"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เราเตรียมตัวกันจนพร้อม เสื้อผัวทั่วตัวที่เปียกปอนถูกทำให้แห้งโดยเวทมนตร์ของผมเอง พวกเราสองคนอยู่ในถ้ำที่ไรลีย์บอกว่ามันเป็นทางออก เธอบอกมาแบบนั้น เธอบอกว่าเจอปลาสีทองนำทางมา เธอคงจะล้อเล่นมันแน่ๆ ก่อนที่เธอจะลงไปช่วยผมจากหนวดนั้นได้ เธอเล่าว่าเธอเอาดาบเสียบกลางหัวของตัวจริงของหนวดพวกนั้น แล้วพวกมันก็จมหายลงไปในน้ำมืดปริศนานั้น แล้วเธอก็ช่วยผมขึ้นมาได้
โชคดีจริงๆ เลย
แต่ว่าเรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว ยังมีเรื่องที่สำคัญอยู่ การออกไปจากป่าแห่งนี้เราคงต้องกำจัดแม่มดไม้อสูรก่อน แล้วมันเองก็อยู่ตรงฟากของถ้ำฝั่งตรงข้ามของพวกเรา ผ่านช่องแคบที่เต็มไปด้วยรากไม้นั้นก็จะเจอกับมันแล้ว
เราสองคนหันหน้ามองกันพร้อมพยักหน้าส่งสัญญาณ
ผมเดินนำเธอไปข้ามผ่านรากไม้รกรากเหล่านั้น เข้าไปพบแต่เหล่าพืชพรรณรากไม้เต็มไปทั่วทั้งถ้ำมันขดเลื้อยเกี่ยวกันเป็นเส้นใยพร้อมชอนไชออกไปทั่วทั้งถ้ำ คงจะเป็นรากที่ให้กำเนิดตัวที่อยู่ด้านนอกนั้น คิดถูกจริงๆ ที่เข้ามาหาในที่แบบนี้
“ดูนั้นสิ”
ไรลีย์ชี้มือไปทางตรงกลางถ้ำ
ภาพที่เห็นเป็นโคนต้นไม้ใหญ่พร้อมรากขนาดมหึมาตรงกลางมีหัวใจขนาดยักษ์เปล่งแสงสีแดงออกมา พร้อมกับเสียงเต้น ตึบ ตึบ ดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ เบื้องหน้าของหัวใจเหมือนมีวงเวทขนาดใหญ่ ไม่ใช่วงเวทแต่เป็นรากไม้ที่ขดตัวกันเป็นสัญลักษณ์ของวงเวทจนพวกมันเปล่งแสงออกมาเหมือนกับวงเวท ทำให้ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าการทำงานของวงเวทก็สามารถใช้วิธีการนี้ได้ด้วยหรือ
ผมส่งสัญญาณมือให้ไรลีย์ให้เข้าไปช้าๆ เธอพยักเหมือนกับเข้าใจ หวังว่าจะเข้าใจนะ
ถึงเสียงหัวใจเต้นจะดังไปทั่วทั้งถ้ำจนกลบเสียงฝีเท้าของเราได้ แต่ก็ต้องเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง ไม่รู้ว่าอันตรายจะเข้ามาตอนไหนต้องรอบคอบให้ได้มากที่สุด
ผมเดินเข้าไปหลบหลังก้อนหินใกล้ๆ กับหัวใจก้อนโตอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่กลมกลืนกับเสียงเต้นของหัวใจเป็นอย่างดี เพอร์เฟคสุดๆ ไปเลยสุดยอดการลอบเร้น
แต่ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบลงบนน้ำแฉะๆ เสียงดัง แปะ แปะ! เสียงก้าวเท้าของไรลีย์ที่วิ่งตามออกมาแล้วเกาะที่หลังของผม
"เหวอออ เปียกแฉะไปหมดเลย"
เห็นแบบนั้นก็ทำผมได้แต่ส่ายหัวไปมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ
"อะไรของนาย ทำไมทำหน้าแบบนั้น!? "
"เฮ้อ…ช่างมันเถอะ"
ผมชะโงกหน้าออกไปมองหัวใจก้อนโต มันดูใหญ่โตกว่าที่คิดเมื่อมองมันในระยะใกล้ ขนาดใหญ่โตกว่าพวกเราสองคนรวมกันเสียอีก ทั้งๆ ที่เหมือนกับชิ้นส่วนของเปลือกไม้ซ้อนทับกันเป็นรูปหัวใจ แต่การขยับเคลื่อนกลับเหมือนมีชีวิตอย่างน่ากลัว
"น่าขยะแขยงเป็นบ้าเลย"
ไรลีย์ที่เกาะหลังผมอยู่บ่นพึมพำออกมา
"นี่ เธอช่วยเงียบๆ หน่อย…!!!"
ตาผมเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกรับรู้ถึงอันตราย
มองสิ่งที่อยู่ด้านหลังไรลีย์ทำผมรีบดึงดาบออกมาโดยไม่ต้องคิดอะไร แขนอีกข้างโอบเอวดึงตัวเธอออกมาอย่างไม่ตั้งตัวจนร้องเสียงหลง เหวี่ยงดาบเข้าไปป้องกันความตายที่กำลังพุ่งมาจากด้านหลังของเธอ
ดาบกระแทกเข้ากับไม้แข็งเสียงดัง ปั้ง! ไม้มันแข็งเกินกว่าดาบธรรมจะฟันเข้าได้ มันไม่เหมือนกับไม้ทั่วๆ ไปอย่างแน่นอน
“อยู่ที่นี้กันเองนี่เอง เข้าพวกแมลงเอ๋ย ให้ข้าตามหาอยู่เสียนานเลย...ช่างเป็นอาหารที่รู้จักดิ้นรนเสียเหลือเกินนะ”
น้ำเสียงขุ่นเคืองออกมาจากศัตรูที่เข้ามาโจมตีทางด้านหลัง
มันคือแม่มดไม้อสูร!
ผมรีบดันดาบสุดแรงพร้อมเหวี่ยงศัตรูออกจนมันถอยไปด้านหลัง ตัวมันถอยร่นออกไปแต่ยังดึงร่างตัวเองไว้ด้วยรากไม้
“ไรลีย์!! โจมตีเข้าที่หัวใจมันเลย ในส่วนนี้ฉันจัดการมันเอง”
พอได้จังหวะผมตะโกนออกไปถึงไรลีย์
เธอที่ตื่นตระหนกอยู่เมื่อได้ยินเสียงตะโกนก็ตั้งสติได้ ดึงดาบออกมาพร้อมมุ่งหน้าไปยังหัวใจก้อนโต หวังแค่ฟันให้มันขาดเพียงแค่ครั้งเดียวคงจะสามารถกำจัดมันได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ยอมให้ทำแบบนั้น มันปล่อยเถาวัลย์มากมายหลากเส้นเข้าโจมตีไรลีย์
เมื่อเห็นเถาวัลย์พุ่งเข้าโจมตีมากมายเธอกระโดดหลบไปด้านข้าง เถาวัลย์ไม่ลดละยังพุ่งตามเธอไปยังจุดที่เธอหลบหนี ดูเหมือนว่าจะเข้าไปจัดการที่หัวใจจะไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น
“!”
ทันใดนั้นผมก็โดนรากไม้หนึ่งเส้นพุ่งเข้าหา มันพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วถึงหลบได้แต่ก็โดนมันเฉียดที่ใบหน้าจนเลือดสาดออกเล็กน้อย
“ยัยหนูนั้น ใจสู้ดีเหมือนกันนี่นา อืม…แต่ข้าว่าข้าดูคลับคล้ายคลับคลากับแม่หนูนั้นอยู่เหมือนกัน”
พอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาในใจ ถึงจะไม่ใช่เรื่องของตัวเองแต่มันทำเรื่องที่ร้ายแรงแบบนั้นไป แต่ยังทำท่าทีว่าจำมันไม่ได้แบบนี้ ถึงจะรู้สึกไม่สบอารมณ์แต่สติยังดีอยู่พลางคิดถึงการโจมตีเมื่อครู่ การโจมตีด้วยรากไม้เส้นเดียว แค่เส้นเดียว? ทั้งที่โดยปกติแล้วมันจะโจมตีด้วยรากไม้มหาศาล มันอาจจะเกี่ยวข้องกับหัวใจ
พอคิดได้แบบนั้นผมก็แสยะยิ้มออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ หึ หึ ในลำคอ
“โอ้… แมลงแบบแกหัวเราะร่าแบบนั้น ช่างดูมั่นใจเหลือเกินนะ ไหนแกมีดีอะไรลองแสดงออกมาให้ดูหน่อยสิ”
มันโจมตีด้วยรากไม้เข้ามาเช่นเดิม แต่รอบนี้ผมหลบได้อย่างง่ายดาย
"เห…ถามอะไรหน่อยสิ การโจมตีของนายดูอ่อนลงไปหรือเปล่านะ"
"พูดตลกอะไรของแกกัน"
มันดูเหมือนจะยั้วขึ้นมาบ้างแล้ว
"นึกว่าแกจะเป็นต้นไม้หรือต้นถั่วงอกกันแน่เนี้ย!? "
"หุบปาก!"
มันปล่อยรากไม้ออกมา จังหวะเดียวกับการก้าวเท้าเข้าไปของผม
รากไม้พุ่งเข้าหาถูกฟันขาดอย่างไม่ยากเย็น พร้อมมุ่งหน้าเข้าหาตัวของมัน ดาบตัดผ่านแขนของแม่มดไม้อสูรจนขาดกระเด็นออก จนเสียงร้องเจ็บปวดดังออกมา
"หน่อยแน่แก…!"
มันพยายามงอกแขนออกมาใหม่ แต่ว่าช้า ช้ามาก
ผมเข้าโจมตีทันทีโดยไม่รอแขนมันงอก ฟันแขนอีกข้างขาดออกฉับพลัน จนมันกัดฟันแน่นเส้นเลือดปูดออกอย่างโกรธเคือง
แขนที่งอกออกมายืดพุ่งเข้ามาตรงหน้า ผมย่อตัวหลบเฉียดฉิวปลายจมูก พร้อมฟาดดาวเข้าจุดบอดตรงช่วงท้อง
เศษไม้กระจายออกจากแรงกระแทกดาบ มันโกรธจัดเปลี่ยนแขนต้นไม้เป็นมือขนาดใหญ่กระแทกลงพื้นแตกกระเจิงออกจนตัวผมถอยร่นออกมาจากแรงระเบิด
"ไอ้บ้าเอ้ย! หลบเก่งนักนะ พวกแมลงหวี่แมลงวันแบบแก ฉันจะขยี้จนแหลกให้ดู"
มันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ดูเหมือนว่าการพยายามยั่วยียวนให้มันโกรธจะได้ผลมากกว่าที่คิดไว้เสียอีก คงจะถึงเวลา
"นี่ แกน่ะ ฉันฟันไปเท่าไหร่ก็งอกออกมาได้ตลอดเลย ฉันชักจะเบื่อแล้วสิ"
"ฮ่า ฮ่า แกคิดจะร้องขอชีวิตตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะ"
"ใครจะร้องขอชีวิตกับแกกัน"
ผมยกดาบขึ้นชี้เข้าหาอีกฝ่ายอย่างมั่นอกมั่นใจ
"เอาแบบนี้เป็นไง ลองมาวัดกันแบบสุดกำลังเป็นไง ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าแกเอาจริงจะทำได้สักแค่ไหน"
"..."
มันนิ่งไปชั่วครู่
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า! แกโง่หรือไง!? ต่อให้ฟันฉันขาดถ้าไม่ทำลายหัวใจฉันก็ไม่มีทางตายหรอก"
"อะไรกัน แกไม่กล้านี้เอง ต้นไม้ขี้ขลาดแบบแกเนี้ย เหมาะเอามาตากแห้งทำฟืนไว้ใช้ก่อไฟยามฤดูหนาวจริงๆ โอ้ ลืมไปแกเป็นแค่ถั่วงอกคงจะไม่เหมาะเอามาทำฟืนหรอก"
"ปาก-ดี-นัก-นะ"
พอพูดแบบนั้นเส้นเลือดก็ปูดขึ้นบนหน้าของมัน รังสีความโกรธเกรี้ยวมากยิ่งกว่าเคยจนรับรู้ได้ถึงความอาฆาต แผ่ไปจนเส้นขนทั่วทั้งตั้งชูชัน
"ได้เลย ถ้างั้นแกก็จงตายซะเถอะ!!"
มันแผดเสียงรุนแรงออกมาพร้อมกับอากาศอันหนักอึ้งแผ่กระจายจนตัวผมแทบจะปลิวไปตามแรงนั้น
บรรยากาศหนักอึ้งรอบตัวของมันทำให้ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือน เศษหินน้อยใหญ่หลุดร่วงลงเกิดเสียงโครมครามดังขึ้นหลากหลายแห่ง
วงเวทขนาดใหญ่หลายวงโผล่ออกมาที่ด้านหลังแม่มดไม้อสูร เหมือนกับตอนที่สู้กับไรลีย์ ไม่ใช่ วงเวทมันทั้งใหญ่และมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่าได้
มันยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้รากไม้และเถาวัลย์ขนาดใหม่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมาจากวงเวทอย่างพร้อมเพรียงกัน
"แกเตรียมพร้อมที่จะตายยัง? "
สีหน้าของมันตอนนี้ดูสงบนิ่งกว่าเก่า คงเพราะมั่นใจในการโจมตีครั้งนี้อย่างมาก ไม่มั่นใจเกินไปหน่อยเหรอ?
แต่ว่าดูจากปริมาณของวงเวทแล้ว ถ้ามันโจมตีเข้ามาพร้อมกันเราคงจะแย่แน่ เกิดคาดจริงๆ ที่ความสามารถของมันมีมากขนาดนี้ แบบนี้เรียกสถานการณ์ลำบากได้เลยหรือเปล่านะ
แต่ว่า…
ทุกอย่างเป็นไปดั่งกลอุบาย!
"ไรลีย์!!!"
ผมตะโกนร้องสุดเสียงให้ไปถึงไรลีย์ที่อยู่อีกทาง
เธอมีปฏิกิริยาตอบรับกับเสียงตะโกน แม่มดไม้อสูรก็ตระหนกกับเสียงเช่นเดียวกัน
"ฉันดึงพลังเวทมันมาฝั่งนี้แล้ว ฝากเธอจัดการหัวใจมันด้วย…!"
เธอพยักหน้าตอบกลับทันที
"บ้าน่า แกเล็งช่วงเวลานี้อยู่เหรอ? "
ดูจากสีหน้าของมันแล้วเรื่องที่ผมต้องถูกต้องอย่างแน่นอน พลังเวทของมันมีใช้อย่างจำกัด จะต้องแบ่งระหว่างร่างนี้กับหัวใจ เพราะฉะนั้นหารดึงพลังเวทมาร่างนี้หมายความว่าตอนนี้หัวใจมีการป้องกันที่อ่อนลงแล้ว
"ได้เลย ฉันจัดการมันเอง"
ไรลีย์มุ่งหน้าเข้าหาหัวใจ ฝ่าฟันฝูงเถาวัลย์ที่ตอนนี้อ่อนลีบลงเหมือนกับไม้ขาดสารอาหาร เธอฟันฝ่ามันจนฉีกขาดออกอย่างไม่ยากเย็น ก้าวเท้ามุ่งหน้าไปอย่างมั่นคง
กระโดดขึ้นลอยละลิ่วกลางอากาศ ข้ามผ่านมือที่งอกขึ้นมาขัดขวางจากพื้นดิน ลอยเคลื่อนตามแรงทิศทางไปหาหัวใจก้อนโตดวงนั้น
"หยุดนะ! ยัยเด็กบ้า!"
เสียงแม่มดไม้อสูรเรียกร้องไล่หลังมา
มันยกมือขึ้นสร้างวงเวทบนฝ่ามือชี้ไปทางเบื้องหลังของไรลีย์
"อ้ากกก!"
แขนมันถูกตัดออก ลอยลิ่วพร้อมกับวงเวทแตกสลาย
"ใครจะปล่อยให้แกทำได้กันล่ะ"
ผมยกดาบขึ้นสูงเหนือหัว กำดาบในมือแน่น ตั้งท่าตรงตามมาตรฐานที่จะออกแรงได้เต็มกำลัง เหวี่ยงมันลงด้วยสุดแรงแขน
จังหวะเดียวกับไรลีย์ลอยลิ่วถึงหัวใจก้อนโต ยกดาบขึ้นด้วยสองมือพร้อมแทงลงไปจากแรงที่ส่งมา
"ย้ากกก!" "ย้ากกก!"
เสียงร้องปลุกใจประสานเสียงอย่างกลมกลืน เหมือนดั่งรวมวิญญาณสองเราเข้าด้วยกัน มุ่งความสนใจพิชิตศัตรูตรงหน้า