"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
*โรงเตี้ยมของนักเดินทาง
“เฮ้อ… ข้าเองก็อยากให้พวกเจ้าไปพักอยู่หรอกนะ แต่ว่าตอนนี้ห้องมันเต็มเสียแล้วด้วย โต๊ะสี่เติมเบียร์!”
ดูเหมือนเจ้าของร้านจะคอยสังเกตและใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดี
“ช่วงนี้มีข่าวคราวว่ากองทัพจอมมารเริ่มจะเกณฑ์ทหารเตรียมออกสู้รบอยู่ด้วย-”
“เจ้าของร้าน วันนี้ขอไข่ปลาบินทะเลทรายด้วย!”
เสียงร้องของลูกค้าร้องถาม
“หนวกหู! วันนี้ไม่มีของ กินไข่หนอนทะเลทรายไปก่อนสิวะ ...ก็ตามที่พูดไปช่วงนี้คนก็เยอะขึ้น ซ้ำยังเริ่มราคาแพงตอนนี้เริ่มจะหายากขึ้นมากแล้ว คงเป็นเพราะกองทัพจอมมารเริ่มจะตุนเสบียงเอาไว้ฝึกทหารใหม่ เฮ้อ… ผู้คนก็เริ่มอพยพกันเข้ามาในเมืองแห่งนี้เพราะรู้ว่าที่แห่งนี้ไม่ได้ยอมขึ้นตรงกับกองทัพจอมมารเท่าไหร่ แต่ว่ายิ่งโดนกดดันมากเข้าดูเหมือนอีกไม่นานก็ต้องยอมเข้าร่วมอยู่ดี อา รู้ชายข้าเองก็คงต้องเตรียมไปรบอีกเช่นกัน ช่างน่าเบื่อหน่ายจริงๆ”
“ไม่มีห้องเหลือจริงๆ เหรอครับ เอาเป็นห้องเลี้ยงหนอนทะเลทรายก็ได้”
เจ้าของร้านส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง
“บ้ารึไง! จะให้นอนในห้องเลี้ยงหนอนเนี้ยนะ!?” “ไม่ไหวหรอก ฉันขอนอนกลางถนนดีกว่า”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินคอตกกันออกมา
.
.
.
“ฉันหิวแล้วอ่าาา ฉันว่าฉันเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว หนอนแห่งความตะกละตะกลามในท้องแล้ว มันคงจะกำลังกัดกินลำไส้ของฉันอยู่แน่ๆ ถึงรู้สึกปวดแบบนี้”
ไรลีย์กุมท้องนั่งลงข้างกำแพง
“อะไรของเธอเนี้ย เมื่อกี้ยังซัดพวกโจรจนหมอบด้วยตัวคนเดียวอยู่เลย"
"ก็ฉันลืมตัวนี่นา"
เธอก้มมองพื้นอย่างสำนึกการกระทำ
"เอาเถอะครับ ถ้างั้นคุณไรลีย์นั่งพักตรงนี้ก่อนเดี๋ยวผมเป็นคนไปหาห้องพักเอง อา คุณอารินก็ฝากอยู่เป็นเพื่อนเธอด้วยแล้วกันครับ"
หลังจากนั้นจูเลี่ยนก็วิ่งโย่งเย่งออกไปเห็นแผ่นหลังของเขาลับหายไป ตัวผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ไรลีย์ ถอนหายใจความรู้สึกนึกคิดที่เก็บไว้ออกมา พลางนึกถึงการกระทำของจูเลี่ยนด้วยหัวใจจริงแล้ว หรือว่าจริงๆ แล้วเจ้านั้นจะเป็นคนดีกว่าที่คิดกันนะ
"อ้ากกก ฉันหิวอาาา"
ดูเหมือนจะลืมเรื่องนี้ไป เสียงโอดควาญอันน่าสงสารของไรลีย์ดังออกพร้อมน้ำตาเริ่มก่อตัวที่หางตา อันดับแรกคงจะต้องหาอะไรอุดช่องว่างในกระเพาะของเธอเสียก่อน ถ้าไม่ทำแบบนั้นผมเองอาจจะลงไปนอนในกระเพาะของเธอก็เป็นแน่
"หืมมม มีอะไรบ้างนะ"
ผมหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาถือไว้จนทำให้สายตาของไรลีย์ส่องประกายไปด้วยความหวัง
"ขนมปัง! ขอบใจนายมากเลย ฉันรอดตายแล้ว"
"หึหึหึ..โลกนี้น่ะ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ หรอกน่า"
ผมนำขนมปังแข็งๆ เข้าปากกัดมันไปครึ่งนึง พร้อมกับแววตาสิ้นหวังที่มองมาของเธอ
"ว้ากกก! นายทำอะไรลงไป โหดร้าย โหดร้ายเกินไปแล้ว ชั่วช้าที่สุด-"
ขนมปังอีกแท่งถูกหยิบขึ้นมาอุดปากเธอก่อนที่เธอจะระเบิดอารมณ์มากกว่านี้ บางทีแล้วการกวนประสาทเธอแบบนี้อาจจะโดนสักหมัดสองหมัก แต่ว่าเธอทำตัวน่าแกล้งเองนี่ช่วยไม่ได้นะ รู้ว่าเสี่ยงแต่ต้องลองเสียหน่อย
เมื่อขนมปังเข้าปากของไรลีย์แล้วจากที่ดูโกรธเกรี้ยวอยู่ตอนนี้เปลี่ยนไป น้ำตาค่อยๆ หลั่งไหลสะอื้นออกมา พลางเคี้ยวขนมปังเคล้าน้ำตาอยู่แบบนั้น ปากพึมพำออกมาว่าฉันรอดตายแล้ว
“สำนึกบุญคุณฉันไว้ด้วยล่ะ”
พูดไปแบบนั้นเธอชักสีหน้าใส่ ทำสายตาเหมือนบอกว่า ไอ้คนขี้งก! เห็นแบบนั้นผมก็ถอนหายใจอย่างพึงพอใจพร้อมนั่งลงเคี้ยวขนมปังแข็งๆ ที่เหลืออีกครึ่งอยู่ข้างๆ เธอ
หลังจากนั้นจูเลี่ยนก็กลับมาพลางโบกมือยิ้มแย้มอย่างดีใจ ดูเหมือนเขาจะหาห้องพักได้แล้ว ใช้เวลาอยู่นานจบอากาศเริ่มหนาวเย็น ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยลงต่ำ แสงแดดเริ่มจางหายไป ถึงเวลาที่ผู้คนครุ้งเสียงดังเซ็งแซ่บนท้องถนนควรกลับเข้าที่พักไปหาครอบครัวกันแล้ว รวมถึงพวกเราเองก็ด้วยเช่นกัน
.
.
.
*โรงแรมหรูกลางจัตุรัส
เดินทางถึงโรงแรมหรูๆ ใกล้จัตุรัสกลางเมือง เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่แม้จะเริ่มมืดค่ำแล้วผู้คนยังคับคั่งแน่นขนัดอยู่ไม่ต่างจากตอนฟ้ายังสว่างอยู่เลย
เปิดประตูเข้าไปเจอพนักงานต้อนรับหลายคนแต่งตัวครบเครื่องเหมือนกับเมดและพ่อบ้านอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูล ต่างโค้งคำนับต้อนรับอย่างนอบน้อม เหมือนกับพวกเราเป็นนายทุนใหญ่เดินโอ่อ่าเข้ามาขัดกับสุดที่ดูยับยู่ยี่ขาดวิ่นจากการผจญภัยอันแสนสาหัส ถึงตัวผมจะเป็นลูกชายของดยุคแต่ก็ไม่เคยได้รับการต้อนรับแบบนี้มาก่อน รู้สึกเคาะเขินอยู่เหมือนกัน
จูเลี่ยนเข้าเช็คอินกับพนักงานและเป็นคนจัดการเองทั้งหมด รวมถึงเรื่องเงินด้วย เหมือนเขาจะมีเครื่องประดับของมีค่าติดตัวมาระหว่างที่ถูกอัญเชิญมาด้วย ส่วนพวกเราสองคนนั้นแทบจะไม่ได้เตรียมเงินมาด้วยสักนิด
“ว้าววว สุดยอดไปเลย”
ไรลีย์ตื่นเต้นกับห้องที่สวยงาม เตียงที่ดูหรูหรา ห้องที่กว้างขวาง ตกแต่งประดับประดาไปด้วยของตกแต่งราคาแพงเต็มไปหมด สมกับเป็นโรงแรมหรูจริงๆ ไม่ใช่ว่ามันใหญ่กว่าห้องของผมที่คฤหาสน์อีกเหรอ!?
“นุ่มจังเลย โอ่ยยย รู้สึกเหมือนโดนดูดลงไปเลยล่ะ”
เธอกระโดดทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีพร้อมถูกหน้าลงบนหมอนนุ่มๆ ทำตัวเหมือนไม่เคยนอนบนเตียงมาก่อน
“นี่ พวกนายลองนั่งดูสิ”
เธอเชิญชวนเอามือแปะๆ ด้านข้างเตียงที่เธอนั่งอยู่ จูเลี่ยนเห็นแบบนั้นก็ดูเกรงใจขึ้นมาแต่ก็เดินไปนั่ง
“ยะ ยินดีครับ รู้เกรงใจ-”
ผมตัดหน้าทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ไรลีย์ก่อน พร้อมกอดอกอย่างพึงพอใจ ต้องตัดหน้าก่อนใครจะปล่อยให้นายนั่งข้างๆ เธอกันล่ะ
“ฮ่า ฮ่า นุ่มจริงๆ ด้วย สุดยอดไปเลยฉันเพิ่งเคยนั่งเตียงนุ่มแบบนี้ครั้งแรกเลย”
“ใช้ไหมล่ะ ฉันนอนแต่เตียงแข็งๆ รู้สึกเหมือนจมลงไปในสไลม์”
จูเลี่ยนมองสองเราพูดคุยกันพลางยิ้มเสยะออกมา
“เอ๋ เท่าที่จำได้ เหมือนคุณอารินเป็นลูกชายของดยุค ไม่เคยนอนเตียงนุ่มนี่ดูแปลกๆ นะครับ”
“อะ อะไรกัน ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย”
“เห งั้นเหรอครับ?”
เขาเอามือจับที่คางพร้อมยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
หลังจากนั้นอาหารเย็นมื้อพิเศษก็มาถึง พนักงานต้อนรับนำอาหารมาจัดวางไว้บนโต๊ะภายในห้อง โดยปรกติแล้วทางโรงแรมมีโต๊ะอาหารด้านนอกแต่เพราะความสะดวกเราเลยเลือกทานอาหารกันด้านในห้องดีกว่า ผมมองอาหารที่พนักงานจับเสิร์ฟมาอย่างไม่ละวาง อาหารดูหรูหราน่ากินไปหมด รู้สึกอยากจับขึ้นมากินเสียตอนนี้เหมือนเด็กที่อยากหยิบกินอาหารก่อนหลังจากนั้นก็โดนแม่ดุตักเตือน มีอาหารหลายจานที่ดูถูกใจผมเป็นอย่างมากมันเชิญชวนผมเหมือนกับได้ยินเสียงดังออกมาว่า กินฉันสิ กินฉันสิ อยู่แบบนั้น สงสัยผมคงหิวเกินไปทั้งๆ ที่กินขนมปังไปหนึ่งแท่งแล้วแท้ๆ
“ว้าวววว น่ากินจังเลย ฉันกินก่อนล่ะนะ”
พนักงานต้อนรับยังจัดของไม่เสร็จไรลีย์หยิบน่องไก่เคลือบซอสดูแปลกๆ ขึ้นมาทานอย่างเอร็ดอร่อยเสียแล้ว แต่ดูอาหารที่เธอกินเป็นจานที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าไม่ค่อยชอบแต่ว่าเป็นอาหารที่ไม่ค่อยพบเห็นที่ทำมาก่อนเลย ดูแปลกตาชอบกล
“เชิญเลยครับ เมนูพวกนี้ผมสั่งมาคิดว่าคุณน่าจะชอบน่ะครับ”
พอเห็นไรลีย์ทำแบบนั้นทุกคยก็เริ่มกินอาหารโดยทันที ดูเหมือนพนักงานก็จะไม่ได้ว่าอะไรด้วยจัดวางอาหารเสร็จก็โค้งคำนับแล้วเดินออกมาไปพร้อมรอยยิ้มเช่นเดิม คงไม่ได้ยิ้มเบื้องหน้าลับหลังเอาไปแอบบหัวเราะอยู่ใช่ไหมนะ
“โห นายรู้ได้ไงว่าฉันชอบกินเมนูนี้ ฉันรักมันมากที่สุด~”
“พ่อของผมสอนมาน่ะครับ ว่าผู้หญิงน่าจะชอบกินอะไรแบบนี้”
“งั้นเหรอ? แต่ว่าฉันไม่ยักจะเห็นผู้หญิงคนชอบกินแบบฉันเลย”
เธอพูดพลางกิดเนื้อฉีกเนื้อน่องไก่อยู่
“น่าแปลกนะครับ สงสัยว่าพ่อของผมจะชอบผู้หญิงแปลกๆ ล่ะมั้งครับ”
“หาาา นายว่าฉันแปลกงั้นเหรอ!?”
ไรลีย์ไม่สบอารมณ์ยกส้อมที่เสียสเต็กอยู่ขึ้นมา
“ดะ เดี๋ยวก่อนครับ ไม่แปลกหรอก คนเรานั้นต่างแตกต่างกัน บางคนก็มีความคิดที่ยากจะเข้าใจได้น่ะครับ จริงๆ แล้วผมก็ชอบผู้หญิงแปลกๆ แบบคุณเหมือนกัน”
พอได้ยินแบบนั้นช้อนตักซุปในมือของผมก็หล่นลงบนโต๊ะกระดอนลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้น จนทำให้ทั้งสองคนหันมามอง
"นายเหม่ออะไรอยู่!? ซุปหกหมดแล้ว"
"อะ อือ ขอโทษที"
"ขอโทษ? พูดอะไรแปลกๆ ไม่สมกับเป็นนายเลย"
หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันเตรียมเข้านอน โดยไรลีย์นอนห้องแยกอีกห้องส่วนผมกับจูเลี่ยนนอนห้องเดียวกัน ใช้แล้วผมต้องจับตาดูเจ้านี่ไว้ ผมเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจจูเลี่ยนมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้ แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้ว ไม่สิคงบอกได้ว่าเจ้านี่เชื่อใจไม่ได้เลยมากกว่าหลังจากนี้คอยดูไว้เถอะ