"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น

The Chosen Two, Wanna Choose You - ตอนที่ 32 สู่ปราสาทจอมมาร2 โดย ตัวต่อสายรุ้ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Chosen Two, Wanna Choose You

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น

ผู้แต่ง

ตัวต่อสายรุ้ง

เรื่องย่อ

"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น


สารบัญ

The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 1 จากอนาคตข้างหน้า,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 2 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 3 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 4 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 5 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 6 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 7 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 8 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 9 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 10 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 11 สาวน้อยผู้เหลือรอด1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 12 สาวน้อยผู้เหลือรอด2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 13 สาวน้อยผู้เหลือรอด3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 14 สาวน้อยผู้เหลือรอด4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 15 สาวน้อยผู้เหลือรอด5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 16 สาวน้อยผู้เหลือรอด6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 17 สาวน้อยผู้เหลือรอด7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 18 สาวน้อยผู้เหลือรอด8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 19 สาวน้อยผู้เหลือรอด9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 20 สาวน้อยผู้เหลือรอด10,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 21 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 22 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 23 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 24 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 25 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 26 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 27 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 28 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 29 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 30 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา10,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 31 สู่ปราสาทจอมมาร1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 32 สู่ปราสาทจอมมาร2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 33 สู่ปราสาทจอมมาร3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 34 สู่ปราสาทจอมมาร4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 35 สู่ปราสาทจอมมาร5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 36 สู่ปราสาทจอมมาร6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 37 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 38 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 39 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 40 บทส่งท้าย,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 41 พูดคุยนักเขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 32 สู่ปราสาทจอมมาร2

พวกเราพยายามเปิดประตูบานใหญ่ออกด้วยการช่วยกันดึงอย่างสุดแรงจนเสียงบานประตูถูไถกับพื้นเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด จนกระทั่งประตูถูกเปิดออกทั้งสองด้าน แต่กลับไม่มีสิ่งใดโผล่ออกมาจากภายในประตูนั้น

“ทำไมมันดูเงียบๆ แบบนี้ล่ะ?”

“ใครจะรู้ล่ะ บางทีอาจจะเป็นกับดักล่ะมั้ง”

ผมกับไรลีย์หลบด้านข้างประตูพลางชะแง้มองเข้าไปในประตูนั้น

“พวกคุณทำอะไรกันน่ะ เข้าไปกันเถอะครับ”

“ฮะ เฮ้ย เดี๋ยวสิ!”

พูดไม่ทันจบจูเลี่ยนก็เดินเข้าไปในประตูโดยไร้ความเกรงกลัว เหมือนกับเดินเข้าพักในโรงแรมอย่างสบายใจพร้อมกับมีพนักงานต้อนรับออกมาเชิญชวน ได้แต่สงสัยว่าไม่ทำตัวสบายใจเกินไปหน่อยเหรอ?

พวกเราสองคนก็เดินตามเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“มืดจังเลย”

ทันทีที่ไรลีย์พูดไปแบบนั้น คบเพลิงไฟรอบๆ ห้องก็ถูกจุดขึ้นเองกะทันหัน ค่อยๆ เห็นแสงไฟจากคบเพลิงตั้งแต่หน้าประตูไล่ไปจนถอยของห้อง

“ระวังตัวด้วยทุกคน!”

พวกเราเตรียมตัวจับดาบเตรียมพร้อมต่อสู้

แต่กลับไม่พบเห็นศัตรูสักคน ทุกอย่างเงียบเชียบไร้เงาของมอนเตอร์หรือผู้คน แม้แต่เสียงยังได้ยินเพียงเสียงลมและเสียงไฟไหม้ของคบเพลิง

แสงไฟเผยให้เห็นก้อนคริสตัลสีฟ้าขุ่นตั้งอยู่ตรงกลางห้อง ผมเองก็ไม่รู้ว่ามีไว้ทำไมคงจะเป็นของที่เอาไว้ประดับห้อง แต่มันกลับดูตั้งอยู่ผิดที่ผิดทางมากกว่าเป็นสิ่งที่เอาไว้ประดับ ในส่วนท้ายของห้องเห็นบันไดใช้สำหรับขึ้นไปบนห้องถัดไป

“ไปต่อกันเถอะครับ”

พวกเราตกลงกันว่าจะขึ้นไปชั้นต่อไป แต่เมื่อขึ้นไปแล้วก็พบเห็นคริสตัลสีฟ้าขุ่นตั้งอยู่กลางห้องและมีบันไดที่ท้ายห้องเช่นเดิม ดูเหมือนคริสตัลมันจะใหญ่กว่าชั้นล่างนิดหน่อยแถมรู้สึกได้ว่าห้องมันกว้างขึ้นเล็กน้อยอยู่เหมือนกันเดิมทีแล้วคิดว่าผมนั้นคิดไปเอง แต่เมื่อขึ้นไปชั้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยมันยิ่งเห็นได้ชัดว่ามันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ทั้งๆ ที่ดูจากรูปร่างภายนอกปราสาทแล้วมันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไปได้ เจอแต่เรื่องพิศวงอีกแล้วสินะ

เราเดินขึ้นมาได้70กว่าชั้นไรลีย์บ่นว่าเหนื่อยพวกเราจึงต้องพักกันก่อน ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ผมดูตามใจเธอไปซะทุกอย่างเลย แต่รู้สึกว่าอยากให้เธอทำตามที่เธอได้ตามที่ต้องการได้เลย

“เฮ้อ… พวกเราจะต้องเดินกันไปอีกกี่ชั้นกันเนี้ย ทำไมจอมมารไม่รีบโผล่หัวออกมาสักทีกันนะ?”

“เอาน่า อีกสักประมาณชั้นที่100ก็คงจะเจออีกแหละมั้ง”

“นายรู้ได้ไง? พูดอย่างกับว่าตัวเองเคยมาที่นี่ก่อน”

“ก็คิดว่ามันน่าจะมีประมาณ100ชั้นแค่นั้นเอง ฉันจะเคยมาก่อนได้ยังไงเล่า”

เมื่อเธอหายเหนื่อยแล้วก็รีบเดินทางกันต่อ ยิ่งเดินขึ้นไปห้องยิ่งกว่า คริสตัลยิ่งใหญ่ขึ้น บันไดก็เริ่มสูง รู้สึกได้เลยว่า10ห้องสุดท้ายใช้เวลาเดินทางมากกว่า90ห้องที่พวกเราได้เดินผ่านกันมาซะอีก หรือว่าบางทีจอมมารอาจจะใช้แผนการนี้หวังตัดกำลังพวกเราให้เหนื่อยล้าก่อนที่จะไปสู้กับตัวเอง

ช่วงเป็นแผนที่ชาญฉลาดอะไรเยี่ยงนี้

ในที่สุดพวกเราก็ถึงชั้นที่หนึ่งร้อย ต้องเดินกันจนเป็นขาลากกว่าจะถึงชั้นนี้ ได้แต่หวังว่าพวกเราคงไม่ได้ขึ้นมาผิดปราสาทหรอกใช่ไหม? ถ้าการเดินทางขึ้นมาครั้งนี้เสียเปล่าผมคงร้องไห้เสียงใจเป็นแน่

พวกเราเปิดประตูกันเข้าไป ด้วยความที่คิดว่ามันคงจะเป็นห้องโล่งๆ เช่นเดิม แต่ละคนต่างไม่ได้ระมัดระวังตัวอะไร รีบเดินตัวปลิวเข้าไปอย่างสบายใจ ช่างเป็นอะไรที่น่ากังวลใจเหลือเกิน

ห้องในชั้นที่100ดูแปลกตากว่าชั้นอื่น ไม่มีคริสตัลก้อนใหญ่วางอยู่ตรงกลาง ขนาดของห้องก็ไม่ต่างจากชั้น1มากนัก ไม่มีบันไดขึ้นชั้นถัดไปอยู่ท้ายห้อง แสดงว่าสิ่งที่ผมเดานั้นถูกต้องชั้นนี้คงจะเป็นชั้นสุดท้ายและเป็นชั้นบนสุด

ชั้นอื่นๆ เหมือนกับชั้นว่างเปล่าโล่ง แต่ชั้นนี้กลับเป็นชั้นที่ประดับประดาไปด้วยของประดับมากมาย ทั้งอาวุธที่ดูน่าเกรงขาม รูปปั้นของมอนเตอร์โบราณที่ดูน่ากลัวหลายอัน รวมถึงชุดเกาะอย่างดีที่ถูกตั้งทิ้งไว้บนไม้แขวน ทุกๆ อย่างดูไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดอยู่ตรงท้ายห้อง

บัลลังก์ที่ตั้งสูงขึ้นไปเหนือพื้นห้อง

บัลลังก์สีดำทมิฬประดับด้วยปีกค้างคาวสีดำสยายออกมากว้างขวางโอบพื้นที่โดยรอบเกือบครึ่งห้อง ส่งบรรยายกาสมืดมนแผร่กระจายออกมา ถึงไม่ต้องบอกก็เห็นได้ชัดว่าสิ่งนั้นเป็นที่นั่งของใคร

“นี่แหละห้องของจอมมาร”

จูเลี่ยนช่วยตอกย้ำความคิดนั้น

ผมเดินเข้าไปใกล้พบเห็นสิ่งของวางอยู่บนนั้น ส่งออเคร่งขรึมสีดำน่ากลัวแผ่กระจายออกมา เป็นสร้อยคอรูปร่างกลมสีดำทำจากวัสดุที่ผมไม่รู้จัก บนสร้อยคอสลักรูปงูหลายหัวที่มีปีกค้างคาวด้านหลัง มองแล้วช่างดูน่าสงสัยเหลือเกินว่ามันคืออะไร เสียงเรียกร้องดังขึ้นในหัวว่าให้หยิบมันขึ้นมาดู

ผมเอื้อมมือเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

“ฉันแนะนำว่าหยุดอยู่ตรงนั้นดีกว่า ก่อนที่หัวของแกจะหลุดลงจากบ่า”

เสียงพูดดังขึ้นทำให้ผมรู้สึกตัว

พวกเรามองหาต้นตอให้เสียงนั้นไปทั่วทั้งห้องอย่างตื่นตระหนก

“มองหาอะไรกันอยู่?”

เสียงดังชัดขึ้นทำไมให้ทุกคนรู้ต้นตอของเสียง รีบมองขึ้นไปด้านบน

แววตาเฉียบคมแดงก่ำ รูปร่างเซ็กซี่เย้ายวน นั่งชันขาขึ้นเผยสัดส่วนต้นขาแน่นๆ ที่ตัวผมนั้นชอบมากที่สุด เขาและปีกสีดำเผยให้เห็นโดยชัด

เธอนั่งอยู่แบบนั้นตั้งแต่เราเข้ามาแล้วงั้นเหรอ ไม่มีใครทันได้รู้ตัวสังเกตเห็นก่อนเลย

“ทุกคนระวังศัตรู!”

ผมรีบส่งเสียงเตือน

แต่ไม่ทันไรหญิงสาวเซ็กซี่ด้านบนก็สร้างสายน้ำสีดำออกมายิ่งมาที่ผมอย่างรวดเร็ว ตัวผมรีบกระโดดหลบออกมาอย่างลุกลี้ลุกลน จนนั่งทรุดลงกับพื้นออกมาห่างจากบัลลังก์นั้น

“บ้าเอ้ย! แกเป็นใครกัน-”

พูดไม่ทันจบตัวผมก็รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่กระจายออกมาจากทางด้านหลังจนรู้สึกได้ว่าผิวหนังเหมือนถูกย่างบนเตาไฟ

ผมหันไปมองเห็นชุดเกาะอย่างที่ดีที่ถูกแหวนไว้บนไม้กำลังถูกไฟไหม้ไปทั้งชุดอยู่

ไม่ใช่ว่ามันถูกไฟไหม้แต่ดูเหมือนว่าไฟนั้นมันอยู่ในชุดเกราะ เหมือนกับว่าไฟนั้นกำลังสวมชุดเกาะอยู่มากกว่า

“แกกล้าดียังไงถึงเข้าใกล้บัลลังก์ของท่านจอมมาร หาาาา!!!”

เสียงร้องเกรี้ยวกราดจากไฟสวมชุดเกราะ ดึงดาบเปลวไฟมาจากใบหน้าของตัวเองฟาดฟันดาบไฟนั้นลงกับพื้นจนสะเก็ดไฟนั้นกระจายออก

ผมรีบถอยหลังออกมาได้ทันแต่ก็โดนสะเก็ดไฟนั้นเหล่านั้นจนรู้สึกแสบร้อนไปหมด

“พวกแกเป็นใครกันแน่!?”

ไรลีย์ถามไปอย่างสงสัย

“พวกมันสองคนคือสองขุนพลจอมมารที่เหลืออยู่ ซัคคิวบัสแห่งวารี และ อัศวินเกราะวิญญาณเพลิง”

จูเลี่ยนพูดออกมาอย่างเรียบเฉยท่าทีของเขายังคงเคร่งขรึมไม่มีทีท่าว่าจะตื่นตระหนกทุกร้อนอะไร

พอได้ยินที่จูเลี่ยนพูดพวกเราก็เข้าใจในทันที มันเป็นเรื่องที่พวกเราเตรียมใจกันไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร ผมจึงหันไปผยักหน้าให้ไรลีย์ เธอก็เข้าใจในทันทีชักดาบออกมาพุ่งเข้าหาอัศวินเกราะวิญญาณเพลิง

ส่วนตัวผมนั้นเงยหน้าขึ้นไปหาสาวเซ็กซี่อยู่ด้านบน เธอยังคงนั่งนิ่งมองลงมาหาพวกเราด้วยสายตาเหยียดหยาม ชุดที่เธอใส่ทำให้สายตาของผมว่อกแว่กจนจับจุดโฟกัสไม่ได้เลย

“ไฟเยอร์บอล ไฟเยอร์บอล ไฟเยอร์บอล!”

ผมยิงบอลไฟไปใส่เธอโดยเล็งไปแบบหยาบๆ เพียงเท่านั้น บอลไฟพุ่งออกไปไม่โดนเธอแม้แต่น้อย แต่ทำให้เธอกระโดดกลับหลังด้วยท่วงท่าสง่างามจนสยบสายตาของผมให้มองตาม ขาของเธอแตะลงบนพื้นอย่างนุ่มนวลคงเพราะปีกทั้งสองข้างของเธอช่วยพยุงไว้จึงลงมาด้วยท่าทางที่นุ่มนวลแบบนั้น

ถึงบอลไฟของผมจะโจมตีเธอไม่โดนแต่ว่ามันก็บรรลุผลตามที่ผมตั้งใจไว้ ผมชักดาบตั้งท่าพร้อมโจมตีในทันที ต้องรีบจบศึกนี้อย่างรวดเร็ว เร็วกว่าที่การต่อสู้ของคู่นั้นจะรู้ผล ผมตกลงกับไรลีย์ไว้ว่าให้แยกกันสู้กับขุนพลจอมมารสองคนที่เหลืออยู่ ใครชนะได้ก่อนถึงจะมีสิทธิ์ได้สู้กับจอมมารก่อน ถึงตัวผมจะไม่อาจจะชนะจอมมารได้เหมือนไรลีย์ที่ปลดปล่อยพลังผู้กล้าได้ แต่อย่างน้อยขอให้ผมได้แสดงฝีมือในการได้ต่อสู้กับจอมมารบ้างถึงจะไม่รู้สึกอายขี้หน้าคนอื่น

เพราะฉะนั้น…ผมต้องรีบชนะซัคคิวบัสอย่างเธอคนนี้ให้ได้

ดวงตาจับจ้องมองศัตรูตรงหน้า คาดเดาการเคลื่อนไหวล่วงหน้า จู่โจมให้จบในรวดเดียว กำดาบแน่น ส่งกำลังไปที่ขาให้ก้าวออกไป…

“อาเระ…!”

ขาที่ก้าวออกไปทรุดลงกับพื้น ผมรู้สึกชาที่ช่วงล่างลงไปจนถึงเท้า พยายามที่จะลุกขึ้นแต่ก็สั่นอย่างอ่อนแรงจนต้องใช้มือค้ำไว้ ความเจ็บปวดเริ่มแสดงออกมาอย่าช้าๆ ถามปริมาณเลือดที่หลั่งไหลออกมาจากร้อยแผลขนาดใหญ่ในช่วงท้อง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ผมมองไปที่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้า เธอยื่นมือออกมามีน้ำสีดำทมิฬลอยอยู่บนมือนั้น

เธอร่ายเวทมนตร์ตั้งแต่ตอนไหนผมไม่อาจทราบได้ แต่สิ่งที่ผมรู้คือผมอาจจะตามการโจมตีของเธอได้ทัน