ชายผู้หมดศรัทธาในการใช้ชีวิต โดนหลอกจากคนที่รักมานับสิบปี ชีวิตยิ่งดิ่งลงหลังจากผู้เป็นแม่ได้ตายจากเพราะโรคหัวใจโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้รำลา เจ้าหนี้ก็ตามรังควานจนตาย เขามีโอกาสย้อนอดีตกลับมาตอนม.4 เขาจะแก้ไขชีวิตสิ้นหวังได้หรือไม่

เปลี่ยนชะตาชีวิต - บทที่ 8 เงินก้อนแรก โดย crioA,] @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,ข้ามเวลา,ย้อนยุค,นิยายวาย,ดราม่า,ย้อนเวลา,BL,BoyLove,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เปลี่ยนชะตาชีวิต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,ข้ามเวลา,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,ดราม่า,ย้อนเวลา,BL,BoyLove

รายละเอียด

ชายผู้หมดศรัทธาในการใช้ชีวิต โดนหลอกจากคนที่รักมานับสิบปี ชีวิตยิ่งดิ่งลงหลังจากผู้เป็นแม่ได้ตายจากเพราะโรคหัวใจโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้รำลา เจ้าหนี้ก็ตามรังควานจนตาย เขามีโอกาสย้อนอดีตกลับมาตอนม.4 เขาจะแก้ไขชีวิตสิ้นหวังได้หรือไม่

ผู้แต่ง

crioA,]

เรื่องย่อ

"เมื่อไหร่พี่พายุจะบอกเรื่องของเราให้นันรู้สักที" เสียงหญิงสาวคุ้นหูทำให้นันที่อยู่ในบทสนทนาใจกระตุก หากได้ยินประโยคนี้ที่อื่นอาจจะเป็นความเข้าใจผิดได้ แต่นี้มันคอนโดที่นันและแฟนเช่าอยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้ว


"วิพี่ทำแบบนั้นไม่ได้ พี่กับนันคบกันมา 10 ปีแล้วนะ วิเองก็รู้" และเสียงที่ตอบโต้ก็เป็นเสียงของแฟนตัวเองที่คบกันมา 10 ปีแล้ว 

"พี่พายุจะรอให้ลูกโตก่อนหรือยังไงถึงจะยอมเลิกกับมันสักที"

"ไม่ใช่แบบนั้น..."

และนี้คือรักสิบปีและเพื่อนรัก15ปี มันจบแล้วสินะ



ในตอนที่กำลังยืนร้องไห้อยู่ก็มีเสียงเดินตามหลังมา นันคิดแค่ว่าอาจจะมีคนมายืนรอรถประจำทางเหมือนกันแต่แล้วก็คิดผิด เพราะคนกลุ่มนั้นคือเจ้าหนี้ที่ตามมาถึงที่นี้ นันพยายามเดินหนี้ก่อนจะวิ่งเร็วขึ้น เร็วขึ้น

เอี๊ยดดดดดด...

โครม!!!!

""



"ปวดหัวจัง เราตายแล้วนิ หรือยังไม่ตาย" นันมองไปรอบข้างเห็นเพียงห้องพักที่มีเตียงพยาบาลสองเตียง ภายในห้องดูเก่าบ่งบอกการใช้งานของห้องมานานนับปี 

"ที่นี่มัน..." ห้องพยาบาลของโรงเรียนมัธยมปลายของเขานี่

***

จะเกิดอะไรขึ้นหากคนหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง 


สารบัญ

เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่1 ความสิ้นหวังขั้นสุด,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 2 กลับมาอีกครั้ง,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 3 เงินที่หายไป,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 4 หนูน้อยหัวกลม,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 5 เรื่องจะเกิดมันก็ต้องเกิด,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 6 ป้าจวนได้ค่ากับข้าว,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 7 ชานมไข่มุก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 8 เงินก้อนแรก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 9 ออเดอร์ใหญ่ครั้งแรก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 10 ผมอยากลาออกจากโรงเรียน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 11 ลูกจ้างคนแรก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 12 ลาออก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 13 ร้านใหม่,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 14 30เปอร์เซ็นต์,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 15 ผู้ช่วยของแม่,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 16 ครอบครัว,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 17 เว็บไซต์ขายร้านมินิ,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 18 ความรวยกำลังมา,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 19 สมาชิกใหม่,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 20 โรงงานทำชานมไข่มุกสำเร็จ,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 21 ช่วยแม่เพื่อน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 22 รับคนงานเพิ่ม,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 23 แบ่งที่ดิน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 24 รับลูกบุญธรรมและซื้อที่ดิน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 25 ได้สาขาแรกที่กรุงเทพฯ

เนื้อหา

บทที่ 8 เงินก้อนแรก

"แม่ครับพร้อมหรือยัง" ผมที่ตอนนี้กำลังรอแม่อยู่หน้าบ้าน เพื่อที่เช้านี้เราจะไปขายชานมไข่มุกที่ที่ว่าการอำเภอ โดยวันนี้คือวันพฤหัสบดี ผมและแม่ตั้งใจไว้ว่าจะลองมาขายที่ว่าการอำเภอเป็นเวลา 2 วันเพื่อดูการตอบรับของลูกค้า

"มาแล้วจ้า แม่มาแล้ว" แม่ลงมาจากบ้านด้วยเสื้อผ้าสะอาดตาไม่ได้ฉูดฉาดเกินไป แต่ก็ไม่ได้ซอมซ่อ

"วันนี้แม่ค้าสวยมากครับ" ผมยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้แม่เป็นการชม

"ลูกก็พูดไปเรื่อย เรารีบไปกันเถอะแม่นัดร้านน้ำแข็งไว้อีกครึ่งชั่วโมงก็คงมาส่งแล้วละ" แม่มองนาฬิกาแขวนผนังบ้าน ก่อนจะเร่งให้ผมขึ้นรถ

เมื่อพวกเรามาถึงก็มองเห็นลุงรปภ. ที่เปิดประตูหน้าที่ว่าการอำเภอแต่เช้า ผมและแม่ได้นำของมาฝากไว้ที่หลังป้อมยามของลุงรปภ.ตั้งแต่เมื่อวาน เราได้เขามาติดต่อเรื่องสถานที่ไว้แล้ว

ทางที่ว่าการอำเภอไม่ได้เก็บค่าที่ในเดือนแรก เพราะอยากสนับสนุนให้ประชาชนเริ่มมีรายได้จากการค้าขายเล็กๆน้อยๆ เพื่อการนี้จึงไม่เก็บค่าที่ในเดือนแรก เพียงแค่ต้องห้ามขวางทางเดินของประชาชนที่มาใช้บริการที่ที่ว่าการเท่านั้น

"สวัสดีครับลุง ผมมายกของไปตั้งร้านก่อนนะครับ เดี๋ยวตั้งร้านเสร็จผมจะนำเมนูแนะนำของร้านผมให้ลุงชิมเป็นคนแรกเลย

"ดีๆหนุ่ม เด็กสมัยนี้ขยันจังเลยนะรู้จักช่วยแม่ทำงานด้วย ว่าแต่ไม่มีเรียนหรือยังไงเรานะ" ลุงแกถามขึ้นในตอนที่ผมมายกของ

"ไม่ได้เรียนแล้วละครับลุง ช่วยแม่หารายได้เข้าบ้านก่อน ค่อยเรียนครับ" ผมตอบลุงไปแบบนั้นเพื่อให้แกไม่ต้องสงสัยเรื่องที่ผมหยุดเรียนนาน หรือคิดว่าผมโดดเรียน ผมพูดความจริงเรื่องที่ไม่เรียนแล้ว และรีบหาเงินแล้วค่อยเรียนใหม่หลังจากนี้

"งั้นหรอ น่าเสียดายแต่ไม่เป็นไร ไว้มีเงินก่อนค่อยเรียนต่อให้จบ ม.6 ก็ได้เหมือนกันไม่มีใครแก่เกินเรียนหรอกลุงว่า"

"ครับลุง ไปช่วยแม่ก่อนนะครับ" ผมเดินขนของมาตั้งร้าน ที่มีเพียงโต๊ะเพื่อวางโถเครื่องดื่ม กระดานสูงขนาดเท่าเอวเขียนป้ายเมนูที่ผมเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง โดยมีสีสันสวยงามน่ามอง แล้วยังมีแก้วเปล่ามีฝาปิดที่ด้านในเป็นเพียงกระดาษสี ที่มีรูปไข่มุกน่ากินไว้ดึงดูดความสนใจลูกค้า ผมใช้เทคนิคในการวาดรูปให้เหมือนของจริงให้ได้มากที่สุด มองไกลก็คงเข้าใจว่าเป็นรูปจริง

เมื่อจัดหน้าร้านเรียบร้อยแล้ว ด้านหน้ามีโถแก้วทรงสูงอยู่ 4 โถโดยแต่ละโถจะมีน้ำชานม โกโก้ กาแฟ และนมเย็น ด้านหลังมีถังน้ำแข็งหลอดเล็กที่สามารถเคี้ยวได้สะดวก วันนี้วันแรกผมจึงตั้งใจจัดโปรโมชั่นเพื่อเรียกลูกค้า

นั่งพักได้เพียง 5 นาที ผมก็ลุกขึ้นยืนเพื่อทำน้ำชานมไข่มุกแก้วแรกให้ลุงรปภ. ก่อนจะเดินไปส่งให้แกถึงป้อมยาม

"ได้แล้วครับลุง ชานมไข่มุกสูตรพิเศษร้านผม"

"มาแล้วหรอ ไหนๆขอลุงชิมหน่อย จะสมคำโอ้อวดของหนุ่มไหม" ลุงรับแก้วชานมก่อนจะดูดแล้วเคี้ยวหนุบหนับในปาก "โอ้โห นี่มันอร่อยสุดๆไอ้เม็ดดำๆนี้เรียกไข่มุกใช่ไหม อร่อยๆ" ลุงชมไม่ขาดปากพร้อมยกนิ้วโป้ง

"ขอบคุณครับลุง ร้านผมมีทั้งกาแฟ ชานม นมเย็น โกโก้ก็มีนะครับ อากาศร้อนๆช่วยดับร้อนได้ดีเลยละ ฝากเชียร์ร้านผมด้วยนะ" ลุงตอบรับว่าได้ๆแล้วผมก็กลับไปที่ร้าน เห็นผู้เป็นแม่นั่งรอลูกค้าอย่างใจจดจ่อ ผมเห็นดังนั้นจึงหยิบกระดาษที่เตรียมไว้ก่อนจะเริ่มแจกจ่ายใบปลิว

"นันลูกนี้ก็เจ็ดโมงครึ่งแล้ว ยังไม่มีลูกค้าสักคน" แม่ที่มองมาที่ผมด้วยใบหน้าเศร้าเล็กน้อย

"ก็มันยังเช้าอยู่เลยครับ นี่ครับแม่วันนี้เราขายราคาโปรโมชั่น แก้วละ 10 บาทวันเดียวเท่านั้น เดี๋ยวผมมานะครับแม่ เอาใบปลิวไปฝากลุงยามก่อน" ผมนำใบปลิวไปวางไว้ที่หน้าป้อมยามของที่ว่าการอำเภอ โดยไม่ได้บังคับให้ลุงแจกให้ แค่ฝากไว้เท่านั้น ถ้าใครสนใจก็หยิบได้เลย

แต่ด้วยความที่ลุงเห็นความตั้งใจของหนุ่มน้อยคนนี้ เมื่อมีพนักงานหรือข้าราชการเข้ามาทำงานลุงแกก็ จะแนะนำชานมไข่มุกร้านใหม่พร้อมใบปลิวส่งให้

พนักงานหลายคนในตอนเช้าหรือสายของวันก็มักจะออกไปซื้อเครื่องดื่มเพื่อดับร้อน บางครั้งต้องรอให้รถน้ำมาขายถึงจะเดินออกไปซื้อ หรือฝากกันไปซื้อข้างนอก

เมื่อวันนี้ได้ยินว่ามีร้านน้ำมาขายใหม่ แถมมีเมนูพิเศษอีกยิ่งทำให้อยากลองดูสักครั้ง ได้ยินว่าวันนี้ลดราคาแค่วันเดียวด้วย

"แม่ค้าค่ะ ในรูปนี้อะไรหรือคะ"ลูกค้าคนแรกเดินเข้ามาถามเพราะเห็นในรูปมีเม็ดดำๆ อยู่ในแก้วตัวอย่างด้วย

"สวัสดีค่ะลูกค้า นี้เรียกว่าไข่มุกค่ะ เป็นสูตรพิเศษของทางร้านเรา ที่ร้านวันนี้มีโปรโมชั่นลดเหลือแก้วละ 10 บาทเท่านั้นค่ะ"

"โห้ นี่ลดแล้วยัง 10 บาท ปกติตั้งแก้วละ 15 บาทเลยหรอ แอบแพงอยู่นะเนี่ย แต่เอาเถอะวันนี้แก้วละ 10 บาทจะลองหน่อยแล้วกันมีน้ำอะไรบ้างละ" ในตอนแรกที่แม่โดนขัดบอกว่าแพงก็ตกใจ แต่ก็ยังยิ้มให้ลูกค้าต่อไป เมื่อได้ยินลูกค้าถามเรื่องเมนูก็ยิ้มแก้มปริพร้อมแนะนำ

"ร้านเรามีชานมไข่มุกเป็นเมนูแนะนำค่ะ แล้วก็กาแฟ ชาเย็น โกโก้ก็มีนะคะ จะใส่ไข่มุกหรือไม่ใส่สามารถแจ้งได้เลยค่ะ ลูกค้ารับอะไรดีคะ" แม่รีบแนะนำเมนูให้ลูกค้าฟัง ผมเห็นดังนั้นจึงเข้าไปช่วยแม่ตักน้ำแข็งใส่แก้ว

"งั้นเอากาแฟแก้วหนึ่ง โกโก้สองแก้ว แล้วก็ของฉันเอาชานมไข่มุกละกันอย่างอื่นก็ใส่มาเลยนะ" เมื่อลูกค้าสั่งแม่ถึงกับตอบรับพร้อมยิ้มไม่หุบ รับเงินก้อนแรก 40 บาท ก่อนจะกล่าวขอบคุณลูกค้าคนแรกไป ถึงลูกค้าจะบ่นเรื่องราคาแต่เมื่อได้ลองดื่มแก้วแรกไปแล้ว ก็กลับมาซื้อแก้วที่สองของวันนี้ เพราะยังลดราคาอยู่

"แม่ค้าใช่ร้านนี้ไหม ที่มีไอ้ที่เรียกว่าไข่มุกอะไรนั้น" หลังจากลูกค้าคนแรกกลับไปไม่ถึง 10 นาที ลูกค้าคนที่สองและสามก็เดินเข้ามาในร้าน บอกว่าเห็นลูกค้าคนแรกซื้อเลยอยากลอง

"ใช่ค่ะ รับอะไรดีคะลูกค้า" ต่อจากนั้นก็มีลูกค้าทยอยออกมาซื้อเรื่อยๆ

จนเมื่อเวลาเที่ยงวันพนักงานพักกลางวันก็พากันมารุมร้านของเรา ผมจึงให้ใบจดเมนูแล้วรอสักครู่ จะทำตามออเดอร์ของลูกค้าตามลำดับ

เมื่อหมดเวลาพักเที่ยงไปแล้ว จึงเห็นว่าน้ำชงของเราหมดเกือบทุกเมนูเหลือแค่กาแฟในโถอีกเล็กน้อยเท่านั้น ในเวลาบ่ายโมงกว่าๆ จากนั้นพวกเราจึงเริ่มเก็บร้านช่วยกันไปไว้หลังป้อมยามเหมือนเมื่อวาน

"แม่ค้า แม่ค้า แฮกๆ คือว่า" ลูกค้ามายืนหอบหลังจากวิ่งมาอย่างไวเหมือนรีบร้อนอะไรบางอย่าง

"ลูกค้าใจเย็นๆนะครับ"

"คือว่า น้ำหมดหรือยังค่ะ" ลูกค้าคนนั้นยืนหอบจนดีขึ้นแล้วถามประโยคนี้ขึ้นมา

"ตอนนี้ที่ร้านเหลือแค่กาแฟเท่านั้นครับ น่าจะได้อีกสองแก้วนะครับลูกค้ารับเลยไหม"

"พอดีเลย นายอำเภออยากลองชานมไข่มุกร้านคุณนะคะ ฉันเอาทั้งสองแก้วเลย" ถึงจะไม่ใช่ชานมแต่เป็นกาแฟก็ยังดี พวกเขากินกาแฟเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า สองแก้วนั้นจะเป็นหนทางในการทำเงินให้พวกเขาในอนาคตอย่างมั่งคั่ง

เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้าน เราต่างก็แยกย้ายผมไปอาบน้ำให้ร่างกายสบายตัว ส่วนแม่ก็ไปทำกับข้าวมาทานกันเป็นมื้อเที่ยง เลยเวลาไปกว่าสองชั่วโมง ไม่ได้เตรียมตัวว่าตอนเที่ยงลูกค้าจะมากันเยอะขนาดนี้ จนไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าว

"นันกินข้าวก่อนลูก" ผมเปลี่ยนชุดมานั่งตรงข้ามกับแม่ ผมเห็นท่านยิ้มตั้งแต่ขายน้ำได้แก้วแรก จนตอนนี้ท่านยังไม่หยุดยิ้มเลย คงมีความสุขที่หารายได้เข้าบ้านได้อีกทาง

"เหนื่อยไหมครับแม่"

"บอกไม่เหนื่อยก็คงโกหก แต่น้อยกว่าการทำนาอยู่ แค่นี้แม่ไหวอยู่แล้ว เมื่อก่อนแม่ก็เคยเป็นแม่ค้าร้านในโรงเรียนประถมตอนหนูเด็กๆ" แม่เล่าเรื่องสมัยก่อนแล้วยิ้มตาม พวกเราทานข้าวกันเรียบร้อยก่อนจะขึ้นไปบนบ้านเพื่อนับเงินก้อนแรก

โดยที่ผมทำการจดบันทึกไว้ว่า วันนี้ได้ทำการขายอะไรเท่าไหร่บ้าง พบว่าขายกาแฟไปได้กว่า 30 แก้ว ชานม 30 แก้ว นมเย็น 30 แก้วและโกโก้อีก 30 แก้ว โดยผมทำการตวงปริมาณแต่ละโถเท่าๆกัน เวลาคำนวณจะได้ง่ายแต่ก็ไม่คิดว่าจะขายได้ทั้งหมด โดยคำนวณแล้วจะได้เงิน 1200 บาท

"นัน นันลูกทั้งหมด 1200 บาท จริงใช่ไหมลูกหรือแม่นับผิดกัน เดี๋ยวลองนับไหมอีกครั้ง"

"แม่ครับ รอบที่สามแล้วนะครับ ถูกต้องแล้วละ ผมก็คำนวณได้เท่ากับแม่เลยครับ"

"แม่ไม่คิดเลยนะว่าขายน้ำแค่ครึ่งวันก็ได้ตั้ง 1,200 บาทเยอะมากเลยลูก"

"เพราะวันนี้มันแก้วละ 10 บาทไงครับแม่ พอพรุ่งนี้อาจจะลดจำนวนลงนะครับ เพราะราคาเราเพิ่มขึ้น" แม่เองก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว เรื่องจำนวนที่ลดลงเพราะราคาที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ต้องลองกันอีกสักตั้ง

***