"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผมพุ่งตัวขึ้นบนผิวน้ำพร้อมสูดลมหายใจเอาอากาศกลับเข้าปอดเฮือกใหญ่อย่างตะกละตะกลาม แบกร่างกายอันเหนื่อยหอบคลานขึ้นบนฝั่งพลางไอ แคก แคก ออกมา เพราะน้ำที่เผลอหายใจเข้าไป
นอนคว่ำหน้าลงบนพื้นอย่างหอบ แฮก แฮก อย่างหมดสภาพ ดูเหมือนจะฝืนตัวเองมากไปหน่อย ตั้งใจจะไล่ตามเจ้ารากไม้นั้นให้ทันแต่เผลอตัวอีกตัวเองก็อยู่ในน้ำลึกแล้ว กว่าจะตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ทำเอาลมหายใจเกือบจะหมด
"เฮ้ออออ รอดไปที"
ผมถอนหายใจอย่างโล่งใจ
"ไม่อยากจะเชื่อ คิดอะไรของนายถึงมาว่ายน้ำเล่นแต่เช้า"
ระหว่างที่ผมไล่ตามรากไม้ไรลีย์ดูเหมือนจะตื่นแล้ว
"ฉันเห็นปลาสีทองดูเหมือนจะหายาก ฉันเลยว่ายน้ำตามจับน่ะ"
"จริงเหรอ!? "
ไรลีย์ดูตื่นเต้นตกใจ
"ล้อเล่นน่ะ"
"ไอ้เจ้าบ้า"
หยอกล้อเธอแบบนั้นเธอก็กอดอกทำหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ทันที ตลกดีเหมือนกัน
"สรุปแล้วนายไปเจออะไร รีบบอกมาได้แล้ว"
"ได้สิ ถ้างั้นเธอต้องแก้ผ้าออกก่อน"
"หาาาา!!"
.
.
.
"นี่…ตอนนี้ฉันเริ่มจะหนาวแล้วนะ เมื่อไหร่นายจะเตรียมตัวเสร็จ? "
ไรลีย์ใส่เสื้อสีขาวตัวเล็กบางเผยให้เห็นอกส่วนบนตลาดจนหัวไหล่อันเรียบเนียน นอกจากนี้ยังมีกระดูกไหปลาร้าอันเด่นชัด
"ขอเวลาฉันหน่อยน่า"
"เร็วๆ สิ ให้ฉันใส่แบบนี้มันรู้สึกหวิวๆ ยังไงไม่รู้"
เธอพยามดึงขอบกางเกงขาสั้นตัวเล็กเพื่อไม่ให้รัดแน่นกับต้นขาอันแน่นขนัดของเธอ
ถึงแม้หน้าอกเธอจะมีอยู่ไม่มาก แต่พอดูโดยรวมแล้วเธอดูเซ็กซี่มากเกินไปหน่อยแล้ว
"เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว!"
ผมติดฝักดาบไว้กับเชือกแล้วสะพายมันติดไว้กับร่างกายท่อนบนที่เปลื่อยอยู่ ส่วนของไรลีย์ดูเหมือนจะติดไว้ที่เอวเหมือนเดิม
ผมเองก็แต่งตัวเช่นเดียวกับไรลีย์ ใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ดูเหมือนกับชุดที่ชาวบ้านมักนิยมที่จะใส่ลงว่ายน้ำ
"เห นายก็เอาไอ้นั่นไปด้วยเหรอ? "
ไรลีย์ชี้นิ้วมาด้วยความสงสัยที่สร้อยคอของผม
"หือออ ไอ้นี่เหรอ"
ผมหยิบมันขึ้นมาดู มันเป็นสร้อยคอที่ทำจากเงินรูปสามเหลี่ยม มีสัญลักษณ์ดอกไม้บางชนิดที่ดูคล้ายกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่าง มันถูกเรียกว่าตราวิญญาณแห่งผู้กล้า แต่ตอนนี้มันถูกแบ่งครึ่งออกเพราะถูกแบ่งให้ไรลีย์ไปครึ่งหนึ่ง
"ก็ต้องเอาไปด้วยอยู่แล้ว คนที่จะเป็นผู้กล้าก็ต้องมีมันติดตัวไว้อยู่แล้ว มันถูกเรียกว่าตรามรดกแห่งจิตวิญญาณผู้กล้าเชียวนะ"
พูดอย่างออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยม ผมยังจำคำพูดของบาทหลวงที่โบสถ์ได้เป็นอย่างดี
ไรลีย์เบะปากอย่างหงุดหงิดหันหลังกลับไปค้นหาสัมภาระของพวกเราที่กองสะสมกันอยู่ ของไหนไม่ใช่ของตัวเองก็โยนออก ส่วนของตัวเองก็วางไว้อย่างดี เฮ้อ…เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ เธอคนนี้
"อยู่ไหนของมันนะ…อะ! เจอแล้ว"
เธอเจออีกครึ่งหนึ่งของตราผู้กล้าแล้วก็สวมมันเข้าที่คอไป พร้อมหยิบมันขึ้นมาดูด้วยแววตาเปล่งประกาย เธอดูจะชื่นชมมันมากตอนนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ตัวเองเพิ่งจะลืมมันไว้ในสัมภาระแท้ๆ
“...”
ไรลีย์รี่ตาจ้องเขม็ง คิ้วของเธอหมวดเข้ม ริมฝีปากของเธออาจเม้มเข้าหากันเป็นเส้นบาง ๆ และพับขึ้นจนเป็นรูป Ʌ
“จ้องอะไรขนาดนั้น คิดว่าจะช่วยให้เธอรอดจากจมน้ำได้เหรอ?”
“ปากเสีย!! ฉันแค่คิดว่ามันอันนี้มันใช่ของฉันจริงๆ เหรอ ไม่ใช่ว่ามันสลับกับของนายหรือเปล่า!?”
“แล้วใครจะรู้?”
เสื้อผ้าสัมภาระของพวกเรากองปนเปรวมกันตั้งแต่ตอนนั้น สร้อยคอนี่ก็ด้วย ผมเองก็หยิบมันมาจากกองสัมภาระนั้น อาจจะสลับกันไปบ้างก็ไม่แปลกใจ แต่ว่าไม่ว่าจะอันไหนมันก็เหมือนๆ กันทั้งคู่นี่นา
“เฮ้อ…ช่างเถอะ”
ไรลีย์หยิบมีดสั้นขึ้นมาขีดลงไปบนตราผู้กล้า
“เธอจะทำอะไรของเธอน่ะ ตรานั่นบาทหลวงเป็นคนให้มาเลยนะ”
หลังจากนั้นเธอก็โชว์ตราของเธอให้ผมดู
“นี่ไงเป็นไงล่ะ เท่านี้ก็ไม่สลับกันแล้ว”
สิ่งที่เห็นทำเอาผมขมวดคิ้ว เธอสลักรูปของตัวละครชายหญิงที่เหมือนกับเด็กพึ่งหัดวาดรูป ตัวผู้หญิงกำลังเหยียบคนตัวผู้ชายด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ แต่ตัวผู้ชายกำลังยื่นมือออกมาร้องขอชีวิต ผมเห็นเป็นแบบนั้นถึงรูปสลักจะออกมาแย่ก็ตามที
ผมหยิบมีดขึ้นมา ว่าจะทำตามไอเดียของไรลีย์ แต่ว่าจะเขียนอะไรลงไปดีล่ะ
“อือ… เอาคำนี้แล้วกัน”
ผมเขียนคำที่ผ่านการคิดเป็นอย่างดีลงไป
“เขียนอะไรลงไปน่ะ”
“ไม่ให้ดูหรอกเฟ่ย!”
ผมปิดหน้าของตราผู้กล้าไว้ไม่ให้เธอเห็น หวังว่าเธอคงจะไม่เห็นมัน ถ้าเธอเห็นผมคงจะอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีเป็นแน่ แต่พอมานึกๆ ดูแล้วเราเขียนเพื่อให้แยกแยะของกันและกันของนี่น่า สงสัยว่าคงจะผิดวัตถุประสงค์มันไปบ้าง
"เอาล่ะ เตรียมพร้อมลุยกันเลย!"
พวกเราสองคนแต่งตัวเตรียมพร้อมลงน้ำแล้ว
"นี่ จุดอ่อนของเจ้าแม่มดไม้อสูรมันอยู่ข้างใต้บ่อน้ำนี้จริงเหรอ? "
พอถึงเวลาจะลงไปจริงๆ แล้ว ไรลีย์ก็มีท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ลังเลอยู่ขณะมองไปที่บ่อน้ำ
"ใช่สิ ฉันลงไปดูมาแล้ว ที่ปลายทางของบ่อน้ำนี้เป็นจุดที่รากไม้ของมันโผล่มาแล้วเลื้อยกลับเข้าไป"
"...งั้นเหรอ"
"เอาน่า ฉันไปสำรวจมาแล้วอากาศหายหายใจในปอดของเราน่าจะเพียงที่จะดำน้ำจนถึงทางออกได้แน่นอน ฉันสัญญา"
ผมยกยิ้มโป้งชูขึ้นมาแสดงความมั่นใจ
"...เข้าใจแล้ว"
"เอาล่ะ ลุยกันเลย!"
กระโดดลงดำไปด้วยอากาศเต็มปอด ดำลงไปที่ก้นบ่อพร้อมมองหาช่องว่างขนาดเท่ากับตัวคนลอดผ่านไปได้ ผมผ่าามันเข้าไปก่อนตามมาด้วยไรลีย์ลอดตามมา
"อือ..อือ~"
ผมหันไปยกนิ้วขึ้นสองข้างให้เธอแสดงยิ้มพลางพยักหน้าอย่างสบายใจ พยามจะสื่อสารให้เธอเข้าใจทางสายตาว่า เป็นไงล่ะ บอกแล้วให้เชื่อฉันเรื่องแค่นี้สบายมาก ถ้าหากเธอเข้าใจนะ
เราสองคนว่ายออกไป ภายใต้ถ้ำเหมือนดั่งกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ มองไปโดยรอบเห็นแต่ความอ้างว้างกว้างขวางจนมองไม่เห็นวัตถุอะไรโดยรอบ มองไปใต้พื้นน้ำทำเอารู้สึกเสียวสันหลังวาบกับน้ำสีมืดที่แบ่งกั้นน้ำชั้นบนกับชั้นล่างดั่งกับม่านกั้นเคลื่อนไหวเหมือนกับหมอก ทำให้มองไม่เห็นเบื้องล่างของพื้นน้ำ เหมือนดั่งกับว่าอาจจะมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมาดึงพวกเราลงไปเข้าในน้ำมืดปริศนาจนขาดอากาศหายใจ
ผมไม่ได้สนใจแล้วว่ายผ่านไปอย่างสบายใจ ตลอดเส้นทางเจอกับสัตว์น้ำแปลกๆ บางชนิด บ้างก็เหมือนกับปลาที่เรากินตอนอยู่ในถ้ำ บ้างก็เหมือนกับค้างคาวที่มีหางเหมือนกับปลาแหวกว่ายผ่านเราไป
น่าประหลาดใจดีเหมือนกัน
"อือ..อือ~"
ดูเหมือนไรลีย์จะสูดอากาศเก็บไว้มากไปหน่อย จนแก้มเธอป่องกลมเหมือนแก้มปลาทอง เธอดูฝืนตัวเองไปหน่อยหรือเปล่า แต่เห็นแบบนั้นก็อยากจะหัวเราะออกมา แต่ถ้าทำแบบนั้นอากาศของผมคงจะออกจนหมด
แต่ดูเหมือนเธอกำลังสนใจอะไรบางอย่างอยู่ตอนนี้
ช่างเถอะตอนนี้เราใกล้ถึงจุดที่รากไม้นั้นกลับเข้าไปแล้ว มันน่าจะอยู่แถวนี้ๆ ผมค่อยๆ ลอยตัวขึ้นพลางส่องหาจุดที่ดำน้ำลงมาเจอคราวที่แล้ว
มันน่าจะเป็นช่องว่างที่ขนาดเท่ากับคนหนึ่งคนผ่านไปได้ เอ…มันอยู่ตรงกันนะ คลับคล้ายคลับคลาว่ามันน่าจะอยู่แถวนี้นี่นา
ทั้งแหวกพุ่มหญ้า ดึงพุ่มสาหร่าย เปิดฝาหอยยักษ์ ทำทุกอย่างแล้วก็หาทางออกไม่เจอ วนอยู่ที่เดิมสักพักแล้วรู้สึกได้ว่าลืมอะไรบ้างอยาก เออ…
ไรลีย์!
เธอหายไปกันเนี้ย
"อือ…อือ!"
ดันทำอะไรโง่ๆ ไปซะแล้ว อยู่ในน้ำแบบนี้จะไปตะโกนเรียกได้ไง แต่ว่าเธอหายไปไหนกันนะ เธออาจจะหลง หรือไม่ก็ว่ายน้ำอย่างเอ้อระเหยอยู่ หรือว่าเธอจะถูกสัตว์ประหลาดโจมตี…
รู้สึกหัวใจร้อนรน ใจอยู่ไม่นิ่งเหมือนบนหน้ามีเม็ดเหงือไหลลงมาทั้งๆ ที่ตอนนี้อยู่ใต้น้ำแท้ๆ รู้สึกใจคอไม่ดีเท่าไหร่
ผมรีบว่ายน้ำกลับอย่างรวดเร็ว
อากาศตอนนี้ใกล้จะหมดเต็มที ถ้าขึ้นไปบนบกช้ากว่านี้คงจะแย่อย่างแน่นอน ต้องรีบหาตัวเธอให้เจอโดยด่วนไม่งั้นเธออาจจะอากาศหายใจหมดจนตายก่อนที่จะได้ไปแก้แค้นแน่ๆ
"...!"
ผมว่ายน้ำออกมาได้สักพักก็สังเกตเห็นบางอย่าง จนทำให้ตาของผมเบิกกว้าง
ร่างของมนุษย์กำลอยอยู่เหนือน้ำมืดปริศนา ร่างกายแน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหวใดๆ เลื่อนลอยอย่างไร้ทิศทาง ดวงตาปิดสนิด เผยอปากออกมาอย่างไร้สติ เหมือนกับร่างไร้วิญญาณ
"ไรลีย์…!!!"
เห็นร่างของไรลีย์ลอยอยู่แบบนั้นทำผมสติแตก คลาดกันแค่ครู่เดียวเธอกลับมาอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ใจผมดิ่งหวบเมื่อเห็นแบบนั้น
ไม่จริงน่า…
ผมรีบเข้าไปรับร่างนั้นไว้
ไม่จริงน่า ไม่จริงน่า ไม่จริงน่า…
เขย่าร่างเธอเท่าไหร่ก็ยังงงแน่นิ่ง เห็นใบหน้าไร้จิตวิญญาณของเธอแล้วทำเอาผมใจห่อเหี่ยว มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน ทั้งที่บอกเธอว่าจะไม่เป็นอะไรแท้ บ้าเอ้ย! ผิดพลาดเกินกว่าจะให้อภัยตัวเองได้ บ้าเอ้ย!
ได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมถึงไม่ค่อยจับตาดูเธอไว้ให้ดีกว่านี้
"..."
พอมองดูดีแล้วสีผิวของไรลีย์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ค่อยๆ เปลี่ยนจากจุดที่ผมสัมผัสอยู่แล้วค่อยๆ ขยายไปจนทั่วทั้งตัว ผิวหนังลองเธอเริ่มเลือนรางคล้ายๆ กำลังไหลเหมือนสายหมอก
เกิดอะไรขึ้นไม่เข้าใจเลยสักนิด
“!!!”
ร่างของไรลีย์สลายกลายเป็นหมอก ไม่ใช่หมอก มันเคลื่อนไหวเหมือนกับหมอกแต่มันเป็นสิ่งเดียวกับน้ำมืดปริศนาด้านล่างนั้น มันสลายตัวออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัวจนไหลผ่านร่างของผมไป
ทันทีที่สับสนอยู่ ภายใต้น้ำมืดปริศนาก็มีการเคลื่อนไหว มันวิ่งฝ่าทะลุน้ำสีดำขึ้นมาเข้ามารัดคอแน่น
“อือ…!”
มันคือหนวด…หนวดทั้งเหนียวและแข็งแรงแกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออก
ผมพยายามยืนมือไปดึงดาบที่อยู่ด้านหลัง
หนวดอีกเส้นพุ่งออกมาขัดแขนผมไว้
ดึงดาบไม่ได้!
หนวดอีกหลายๆ เส้นเข้ามารัดทั้งแขนและขวาจนขยับไม่ได้ตัว
“อือ…อือ!!”
พยามดิ้นสุดฤทธิ์แต่หนวดยิ่งรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม
มันเกิดอะไรกันขึ้นทำไมไรลีย์สลายหายไปแบบนั้น พอลองนึกดูแล้วก็เข้าใจ โดนหลอกล่อสินะ มันคงจะเป็นวิธีที่เจ้าหนวดนี่ใช้จับเหยือของมัน ส่วนผมก็เป็นเหยือที่มาติดกับของมัน ทำซะเหมือนขนาดนั้นใครจะไปแยกแยะออกได้
หนวดที่คอรัดแน่นขึ้น จนเผลอตัวปล่อยอากาศหายใจเฮือกใหญ่ออกไป ฟู่! ฟองอากาศค่อยๆ ล่องลอยออกห่างขึ้นไป
แสงสะท้อนยิบยับจากผิวน้ำชั้นบนเริ่มมึนมัว อากาศหายใจเหลือน้อย หมดเรี่ยวแรงต่อต้าน มือกำแน่นเริ่มคลายออก ปล่อยตัวเองค่อยๆ โดนดึงลงสู่น้ำมืดปริศนาอย่างช้า ช้า…
จบแค่นี้แล้วเหรอ?
ทุกๆ อย่างที่ทำมาจะจบแค่นี้งั้นเหรอ ผมยังไม่ได้เป็นผู้กล้าเลยด้วยซ้ำ
ผู้กล้างั้นเหรอ?
"บ้าหรือไง! ฉันหมายถึงว่าทำไมนายถึงอยากมาเป็นผู้กล้าต่างหาก"
ในพริบตาเดียวคำพูดของไรลีย์ ก็ผุดขึ้นมา ราวกับเสียงกระซิบจากส่วนลึกของจิตใจ
ทำไมถึงมาเป็นผู้กล้าเหรอ? ลองพินิจคิดดูในหัวของตัวเองแล้ว คำตอบนั้นก็ยากเกินกว่าจะคิดออกมาได้
ทำไมกันนะ?
ได้แต่ถามตัวเองแบบนั้น…
ฟู่…
ฟองอากาศเฮือกสุดท้ายค่อยๆ ลอยออกไป
สายที่ตาที่เลือนรางมองเห็นอะไรบางอย่างจากที่ไกล มันค่อยๆ เข้าใกล้มาเรื่อยๆ แล้วแต่สายตาผมเองยังมองมันไม่ชัด ใกล้เข้ามา…
ผู้หญิง? ผู้หญิงผมสั้นผมสั้นสีเหลือง ทำหน้าท่าทางตกใจสุดขีด พุ่งเข้ามาอย่างร้อนรน
ไรลีย์!
เธอพุ่งเข้ามาหาผมพร้อมประกบปากริมฝีปากของผมเข้ากับเธออย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำดวงตาของผมเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
เธอน่ะ ในเวลาแบบนี้…