"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางฝืนทะเลทรายสุดลูกหูลูกตามองไปทางก็เห็นเพียงเนินทรายไร้ที่สิ้นสุด มีเพียงตัวฉันยืนอยู่เพียงผู้เดียวจ้องมองเม็ดทรายลอยลิ่วผ่านลมที่พัดพาจากเบื้องบนเนินทราย
กลุ่มของฝุ่นลอยฟุ้งกระจัดกระจายเหมือนดั่งกับพายุทะเลทรายมองเห็นได้แต่ไกลมัน ทิศทางของมันมุ่งหน้ามายังเมืองแห่งนี้ด้วยความเร็วที่ยากจะอธิบาย อีกไม่นานเมืองแห่งนี้อาจจะถูกจู่โจมจนเสียหายเหมือนคราวที่แล้วอีกเป็นแน่
ตอนนี้คงจะมีแต่ตัวฉันที่จะหยุดมันได้
เพียงตัวฉัน…
นึกถึงแล้วรู้สึกจุกอยู่ในอก ร่างกายยืนอยู่ด้วยขาทั้งสองข้างอันอ่อนแรงและเหนื่อยล้า ฉันร้องไห้ทั้งคืนจนดวงตานั้นบวมแสบไปหมด แล้วทำไมฉันต้องร้องไห้ให้กับไอ้ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้นด้วย
เฮ้อ จริงๆ แล้วเขาดีกับฉันมาก ถึงครั้งแรกพบจะทำนิสัยหยาบคาย แต่เหมือนได้เดินทางด้วยกันแล้วก็ต้องถูกช่วยเหลือโดนเขามาตลอด ในตอนที่อยู่ในถ้ำฉันรู้สึกอายจนทนไม่ไหวจึงไม่อยากมองหน้า เมื่อมาถึงเมืองแล้วเขาก็ยังดูแลฉันเป็นอย่างดี ฉันนอนคิดทั้งคืนว่าหลังจากจบเรื่องพวกนี้แล้วเขาจะให้ฉันอยู่ในฐานะอะไร ตื่นเช้ามาเขาก็เข้ามาทันทีกะทันหันโดยยังไม่ทันได้เตรียมใจ
ฉันพยายามที่จะบอกกับเขาไป แต่…กลับโดนทำท่าทีโมโหใส่ แบบนี้มันหมายความว่าไงกัน เขาพยายามที่เบี่ยงบ่ายเรื่องนี้งั้นเหรอ?
แต่ฉันยังไม่ยอมแพ้ หลังจากเสร็จสิ้นงานฉลองกับชาวบ้าน ฉันรอเขาอยู่นานจนกระทั่งงานฉลองเลิก ไม่รู้ว่าเขาหนีหายไปไหนกลัวเขาจะหิวจึงเอาอาหารติดมือขึ้นไปหาด้วย แต่ทุกๆ อย่างกับแย่ยิ่งกว่าเดิน เขาบอกจะเลิกเป็นผู้กล้า ฉันไม่เข้าใจจริงๆ กับการแสดงความรับผิดชอบแต่งงานเพียงเท่านี้กลับต้องล้มเลิกความต้องการของตัวเองขนาดนั้นเลยหรือ?
ไอ้ผู้ชายที่เอาแต่ได้พอได้เสียแล้วก็ทิ้งขว้างกันแบบนี้ มันน่าเจ็บใจจนอยากจะเอากำปั้นบดขยี้ให้แหลก แต่…ทำไปแล้วจะได้อะไรล่ะ?
“เฮ้อ…”
ฉันถอนหายใจออกมาอย่างอดสู
ฝูงปลาบินเริ่มเข้าใกล้มาแล้ว ฉันยกเท้าอันหนักอึ้งวิ่งฉีกออกไปด้านข้างของเมือง
ฉันหยิบสิ่งของก้อนกลมสีดำขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือออกมา ฉันขยี้มันด้วยกำมืออย่างแรงจนพวกมันเริ่มขยายตัวแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ โปรยพวกมันลงทีละเม็ดตลอดเส้นทางการวิ่ง
หลังจากนั้นพวกมันก็ระเบิดตูมตามดังขึ้นมาไล่หลังมา เสียงระเบิดดังทะลุผืนทรายสั่นสะเทือนจนฝูงปลาบินทะเลทรายเปลี่ยนทิศทางจากมุ่งสู่เมืองหันมาไล่ตามฉันแทน
"ดูเหมือนมันจะได้ผล"
ลูกระเบิดพวกนี้ฉันได้จากชาวบ้านที่มักจะใช้ล่อปลาบินเพื่อล่าพวกมัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกปลาบินมันเกิดความผิดปกติจึงทำให้พวกมันรวมฝูงและบินผ่านเมืองทำให้เมืองเสียหาย ดูเหมือนจูเลี่ยนไปสืบหาความจริงอาจจะเกี่ยวข้องกับขุนพลของจอมมารก็เป็นได้
แต่เรื่องแบบนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้คงต้องคิดหาวิธีรับมือกับพวกมันก่อน เดิมที่คิดว่าแค่ล่อมันออกมาจากเมืองได้ก็พอ แต่มัวแต่คิดถึงแต่เรื่องไอ้ผู้ชายคนนั้นเลยไม่ได้คิดให้รอบครอบเสียก่อน
บ้าจริง!
ปลาบินแหวกว่ายผ่านฝืนทรายเหมือนกับแหวกว่ายในมหาสมุทร ตามไล่หลังฉันแค่ไม่กี่ก้าวเสียงเท่านั้น
มันพุ่งขึ้นมาจากฝืนทรายสยายครีบออกโผบินอ้าปากกว้างพุ่งเข้ามาท่าทีหิวกระหาย ดูเหมือนมันคิดว่าฉันคืออาหารของมัน ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ในเมืองมันแค่บินผ่านไปเพียงเท่านั้น ดูเหมือนเบิดพวกนั้นใช้ล่อให้ดูเหมือนอาหารในธรรมชาติของมัน
ฉันหันหลังกระโดดพุ่งเข้าต่อสู้ ดาบในมือกวัดแกว่งเฉือนคอปลาตัวใหญ่จนขาดออก ใครจะไปยอมให้มันกินกัน ไม่สู้ก็แค่ตายเพียงเท่านั้นไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันมากนัก
"ย้ากกกกก!"
เสียงร้องฮึกเหิมเข้าประชันกับฝูงปลาที่มุ่งหน้ากระโจนเข้าหาเหยื่ออย่างหิวโหย
ตัวหนึ่ง ตัวที่สอง ตัวที่สาม คมดาบของฉันฟันผ่านพวกมันตัวแล้วตัวเหล่า จนฝืนทรายที่เหือดแห้งต้องเปียกชุ่มไปด้วยเลือกของปลา
ฉันเสียบหัวมันลงกับพื้นทะลุไปยังพื้นทรายจนมันดิ้นพล่านสักพักก็หยุดลง แต่ปลาบินอีกตัวก็พุ่งขึ้นมาจากผืนทรายกะทันหันจนดาบก็หลุดออกจากมือฉันไปติดอยู่บนหัวปลา
ตัวฉันกลิ้งไปหลายตลบจากการโจมตีที่คาดไม่ถึง จนตัวเองต้องไถลลงเนินทรายลงไปนอนกองด้านล่าง
"เฮ้อ…"
ตัวฉันเองก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ความเหนื่อยล้าเริ่มแสดงให้เห็นจากลมหายใจเสียงดัง ดูเหมือนจะฝืนตัวเองมากไปหน่อย
ดูเหมือนแขนขาลุกยืนขึ้นไม่ไหวแล้ว ทั้งที่คิดว่าตัวเองร่างกายตัวเองน่าจะฮึดสู้ได้อีกสักหน่อย แต่ว่าดูหัวใจไม่อยากจะทำแบบนั้น คงเพราะบอบช้ำจากการโดนทำร้ายอย่างหนัก เพราะไอ้ผู้ชายบ้านั้น ถ้าเจ้านั้นไม่มาหาเรื่องเราในพิธีคัดเลือกผู้ก่อนคงไม่ได้ต้องมาอยู่สถานการณ์แบบนี้
ปลาบินแหวกว่ายลงเนินทรายมา กระโจนออกจากทรายมาเป็นฝูงพร้อมรุมขย้ำเหยื่อที่นอนหมดแรงอยู่ทันที
ฉันมองภาพนั้นอย่างหมดอาลัย แต่หัวใจกลับกรีดร้อง
"ไอ้เจ้าบ้า!"
ฉันตะโกนออกมาดังสุดเสียง หวังให้ดังไปถึงไอ้เจ้าบ้านั้นจริงๆ
"!!!"
เสียงระเบิดดังสนั่นจนผืนทรายเกิดเปลวคลื่นเป็นระลอก
"เธอกำลังเรียกใครอยู่!? "
ฉันแหงนหน้ามองไปตามเสียงเรียก เห็นชายคนหนึ่งหน้าและท่าทางอันคุ้นเคย ทำท่าทีอวดเบ่งพร้อมกับห่าระเบิดที่พวยพุ่งจากเบื้องหลัง ภาพชวนน่าหมั่นไส้แต่หัวใจฉันกลับรู้สึกสบายใจขึ้น
ฉันถอนหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย รู้สึกแก้มของตัวจะเผยรอยยิ้มออกมาได้บ้างแล้ว
"ก็เรียกไอ้บ้า อย่างนายไง"
.
.
.
สิ้นสุดเสียงระเบิดลูกสุดท้าย ฝูงปลาบินทะเลทรายหันหน้าเข้ามาทางผมแทน มันพุ่งผ่านไรลีย์ไม่เหลียวแลเหมือนดั่งกับเป็นแค่ก้อนหินข้างทาง ท่าทางแยกเขี้ยวอย่างหิวกระหายที่มุ่งหน้ามาทางตัวผมทำให้ผมเสียวสันหลังอยู่เหมือนกัน
แต่ว่า…
ผมดึงดาบออกมาจากฝักชูออกมาด้านหน้าพร้อมหลับตาลง
“เอาล่ะ”
ถอนลมหายใจออกมาสลัดความหวาดกลัวและตื่นเต้นทิ้งออกไป
ขณะนี้ไม่มีเวลาที่ต้องเสียไปอีกแล้ว ไรลีย์กำลังมองผมอยู่อย่างคาดหวัง จะต้องทำตัวให้เท่สมกับว่าเป็นชายผู้กล้าหาญออกมาช่วยหญิงสาวที่กำลังตกที่นั่งลำบาก ทำเหมือนกันที่จูเลี่ยนแนะนำมา
ใช้ดาบกวาดเอาเม็ดทรายด้านหน้ากระจายออกขนเกิดเป็นฝุ่นทรายคลุ้งไปทั่ว
ลืมตาขึ้นแล้วยังคงเห็นปลาบินพวกนั้นฝ่าทะลวงผ่านฝุ่นทรายพวกนั้นออกมาได้ ดูเหมือนว่าการล่อลวงของผมจะใช้การไม่ได้
“แปลว่าได้เวลาเอาจริงแล้วสินะ?”
ผมก้าวเท้าออกไปด้านหน้า แต่ว่า…เป็นทิศทางตรงกันข้ามกับฝูงปลาบินพวกนั้น แล้วสับขาวิ่งหน้าตั้งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ห๊ะ! แล้วนายจะเท่ไปทำไมถ้าจะหนีหางจุกตูดแบบนั้นน่ะ”
เสียงไรลีย์ตะโกนไล่หลังมา
“ก็ฉันไม่ได้คิดไว้นี่นา แค่กะว่าจะล่อมันมาเพียงเท่านั้น ใครจะสู้มันได้กันล่ะ มันมาเป็นฝูงแล้วไม่เห็นเหรอ!?”
“นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทำอะไรไม่รู้จักคิดเลยจริงๆ”
“อะไรนะ แล้วคนที่ล่อพวกมันออกจากเมืองไปคนเดียว เป็นคนรู้จักคิดแล้วงั้นเหรอ ฉันว่าคนนั้นมันบ้ายิ่งกว่าฉันอีก”
“อา ใช้สิฉันมันบ้า บ้าเพราะต้องอยู่กับผู้ชายบ้าๆ แบบนายไงล่ะ!”
“ฮ่า ฮ่า ฉันจะแสดงให้ดูวิธีของคนบ้าๆ น่ะ”
ผมวิ่งไปหักเลี้ยงอย่างฉับพลันแต่ปลาพวกนั้นกลับไม่สับสนแม้แต่น้อยยังคงไรตามอย่างหิวกระหายไม่ลดละ เส้นทางการวิ่งตรงเข้าไปสู่เมือง คงจะเป็นวิธีการที่ทำให้ไรลีย์ต้องใจหายเป็นแน่ ทั้งๆ ที่เธอพยายามล่อมันออกไปนอกเมืองแต่ผมกลับพามันเข้าไปหาเมือง แต่ว่านะ…
เมื่อใกล้ถึงประตูเมืองผมเห็นเงาคนที่ยืนรออยู่
เห็นแบบนั้นก็มองไปยังพื้นทราย แล้วส่งแรงไปที่ขากระโดดออกไปให้สูงกว่าที่เคย สูงลอยค้างกลางอากาศเป็นเวลานาน
พวกปลาบินไม่ได้บินตามขึ้นมาด้วย คงเพราะคิดว่าถึงอย่างไรก็จะตกมาอยู่ดี พวกมันไปรอที่จุดตกแล้วอ้าปากรอเหยื่อร่วงหล่นลงปาก ยกหัวชูชันรอดื่มด่ำกับอาหารอันโอชะ
“เอาเลย!”
ผมตะโกนร้องเรียกให้สัญญาณถึงคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเมือง คนคนนั้นคือจูเลี่ยน ทันทีที่ได้ยินสัญญาณเขาก็ยกมือขึ้นเล็งไปที่พื้นทรายที่ฝูงปลาบินอยู่ พร้อมกับร่ายเวทมนตร์
“ไฟเยอร์บอล!”
บอลไฟออกถูกปล่อยออกจากมือของจูเลี่ยน บอลไฟที่ดูคล้ายกับที่ผมใช้อยู่เหมือนกัน แต่อานุภาพของมันจะดูดีกว่าของผมมากกว่านิดหน่อย ถึงจะน่าเจ็บใจแต่ก็ยอมรับได้เพื่อให้สำเร็จไปเป็นดั่งแผนที่วางไว้
ลูกบอลเพลิงพุ่งลงกลางฝูงปลาบินจนระเบิดออก ดูเหมือนแค่บอลไฟจะทำอะไรมันไม่ได้มาก แต่หลังจากนั้นล่ะ…
หลังสิ้นสุดการระเบิดของบอลไฟ พื้นดินก็ค่อยๆ ขยายตัว เริ่มมีจุดสีแดงๆ โผล่ขึ้นมาบนพื้นทราย หลังจากนั้นมันก็ปะทุออกมา ระเบิดเสียงดังลั่นปะทุทรายขึ้นมาจากพื้นพวยพุ่งขึ้นไปจนเหมือนรูปเห็ดยักษ์ ฝูงปลาบินพวกนั้นถูกหลอมละลายหรือไม่ก็ลอยละลิ่วกระจายหายไปตามแรกระเบิด
“อัก!”
ดูเหมือนตัวผมที่ลอยอยู่สูงแต่ก็วายโดนแรงระเบิดจนซัดตัวเองลอยกระเด็นร่วงหล่นลงบนพื้นกลิ้งไปหายตลบ
เม็ดทรายที่กระจายออกร่วงลงใส่หูใส่ตาใส่ปากจนไอออกมาสภาพดูไม่ได้เลย หลังจากนั้นก็นอนแผ่ราบไปบนผืนทราย รู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว คงเพราะจากแรงระเบิดพวกนั้น ก็นะ ใครใช้ให้ทำตามแผนบ้าๆ แบบนั้นกันล่ะ
“ยินดีด้วยครับ ค่อยดูทำตัวดูเหมือนจะเป็นผู้กล้าขึ้นมาหน่อย”
จูเลี่ยนยิ้มพลางยืนมือเข้ามา
“ใช่แล้วล่ะ ฉันนี้แหละจะเป็นผู้กล้าเอง”
ผมฉันมือดึงตัวเองขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น