เจมส์ คานิแวน มือปืนรับจ้างสังหารกับลูกชายคนโต ผูกพันอยู่กับแก๊งค์มาเฟียที่มีวอลเตอร์ ซามูเอลเป็น หัวหน้า และวันหนึ่งลูกชายคนโตของเจมส์ได้รู้ความ ลับของแก๊งค์ครอบครัวของคานิแวนก็ถูกไล่ล่าเพื่อ ฆ่าปิดปาก

คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต - ตอนที่5 ฆาตกรโรคจิต โดย ควันสีน้ำเงิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,แอคชั่น,อาชญากรรม,เลือดสาด,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แอคชั่น,อาชญากรรม,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า

รายละเอียด

เจมส์ คานิแวน มือปืนรับจ้างสังหารกับลูกชายคนโต ผูกพันอยู่กับแก๊งค์มาเฟียที่มีวอลเตอร์ ซามูเอลเป็น หัวหน้า และวันหนึ่งลูกชายคนโตของเจมส์ได้รู้ความ ลับของแก๊งค์ครอบครัวของคานิแวนก็ถูกไล่ล่าเพื่อ ฆ่าปิดปาก

ผู้แต่ง

ควันสีน้ำเงิน

เรื่องย่อ

“มีเรื่องมากมายเกี่ยวกับเจมส์ คานิแวน บาง คนบอกว่าเขาเป็นคนดี บางคนบอกว่าเขาไม่ความดี อยู่เลย ผมเคยเดินทางกับเขาหกอาทิตย์ ในฤดู หนาวปี1933"


เจมส์ คานิแวน มือปืนรับจ้างสังหาร พร้อม ด้วย ลูกชายวัย 10 ขวบ มาติน คานิแวน ผูกพันอยู่ กับแก๊งค์มาเฟียเชื้อสายไอริช

ที่มีวอลเตอร์ ซามูเอลเป็นหัวหน้าใหญ่ วอล เตอร์รักคานิแวนเสมือนลูกชายแท้ๆ

แม้ว่าจะมีอเล็กซ์ ซามูเอล เป็นลูกชายแท้ๆ อยู่ แล้ว และวอลเตอร์ปรารถนาให้เจมส์เป็นผู้สืบทอด แก๊งค์

แต่วันหนึ่งลูกชายคนโตของเจมส์ได้ไปรู้ความ ลับของแก๊งค์ ทำให้แมรี่ ภรรยาของเจมส์คาลิแวน และแจ็ค ลูกชายคนเล็ก ถูกสังหารปิดปาก ตายทั้ง คู่ ทางแก๊งค์ตามไล่ล่าตัว เจมส์คานิแวนและลูกชาย คนโตที่ กำลังหลบหนีไปเมือง ฟิลาเดลเฟีย


#หากผิดพลาดประการใดก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ🙏
#นักเขียนมือใหม่

สารบัญ

คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่1 ทอยลูกเต๋า,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่2 ขอให้เป็นความลับ,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่3 ความสูญเสีย,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่4 ที่หลบภัย,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่5 ฆาตกรโรคจิต,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่6 ผู้ช่วยจำเป็น,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่7 สหายเก่า,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่8 เป็นค่าตอบแทน,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่9 ฉันรักแกเหมือนลูก,คานิแวน :ล้างแค้นเพชฌฆาต-ตอนที่10 พ่อ....

เนื้อหา

ตอนที่5 ฆาตกรโรคจิต

ณ อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นมีคนมุงดูมากมายและตำรวจก็เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ

และได้มีนักข่าวเข้าไปทำข่าวในที่เกิดเหตุ

“ขอทางหน่อยครับนักข่าวครับ” นักข่าวที่ชื่อเอริกเป็นชายร่างผอมมีหนวดเคราที่เข้ามาพร้อมกับกล้องตัวใหญ่

เขาได้เข้ามาในห้องที่เกิดเหตุ และเขาได้ยื่นเงินให้ตำรวจเพื่อที่จะให้ตำรวจออกไป และเขาก็ตั้งกล้องเพื่อที่จะถ่ายศพ
และขณะที่เขากำลังจะถ่ายรูปนั้น เขาก็เห็นชายที่นอนจมกองเลือดชายคนนั้นว่าเขายังไม่ตายและเขาขยับแขนเพื่อจะส่งสัญญาณบางอย่างแต่เอริกก็เดินเข้าไปหาเขาแล้วเอาผ้าปิดหน้าให้หายใจไม่ออกและชายคนนั้นก็หมดลมหายใจและแน่นิ่งไป

และเขาก็เอาภาพที่ถ่ายมาล้างที่ห้องและสักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

"นี่เอริก แมนเนอร์พูด------สวัสดีครับคุณซามูเอล--16000ดอลลาร์หรอ--ใช่ราคาผม16000ดอลลาร์ครับ--ส่วนภาพนี่เป็นของผม--อ๋อไม่เคยเจอครับ--แต่ผมรู้ฝีมือเขา--เขาเดินทางคนเดียวรึเปล่า--กี่ขวบ--10หรอ--แล้วให้ผมทำยังไงกับเด็ก--ตกลง--ขอบคุณครับ"

และเขาก็วางสายลงแล้วก็มองไปที่กำแพงที่มีแต่รูปศพนับร้อยที่เขาได้ไปถ่ายมา

"แกคงได้มาอยู่บนนี้สินะ คานิแวน"

---------

สองพ่อลูกที่กำลังขับรถไปเมือง ฟิลาเดลเฟีย

"ลูกจำป้าซาร่าได้รึเปล่าพี่สาวของแม่น่ะ--เธออยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย--ลูกต้องไปอยู่กับป้านะ"

"มันอยู่ที่ไหนล่ะฮะ"

"อยู่ในเมืองติดกับแม่น้ำ--เราเคยไปหนหนึ่ง--ไปด้วยกันหมดตอนลูก3หรือ4ขวบนี่แหละ--สวยมากเลย--จำได้มั้ย"

"บ้านที่มีหมาหรอครับ"

"ใช่--จำได้แล้วสินะ"

ทั้งสองก็ต่อไปเรื่อยๆจนทั้งสองคนได้มาจอดที่โบสถ์แล้วเข้าไปข้างใน  เจมส์ก็ได้มาขอพรต่อพระเจ้า ส่วนมาตินก็นั่งรออยู่ข้างหลัง และเขาเหลือกไปเจอกับตุ็กตาพระเยซูคริสต์เขาจึงหยิบมาด้วย และทั้งสองคนก็ออกมาจากโบสถ์แล้วขับรถไปต่อ

----------

เอริกได้แฝงตัวมาที่งานศพแมรี่กับแจ็คที่น้าของมาตินเป็นคนจัดงาน เขาได้เดินสำรวจที่บ้านของครอบครัวคานิแวนและเขาก็เดินมาเจอรูปของเจมส์และได้รู้จักหน้าของเจมส์  และสักพักก็มีเสียงโทรศัพท์คุณน้าก็เดินมารับโทรศัพท์

"เจมส์ โอ้ขอบคุณพระเจ้า"

"ผมโทรมาบอกว่าเราปลอดภัย"

"เธออยู่ที่ไหนน่ะ"

"เราจะไปหาที่บ้านถ้าทุกอย่างเรียบร้อย"

"มาเลย--ฉันจะกลับในสองวันนี้แหละ--มาตินล่ะเป็นไงบ้าง"

"เขาสบายดี"

"งานศพเป็นไงบ้าง" เจมส์พูดด้วยเสียงสั่นคลอและน้ำตาก็คลอเบ้า

"โธ่เจมส์....."

เจมส์ถึงกับไม่พูดต่อไม่ออกเพราะเขาเสียใจที่ไม่อยู่ในงานศพลูกกับเมีย

"ฮัลโหล--ฮัลโหล"น้าแนนซี่พูด

"แล้วเจอกันครับ" เจมส์ก็กดวางสายไป

เอริกที่แอบฟังอยู่ก็เดินมาที่โทรศัพท์แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่โทรศัพท์

"ฮัลโหลครับ โอเปอเรเตอร์"

"ค่ะ"

"พอดีสายหลุดน่ะครับช่วยต่อสายใหม่ได้มั้ยครับ"

และเอริกก็รู้ที่อยู่ว่าเจมส์นั้นโทรศัพท์มาจากที่ไหน

-------

เช้าวันต่อมาสองพ่อลูกก็เดินทางไปที่ฟิลาเดลเฟียกันต่อ เขาได้ขับผ่านสู่สาน มาตินก็เลยนึกถึงแม่กับน้องชายขึ้นมา เจมส์ก็เหมือนกันทั้งสองคนต่างพากันเงียบไม่พูดจาอะไร เพราะทำได้แค่คิดถึง

------

เอริกก็ได้มาที่โรงแรมเก่าๆที่สองพ่อลูกนั้นพักเมื่อคืนและเขาก็เดินมาเจอกับตุ๊กตาพระเยซูคริสต์ที่มาตินเอามาจากโบสถ์เมื่อวานและเขาก็ได้ตามสองพ่อลูกต่อไป

------

สองพ่อลูกขับรถมาจนถึงค่ำทั้งสองคนได้มาจอดอยู่ที่ร้านขายอาหารเล็กๆข้างทาง  

"หิวมั้ย" เจมส์ถามมาติน

"ไม่ครับ"

"แต่อาจจะไม่มีร้านอาหารอีกไกลเลยกินซะตอนนี้ดีกว่า"

"ผมไม่หิว--ผมแค่อยากอ่านหนังสือ"

แล้วเจมส์ก็ได้ลงรถไป มาตินก็ได้นอนรอในรถ

เจมส์ก็เข้าไปในร้านแล้วสั่งอาหาร

--------

และมีรถสีดำคันหนึ่งได้ขี่มาจอดที่ร้านและเอริกได้ลงรถมาแล้วมองไปที่รถของเจมส์แต่ไม่เจอใครเขาเลยคิดว่าเจมส์ต้องอยู่ในร้านแน่ๆเขาเลยเดินเข้าไปในร้านแล้วเห็นเจมส์นั้งอยู่ แล้วเขาได้ไปนั่งโต๊ะตรงข้ามเจมส์

"คืนนี้เงียบนะ" เอริกพูดกับเจ้าของร้าน

"ไม่หรอกนี่แหละยุ่งแล้ว--รับอะไรดีคะ"

"มีอะไรพิเศษมั่ง"

"พิเศษทุกอย่าง"

"งั้นหรอ"

"ทุกอย่างยกเว้นอาหาร"

"ทุกอย่างยกเว้นอาหารหรอ--เธอนี่น่าจะเป็นดารานะ"

"555หรอคะฉันไม่อยากจะรู้" สาวเจ้าของร้านพูดด้วยความเขิน

"ผมขอไก่อบน้ำผึ้งและกาแฟดำ"

"ได้เลยค่ะ"

เจมส์ได้จ้องชายคนนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ เจมส์จึงยกขวดเหล้าเปล่าขึ้นมาเพื่อที่จะให้เอริกนั้นชวนคุย

"อย่าถือสาเลยนะครับ--นี่เป็นประเทศเสรีเมื่อก่อนนี้น่ะ"เอริกพูด

แล้วเจมส์ก็ทำท่ายื่นขวดเหล้าให้เอริก

"ไม่ครับ ขอบคุณ"เอริกตอบ

และเอริกก็เอากล้องฟิล์มมาใส่ฟิล์ม

"นั่นอาชีพคุณหรอหรือถ่ายแค่สนุกๆ"เจมส์ถาม

"ทั้งสองอย่างมั้ง--ได้เงินด้วย--ได้ทำสิ่งที่รักด้วยเหมือนฝันเลยว่ามั้ย"

"ก็คงใช่"

"คุณล่ะ"

"เซลล์แมนขายอะไหล่เครื่องจักร"เจมส์ตอบ

"อะไหล่เครื่องจักรหรอ--งานน่าสนุกนะ"

"บอกได้เลยว่าไม่"

"แล้วคุณทำงานให้ที่ไหน"เจมส์ถาม

"คุณเก็บความลับได้รึเปล่า"

เอริกยื่นหน้าไปใกล้ๆแล้วกระซิบ

"ผมทำงานให้หนังสือพิมพ์"

"ฉบับไหนล่ะ"

"ทุกฉบับ--ช่างภาพแบบผมหายากนะ"

"ทำไม"

"ผมถ่ายภาพคนตาย--ถ่ายคนที่ตายแล้วน่ะ--ไม่ได้ฆ่า"

"ก็หวังวาอย่างนั้น"เจมส์รู้สึกไม่ดีจนเหงื่อไหลไม่หยุด

"มันมีเสน่ห์สำหลับผมมากเลย--ภาพแบบนั้นน่ะ--คุณเคยเห็นมั้ย"

"เคย"

"เสี่ยใจด้วยนะ--มันน่าขนลุกนะแต่ก็ทำให้เรารู้สึกดีที่เรามีชีวิตอยู่"เอริกพูด

"ผมขอดื่มให้แค่ชีวิตที่ยังอยู่"เจมส์ก็ยกขวดเหล้าเปล่าดื่ม

"กินจนเหงื่อแตกเลยเหรอ"

"อืม--ผมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ"เจมส์พูด

"ขอโทษครับช่วยบอกทางไปห้องน้ำหน่อย"เจมส์ถามเจ้าของร้าน

"ทางนี้ค่ะ"

แล้วเจมส์ก็เดินไปเข้าห้องน้ำและเขาแอบหยิบมีดหั่นสเต็กไปด้วย

พอเจมส์เดินออกไปเอริกก็ได้หยิบปืนขึ้นมาแล้วชักปืนเตรียมไว้

ทันใดนั้นเสียงรถก็ดังขึ้น เจมส์ได้แอบขับรถออกไป แล้วเอามีดกรีดยางของเอริกไว้ พอเอริกออกมาจากร้านก็เจอกับรถที่ยางแตกและเขาก็ยิงปืนใส่รถของเจมส์ไปสามสี่นัด ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! 

"ก้มลงๆ--พ่อบอกให้ก้มลง" และลูกปืนก็เฉียดหัวของมาตินไปนิดเดียว

และตำรวจที่กินข้าวอยู่ในร้านก็ออกมา

"นี่แกทำบ้าอะไรของแก"

และตำรวจก็โดนยิงรัวใส่และเอริกก็เอารถตำรวจขี่ตามสองพ่อลูกไป

สองพ่อลูกขับมาได้สักระยะก็ได้จอดรถที่ข้างทางและเจมส์ก็ลงรถและพามาตินลงรถมาคุย

"ลงรถมาซิ!-ลงมา!--พ่อบอกให้ก้มหัวก็ต้องก้ม--ไม่ต้องถามอะไร--บอกให้แวะกินก็กิน--ต่อไปต้องฟังพ่อ--ไม่งั้นก็หัดอยู่ด้วยตัวเอง" เจมส์พูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหพร้อมเขย่าตัวมาตินไปมา

"ผมดูแลตัวเองได้--พ่อไม่อยากให้ผมมาด้วยอยู่แล้ว--พ่อคิดว่านี่เป็นความผิดผม" มาตินพูดและหันหลังแล้วค่อยเดินออกห่างไป

"หยุดนะ มาติน-มันไม่ใช่ความผิดลูก--ลูกไม่เกี่ยวอะไรเลย"

"งั้นพ่อก็พาผมไปหาป้าซาร่าเลย"

"ไม่ได้-ยังไม่ใช่ตอนนี้"

"ทำไมละ"

"เขารู้ว่าเราจะไปที่นั่น"

"แล้วพ่อจะทำอะไรต่อ"

"ทำสิ่งที่พ่อทำคนเดียวไม่ได้--ลูกต้องเชื่อฟังพ่อนะ--เข้าใจมั้ย--ไม่งั้นเราตายทั้งคู่--และต้องให้ อันดา บอกที่ซ่อนอเล็กซ์--มีสิ่งหนึ่งที่พวกชิคาโก้รักที่สุด--นั่นก็คือเงิน--พวกเขาฝากเงินไว้ในธนาคารทั่วรัฐ--เราต้องหาให้เจอแล้วก็เอามา--ลูกจะช่วยพ่อมั้ย"

"ครับ"

"แต่พ่อต้องสอนลูกอย่างหนึ่งก่อน"
.....