"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผมลืมตาตื่นขึ้นเห็นเพดานที่ว่างเปล่า แสงแดดยามเช้าที่อบอุ่นส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งห้อง รู้สึกหัวตัวเองนั้นหนักๆ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด อย่างกับว่าผมเพิ่งตื่นจากการหลับใหลมาเป็นปีๆ
"โอ๊ย… ปวดหัวจังเลย"
คงเป็นอาการเมาค้างจากเมื่อคืนสินะ ไม่น่าไปท้าอะไรบ้าๆ กับเจ้านั้นเลย แล้วสรุปใครชนะกันนะไม่เห็นจะจำได้เลย คงดื่มกันไม่หมดแล้วร่วงกันไปทั้งคู่แน่ๆ เลย สุดท้ายแล้วก็ต้องมานอนมึนหัวอยู่บนเตียงแบบนี้
"ลุกไปล้างหน้าดีกว่า"
ผมเตรียมตัวที่จะลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ได้ว่ารับรู้ว่าเหมือนจะมีอะไรที่ฉุดรั้งแขนของผมไว้แน่นอยู่
" เอ๋! อะไรกันเนี้ย"
ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบริเวณแขน มันทั้งอบอุ่นทั้งยังมีสัมผัสที่นุ่มนวลความรู้สึกแบบนี้มันช่างคุ้นเคย มันนุ่มนวลราวกับอ้อมกอดของท่านแม่เลย
ผมเปิดผ้าห่มออกดูว่าอะไรกันแน่ที่เกาะแขนของผมอยู่
"หือ…"
สิ่งที่ผมเปิดเจอก็คือไรลีย์ที่นอนหลับอยู่ และกำลังกอดแขนของผมอย่างแนบแน่นกับอกของเขา ใบหน้าที่นุ่มนวลกำลังแนบชิดกับแขนของผม
ทำเอารู้สึกใจเต้นขึ้นมาแบบแปลกๆ
"นี่ ตื่นได้แล้ว กอดแน่นแบบนี้มันอึดอัดนะเฟ่ย"
ผมพยายามดึงแขนผม
"อือ…"
ไรลีย์ร้องเบาๆ ออกมาพร้อมกับดึงแขนของผมไปกอดแน่นยิ่งกว่าเดิม
อะไรกันเนี้ยเป็นลูกแมวขาดความอบอุ่นหรือไง แขนของฉันไม่ได้มีไว้นอนหนุนเล่นนะ
"ถ้าแกไม่ตื่นฉันจะหยิกแก้มของแกแล้วนะ เอ๊ะ…!"
"แฮก แฮก"
เสียงหายใจมันดังผิดปรกติ หน้าของไรลีย์แดงเหมือนกาต้มน้ำที่กำลังเดือด เมื่อลองเอามือจับที่หน้าผากก็รู้สึกถึงตัวที่ร้อนผ่าวของไรลีย์
ดูเหมือนว่าจะมีคนนอนจับไข้เสียแล้วสิ
หลังจากที่ผมรู้ว่าไรลีย์ดูเหมือนว่าจะไม่สบายผมจึงรีบออกไปตามหมอประจำของหมู่บ้านนี้มา
พอไปเรียกหมอมาเขาก็มาโดยทันทีโดยไม่รีรออะไรทั้งนั้น ดูเหมือนว่าคงเห็นเป็นผู้มีพระคุณของหมู่บ้านจึงรีบเต็มใจมาช่วยโดยทันที
หมอตรวจดูอาการของไรลีย์เป็นอย่างดี เขาให้ยาแก่ไรลีย์ไปหนึ่งขวด พร้อมกับเพิ่มยาถอนพิษรักษาบาดแผลที่ต้นขาเพิ่มเติมอีกขวด
“นี่หมอ เขาเป็นอะไรเหรอ ทำไมสภาพเป็นแบบนั้น คงไม่ตายไปก่อนหรอกใช่ไหม?”
หมอที่กำลังดึงผ้าพันแผลชุบกับยาถอนพิษพร้อมที่พันแผลของไรลีย์ ผ้าพันแผลแบบสะอาดเนื้อผ้าเบาบางคงจะดีกว่าของที่ผมใช้พันตอนนั้นเป็นแน่
“เธอมีไข้สูง คงจะเป็นเพราะพิษหลงเหลือนิดหน่อยและเธอยังดื่มมากไปเมื่อคืนจนร่างกายเลยอ่อนแอขอรับ”
“อย่างนั้นเหรอ คงไม่ได้เป็นอะไรมากสินะ”
“ไม่มากเท่าไหร่ อีกสักหน่อยเธอก็จะหายดีขอรับ”
อีกหน่อยก็จะหายดีแล้วสินะ เราจะได้ออกเดินทางกันต่อเสียที แต่ว่าทำไมเรียกไรลีย์ว่าเธอกันนะ..
หมอพันผ้าพันแผลจนเสร็จ ผ้าถูกเก็บเรียบร้อยเป็นอย่างดี ดูเหมือนทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยแล้วอีกหน่อยก็คงจะดีขึ้น
คงจะเป็นแบบนั้นสินะ
“เท่านี้ก็เสร็จแล้วใช่ไหมคุณหมอ?”
“ยังขอรับ”
ยังไม่เสร็จอีกเหรอต้องทำอะไรอีกหรือไง คงไม่ใช่จะพูดว่าเหลือแค่ฌาปนกิจเท่านั้นแหละ หมอเขาคงไม่เล่นมุกแบบนั้นใช่ไหม
“ยังเหลือที่ต้องเช็ดตัวให้เธอ ขาคงทำเรื่องแบบนั้นให้เธอไม่ได้ คงมีแต่สามีภรรยากันเท่านั้นที่ทำได้ ฝากเรื่องให้ท่านตัดการต่อด้วยขอรับ”
หมอเริ่มเก็บของและอุปกรณ์พร้อมกับเตรียมตัวที่จะกลับแล้ว
“หา… เช็ดตัวเนี้ยนะ เรื่องแค่นี้ทำไมได้งั้นเหรอ!?”
“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากท่านจัดการด้วย ผมต้องขอตัวก่อน”
หมอเดินเข้ามาตบบ่าแล้วก็เดินจากห้องออกไป ทิ้งให้ผมอยู่กับไรลีย์ที่นอนป่วยอยู่สองคน
"แค่เช็ดตัวเนี้ยนะ มันจะไปยากอะไร เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ คอยดูเถอะ!!"
ไปมองไปที่ถังน้ำกับผ้าที่หมอเตรียมมาให้เป็นอย่างดี คงต้องใช้ของพวกนี้ทำสินะ
จริงๆ แล้วตัวผมเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่เรื่องแค่นี้เองนับประสาแค่เมดในบ้านผมยังทำได้เลย ตอนที่ผมป่วยเมื่อสมัยเด็กก็มีคุณเมดสาวช่วยเช็ดตัวให้ตลอด
คราวนี้ก็คงต้องทำแบบเดียวกันสินะ
ผมมองไปที่ไรลีย์ที่กำลังนอนหายใจติดขัด สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หน้าแดงเหมือนอย่างกับว่ามีไอร้อนลอยขึ้นตรงหน้าเลย
"ถ้าอย่างนั้น คงต้องถอนเสื้อผ้าออกก่อนสินะ"
เท่าที่จำความได้เมื่อตอนเด็กคุณเมดก็ถอดเสื้อผ้าผมออกก่อนที่จะเช็ดตัว เอาล่ะทำตามนั้นเลยแล้วกัน
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียง ดึงแขนของไรลีย์ขึ้น กำลังที่ถอดชุดบางๆ ของเขาออกมา เป็นชุดที่ชาวบ้านให้มามันเบาบางและถอดได้ง่าย
"อือ…"
ขณะที่พยายามจะถอดชุดออกไรลีย์ก็ละเมอ พร้อมกับพลิกตัวเองไปนอนหน้าคว่ำลงหมอน
"อย่าดิ้นสิฟร่ะ เดี๋ยวก็มัดด้วยซะเลยนิ"
ถึงแม้ไรลีย์จะนอนคว่ำอยู่ผมก็ถอดเสื้อของเขาออกมาได้ เผยให้เห็นเอวที่บางเฉียบแผ่นหลังที่เล็กและผิวหนังที่เรียบเนียน มันเรียบเนียนจนทำให้ผมกลืนน้ำลายเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
อะไรกัน คิดอะไรของเราอยู่กันล่ะเนี้ย
"แล้วทำไมถึงมีผ้าพันรอบๆ อกอยู่อย่างนี้ล่ะ ยังมีบาดแผลที่บาดเจ็บอยู่อีกหรือไง? "
ผมไม่ได้สนใจกับผ้าพวกนั้นหรอกถ้ามันมีปัญหาอะไรหมอคงจะจัดการไปหมดแล้ว หันมาสนใจงานของตัวเองจะดีกว่า รีบๆ จัดการต่อให้เสร็จจะดีกว่า ส่วนที่เหลือก็ตะมีแค่.. ถอดกางเกงออก
พอมองไปที่กางเกงของไรลีย์ กางขาสั้นสีน้ำตาล ไม่รู้ว่าตัวมันเล็กไปหรือเปล่า มันรัดแน่นจนเผยให้เห็นสะโพกที่เรียบเนียนของไรลีย์อยากชัดเจน จนผมกลืนน้ำลายแบบไม่รู่ตัวไปอีกรอบ วันนี้ผมเป็นอะไรของผมกันนะรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เป็นวันที่รู้สึกแปลกๆ กันตัวเอง
"ฟู่…"
ผมถอนหายใจออกมา หอบเอาลมหายใจที่อัดแน่นอยู่ในอกออกมาด้วย ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย
ผมจับที่ขอบกางเกงของไรลีย์พร้อมกับดึงมันลงมา เผยให้เห็นชั้นในออกมานิดหน่อย
ผมก็ไม่ได้อยากดูมันมากหรอกนะจึงรีบดึงกางเกงลงมาโดยเร็ว
"กึก!"
"เอ๊ะ!"
ขณะที่กางเกงกำลังถูกรูดลงแต่ถูกหยุดไว้ด้วยมือไรลีย์ก่อนอย่างกะทันหัน มือของเขากำกางเกงของตัวเองไว้แน่นดังกับว่าขอตายดีกว่าปล่อยให้มันหลุดมือ
ไรลีย์ดูเหมือนจะรู้สึกตัวแล้วสีหน้าดูอ่อนแอ แววตาแสดงถึงขอความอ้อนวอนอย่างถึงที่สุด ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนคงเป็นเพราะรู้สึกไม่ดีจากอาการป่วยล่ะมั้ง
ไม่ต้องห่วงฉันจะช่วยเอง
"นะ นายกำลังจะทำอะไรน่ะ"
เสียงอันแผ่วเบาที่เหมือนดั่งกับเสียงกระซิบของไรลีย์ทำเอาผมหยุดชะงักไปพักหนึ่ง แววตาที่เหมือนดั่งกับกำลังจะร้องไห้แสดงออกมา เขาคงกำลังจะทนมารอยู่ต้องรีบช่วยให้เร็วแล้วสิ
ผมรีบเพิ่มแรงดึงกางเกงเพิ่มขึ้นอีก จนดึงมันลงได้เกือบครึ่งเผยให้เห็นชั้นในออกมา แต่มือของไรลีย์ก็พยายามถึงมันกลับ
"ปล่อยสิฟร่ะ ฉันกำลังจะช่วยแกอยู่นะ"
"หยุดน้า…"
"หยุดอะไรเล่า แกนั่นแหละหยุดจับมันไว้ได้แล้ว"
มือของไรลีย์ค่อยๆ หลวม แรงดึงต้านกับกางเกงเริ่มอ่อน ผมใช้จังหวะนั้นดึงมันออกมาสุดแรง
"สำเร็จแล้ว!!"
ในที่สุดก็ดึงออกมาได้แล้วการพยายามมาแสนนานในที่สุดก็สำเร็จดั่งหวังน่าดีใจสุดๆ ไปเลย ก็ไม่เข้าใจหรอกว่าจะดีใจไปทำไม
"เอ๊ะ!"
ผมมองไปทางไรลีย์เห็นเขาหน้าแดงไปทั้งหน้าทำไมถึงแดงได้ขนาดนั้น ความรู้สึกเหมือนอาการป่วย ความโกรธ ความเขินอายมันผสมปนเปกันไปหมด ดวงตาเปียกชุ่มเหมือนดั่งกับกำลังจะร้องไห้ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนี้เราทำอะไรผิดไปกันนะ
"นี่ ปะ เป็นอะไรไปน่ะ? "
ผมเดินเข้าไปจะถามไถ่กับไรลีย์ที่นั่งหันหลังกอดอกตัวเองอยู่เหมือนกับปิดบังอะไรบางอย่าง
"หยุดน้า…!"
ทันทีที่ผมแตะไหลของไรลีย์เสียงร้องของเขาก็ดังขึ้น พร้อมกับมือที่ฟาดเข้ากับหน้าของผมอย่างแรงจนตัวผมลอยขึ้น ระหว่างนั้นสายตาผมก็เห็นมัน เห็นร่างกายเบื้องหน้าของไรลีย์ เป็นร่างกายที่แตกต่างจากที่เห็นตัวเองในกระจกเป็นอย่างมาก ตัวผมเองก็พึ่งจะสังเกต
กล้ามเนื้อที่เห็นได้ชัด ไม่มี!
ผิวหนังที่หยามกร้าน ไม่มี!
ลูกกระเดือกที่คอ ไม่มี!
กล้ามหน้าจากการฝึด ไม่มี! ไม่สิมีภูเขาเล็กสองลูกอยู่
ความคิดของผมประมวลผลอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างดูกระจ่างชัดในทันที ราวกับว่านักปราชญ์ได้ค้นพบเวทมนตร์ทฤษฎีใหม่ ราวกับว่านิโคเลียได้ค้นพบทวีปใหม่ลึกลับอันซึ่งซ่อนอยู่ใต้มหาสมุครสีคราม ตอนนี้ตัวผมนั้นได้รับรู้แล้วเข้าใจในสรรพสิ่งแล้ว
"เธอ...ไม่ใช่ผู้ชาย"
คือคำตอบที่ได้จากในหัวของตัวเอง
ตัวผมกลิ้งลงพื้นหลายตลบหมุนเป็นลูกข่างที่หมุนระนาบไปพื้นจนหยุดที่หน้าประตูก่อนภาพจะดับไปอีกครั้งหนึ่ง