่ฟิล์ม
"นั่นอาชีพคุณหรอหรือถ่ายแค่สนุกๆ"เจมส์ถาม
"ทั้งสองอย่างมั้ง--ได้เงินด้วย--ได้ทำสิ่งที่รักด้วยเหมือนฝันเลยว่ามั้ย"
"ก็คงใช่"
"คุณล่ะ"
"เซลล์แมนขายอะไหล่เครื่องจักร"เจมส์ตอบ
"อะไหล่เครื่องจักรหรอ--งานน่าสนุกนะ"
"บอกได้เลยว่าไม่"
"แล้วคุณทำงานให้ที่ไหน"เจมส์ถาม
"คุณเก็บความลับได้รึเปล่า"
เอริกยื่นหน้าไปใกล้ๆแล้วกระซิบ
"ผมทำงานให้หนังสือพิมพ์"
"ฉบับไหนล่ะ"
"ทุกฉบับ--ช่างภาพแบบผมหายากนะ"
"ทำไม"
"ผมถ่ายภาพคนตาย--ถ่ายคนที่ตายแล้วน่ะ--ไม่ได้ฆ่า"
"ก็หวังวาอย่างนั้น"เจมส์รู้สึกไม่ดีจนเหงื่อไหลไม่หยุด
"มันมีเสน่ห์สำหลับผมมากเลย--ภาพแบบนั้นน่ะ--คุณเคยเห็นมั้ย"
"เคย"
"เสี่ยใจด้วยนะ--มันน่าขนลุกนะแต่ก็ทำให้เรารู้สึกดีที่เรามีชีวิตอยู่"เอริกพูด
"ผมขอดื่มให้แค่ชีวิตที่ยังอยู่"เจมส์ก็ยกขวดเหล้าเปล่าดื่ม
"กินจนเหงื่อแตกเลยเหรอ"
"อืม--ผมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ"เจมส์พูด
"ขอโทษครับช่วยบอกทางไปห้องน้ำหน่อย"เจมส์ถามเจ้าของร้าน
"ทางนี้ค่ะ"
แล้วเจมส์ก็เดินไปเข้าห้องน้ำและเขาแอบหยิบมีดหั่นสเต็กไปด้วย
พอเจมส์เดินออกไปเอริกก็ได้หยิบปืนขึ้นมาแล้วชักปืนเตรียมไว้
ทันใดนั้นเสียงรถก็ดังขึ้น เจมส์ได้แอบขับรถออกไป แล้วเอามีดกรีดยางของเอริกไว้ พอเอริกออกมาจากร้านก็เจอกับรถที่ยางแตกและเขาก็ยิงปืนใส่รถของเจมส์ไปสามสี่นัด ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
"ก้มลงๆ--พ่อบอกให้ก้มลง" และลูกปืนก็เฉียดหัวของมาตินไปนิดเดียว
และตำรวจที่กินข้าวอยู่ในร้านก็ออกมา
"นี่แกทำบ้าอะไรของแก"
และตำรวจก็โดนยิงรัวใส่และเอริกก็เอารถตำรวจขี่ตามสองพ่อลูกไป
สองพ่อลูกขับมาได้สักระยะก็ได้จอดรถที่ข้างทางและเจมส์ก็ลงรถและพามาตินลงรถมาคุย
"ลงรถมาซิ!-ลงมา!--พ่อบอกให้ก้มหัวก็ต้องก้ม--ไม่ต้องถามอะไร--บอกให้แวะกินก็กิน--ต่อไปต้องฟังพ่อ--ไม่งั้นก็หัดอยู่ด้วยตัวเอง" เจมส์พูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหพร้อมเขย่าตัวมาตินไปมา
"ผมดูแลตัวเองได้--พ่อไม่อยากให้ผมมาด้วยอยู่แล้ว--พ่อคิดว่านี่เป็นความผิดผม" มาตินพูดและหันหลังแล้วค่อยเดินออกห่างไป
"หยุดนะ มาติน-มันไม่ใช่ความผิดลูก--ลูกไม่เกี่ยวอะไรเลย"
"งั้นพ่อก็พาผมไปหาป้าซาร่าเลย"
"ไม่ได้-ยังไม่ใช่ตอนนี้"
"ทำไมละ"
"เขารู้ว่าเราจะไปที่นั่น"
"แล้วพ่อจะทำอะไรต่อ"
"ทำสิ่งที่พ่อทำคนเดียวไม่ได้--ลูกต้องเชื่อฟังพ่อนะ--เข้าใจมั้ย--ไม่งั้นเราตายทั้งคู่--และต้องให้ อันดา บอกที่ซ่อนอเล็กซ์--มีสิ่งหนึ่งที่พวกชิคาโก้รักที่สุด--นั่นก็คือเงิน--พวกเขาฝากเงินไว้ในธนาคารทั่วรัฐ--เราต้องหาให้เจอแล้วก็เอามา--ลูกจะช่วยพ่อมั้ย"
"ครับ"
"แต่พ่อต้องสอนลูกอย่างหนึ่งก่อน"
.....