"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"ทางทิศตะวันตก ไร้การเคลื่อนใดๆ "
สายตามมองผ่านกล้องส่องทางไกลไร้เงาสิ่งมีชีวิต มีเพียงเม็ดทรายขยับไหลไปตามแรงลมเพียงเท่านั้น
"เข้าใจแล้ว นายช่วยคอยดูทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือไว้ด้วย มันอาจจะโผล่มาทางนั้นก็ได้"
"อะ อือ เฉียงเหนืองั้นเหรอ อือ… เจอแล้ว!"
"ว่าไงนะ! ไหนๆ นายเจอจริงเหรอ? "
ไรลีย์ขยับเข้ามามองตามทิศเดียวกันอย่างตื่นตัว
“ไหนล่ะ? ทำไมฉันไม่เห็นอะไรเลย”
“ทางขวาอีก”
“ทางขวาเหรอ? เข้าใจแล้ว หืม…”
หลังจากเธอส่องดูสิ่งที่ผมอยากให้เธอดูไป ใบหน้าตื่นเต้นของเธอก็หายไปพร้อมกับหันมาหันหน้ามามองผมด้วยสายตาโกรธเคือง
“นายกำลังให้ฉันดูบ้าอะไรห๊า!”
“ก็ให้เธอดูอูฐของชาวบ้านแถวนี้ไง สำรวจพฤติกรรมสัตว์ใกล้ๆ นี้ไว้บ้างมันไม่ดีหรือไง มันอาจจะเป็นนึกในสาเหตุของปัญหาเรื่องปลาบินทะเลทรายบุกเมืองก็ได้”
เธอเดินเข้ามาดึงขอเสื้อผมขึ้น
“แต่นายให้ฉันดูอูฐฉี่เนี้ยนะ กำลังกวนประสาทฉันอยู่ใช่ไหม”
“ล้อเล่นน่า ล้อเล่น ฉันแค่กลัวเธอง่วงเพราะรอมานานแค่นั้นเอง”
เธอยกกำลังปั้นขึ้นมากำไว้แน่น ดูเหมือนผมน่าจะโดนกำปั้นของเธออีกแล้ว ช่วงนี้รู้สึกได้ว่าไม่ค่อยได้ทะเลาะกับเธอมานานแล้ว รู้สึกคิดถึงบรรยากาศแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่บางทีแล้วการไม่ต้องเจ็บตัวคงจะดีกว่า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
เสียงหัวเราะลั่นของจูเลี่ยนที่นั่งมองอยู่ข้างๆ ก็แทรกขึ้นมาระหว่างการทะเลาะของเราทั้งคู่ เสียงหัวเราะจนเต็มอารมณ์ เผยความสุขอันอิ่มเอมออกจากสีหน้าจนเห็นได้ชัด
“โทษทีครับ พอดีเห็นพวกคุณสองคนสนิทกันแบบนี้ก็รู้สึกดีใจออกมา ขอโทษที่หัวเราะออกมาด้วยครับ”
“เอ๋ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ผมเหรอครับ?”
“ก็น้ำตาของนายมันไหลอยู่นะสิ”
ผมบอกไปแบบนั้นโดยเข้าใจว่ามันน่าหัวเราะจนถึงขั้นน้ำตาไหลขนาดนั้นเลยหรือ หรือมันมีส่วนที่ไปกระทบจิตใจของจูเลี่ยนหรือเปล่า อย่างเช่นความทรงจำกับคนรักเก่าที่ตายไปแล้วผุดขึ้นมาเหมือนเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกัน
“อ่าครับ…พอดีผมเห็นพวกคุณสองคนดูสนิทกันแล้วก็นึกถึงท่านพ่อกับท่านแม่ขึ้นมาน่ะ”
ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องคนรัก แต่พูดถึงเรื่องพ่อกับแม่แล้วทำหน้าตาเศร้าสร้อยก็หมายความว่า…
“พวกเราดูสนิทกันเหมือนพ่อกับแม่ของคุณจูเลี่ยนเลยใช่ไหม!?”
ไรลีย์พูดออกไปน้ำเสียงดูตื่นเต้น
“...พ่อแม่ผมเขาฆ่ากันตายน่ะครับ”
“...”
ได้ยินแบบนั้นทำพวกเราสองคนปิดปากเงียบสนิท เรื่องที่เขาพูดอาจจะเหมือนเรื่องตลกที่เอามาพูดตัดกับเรื่องล้อเล่น แต่ดูเหมือนน้ำเสียงของเขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องตลกได้เลย ชักสงสัยแล้วว่าต้องผ่านเรื่องราวอะไรมากันแน่นะ
“อะ เออ ฉันขอโทษนะ”
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกครับ มันคือเส้นทางของผู้ที่ต้องรับชะตากรรมแบบนี้ล่ะมั้งครับ”
เรื่องราวความหลังของจูเลี่ยนดูน่าสนใจ แต่ตัวผมเองคงจะไม่กล้าถามไปด้วยสถานการณ์แบบนี้หรอก จูเลี่ยนพูดถึงเส้นทางของผู้กล้าบางทีแล้วพวกเราคนใดคนหนึ่งอาจจะเดินในเส้นทางที่ยากลำบาก แสดงว่าไรลีย์จะต้องเดินในเส้นทางแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องคอยช่วยเหลือเธอให้ดีแล้ว
“ศัตรูบุก!” “ศัตรูบุก!” “ศัตรูบุก!” “ศัตรูบุก!”
เสียงร้องตะโกนของชาวบ้านดังต่อกันเป็นทอดส่งสัญญาณให้กับเหล่าทหารที่ประตูเมืองให้ได้รับรู้
พวกเราเองก็ได้ยินเสียงนั้นจนลุกขึ้นมองหาศัตรูตามเสียงสัญญาณลอก ศัตรูที่พวกเรารออยู่คือฝูงปลาบินขนาดมหึมา ใหญ่กว่าการบุกของปลาบินครั้งไหนๆ ที่บุกผ่านเมืองนี้ ความจริงแล้วปลาบินเหล่านี้แค่ต้องการจะบินผ่านเมืองเพียงเท่านั้นไม่ได้ต้องการที่จะโจมตีเมืองแต่อย่างใด มันเป็นเรื่องที่จูเลี่ยนได้สืบมาก่อนหน้านี้
ว่ากันว่าหนึ่งในขุนพลจอมมารพยายามควบคุมฝูงปลาบินให้ไปรวบรวมกันเพื่อรวมไข่ของพวกปลาบินทะเลทรายเอาไว้เป็นเสบียงให้แก้กองทัพจอมมาร มีข่าวลือกันว่าอาจจะได้เริ่มสงครามกับมนุษย์ในเร็ววัน และด้วยเหตุนั้นเมืองแห่งนี้ไม่ได้เข้าร่วมกันกองทัพจอมมารอาจจะถูกกลั่นแกล้งโดยการส่งปลาบินให้บินผ่านเพื่อกดดันให้เมืองนี้เข้าร่วมกันกองทัพ เป็นเรื่องที่นักเดินทางและพ่อค้าที่เข้าออกเมืองนี้พูดถึง
และในวันนี้มีแหล่งข่าวบอกว่าขุนพลจอมมารจะขนฝูงปลาบินฝูงใหญ่ผ่านเมืองนี้ เพราะเหตุนั้นพวกเราจึงได้ออกมาเตรียมการหลายๆ อย่างกับชาวเมือง
กล้องส่องทางไกลของพวกเราสามคนหันหน้าไปทิศทางเดียวกัน มองผ่านกล้องเห็นกลุ่มฝุ่นทรายขนาดใหญ่คละคลุ้งไปทั่วลอยขึ้นสูงเหนือฟ้า มันค่อยๆ เคลื่อนที่มาหาเมืองเหมือนกับฝูงปลาบินที่บุกมาก่อนหน้านี้ แต่ความแตกต่างเป็นในด้านของจำนวน ตอนนี้กลุ่มฝุ่นทรายปรากฏทั่วทิศทางมองไปทางไหนก็เห็นแต่ฝุ่นทรายค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาพร้อมบดขยี้เมืองทั้งเมืองให้จมลงในทะเลทราย เหมือนกับกำแพงที่ค่อยเคลื่อนตัวเข้าจนปิดบังพวกเราจนมิด
สายลมแรงพัดผ่านเข้ามา ฝุ่นทรายถูกลมพัดกระจายหายไปบางส่วน จนเผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นำหน้าพวกฝูงปลาบินทะเลทรายอยู่ กระดองสีกำทมิฬใบใหญ่โผล่ผืนขึ้นเหนือพื้นทราย ส่วนด้านล่างแหวกว่ายผ่านเม็ดทรายเหมือนกับอยู่ในน้ำทะเล
พวกเรามองภาพที่เห็นอย่างตกตะลึง ถึงแม้จะได้ยินจากสายข่าวแล้ว แต่ก็ยังคงตกใจกับสิ่งที่เห็นด้วยตาตัวเอง
“ท่านผู้กล้าเราควรทำอย่างไรดีครับ?”
ทหารที่อยู่เบื้องล่างถามออกมาอย่างลุกลี้ลุกลนทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อจากความตื่นกลัว
“รอก่อน”
พอพูดแบบนั้นพวกมันก็ยังคงเคลื่อนตัวเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ทหารหลายคนเริ่มเหงื่อตกกันจนอยู่ไม่สุข กำดาบไว้ด้วยมือที่สั่นกลัว
“มันจะเข้ามาถึงแล้วนะครับ ต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว”
“รออีกนิด”
ขณะนั้นกระดองทมิฬใบยักษ์เคลื่อนที่นำหน้ามุ่งเข้าใกล้ถึงประตูเมืองอย่างรวดเร็ว เข้าไปถึงใจกลางที่โล่งกว้างขนาดใหญ่
“มันมาถึงที่หมายแล้ว เตรียมพร้อมจุดระเบิด!”
เมื่อไรลีย์ให้สัญญาณผมกับจูเลี่ยนก็พยักหน้าให้กัน
มือของเราสองคนยกขึ้นชี้เข้าหาพื้นที่โล่งเบื้องหน้าของกระดองทมิฬยักษ์ พร้อมกับจุดลูกไฟขึ้นที่มือของเราทั้งสอง จนลุกโชนขึ้นมาเป็นก้อนกลมร้อนแรง
“ไฟเยอร์บอล!” “ไฟเยอร์บอล!”
บอลไฟของผมกับจูเลี่ยนถูกยิงออกไป วิถีลอยโค้งเป็นทางเหมือนรูปร่างรุ้งกินน้ำ จนตกกระทบกับพื้นดินทำให้ระเบิดออกในครั้งแรก หลังจากนั้นแรงระเบิดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นบนพื้นที่โล่งที่กว้างใหญ่หลังจากถูกปะทุด้วยระเบิดลูกแรก ระเบิดเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาอย่างเร่งด่วนเป็นจำนวนมากระหว่างที่เราอยู่ในเมืองนี้กว่าสองสัปดาห์
แรงระเบิดปะทุไปยังใต้พื้นทรายจนทำให้กระดองดำทมิฬยังร้องออกมาโหยหวนเสียงดังจนพื้นทรายสั่นสะเทือน พวกเราต้องปิดหูไว้เพื่อนป้องกันแรงของเสียงนั้น
เปลวไฟจากแรงระเบิดยังลงปะทุอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งพื้นที่เหมือนกับลาวาที่พรวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน โดนไปขนาดนั้นใครก็ต้องคิดว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนรอดไปหรอกแม้กระทั่งจอมมารโดนไปแบบนี้ก็คงต้องโดนเผาจนตายเป็นแน่
“ดูสิ พวกฝูงปลาบินเริ่มเข้ามาแล้ว”
เนื่องจากด้วยพฤติกรรมไวต่อเสียงระเบิดของปลาบินทำให้พวกมันกรูเข้าหาเปลวไฟของแรงระเบิด จนทำให้พวกมันค่อยๆ เข้ามาโดนแผดเผากันเป็นจำนวนมาก เป็นไปตามแผนที่คิดไว้ทุกอย่างช่วงฉลาดหลักแหลมเหลือเกินตัวฉัน ถึงจะเป็นแผนที่จูเลี่ยนร่วมกับชาวบ้านช่วยคิดกันมาก็เถอะ
“สำเร็จแล้ว พวกเราสุดยอดกันไปเลย นายว่าไหม?”
“แต่ฉันยังไม่ได้เห็นเธอทำอะไรเลยนี่”
“หาาา นายว่าไงนะ ฉันคอยให้สัญญาณแก่พวกนายอยู่นี่ไง คนที่ยิงได้แค่บอลไฟลูกเล็กๆ ได้แบบนายมันช่วยเหลือมากหรือไง!?”
“มันก็ดีกว่าคนที่ใช้ไม่ได้ไม่ใช่หรือไง เธอน่ะใช้มันได้เหรอ?”
“ก็ฉันไม่มีเงินพอที่เรียนมันนี่นา แน่จริงนายก็สอนฉันสิ มาสิเอาสิ มาดูว่าใครจะใช้ได้ลูกใหญ่กว่ากัน”
ขณะที่พวกเราถกเถียงกันอยู่นั้นเสียงกระทืบเท้าอันหนักอึ้งเหยียบลงบนผืนทรายจนรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ เมื่อเปลวไฟจากระเบิดก็เริ่มที่จะเบาบางลงก็เผยให้เห็นกระดองทมิฬยังค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากใต้ทรายขึ้นมาเหยียบบนพื้นดินใกล้ตัวเมือง เผยให้เห็นรู้ร่างใต้กระดองของมันจนชัดเจน ผิวกลัวหนาแต่เหี่ยวย่น เท้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากครีบเป็นเหมือนกับเท้าของชาติ คอยาวยื่นออกมาจากกระดองนั้น รูปร่างมันเหมือนกับเต่ายักษ์ที่ตัวขนาดมหึมา เดิมทีมองเห็นแค่กระดองก็รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่แต่ตอนนี้มองเห็นมันทั้งตัวก็ยากจะอธิบายความรู้สึก
“อะไรกันนายกลัวเหรอ?”
“ฉันไม่ได้กลัวสักหน่อย เธอนั่นแหละทำตัวถึงสั่นล่ะ”
“บะ บ้าน่า ฉันเตรียมใจมาเต็มร้อยแล้วนะ อย่าพูดให้บ้าไปหน่อยเลย”
“เห…งั้นเหรอ เอาแบบนี้เป็นไง ถ้าพวกเราชนะมันได้ฉันจะสอนไฟเยอร์บอลให้เธอก็ได้”
พอพูดแบบนั้นไรลีย์ก็ยิ้มออกมา
“ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็ไปลุยกันเลย!”
พวกเราสามจนกระโดดลงจากกำลังลงสู่พื้นทันที ยกดาบขึ้นพร้อมมุ่งหน้าเข้าโจมตีอย่างมุ่งมั่น