"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รถม้าวิ่งคันหนึ่งวิ่งด้วยความรวดเร็วจนฝุ่นตลบอบอวลตลอดทาง เส้นทางที่รถม้าคันนี้มุ่งไปค่อยๆ ออกห่างจากตัวอาณาจักรขึ้นเรื่อยๆ
“ช่วยเร่งความเร็วหน่อยได้ไหม?”
“ได้เลยขอรับ”
คนขับรถม้ากระตุกเชือกเร่งความเร่งความเร็ว จนทำให้ม้าร้องออกมาเสียงดังลั่น
เพื่อจะตามเจ้านั้นให้ทันต้องเร่งให้เร็วมากกว่านี้อีก คนที่จะได้เป็นผู้กล้าต้องมีฉันคนเดียวเพียงเท่านั้น
รถม้าวิ่งมาได้สักพักก็เริ่มเข้าเขตชายแดนของอาณาจักรแล้ว หลังจากนี้คงต้องแล้วเดินทางด้วยเท้าต่อด้วยตัวเอง
คนขับรถม้าพยักหน้าให้สัญญาณ
จากนั้นรถม้าก็ค่อยๆ หยุดลง ผมกระโดดลงรถม้าแล้วให้เงินสองเหรียญทองกัน
“เอานี่… ไม่ต้องทอน”
คนขับรถม้ารับเงินด้วยความลนลาน เหมือนกับว่าไม่เคยสัมผัสกับเหรียญทองมาก่อน
“…ขอบคุณมากขอรับ”
เอาหันหลังเตรียมมุ่งหน้าออกเดินทางด้วยตัวเอง ต่อ เจ้าสามัญชนนั้นคงไม่มีเงินพอจ้างรถม้าความเร็วสูงแบบนี้สินะ ป่านนี้คงวิ่งจนเหนื่อยแทบต่างอยู่ละมั้ง
ผมก็มุ่งหน้าไปสู่ไปสู่เขตแดนปีศาจ แต่ก่อนจะที่จะผ่านเขตแดนปีศาจระหว่างทางคงจะเจอมอนเตอร์บ้าง คงต้องระวังตัวไว้บ้างสินะ
หลังจากออกเดินทางได้สักพัก ตอนนี้ก็ถึงป่าแถวๆ เขตชายแดนแล้ว ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีหมู่บ้านอยู่
ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว คงต้องขอพักที่นั่นสักคืนก่อน แล้วค่อยออกเดินทางเข้าในวันพรุ่งนี้
“ช่วยด้วย…!”
พอคิดอยู่อย่างนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกร้องดังลั่นขึ้นมากลางป่า เป็นเสียงที่ได้ยินแล้วทำเอารู้สึกตื่นเต้นไปเลย
โอกาสที่จะได้เปิดตัวในฐานะผู้กล้ามาถึงเร็วกว่าที่คิดเสียอีก ถึงตอนนี้ยังไม่ได้เป็นเพราะมีเจ้าสามัญชนนั้นคอยขวางหูขวางตาอยู่ก็ตาม
“เอาล่ะ…”
ผมออกวิ่งตามทิศทางของเสียงที่ได้ยิน
วิ่งเข้ามาสักพักก็พบเจอกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ กำลังวิ่งมาทางของผมด้วยความรีบร้อน
เธอวิ่งมาอย่างไม่ระมัดระวังจนสะดุดเข้ากับก้อนหินจนล้ม ขณะที่เธอกำลังล้มผมเข้าไปรับตัวเองไว้ได้ทัน
“นี่ยัยสิ่งมีชีวิตตัวน้อย เธอไม่เป็นอะไรนะ!?”
เธอมีสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก คงเพราะพบเจอกับอันตรายอะไรบางอย่างมาเป็นแน่แท้
เธอเหลือบมองไปที่ดาบที่ห้อยไว้ที่เอวของผมแล้วก็ยิ้มทั้งน้ำตาออกมา
“พวกมันกำลังตามมา ท่านอัศวินได้โปรดช่วยพวกเราด้วย”
หาอัศวินอย่างนั้นเหรอ เพียงแค่เธอเห็นดาบก็มองฉันเป็นอัศวินแล้วงั้นหรือ เธอคงไม่เข้าใจอะไรเลยสินะ
“ท่านอัศวิ…”
เธอยังพูดไม่จบผมรีบเอานิ้วปิดไว้ที่ริมฝีปากของเธอก่อน
“จุจุจุ… ฉันไม่ใช่อัศวินนะ ฉันนี้แหละผู้กล้า”
เธอได้แต่ทำสีหน้างุนงง
“งั้นสินะ เธอคงอยู่แถบชายแดนคงจะไม่รู้ประกาศสินะ ว่าฉันนี่เแหละคือผู้กล้า”
ทันทีที่พูดอย่างเหล่ามอนเตอร์ก็วิ่งตามมาทันแล้ว ทำให้เด็กคนนี้ทำหน้าหวาดกลัวอีกครั้ง
“คงจะต้องพิสูจน์ให้เห็นสินะ เธอถึงจะเข้าใจ อย่างนั้นก็ได้เลย…”
ผมดึงดาบออกมาจากฝักพร้อมตั้งท่าเตรียมปะทะกับฝูงมอนเตอร์
มอนเตอร์พวกนั้นมีรูปร่างเหมือนสัตว์เลี้อยคลานที่ยืนได้สองขามีลิ้นสองแฉกมีหางยาว พวกมันถือหอกด้ามยาวเป็นอาวุธพวกมันคือฝูงลิซาร์ดประมาณสิบตัว
“เข้ามาเลยเจ้าพวกกิ้งก่าลิ้นสองแฉก!!”
พวกมันกรูกันเข้าถือหอกพุ่งเข้าแทงตรงเข้าใจ
ผมหมุนตัวกระโดดหลบโดยทันทีพร้อมกับตวัดดาบลงกับพื้นผ่านร่างของลิซาร์ดตัวแรกขาดครึ่งจนเลือกพุ่งกระฉูดไปทั่ว
ลิซาร์ดตัวอื่นร้องลั่นพร้อมพุ่งเข้ามาเรียงกันสองตัวคงคิดจะใช้วิธีประสานงานกัน ปลายหอยตัวแรกกำลังพุ่งเข้า
ผมกระโดดหมุนตัวเตะปลายหอกเบี่ยงเบนออกไป ปลายหอกเข้าแทงลิซาร์ดตัวที่สองที่กำลังวิ่งเข้ามาจนทะลุตายในทันที
ลิซาร์ดตัวแรกที่เห็นอย่างนั้นก็คำรามออกมาลั่นจนหูแทบแตก
(ชิ!หนวกหูจริง)
มันตวัดกรงเล็กของมันพุ่งเข้ามาหวังหั่นที่คอผม ผมเอียงคอหลบได้แบบเฉียดฉิว กรงเล็บของมันเคลื่อนผ่านไปคัดปลายผมออกไปสองสามเส้น
ผมตวัดดาบตัดแขนมันไปออกไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่หยุดยังคงง้างแขนอีกข้างขึ้นมา ขณะที่แขนมันยังยกแขนขึ้นมาไม่สุด แขนของมันก็หลุดออกเสียก่อนเพราะผมตัดมันตั้งแต่ดาบที่แล้ว
แม้จะไม่เหลือแขนให้ต่อสู้แค่มันก็ยังแยกเขี้ยวกระโดดพุ่งเข้ามาอยู่ ผมตวัดดาบหั่นคอเจ้าลิซาร์ดนั้นจนกระเด็นไปทางของพวกมันที่เหลือ
พวกลิซาร์ดที่เหลือมองไปดูที่หัวเพื่อนตัวเองก็ตัวสั่นหวาดกลัว แต่ทันทีที่ละสายตาไปปลายดาบก็พุ่งเข้าแทงหาตัวแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว ดาบพุ่งทะลุตัวที่หนึ่งทะลุถึงตัวที่สองจนพุ่งไปหยุดที่ต้นไม้
ผมดึงดาบของสลัดคราบเลือดที่ปลายดาบทิ้งไป ลิซาร์ดอีกสี่ตัวที่เห็นอย่างนั้นก็กลัวจนทิ้งหอกแล้ววิ่งหนีไป
“แน่จริงอย่าหนีสิ!”
ผมตะโกนเสียงดังพร้อมกำลังจะออกตัววิ่งตาม
เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงความเป็นผู้กล้าให้เด็กนั่นดู จะยอมปล่อยให้พวกมันหนีไม่ได้ต้องกำจัดให้หมด
“กรี๊ด…!!!”
ทันทีที่คิดอย่างนั้นก็มีเสียงเด็กร้องออกมาจากทางด้านหลัง
(แย่แล้ว)
ลืมสังเกตไปเลยว่าพวกมันอีกตัวหายไปไหน
พอหันหลังกลับไปเห็นลิซาร์ดอีกตัวกำลังง้างกรงเล็บ พุ่งเข้าหาเด็กที่กำลังนั่งตัวสั่นกลัวอยู่ วิ่งไปคงไม่ทันกาล,ไม่ทันการณ์ถ้าอย่างนั้น…
ผมยกมือขึ้นมาดึงพลังเวทย์จากร่างกายขึ้นสู่มือ
“ไฟเยอร์บอล!”
ลูกบอลเพลิงพุ่งออกจากมืออย่างรวดเร็ว ตรงไปทางลิซาร์ดที่กรงเล็บเกือบจะถึงหัวของเด็กแล้ว
บอลเพลิงพุ่งโดนมันจนกระเด็นออกไปห่างจากเด็กไม่กี่ก้าว พร้อมกับระเบิดออกจนเศษเนื้อและเศษเลือดก็เด็นโดนตัวเด็กน้อย
เด็กน้อยลูบคราบเลือดเหนียวๆ จากที่หน้าของตัวเองขึ้นมาดู
“กรี๊ด…!”
เธอร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
เกือบไปแล้วพยานคนที่จะคอยบอกเล่าผลงานของผมดันตกอยู่ในอันตรายเสียได้ เกือบไม่มีคนไปบอกเล่าวีรกรรมผู้กล้าของผมเสียแล้ว
“เป็นอะไรหรือเปล่ายัยหนู?”
เด็กน้อยยังคงตัวสั่นกลัวพลางสะอื้นอยู่
(เอ๋…)
ผมยื่นมือเข้าไปหวังลูบหัวปลอบใจเธอ แต่เธอดันตัวสั่นหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
“แง…!!!”
อยู่ๆ เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
อะไรกันผมทำอะไรผิดกันนะไม่เห็นเข้าใจเลย ผมนึกว่าจะช่วยเธอได้อย่างงดงามแล้วแท้ๆ
หลังจากนั้นผมก็ผมก็ปลอบเธออยู่นานจนกว่าเธอจะหยุดร้องไห้
.
.
.
ผมเดินต่อเข้ามาในป่าลึกเข้าสู่เขตแดนของพวกลิซาร์ด ตอนนี้ก็เริ่มมืดค่ำแล้วยิ่งสร้างความอันตรายอีกด้วย แต่ว่าจะให้ทำยังไงได้มันเป็นสิ่งที่ผู้กล้าต้องทำล่ะนะ
จากคำเล่าของเด็กผู้หญิงคนนั้นบอกว่าคนจากหมู่บ้านเธอถูกพวกลิซาร์ดจับมาไว้ในถ้ำ คงต้องช่วยคนเหล่านั้นให้ได้สินะเพื่อที่จะได้เป็นผู้กล้า..
จริงๆ ก็แค่ให้เด็กนั้นไม่ร้องไห้ก็พอแล้ว
ผมเดินเข้ามาได้ก็ได้ยินเสียงคำรามพูดคุยกันของพวกมอนเตอร์ จึงหลบเข้าในพุ่มไม้พยายามส่องดูจากทิศทางของเสียง
พบเจอลิซาร์ดสองตัวทำท่าทางเหมือนกับกำลังมีปากเสียงกันอยู่ คงจะเป็นนิสัยของพวกนี้ล่ะมั้ง เบื้องหลังของพวกมันเป็นปากถ้ำขนาดใหญ่ คงจะเป็นถ้ำที่พวกมันจับชาวบ้านมาขังไว้เป็นแน่
ในที่สุดก็เจอแล้ว
ก่อนอื่นคงต้องจัดการเจ้าสองตัวหน้าทางเข้านี้ก่อน ผมหยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วโยนไปด้านหลังของตัวเอง ทันทีที่ก้อนหินกระทบพื้นพวกมันสองตัวก็ตื่นตัวในทันที ประสาทสัมผัสของมันน่าเหลือเชื่อ
มันพยักหน้าให้กันแล้วจับหอกตั้งท่าต่อสู้เดินเข้ามาทางที่ผมอยู่ ค่อยๆ เข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนถึงมันกำลังเดินผ่านพงหญ้าที่ผมหลบอยู่ จากนั้นผมจึงหยิบดาบสั้นที่เอวออกมากระโดดจากพงหญ้าโจมตีมันจากทางด้านหลัง กระโดดเข้าที่กอดคอจากนั้นใช้มีดแทงที่คออย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้มันส่งเสียง
ลิซาร์ดอีกตัวหันกลับพร้อมกับท่าทีดูตื่นตัว มันพยายามจะร้องเรียกพวกของมันแต่เสียงกลับไม่ออกมา พอมันรู้สึกตัวก็รู้ว่าตอนนี้ดาบสั้นปักอยู่ที่คอของมันแล้ว เป็นดาบที่ผมปาใส่มันเอง
ผมลากซากของพวกลิซาร์ดซ้อนไว้ในพงหญ้าป้องกัน พวกมันตื่นตัวถ้ามีตัวไหนมาเห็นเข้า ถ้ามันกรูกันเข้ามาเป็นฝูงผมเองก็คงรับมือได้ยากพอสมควร
“เท่านี้ก็เรียบร้อย ที่เหลือก็ต้องบุกเข้าไปช่วยพวกชาวบ้านสินะ”
ผมหยิบเข้าคบเพลิงของพวกลิซาร์ดที่หน้าทางเข้า เตรียมพร้อมที่จะลุยบุกถล่มพวกมันแล้ว การบุกครั้งนี้คงต้องระมัดระวังด้วยความมืดภายในและความชำนาญพื้นที่ของศัตรูคงจะสู้ได้อย่างยากลำบาก
“ฮึบ.. เอาล่ะนะไปลุยกันเลย”
จากนั้นผมก็เดินเข้าถ้ำไป..