"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น

The Chosen Two, Wanna Choose You - ตอนที่ 25 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา5 โดย ตัวต่อสายรุ้ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Chosen Two, Wanna Choose You

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น

ผู้แต่ง

ตัวต่อสายรุ้ง

เรื่องย่อ

"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น


สารบัญ

The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 1 จากอนาคตข้างหน้า,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 2 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 3 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 4 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 5 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 6 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 7 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 8 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 9 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 10 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 11 สาวน้อยผู้เหลือรอด1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 12 สาวน้อยผู้เหลือรอด2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 13 สาวน้อยผู้เหลือรอด3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 14 สาวน้อยผู้เหลือรอด4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 15 สาวน้อยผู้เหลือรอด5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 16 สาวน้อยผู้เหลือรอด6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 17 สาวน้อยผู้เหลือรอด7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 18 สาวน้อยผู้เหลือรอด8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 19 สาวน้อยผู้เหลือรอด9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 20 สาวน้อยผู้เหลือรอด10,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 21 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 22 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 23 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 24 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 25 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 26 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 27 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 28 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 29 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 30 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา10,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 31 สู่ปราสาทจอมมาร1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 32 สู่ปราสาทจอมมาร2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 33 สู่ปราสาทจอมมาร3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 34 สู่ปราสาทจอมมาร4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 35 สู่ปราสาทจอมมาร5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 36 สู่ปราสาทจอมมาร6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 37 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 38 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 39 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 40 บทส่งท้าย,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 41 พูดคุยนักเขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 25 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา5

“ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

“!”

เสียงร้องขอความช่วยเหลือปนเสียงร้องไห้สะอื้นทำให้ผมรู้สึกตัว ควรจะช่วยฝั่งเด็กๆ ก่อนเราจะเป็นผู้กล้านี่นา ผู้กล้าต้องช่วยเหลือฝั่งเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เสียก่อน ใช้แล้ว ทางนี่นี้แหละถูกต้องหลังจากช่วยเด็กค่อยไปช่วยทางไรลีย์ หวังว่าจะทันนะ

ผมวิ่งไปทิศทางที่เด็กลอยไป เธอล่องลอยตามแรงหมุนวนหลายตลบตามแรงเบื้องบนฝากฟ้า ตัวของเธออยู่ค่อนข้างห่างจากอาคารที่เท้าของผมเหยียบอยู่ คงจะกระโดดอีกระยะหลายเก้ากว่าจะถึงตัวเธอได้

ถ้างั้นเอาล่ะ…

ผมวิ่งสุดแรงขาพร้อมกระโดดพุ่งตัวออกไป เท้าลอยอยู่กลางอากาศไร้ที่ให้เท้าย่ำยืน กระโจนออกไปคว้าตัวเด็กน้อยหูแมวไว้ด้วยปลายนิ้วพอดี ดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้พร้อมเบี่ยงตัวหันหลังเข้าหาทิศทางการพุ่งทะยาน จนตัวผมชนเข้าไปอาคารอีกฝั่งจนพังเข้าไป

“นี่ เด็กน้อยเป็นอะไรไหม?”

"อือออ~ ขะ ขอบคุณค่ะ"

เด็กน้อยหูแมวยังสะอื้นไห้อยู่แม้จะปลอดภัยแล้วก็ตาม เธอคงจะกลัวเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์แบบนี้คงจะมากเกินไปสำหรับเด็กอย่างเธอ

แต่ว่าผมไม่มีเวลาแล้ว

ผมบอกให้เด็กน้อยรีบกลับไปหาแม่ส่วนผมนั้นรีบออกกระโดดออกจากอาคารลงบนพื้น พยายามมองขึ้นไปบนฟ้ามองหาไรลีย์ มองเห็นปลาบินพยายามดิ้นไปมากลางอากาศเหนือเมือง พร้อมกันไรลีย์ที่พยายามเกาะดาบไว้แน่นแกว่งไปแกว่งมาตามแรงเหวี่ยงจวนเจียนจะตก

ปลาบินดิ้นไปมาอย่างเจ็บปวดจากดาบที่เสียบอยู่ที่หาง มันบินโฉบไปมาไร้ทิ้งทางระดับการบินร่วงหล่นลงมาเรื่อยๆ อีกไม่นานคงร่วงลงสู่พื้น

"ย้ากกกก! หยุดบินได้แล้ว!"

ไรลีย์ดึงดาบออกมาจากหาง

“วะ เหวอ…”

เธอพึ่งจะรู้ตัวว่าได้ดึงที่ยึดเกาะสุดท้ายของเธอออกมาเสียแล้ว ตัวเธอเข้ากอดหางของปลาบินไว้แน่นระหว่างมันดิ้นไปกลางอากาศเลือดจากรอยดาบแทงยิ่งไหลมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งตัวมันก็แน่นิ่ง แววตาของมันเลือนหาย หัวทิ้งดิ่งลงมาพุ่งสู่พื้นดิน

“บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว!”

เธอพึมพำหลับตาแน่นยังคงกอดหางปลาไว้ไม่วาง

แบบนี้คงต้องรีบหน่อยแล้ว ปลาบินมันร่วงล่นลงมาเร็วกว่าที่คิดไว้ ผมจึงรีบมุ่งหน้าไปยังจุดที่คิดว่าจะตก เร่งความเร็วสุดฝีเท้า มากยิ่งกว่าตอนไปช่วยเด็กน้อยหูแมวเหมือนครู่ แต่ว่า…

แสงสีขาววิ่งผ่านตัวผมไป ไม่ใช่แสงสีขาวเป็นคนที่ถูกเคลือบด้วยแสงสีขาวทั้งตัวเหมือนกับตอนที่ไรลีย์ปลุกพลังผู้กล้าไปเลย พุ่งผ่านตัวไปผมที่วิ่งด้วยความเร็วสุดกำลัง ผ่านไปเหมือนกับแสงของสายฟ้าร้องส่วนตัวผมก็เหมือนเสียงที่ค่อยๆ ตามไป เห็นแผ่นหลังอยู่ชั่วครู่ เป็นผู้ชาย ผมทอง ตัวใหญ่ จูเลี่ยน?

วิ่งออกไปจนทิ้งตัวผมไม่เห็นฝุ่น มุ่งหน้าไปยังทิศทางการตกของไรลีย์ ตัวเธอดิ่งลงมาด้วยความเร็วจากน้ำหนักของตัวปลาบินที่ใหญ่ยักษ์ ตัวเธอลงเข้ากระแทกพื้นจังหวะเดียวกับแสงแห่งความเร็วที่พุ่งเข้าไปในจังหวะเดียวกัน

เสียงกระแทกดังสะท้าน ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว…

เหมือนฝุ่นเลือนหายไป ปรากฏชายตัวใหญ่ผมทองรูปลักษณ์ดูทรงสง่า กำลังอุ้มหญิงสาวที่ลอยลงมาจากฝากฟ้าด้วยท่าเจ้าหญิงอยู่ ลองมองดูบรรยากาศของทั้งคู่ยืนเหมือนอยู่กลางลานกว้างที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสและพระอาทิตย์กำลังส่องแสงอ่อนๆ หญิงสาวหลับตาพริ้มและยิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้สึกปลอดภัยและอิ่มเอมใจที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของชายคนนั้น

ชายคนนั้นมองหญิงสาวด้วยความรัก เขารู้สึกขอบคุณที่ได้พบเธอ เขารู้ว่าเขาจะต้องปกป้องเธอและดูแลเธอให้ดีที่สุด ชายคนนั้นวางหญิงสาวลงบนพื้นและมองเข้าไปในดวงตาของเธอ เขาพูดว่า "ฉันรักคุณ" หญิงสาวยิ้มและพูดว่า "ฉันก็รักคุณ”

บ้าไปแล้ว…

หยุดคิดเรื่องบ้าๆ ได้แล้วตัวฉัน

แต่บรรยากาศมันให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ชาวบ้านรอบข้างต่างออกมาปรบมือดีใจด้วยความปลื้มปีติ บางคนเห็นภาพนั้นแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทุกคนต่างหลงใหลในรู้ภาพจอมปลอมแบบนั้น ผมไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้

“จูเลี่ยน เออ…ขอบคุณที่มาช่วยนะ”

ไรลีย์มองบรรยากาศของชาวบ้านโดยรอบทำให้รู้สึกเคอะเขินขึ้นมา

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่ายังไงผมจะไม่ปล่อยให้คุณบาดเจ็บเด็ดขาด”

“เอ๋ พูดอะไรของนายน่ะ”

จูเลี่ยนยังคงพ่นคำพูดหวานๆ พร้อมรอยยิ้มจอมปลอมนั้นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาในใจ การกระทำต่างๆ มันยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ใช้แล้ว เมื่อครู่เจ้านั้นมันพุ่งผ่านไปตัดหน้าผมเข้าไปช่วยเธอก่อน มันคงจะรอเวลาแบบนี้อยู่ มันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้แล้วเวลาสำคัญก็โผล่หัวออกมา เจ้าคนจอมปลอม…

ชาวบ้านรอบข้างเริ่มไหลเข้ามา วิ่งเข้าไปหาตัวจูเลี่ยน

“ขอบคุณท่านจริงๆ ครับที่ช่วยพวกเราไว้”

“โอ้ ท่านช่วยพวกเราหลายคนไว้ ความเร็วของท่านช่วงยอดเยี่ยม ท่านคือแสงสว่าง ท่านคือผู้กล้าแห่งแสงสว่างเป็นแน่แท้”

“ขอบคุณพี่ชายที่ช่วยหนูไว้ เอ…ว่าแต่พี่ชายชื่ออะไรเหรอคะ?”

“พี่ชื่อจูเลี่ยนน่ะ”

จูเลี่ยนลูบหัวเด็กเบาๆ อย่างอ่อนโยน

ชาวบ้านต่างหลั่งไหลเข้ามาสรรเสริญชื่นชมจูเลี่ยนไม่ขาดสาย เจ้านั้นไปช่วยชาวเมืองไว้ตอนไหนกันนะ ทำไมทุกคนต้องมาชื่นชมกันขนาดนี้ หรือว่า…ความเร็วขนาดนั้นของเจ้านั้นระหว่างที่ผมเข้าไปช่วยเด็กคนหนึ่งอยู่เจ้านั้นยังช่วยคนได้มากมาย น่าเจ็บใจจริงๆ

“!”

“เอาสิลูก หนูก็ขอบคุณพี่เขาสิ พี่เขาช่วยหนูไว้นี่นา”

หญิงสาวจูงมือเด็กน้อยคนหนึ่งเข้าหาจูเลี่ยน เด็กน้อยคนที่ผมจำได้เป็นอย่างดี เด็กน้อยหูแมวที่ผมช่วยเธอไว้ก่อนเธอจะร่วงหล่นลงพื้นได้ทัน เธอมีท่าทีดูลังเลจ้องมองหน้าจูเลี่ยนเอียงหัวไปมาอย่างสงสัย

“ขอบคุณค่ะ พี่ชาย~”

แต่ในที่สุดเธอก็พูดออกมาจนได้ ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนไปช่วยเธอกลับมือแท้ๆ หรือเพราะผมรีบออกมาก่อนเธอถึงจำหน้าผมไม่ได้กันนะ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนี่นา เจ้านั้นดันกวาดเรียบเอาผลงานไปคนเดียว ชักทนไม่ไหวแล้วเว้ย

“...”

เสียงร้องตะโกนของชาวบ้านดังไปทั่ว ร้องลั่นชื่อ จูเลี่ยน จูเลี่ยน จูเลี่ยน! อย่างคลึกคลื้น เสียงตะโกนทำให้ทุกคนดูตื่นเต้นฮึกเฮิม ไม่เว้นแม้แต่ไรลีย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ จูเลี่ยนท่ามกลางผู้คน เธอร้องเรียกชื่ออย่างยิ้มแย้มตื่นเต้น ตัดกับตัวผมที่ยิ่งได้ยินยิ่งหดหู่ ยืนอยู่โดดเดี่ยวไร้ผู้คนไรเรี่ยวแรง หัวใจรู้สึกห่อเหี่ยวพานทำให้ขาอ่อนล้า

“...กลับห้องดีกว่า”

ผมถอนหายใจอย่างอดสูแล้วหันหลังให้กลุ่มฝูงชนเดินกลับไปทางที่โรงแรมที่พักตั้งอยู่ ร่างกายเดินแทบโซเซแทบไม่ไหว ก้าวเท้าออกไปเจียนจะล้มได้ทุกเมื่อ ความรู้สึกทางร่างกายไม่เท่าไหร่ แต่ด้านจิตใจรู้สึกเจ็บเข้าลึกถึงข้างใน น่าเจ็บใจจริงๆ เลย

ผมเดินออกไปจากทั้งสองคนอย่างเงียบๆ โดยไม่หันทองด้านหลัง มีสายตาของไรลีย์เหลือบมองมาทางเบื้องหลังนี้อยู่

.

.

.

ภายในห้องมืดสลัวยามค่ำคืน ตะเกียงไฟไม่ถูกจุดยังคงคงตั้งอยู่บนโต๊ะเงียบๆ หน้าต่างถูกเปิดออกรับแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาเบาบางพร้อมลมหนาวเย็นยามค่ำคืนไหลผ่านไป แผ่นหลังผมฝังลงอยู่บนเตียงนอน มองเพดานด้วยความว่างเปล่า นอนแผ่ราบอยู่บนเตียงไม่ขยับไหวติงตั้งแต่ช่วงพลบค่ำยามที่ท้องฟ้ายังส่องแสงสีแดงอยู่

ลมหนาวเย็นพัดผ่านมาเบาๆ ควรที่จะรู้สึกเย็นสบายแต่กลับรู้สึกหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ หัวใจที่ซึ่งมวลอารมณ์ถูกอัดแน่นเข้าไปอยู่ภายรอวันที่จะปะทุออก ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกอยู่แบบนี้

เสียงกู่ร้องชื่อจูเลี่ยนยังดังอยู่ในหู เจ้าพวกนั้นดูเหมาะสมกับการเป็นผู้กล้ามากกว่าผมจริงๆ ไม่อยากจะยอมรับแต่มันก็ช่วยไม่ได้

ส่วนตัวไรลีย์ก็ดูเหมือนจะเข้าใกล้กับการเป็นผู้กล้ามากกว่าผมเสียอีก เมื่อตอนที่ติดอยู่ในป่าแห่งมิติแม่มดที่รอดกันมาได้ก็เพราะเธอ อา…ทั้งสองคนดูเหมาะสมกันเหลือเกิน หญิงแกร่งกับหนุ่มรูปงามแล้วตัวผมคืออะไรกัน

แล้วทำไมตัวผมต้องมารู้สึกอะไรแบบนี้กันนะ ทำไมต้องรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้ด้วย ไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนี้เลย

"..."

เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที

"...ขอเข้าไปนะ? "

เป็นเสียงของไรลีย์พร้อมกับเปิดประตูเดินเข้ามา

ผมไม่อยากมองหน้าเธอนั่งก้มหน้าลงหาพื้นห้อง

"มืดจังเลย ทำไมนายไม่จุดตะเกียงล่ะเนี้ย นอนเหนื่อยจนลืมไปเลยเหรอ? "

"แฮะแฮะ…"

ผมหัวเราะเบาๆ พร้อมฝืนยิ้มอย่างขมขื่น

"หือ วันนี้นายดูแปลกๆ นะ อารมณ์ไม่ดีเหรอ หรือว่ายังกินข้าวไม่อิ่มจากเมื่อเช้า ฮิฮิ น่าตลกจัง~"

เสียงจานถูกวางลงบนโต๊ะ แสงสว่างวาบออกมาจากตะเกียงที่เธอจุด เหลือบมองบนโต๊ะมีอาหารมากมายที่เธอนำติดมาด้วย ดูเหมือนเหล่าชาวบ้านจะมีงานเลี้ยงฉลองให้กับพวกเธอสองคน ดีจริงๆ ที่ผมไม่ได้รอพวกเขาอยู่ตรงนั้นไม่งั้นคงโดนหาว่าเป็นตัวน่ารำคาญล่ะมั้ง

"นี่ ฉันเอาอาหารมาให้น่ะ ข้างนอกเขาฉลองกันสนุกมากเลย นายหายหัวไปไหนมา? เฮ้อ จริงๆ เลย"

ไรลีย์เดินลงมานั่งข้างๆ ผมแม้ไม่ได้มองหน้าแต่รับรู้ว่าลมหายใจของเธอดูรุนแรงผิดปกติ

"..."

ผมหันไปมองถึงการกระทำของเธอ ใบหน้าเธอแดงระเรื่อพร้อมยิ้มแย้มอย่างสนุกสนาน เธอคงจะดื่มมาจากงานฉลองมาไม่น้อยเหมือนกัน

"จ้องอะไรของนาย!? เห เห อย่าบอกนะว่านายจะสนใจฉันจริงๆ แล้วสินะ ใช่ไหม ใช่ไหมล้า~"

เธอหยอกล้อผมโดยเอานิ้วมาจิ้มบนหน้า

"!"

ผมรีบปัดออกทันทีด้วยความหงุดหงิดจนเหลือจะทนจนเธอทำหน้าตกใจ

"นี่! นายมีอะไรก็พูดออกมาสักทีสิ มัวแต่ทำหน้าแบบนั้นใครจะไปรู้เรื่องกับนายเล่า"

"เหอะ เธอสนใจฉันด้วยเหรอ ทำไมเธอไม่ไปฉลองกับเจ้าจูเลี่ยนให้สนุกสนานไปเลยล่ะ มาสนใจคนอย่างฉันทำไม!? "

"เป็นบ้าอะไรของนาย ทำไมขี้น้อยใจแบบนี้นะ ผู้กล้าที่ไหนมีนิสัยแบบนายกัน ไอ้เจ้าบ้า!"

"ผู้กล้างั้นเหรอ…"

ผมจ้องมองไปที่ตราผู้กล้าที่ห้อยไว้ที่คออยู่ชั่วครู่แล้วถอดออกโยนไปให้ไรลีย์

"เอ๋ หมายความว่าไง นายจะทำอะไรของนาย"

"เอาไปสิ เธออย่างเป็นนักหนาไม่ใช่เหรอ หลังจากนี้เธอก็เดินทางกับไอ้เจ้าผู้กล้านั้นสองคน ช่วยกันปราบจอมมารแล้วขึ้นเป็นผู้กล้าไปเลยเป็นไง ไม่ต้องมาแข่งกันแล้ว ตามสบายใจเธอเลย"

"..."

"อ่า หลังจากนั้น พอกลับมาพวกเธอก็แต่งงานกันไปเลยมีครอบครัวมีความสุขกันสองคน เป็นไง-"

เพี๊ยะ!!!

พูดไม่ทันจบหน้าผมก็โดนฝ่ามือฟาดเข้ามา จนผมตกใจนิ่งไปชั่วขณะ

"ทำไมนายต้องพูดไม่มีดีกับจูเลี่ยนตลอด ทำไมนายต้องทำตัวแบบนี้ตลอดเลย หยุดบ้าแล้วมีสติได้แล้ว"

"ว่าไงนะ คิดว่าฉันเสียสติคิดไม่ได้หรือไงกัน เธอนั้นแหละคอยเข้าข้างแต่มัน ทำตัวสนิทสนมกันเหลือเกินนะ มันเป็นใครเธอรู้จักมันดีแล้วเหรอ? ถึงกล้าพูดแบบนั้น"

"..."

"หา ว่าไงตอบมาสิ เธอรู้จักมันดีแล้วเหรอ!? "

ผมตะโกนใส่เธอจนหน้าจนทำให้ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ตัวของเธอสั่นกลัว และถอยหลังไปหากำแพง

ถอยหลังไปจนสุดทางเธอก็ก้มหน้ากัดฟันและพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

"...แล้วนายล่ะ พวกเรารู้จักกันดีแล้วงั้นเหรอ? "

เธอพูดจบก็หันหน้ากลับวิ่งออกจากห้องไปพร้อมปิดประตูดังสนั่นทิ้งท้าย

ผมถอนหายใจออกมาพลางมองตราผู้กล้าที่ตกอยู่ เธอยังคงทิ้งมันไว้ตอนก็ไม่รู้ได้

“เฮ้อ ฉันเป็นบ้าอะไรเนี้ย”

เธอทิ้งผมไว้กับคำพูดของเธอยังลงวนเวียนอยู่ในหัว ความรู้สึกจุกอกทิ่มแทงลึกเข้าไปในใจ เหมือนถูกดาบเล่มยาวเสียบทะลุเข้าไปกลางใจกลางอกจนมิดด้าม แขนและขาสั่นอย่างอ่อนแรงจนเดินถอยโซเซนั่งฟุบลงบนเตียง ตัวผมตอนนี้สามารถล้มลงแล้วกระอักเลือกออกมาจนหมดตัวตายได้เลย