"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หลังจากที่พวกเรากลับถึงหมู่บ้านแล้ว ชาวบ้านทุกคนต้อนรับเราเป็นอย่าง มีทั้งที่พักและอาหารให้เพื่อตอบแทนพวกเรา
แต่ดูเหมือนว่าจะที่หมู่บ้านนี้จะไม่ใหญ่มากจึงมีห้องว่างเหลือให้พักเพียงห้องเดียวเท่านั้น ต้องมาพักห้องเดียวกันสองคนส่วนตัวแล้วผมไม่ได้มีปัญหาอะไร ไรลีย์ดูเหมือนจะอยากได้ห้องแยกมากกว่า แต่เมื่อดูสภาพของหมู่บ้านแล้วก็พูดอะไรมมากไม่ได้
คงต้องยอมแต่โดยดี
"นี่… จะไม่เปลี่ยนเสื้อจริงๆ เหรอ"
"ไม่! ฉันไม่เปลี่ยนหรอก"
ผมหันไปพูดคุยกับไรลีย์ที่ทำหน้าหงิกหน้างออยู่ เห็นว่าไม่ค่อยพอใจที่ต้องมาพักอยู่ห้องเดียวกันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ผมถอดเสื้อที่เปื้อนไปด้วยโคลนและเหงื่อจากการต่อสู้ออก เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชาวบ้านเอามาให้
เสื้อผ้ามีอยู่สองชุดอันหนึ่งเป็นของผมอีกอันหนึ่งเป็นของไรลีย์ แต่ว่าชุดมันดูแปลกๆ ยังไงไม่รู้
"เอานี่ เปลี่ยนชุดซะ"
ผมหยิบชุดนั้นส่งให้ไรลีย์
ทำไมสีหน้าของเขาแดงเป็นลูกแอปเปิลแบบนั้นล่ะ แค่เปลี่ยนเสื้อมันดูน่าอับอายขนาดนั้นเลยหรือไงกัน
"จากนี้จะต้องเดินทางด้วยกันแล้วอย่าอายไปเลยน่า ถ้าแกยังเป็นคนสกปรกแบบนี้ฉันนอนด้วยไม่ได้หรอกนะ"
"หา! นายว่าใครสกปรกนะ"
"ก็แล้วใครนั่งเป็นหมาเน่าอยู่บนเตียงนั้นล่ะ"
"หน่อย… ไอ้เจ้าบ้า ตายไปซะ!!"
"โอ๊ย! อย่าโยนหมอนเล่นสิฟร่ะ ได้… จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม"
ผมหยิบหมอนที่ไรลีย์โยนมาใส่ผมพร้อมกับโยนกลับไปโดนหน้าเข้าเต็มๆ
"ไอ้เจ้าบ้า!"
ไรลีย์ฟาดหมอนเข้ามาด้วยความโกรธ ผมถอยหลังหลบมันได้หมดทุกครั้ง คนที่ขาบาดเจ็บอยู่การเคลื่อนไหวมันก็จะทื่อๆ แบบนี้แหละ
"อะไรกันๆ นักดาบผู้ปราบคิงลิซาร์ดได้ตอนนี้แค่โจมตีให้โดนยังทำไม่ได้เลยเหรอ"
"แน่จริงอย่าหลบสิ"
"ไม่หลบก็โง่แล้ว เหวอ…"
ยังพูดไม่จบผมก็โดนเตะที่ขาจนหงายหลังล้มลงกับพื้น ไรลีย์ก็ขึ้นมานั่งบนตัวผมน้ำหนักที่กดลงมาทำให้ผมลุกขึ้นไม่ได้
"ทำอย่างงี้มันขี้โกงนี้น่า ปล่อยฉันนะเว้ย"
ไรลีย์แสยะยิ้มออกมาพร้อมกับยกหมอนขึ้นไว้เหนือหัวเตรียมที่จะพาดลงมาอย่างสุดแรง ด้วยพละกำลังขนาดนั้นถึงจะเป็นแค่หมอนก็อาจจะทำให้สลบได้เหมือนกัน
"ยะ หยุดนะ!"
สิ้นเสียงตะโกนของผมประตูห้องก็เปิดออก มันเป็นวัฒนธรรมของที่นี้ล่ะมั้งถึงไม่ยอมเคาะประตูก่อนเปิด
"ท่านผู้มีพระคุณ ขออนุญาตค่ะ ตอนนี้งานเลี้ยงได้เตรียม…"
เด็กสาวคนเดิมที่ผมช่วยไว้เป็นคนเปิดประตูออกมา ภาพที่เธอเห็นคงจะเป็นภาพที่ไรลีย์กำลังนั่งคร่อมบนตัวของผมอยู่
จังหวะแย่สุดๆ ไปเลย
"แหม่ๆ หนูมาขัดจังหวะของทั้งสองคนเหรอคะ เดี๋ยวหนูมาเรียกอีกครั้งตอนที่ทั้งสองคนเสร็จกิจกันแล้วดีกว่าค่ะ"
เด็กน้อยพูดออกมาพร้อมกับยิ้มเยาะให้
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอกำลังเข้าใจผิด ต้องรีบทำความเข้าใจแล้วถ้าทั้งหมู่บ้านรู้คงมีหน้าไปเจอใครได้กันล่ะเนี้ย
"นี้ยัยหนูเธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ"
"เข้าใจผิดเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมพี่ชายถึงเปลือยอยู่ล่ะ"
"ไม่ใช่นะ เรายังไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเสียหน่อย ใช่ไหมไรลีย์บอกเธอไปสิ"
"ใช่แล้วล่ะ มันยังไม่เสร็จเสียหน่อย นายต้องโดนอีกรอบ ย่า…"
ไรลีย์ทุบหมอนลงมาอีกครั้ง ผมจับแขนทั้งสองข้างไว้ได้ทัน
"พูดอะไรกันเนี้ย ทำไมถึงพูดสองแง่สองง่ามแบบนั้นล่ะ"
"ปล่อยนะ!"
"เข้าใจค่ะๆ ถ้างั้นหนูไม่อยู่กวนแล้ว งานเลี้ยงเตรียมเรียบร้อยร้อย ถ้าพวกพี่ชายเสร็จกันแล้วก็ออกมาได้เลยค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ"
"ดะ เดี๋ยวสิ…!"
เด็กน้อยคนนั้นก็ปิดประตูแล้วจากออกไป ทิ้งผมให้ไว้อยู่กับไรลีย์เพียงสองคน
"ตายซ้าาา!"
ไรลีย์พาดหมอนลงกระแทกหัวของผมอย่างฉุนเฉียว จนหน้าจมลงไปจนมิด
.
.
.
บรรยากาศเริ่มหนาวเย็นในคืนที่มืดครึ้ม แต่กลับมีแสงสว่างระยิบระยับจากหมู่บ้านเล็กที่หนึ่งบริเวณชายแดนของอาณาจักร
ใจกลางหมู่บ้านมีกองไฟขนาดใหญ่ที่กำลังลุกไหม้อยู่ กองไฟรอบล้อมไปด้วยผู้คนที่มารวมตัวกันทั้งหมู่บ้าน
ชาวบ้านต่างนำอาหารมากินเลี้ยงฉลองเป็นจำนวนมาก อาหารมีทั้งเนื้อทั้งผักรวมไปถึงไวน์แบบชาวบ้านที่หมักไว้นานหลายปีสำหรับเลี้ยงฉลองโดยเฉพาะ
"ขอแสดงความขอบคุณแก่ผู้มีพระคุณต่อพวกเรา"
ชายสูงวัยที่ดูเหมือนน่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้านยืนอยู่ตรงหน้ากลุ่มชาวบ้าน เขาพูดพร้อมยกจอกไวน์ขึ้นมา
ชาวบ้านต่างยกจอกไวน์ขึ้นมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าทุกคนจะไวน์อยู่ในมือกันทุกคน รวมถึงเด็กน้อยคนนั้นด้วย พึ่งอายุแค่นี้ให้กินไวน์ได้แล้วเหรอ?
"ดื่มให้แก้ผู้มีพระคุณของพวกเรา!"
ชาวบ้านทุกคนต่างยกไวน์ขึ้นดื่ม แต่พอยัยเด็กนั้นยกไวน์ขึ้นดื่มแล้วก็มีสีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อไว์เข้าปากก็ทำสีหน้าขมขื่นหลับตาปี๋กันเลยทีเดียว
"แหวะ! ไม่อร่อยเลย”
“น่าสงสารจริงๆ เลยยัยหนู รสชาติของผู้ใหญ่มันก็แบบนี้แหละ”
ส่วนตัวผมก็ยกไวน์ที่มือขึ้นดื่มเช่นกัน รสชาติไวน์ไม่เลวถึงจะได้ไม่เท่ากับไวน์ชั้นดีที่เมืองหลวง แต่รสสัมผัสดูโดดเด่นสมกับเป็นไวน์สูตรเฉพาะของหมู่บ้านจริงๆ
“อืม สุดยอดเลยไวน์ของที่นี่ สมแล้วที่เป็นของดีประจำหมู่บ้าน ถ้าเอาไปขายที่เหมือนหลวงน่าจะได้ราคาดีทีเดียว”
“จริงเหรอคะ! แต่หนูว่ามันไม่เห็นอร่อยเลยอ่า”
เด็กน้อยทำสีหน้างุนงงพลางกับจ้องมองไปที่จอกไวน์อีกครึ่งที่ยังดื่มไม่หมดอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะพิธีที่ต้องกินให้หมดทั้งจอก เธอคงกำลังพยายามทำใจอยู่กับการกินส่วนที่เหลือ
“เอามานี่ ฉันกินให้เอง”
“อะ เอ๊ะ!”
ผมหยิบจอกแก้วของเด็กน้อยขึ้นมาพร้อมกับกระดกมันจนหมด พร้อมกับเสียง ‘อ้า’ ตบท้ายทำเอารู้สึกต่อมรับรสได้ทำงานอย่างเต็มที่ การได้ดื่มฉลองหลังจากทำงานมาอย่างหนักเป็นอะไรที่ดีจริงๆ
“เอาจอกของเธอคืนไป”
เมื่อคืนจอกให้เด็กน้อยแล้วเธอก็ยิ้มกว้างออกมา เธอคงจะฝืนใจตัวเองถ้าผมไม่ช่วยเธอดื่มมันไปก่อน
“ขอบคุณมากเลยค่ะ พี่ชาย”
“มันก็เป็นเรื่องปกติของผู้กล้าเขาทำกัน การช่วยคนยามยากลำบากมันเป็นหน้าที่ของฉันเอง”
“พี่ชายเป็นผู้กล้าจริงๆ เหรอคะ?”
ถามแบบนี้มาได้ไงฉันช่วยทั้งเธอทั้งหมู่บ้านของเธอไว้นะ ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นคนบ้าที่ไหนจะมาช่วยกันล่ะ
“แล้วล่ะยัยหนู ฉันนี้แหละตัวจริงเสียงจริงเลย…”
“เอ๋…”
เด็กน้อยเอียงคอด้วยความสงสัย พร้อมกับชี้นิ้วไปทางขอวไรลีย์ที่กำลังนั่งเพลิดเพลินกับมื้ออาหารที่ชาวบ้านนำมาให้อยู่
“แล้วพี่คนนั้นล่ะคะ? หนูฟังมาจากชาวบ้านได้ยินว่าพี่เขาจัดการศัตรูได้มากกว่าพี่ชายอีก จริงหรือเปล่าคะ?”
“หา… เธอไปฟังมาจากไหนล่ะเนี้ย!?”
อะไรกันล่ะเนี้ย ฉันเป็นคนเข้าไปช่วยในจังหวะสำคัญได้ก่อนนะ ทำไมฝั่งนั้นดูได้เคดิตมากกว่าได้กันล่ะ ต้องทำให้เด็กน้อยคนนี้เข้าใจสิ่งที่ถูกต้องสิ
ผมชะโงกหน้าเข้ากระซิบบอก
“นี่ยัยหนู… จริงๆ แล้วฉันน่ะรอจังวะสำคัญ คนที่จะเป็นฮีโร่น่ะมักมาช้าเสมอแหละ ฉันจึงต้องออกไปทีหลังยังไงล่ะ ออกไปเปิดตัวแบบเท่ๆ ยังไงล่ะ”
“อือ… มันดูไม่เหมือนพฤติกรรมของผู้กล้าเขาทำกันเลยนะคะ”
พอเด็กน้อยพูดอย่างนั้นผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นจากทางด้านหลัง พอหันหลังไปก็เห็นว่าไรลีย์กำลังยิ้มเยาะเดินเข้ามา
“ฮ่า ฮ่า ใช้แล้วหนูน้อย เจ้านี่มันก็แค่จอมฉวยโอกาสเพียงเท่านั้นแหละ”
“หา หมายความว่าไงฉันก็เข้าไปช่วยแกไว้จริงๆ ไม่ใช้เหรอ ลืมไปแล้วหรือยังไง”
“อะไร! คิดจะทวงบุญคุณงั้นเหรอ ฉันก็ช่วยนายไว้เหมือนกันนั่นแหละ คิดว่าฝีมือนายคนเดียวจะสามารถชนะคิงลิซาร์ดได้งั้นเหรอ!?”
“หน็อยแก… “
ผมกำหมัดแน่นตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดสุด ไม่รู้ว่าสาเหตุอันใดพอเวลาคุยกับไรลีย์ทีไรต้องทะเลาะกันเป็นทุกที แบบนี้การร่วมมือกันจะไปรอดหรือเปล่านะ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็…
"นี่ เอาแบบนี้เป็นไง หลังจากนี้เราจะต้องเดินทางด้วยกันแล้ว ถ้ายังขัดขากันอยู่แบบนี้คงจะเดินทางได้รำบาก มาเลือกดีกว่าใครจะ ‘ลูกพี่’ ดีกว่ากัน”
ไรลีย์ยิ้มออกมาสีหน้าดูแดงระเรื่อแล้วเขาคงดื่มไปเยอะเหมือนกัน
“น่าสนใจดีนิ แล้วจะเลือกยังไงล่ะ”
เลือกยังไงงั้นเหรอ? ผมมองไปรออบๆ เห็นชาวบ้านกำลังถึงถังหมักไวน์มาเติมอยู่ ปริมาณของมันมากพอที่จะเลี้ยงทั้งหมู่บ้านได้อย่างแน่นอน
“หึ หึ เอาแบบนี้เป็นไง ไวน์ถังนั้นดื่มมันจนหมด ใครดื่มหมดก่อนคนนั้นชนะ”
“หา!! ไวน์ถังใหญ่ขนาดนั้นใครจะไปกินหมดได้กันเหล่า คิดอะไรของนายเนี้ยอยากตายหรือไง!?”
ดูเหมือนไรลีย์ก็พอจจะรู้ตัวเองอยู่บ้างว่าตัวเองไม่น่าจะไหว ดูจากสีหน้าที่ตกใจแบบนี้แล้ว งานนี้เข้าทางเราเต็มๆ เลย
“ก็แล้วแต่ ถ้าอย่างนั้นก็เรียกฉันว่าลูกพี่ซะสิ”
“หน็อย… ถ้าแบบนั้นก็ได้ นี่! ยกถังนั้นมาฉันจะกินมันให้มันเลยคอยดูเถอะ”
ชาวบ้านต่างยกถังไวน์สองใบมาตั้งไว้ให้หน้าของพวกเราทั้งคู่ พอมองๆ ดูแล้วรู้สึกถังมันใหญ่ขึ้นหรือเปล่านะ หรือว่าจะมีใครแอบเปลี่ยนเอาถังใบใหญ่ออกมากันล่ะเนี้ย
“นี่ ทำไมถังมันดูใหญ่ๆ ล่ะ”
ผมหันไปถามชาวบ้านที่ยกถังมา
“ก็ถังปกติของหมูบ้านเรานะขอรับ”
ผมมองไปที่ยัยหนูนั้นเห็นเธอกับยิ้มชอบใจอยู่ ตอนนี้ผมก็คงเข้าใจแล้วล่ะว่านี่คงเป็นฝีมือของเธออย่างแน่นอน งานนี้จะรอดหรือเปล่านะตัวเรา
“ฮ่า ฮ่า นายกลัวงั้นเหรอ เป็นคนท้ามาเองดันปลอดแหกเสียได้ ถ้าอย่างนั้นฉันเริ่มก่อนเลยล่ะกัน”
ยังไม่ทันได้มีสั่งให้เริ่มไรลีย์ก็ยกถังไวน์ขนาดใหญ่ขึ้นดื่ม เขาเทไวน์เข้าปากดังเหมือนกับน้ำที่ไหลในแม่น้ำ พร้อมกับเสียงเชียร์ของชาวบ้านทั้งหมู่บ้านโดยรอบ ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก
แบบนี้คงถอยไม่ได้แล้วสินะ
ผมยกถังไวน์ขึ้นดื่มเช่นเดียวกัน ไวน์ไหลลงคอของผมดังกระแสน้ำ มันไหลลงผ่านคอไปถึงท้องอย่างไม่หยุด ไวน์ที่รสชาติดีเยี่ยมตอนนี้ผมรับรสมันไม่ได้เสียด้วยซ้ำจากปริมาณที่มากเกินไป
เสียงเฮดังขึ้นเมื่อไรลีย์พยายามเขย่าถังไวน์ให้มันออกมาเร็วขึ้น คงไม่ได้การแล้วถ้าปล่อยให้ไวน์ไหลช้าแบบนี้คงแพ้อย่างแน่นอน ผมจึงหมุนถังไวน์ให้ไวน์ที่ออกมาหมุนดังพายุ
ไวน์ไหลดังพายุวิ่งเข้าไปยังปากของผม ปริมาณของมันมากกว่าเดินจนยากจะกลืนไหว มีไวน์หกออกไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่เวลามาเสียดายแล้ว ตอนนี้หัวตื้นตันไปหมดได้แต่สงสัยเพียงอย่างเดียวว่าเมื่อไหร่มันจะหมดเพียงเท่านั้น
หลังจากนั้นภาพก็ดับไป พวกเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราทั้งสองคนดื่มมันจนหมดถังหรือเปล่า