ชายผู้หมดศรัทธาในการใช้ชีวิต โดนหลอกจากคนที่รักมานับสิบปี ชีวิตยิ่งดิ่งลงหลังจากผู้เป็นแม่ได้ตายจากเพราะโรคหัวใจโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้รำลา เจ้าหนี้ก็ตามรังควานจนตาย เขามีโอกาสย้อนอดีตกลับมาตอนม.4 เขาจะแก้ไขชีวิตสิ้นหวังได้หรือไม่

เปลี่ยนชะตาชีวิต - บทที่ 14 30เปอร์เซ็นต์ โดย crioA,] @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,ข้ามเวลา,ย้อนยุค,นิยายวาย,ดราม่า,ย้อนเวลา,BL,BoyLove,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เปลี่ยนชะตาชีวิต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,ข้ามเวลา,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,ดราม่า,ย้อนเวลา,BL,BoyLove

รายละเอียด

ชายผู้หมดศรัทธาในการใช้ชีวิต โดนหลอกจากคนที่รักมานับสิบปี ชีวิตยิ่งดิ่งลงหลังจากผู้เป็นแม่ได้ตายจากเพราะโรคหัวใจโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้รำลา เจ้าหนี้ก็ตามรังควานจนตาย เขามีโอกาสย้อนอดีตกลับมาตอนม.4 เขาจะแก้ไขชีวิตสิ้นหวังได้หรือไม่

ผู้แต่ง

crioA,]

เรื่องย่อ

"เมื่อไหร่พี่พายุจะบอกเรื่องของเราให้นันรู้สักที" เสียงหญิงสาวคุ้นหูทำให้นันที่อยู่ในบทสนทนาใจกระตุก หากได้ยินประโยคนี้ที่อื่นอาจจะเป็นความเข้าใจผิดได้ แต่นี้มันคอนโดที่นันและแฟนเช่าอยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้ว


"วิพี่ทำแบบนั้นไม่ได้ พี่กับนันคบกันมา 10 ปีแล้วนะ วิเองก็รู้" และเสียงที่ตอบโต้ก็เป็นเสียงของแฟนตัวเองที่คบกันมา 10 ปีแล้ว 

"พี่พายุจะรอให้ลูกโตก่อนหรือยังไงถึงจะยอมเลิกกับมันสักที"

"ไม่ใช่แบบนั้น..."

และนี้คือรักสิบปีและเพื่อนรัก15ปี มันจบแล้วสินะ



ในตอนที่กำลังยืนร้องไห้อยู่ก็มีเสียงเดินตามหลังมา นันคิดแค่ว่าอาจจะมีคนมายืนรอรถประจำทางเหมือนกันแต่แล้วก็คิดผิด เพราะคนกลุ่มนั้นคือเจ้าหนี้ที่ตามมาถึงที่นี้ นันพยายามเดินหนี้ก่อนจะวิ่งเร็วขึ้น เร็วขึ้น

เอี๊ยดดดดดด...

โครม!!!!

""



"ปวดหัวจัง เราตายแล้วนิ หรือยังไม่ตาย" นันมองไปรอบข้างเห็นเพียงห้องพักที่มีเตียงพยาบาลสองเตียง ภายในห้องดูเก่าบ่งบอกการใช้งานของห้องมานานนับปี 

"ที่นี่มัน..." ห้องพยาบาลของโรงเรียนมัธยมปลายของเขานี่

***

จะเกิดอะไรขึ้นหากคนหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง 


สารบัญ

เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่1 ความสิ้นหวังขั้นสุด,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 2 กลับมาอีกครั้ง,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 3 เงินที่หายไป,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 4 หนูน้อยหัวกลม,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 5 เรื่องจะเกิดมันก็ต้องเกิด,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 6 ป้าจวนได้ค่ากับข้าว,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 7 ชานมไข่มุก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 8 เงินก้อนแรก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 9 ออเดอร์ใหญ่ครั้งแรก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 10 ผมอยากลาออกจากโรงเรียน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 11 ลูกจ้างคนแรก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 12 ลาออก,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 13 ร้านใหม่,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 14 30เปอร์เซ็นต์,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 15 ผู้ช่วยของแม่,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 16 ครอบครัว,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 17 เว็บไซต์ขายร้านมินิ,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 18 ความรวยกำลังมา,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 19 สมาชิกใหม่,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 20 โรงงานทำชานมไข่มุกสำเร็จ,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 21 ช่วยแม่เพื่อน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 22 รับคนงานเพิ่ม,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 23 แบ่งที่ดิน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 24 รับลูกบุญธรรมและซื้อที่ดิน,เปลี่ยนชะตาชีวิต-บทที่ 25 ได้สาขาแรกที่กรุงเทพฯ

เนื้อหา

บทที่ 14 30เปอร์เซ็นต์

เมื่อร้านติดตั้งเรียบร้อย ผมตั้งใจที่จะเดินไปที่ป้อมยาม เพื่อติดต่อเรื่องต่อสายไฟจากป้อมมาที่ร้าน แต่กลับถูกหยุดด้วยมือของช่าง ที่เป็นคนทำร้านนี้ให้ผม

"คือว่า ผมอยากจะคุยเรื่องแบบร้าน ที่คุณนันให้กับทางร้านไว้นะครับ"

"ครับ"

"คือผมเห็นแบบร้านหลังนี้แล้ว เกิดความคิดอยากจะทำร้านสำเร็จรูปขายในอำเภอและต่างจังหวัด เพียงแต่ว่าแบบที่ใช้ทำในครั้งนี้เป็นของคุณนัน ทางผมไม่สามารถที่จะนำไปใช้ได้ ต้องขออนุญาตเจ้าของแบบเสียก่อน ผมจึงตัดสินใจอยากจะขอความร่วมมือ กับทางคุณนันนะครับ" ช่างใหญ่ที่พูดเปิดเรื่องนี้ขึ้น เพราะที่ร้านของเขามีลูกน้องอยู่เป็นจำนวนมาก ทุกครั้งจะติดต่อสร้างบ้านให้ลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้าน เพียงแต่ทุกวันนี้มีการสร้างบ้านด้วยปูนเพิ่มมากขึ้น บ้านไม้แทบจะน้อยคนแล้ว

เมื่อตอนที่ลูกค้าเข้าไปติดต่อ สั่งสร้างร้านกาแฟหลังนี้ ช่างใหญ่เป็นคนที่พูดคุยและตกลงกับลูกค้ารายนี้ โดยที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกค้าบอกให้ทำ เขาเป็นช่างไม้สร้างบ้านมากี่หลัง ก็ไม่เคยคิดเรื่องที่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างสำเร็จรูป ที่ทำแล้วเสร็จก่อนจะยกไปติดตั้งให้ลูกค้าได้เลย จนเมื่อมาฟังแนวความคิดจากลูกค้าท่านนี้

โดยลูกค้าบอกว่านำไม้ที่ต้องการใช้ และบอกลักษณะไม้ที่ใช้ในแต่ละส่วนให้ความรู้กับพวกเราที่เป็นช่างไม้ ที่เคยแค่ได้ยินได้ฟังมาเท่านั้นว่าสมัยนี้มีไม้ที่เรียกว่าไม้อัด ปกติไม้ที่พวกเราใช้ก็เป็นไม้ที่ตัดจากต้นไม้ใหญ่ของชาวบ้าน และนี้คือเหตุผลว่าทำไมถึงอยากขอความร่วมมือกับทางลูกค้า พวกเขาไม่รู้จักสถานที่ในการติดต่อซื้อขายไม้อัดนี้ ถ้าจะขอที่อยู่จากลูกค้าก็ได้แต่มันก็เป็นการเอาเปรียบลูกค้าท่านนี้มากเกินไป

ตั้งแต่ที่พวกเขาได้รู้จักการสร้าง สิ่งปลูกสร้างขนาดเล็กโดยใช้ไม้อัดจากลูกค้าท่านนี้ ตอนแรกคิดว่าเด็กแค่มาสั่งเล่นๆ แต่พอเขาเห็นรถกระบะที่มาส่งไม้อัด ถึงหน้าร้านของเขาถึงจะเชื่อว่าเด็กคนนี้เอาจริง และยิ่งได้เริ่มลงมือสร้างร้านกาแฟของลูกค้าจนเป็นรูปเป็นร่าง จากเรียกลูกค้าก็เรียกคุณนันแทน

"ช่างใหญ่กำลังจะบอกว่าอยากจะสร้างร้านกาแฟสำเร็จรูป แบบร้านผมออกขายใช่ไหมครับ" ช่างใหญ่พยักหน้ารับคำ "และต้องการแบบจากมือของผม โดยจะตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายที่ได้จากแต่ละหลังหรือครับ" ช่างใหญ่ที่ได้ยินดังนั้นก็ลังเลที่จะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะความจริงเขาแค่ซื้อแบบจากอีกคนก็ได้ แต่เพราะเงื่อนไขต่อไปที่ต้องการจากนันจึงทำให้เขาลังเลที่จะตอบ

"เอาแบบนี้ดีกว่าครับ เราไปนั่งในร้านกันก่อนดีกว่าไหมครับ" ช่างใหญ่เดินเข้าไปนั่งในร้านรอผม ทางผมจึงเดินไปที่ร้านของตัวเองเพื่อทำชานมไข่มุก มาให้ช่างใหญ่พร้อมพนักงานที่มาส่ง ผมถือแก้วกาแฟที่มีไข่มุกมาด้วยก่อนจะวางมันที่ตรงหน้าของช่างใหญ่ ก่อนจะบอกให้ลองชิมในระหว่างพูดคุย

"ช่างใหญ่ลองเสนอเงื่อนไขในการร่วมงานกันในครั้งนี้มาได้เลยครับ ผมคิดว่าคงไม่ใช่แค่แบบที่คุณต้องการจากผม ถูกต้องไหมครับ" ช่างใหญ่กลืนกาแฟแทบไม่ทัน เพราะเขาเกือบสำลักด้วยการเจรจากับคนตรงหน้า จะว่าเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมาก็ได้ หรือจะบอกว่าเป็นคนทันคนดีละ หากเป็นคนอื่นคงรีบตอบรับขอเสนอแรก โดยที่ไม่ถามเงื่อนไขไปแล้ว เพราะแค่ขายแบบให้ก็ได้ส่วนแบ่งจากยอดขายของร้านสำเร็จรูปนี้

"ผมคิดว่าการที่จะซื้อแบบมาจากคุณนันอย่างเดียวก็คงได้ แต่เมื่อคิดอีกอย่างคุณนันขายแบบให้ผมได้ ย่อมขายให้ที่อื่นได้เช่นกัน มันจะดีกว่าถ้าคุณร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทางเรา คุณจะได้ไม่ขายแบบให้คนอื่นใช่ไหมล่ะครับ อีกอย่างทางผมเองต้องยอมรับแต่โดยดี ว่าการใช้ไม่อัดเนื้อแข็งมาทำหลังคาและฝ่ามันเป็นวิธีที่ดี เพียงแต่ทางเราไม่ได้รู้จักแหล่งซื้อขายหรือโรงงานใดๆ หากคุณนันร่วมมือกับทางผม ผมให้ 30 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายต่อหลัง แลกกับแบบร้านและเป็นตัวแทนซื้อขายไม้อัดจากโรงงานนี้" ผมคิดตามที่ช่างใหญ่เสนอมา ตัวผมเองไม่ได้เสียหายอะไรเลย เพียงแค่ใช้ความสามารถในการเขียนแบบที่เคยเรียนมา และเป็นตัวแทนต้องไปติดต่อซื้อขายไม้อัดจากโรงงานที่รู้จัก

"ถ้าผมตกลง ช่างใหญ่จะต้องมีเอกสารสัญญาเป็นหลักฐานชัดเจน เพื่อให้ผมและช่างใหญ่เก็บไว้อย่างละฉบับ ตกลงไหมครับ" ช่างใหญ่ที่ได้ยินก็ยิ้มรับทันที และบอกว่าจะนำสัญญามาในวันพรุ่งนี้ ส่วนผมก็จะนำแบบร้านมาให้ช่างใหญ่พิจารณาอีก 3 แบบในวันพรุ่งนี้เช่นกัน จากนั้นเราก็แยกย้าย ผมเองก็เดินไปช่วยน้าหวานและแม่ขายของต่อ

"ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหมลูก" แม่หยุดงานในมือก่อนจะถามผมเมื่อผมเดินมาถึง

"ครับแม่ ติดตั้งทุกอย่างเรียบร้อยดี วันจันทร์เราก็พร้อมเปิดได้เลย ไว้เลิกงานแล้วก็นำของเข้าร้านใหม่ได้เลยครับ" ด้วยความที่ผมได้พาแม่ไปดูร้านที่สั่งทำที่บ้านช่างใหญ่แล้ว ท่านจึงไม่ได้ตกใจหรือตื่นเต้นกับร้านกาแฟเท่าไหร่นัก แต่ในใจก็คงจะดีใจแหละ ไม่คิดว่าจะมาได้ไกลขนาดมีร้านเป็นของตนเอง ในระยะเวลาอันสั้น

"อย่างนี้เราต้องทำป้ายบอกลูกค้าแล้วนะ เดี๋ยวมาไม่เจอ" น้าหวานพูดขึ้นเรื่องที่ตั้งร้าน ถ้าวันจันทร์มาไม่เจอคงตกใจกันหมด

"อย่างนั้นผมทำให้ ไว้มาติดบอกตอนเลิกแล้วกันครับ ยังไงเราต้องขายที่นี่พรุ่งนี้อีกวันระหว่างนี้เราก็บอกลูกค้าที่มาซื้อวันนี้ไปก่อนนะครับ" ผมช่วยน้าหวานตักน้ำแข็ง และคิดว่าเลิกงานจะไปหาซื้อกระดาษมาทำป้ายบอกเรื่องร้านใหม่

"ดีจังนะดาว มีลูกชายเก่งๆแบบนี้ ดูสิมีร้านเป็นของตัวเองแล้ว เก่งมากๆเลยนะ" น้าหวานที่ชมผมไม่หยุด ตั้งแต่แกทำงานให้ที่บ้านของผม แกก็เลิกคิดเรื่องไปทำงานในกรุงเทพฯอีกเลย แกบอกอยู่ที่บ้านมีงานทำแถมมีที่พักไม่เสียเงินเลยด้วย จะไปในกรุงเทพฯให้เสียค่าเช่าแล้วยังค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมาก เงินเก็บคงไม่เหลือ

"ร้านเล็กเองครับ"

"ถึงจะเล็กก็ยังเป็นร้านนะ ดูลูกบ้านอื่นสิอายุเท่าเรายังเรียนอยู่เลย เอ่อคือ น้าขอโทษนะนัน" แล้วน้าหวานแกก็เงียบลง แกกลัวว่าเรื่องที่ผมไม่เรียนแล้วจะเป็นปมกับผม ไม่อยากให้ผมคิดมากเลยหยุดพูดทันที

"ไม่เป็นไรหรอก นันมันไม่คิดมาก เรื่องเรียนเดี๋ยวนันมันก็กลับไปเรียนแล้วละ"

"งั้นหรอ ดีเลย น้าเห็นเกรดนันสูงขนาดนั้น ถ้าไม่เรียนต่อเสียดายแย่เลย ลูกค้ามาพอดี รับอะไรดีคะ" น้าหวานแกก็ไปรับลูกค้าต่อ โดยที่ผมเองก็หันไปยิ้มกับแม่ ก็ผมไม่ได้คิดมากจริงๆ นี้ครับ

ในวันนี้โรงเรียนเก่าของนัน เหมือนว่าจะปล่อยเด็กกลับตั้งแต่เที่ยงเพราะมีครูติดประชุมทั้งโรงเรียน วิที่มากับกลุ่มเพื่อนโดยมีสรเป็นแกนนำเพื่อจะได้มาซื้อชานมไข่มุกร้านดังในช่วงนี้ สรเธอได้ลองชานมไข่มุกร้านนี้แล้ว แต่เป็นแม่ที่ซื้อมาให้ วันนี้พวกเธอไม่ได้เข้าเรียนตอนบ่ายจึงพากันออกมาก่อนเวลารถรับส่งมารับหน้าโรงเรียน พากันมาซื้อชานมให้ได้

"นั่นไงร้านที่มีคนต่อแถวกันเยอะๆ เห็นว่าขายไม่ถึงบ่ายโมงก็หมดแล้ว ได้ยินว่าเขาจำกัดการขายอยู่ที่วันละ 150 แก้วเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย หวังว่าเรามาตอนนี้จะยังเหลือให้พวกเราซื้อบ้างนะ ไปกันไปต่อแถว" สรลากแขนวิให้ไปต่อแถวรอซื้อ แต่แล้วเมื่อมองไปที่เมนูเลยไปอีกกลับพบเข้ากับศัตรูที่ได้ยินว่า ลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่วันที่พวกเธอเห็นที่ห้องธุรการแล้ว

"ไม่น่าละมาเป็นลูกจ้างร้านนี้เองถึงได้ลาออกจากโรงเรียน ไม่งั้นเจ้าของร้านไหนเขาจะรับเข้าทำงานกัน เห็นว่าเรียนเก่งหน่อยทำเป็นหยิ่ง แต่ถ้าไม่มีเงินจะเรียนต่อได้ไง สงสัยจะไม่มีเงินจริงๆ ถึงต้องออกมาทำงานแบบนี้" วิพูดขึ้นก่อนที่จะกอดอกมองไปที่อดีตเพื่อนอย่างนัน

"วิ แกหมายถึงใคร" สรถาม

“นู่นไง ลูกจ้างร้านนี้ไม่ใช่หรอ" สรมองตามสายตาเพื่อนก็เจอเข้ากับนันที่กำลังช่วยรับออเดอร์และคิดเงินไม่หยุด

***