"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น

The Chosen Two, Wanna Choose You - ตอนที่ 33 สู่ปราสาทจอมมาร3 โดย ตัวต่อสายรุ้ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Chosen Two, Wanna Choose You

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

The Chosen Two, Wanna Choose You โดย ตัวต่อสายรุ้ง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น

ผู้แต่ง

ตัวต่อสายรุ้ง

เรื่องย่อ

"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น


สารบัญ

The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 1 จากอนาคตข้างหน้า,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 2 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 3 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 4 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 5 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 6 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 7 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 8 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 9 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 10 ผู้ถูกเลือกทั้งสอง9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 11 สาวน้อยผู้เหลือรอด1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 12 สาวน้อยผู้เหลือรอด2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 13 สาวน้อยผู้เหลือรอด3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 14 สาวน้อยผู้เหลือรอด4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 15 สาวน้อยผู้เหลือรอด5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 16 สาวน้อยผู้เหลือรอด6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 17 สาวน้อยผู้เหลือรอด7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 18 สาวน้อยผู้เหลือรอด8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 19 สาวน้อยผู้เหลือรอด9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 20 สาวน้อยผู้เหลือรอด10,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 21 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 22 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 23 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 24 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 25 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 26 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 27 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา7,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 28 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา8,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 29 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา9,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 30 ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมา10,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 31 สู่ปราสาทจอมมาร1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 32 สู่ปราสาทจอมมาร2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 33 สู่ปราสาทจอมมาร3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 34 สู่ปราสาทจอมมาร4,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 35 สู่ปราสาทจอมมาร5,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 36 สู่ปราสาทจอมมาร6,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 37 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ1,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 38 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ2,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 39 ถึงอย่างไรก็เลือกเธอ3,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 40 บทส่งท้าย,The Chosen Two, Wanna Choose You-ตอนที่ 41 พูดคุยนักเขียน

เนื้อหา

ตอนที่ 33 สู่ปราสาทจอมมาร3

ความเจ็บปวดของบาดแผลทำให้ผมลุกไปไหนไม่ได้ เลือดยังไหลทะลักออกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“แกเนี้ยอ่อนแอกว่าที่คิดไว้มาก โดนเข้าไปเพียงครั้งเดียวก็ทรุดลงกับพื้นแล้ว หืม… เข้าใจ เข้าใจแล้ว~ นายเกาะแม่สาวคนนั้นจนเดินทางมาถึงที่นี่ได้สินะ”

เธอค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้มองผมด้วยสายตาเหยียดยามอยู่เหมือนเดิมแต่ตอนนี้กลับเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา

“ก่อนที่แกจะตาย ขอถามอะไรอย่างหนึ่งสิ …พวกแกมาทำอะไรกันที่นี้ที่ปราสาทจอมมารแห่งนี้น่ะ?”

“ปะ ปราบ…บบ…จอม…มาร”

ผมเค้นน้ำเสียงของผมออกมา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! พวกแกเนี้ยตลกกันจริงเลย ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะถึงพวกคนโง่ๆ อย่างพวกแกให้เข้าใจ ตอนนี้น่ะบังลังก์จอมมารนั้นว่างเปล่า พวกแกเอาชีวิตมาทิ้งกันเสียแล้วล่ะ”

“อึก!”

ผมมองไปยังบัลลังก์จอมมารที่ด้านหลังเธอมันว่างอย่างที่เธอบอก แบบนี้มันก็หมายความว่า…

“ตอนนี้น่ะ จอมมารยังไม่ได้จุติกลับมามีชีวิตเลย แต่ก็มีไอ้บ้าที่ก็ไม่รู้กล้าบุกมายังปราสาทจอมมารทั้งที่จอมมารยังไม่ได้มีตัวตนอยู่ ช่างน่าขันเสียงจริงๆ เลย”

ได้ยินคำพูดดูถูกแบบนั้นทำให้มือของผมกำแน่นด้วยความเจ็บใจ ไม่รู้ว่าเรื่องที่เธอพูดเป็นความจริงแท้หรือไม่ แต่ถ้าเป็นความจริงมันยิ่งทำให้พวกเราเสียเวลาเปล่าไปอย่างงั้นเหรอ?

“เอาล่ะ ฉันหมดธุระกับนายแล้ว จะทำให้มันจบเร็ว ถือว่าเป็นความกรุณาแก่คนโง่แบบนายแล้วกัน”

สายน้ำก้อนกลมในมือของเธอค่อยๆ สั่นไหว จากนั้นก็ค่อยมีน้ำก้อนกลมเล็กๆ แยกตัวออกมา มันค่อยสั่นไหวหลังจากนั้นก็ค่อยๆ หมุนด้วยความเร็วสูงจนรูปร่างมันเปลี่ยนไปเหมือนกับลูกศรธนูที่ดูน่ากลัวและทรงประสิทธิภาพ

ได้เห็นท่าที่โจมตีผมเข้าที่ท้องโดยไม่รู้ตัวอย่างใกล้ๆ แล้วก็ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าทำไมผมถึงเจ็บปวดขนาดนั้น

“ตายซะ!”

กระสุนน้ำถูกยิงออกมามันพุ่งตรงเข้ามาที่หัวของผมอย่างรวดเร็ว

“!”

เสียงดาบกระแทกเข้ากับกระสุนจนกระสุนน้ำกระจายออก

“อาริน นายเป็นอะไรหรือเปล่า!?”

ไรลีย์เข้ามาขวางกระสุนน้ำนั้นไว้ได้ทัน

เธอหันมามองหน้าผมพร้อมมองลงไปที่บาดแผลที่ท้อง สายตาของเธอก็แสดงความเดือดดาลออกมา เธอหันไปมองซักคิวบัสวารีอย่างเคียดแค้น

“ข้าขออภัยเจ้าด้วยที่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ของข้าเข้าไปยุ่มย่าม”

เกราะวิญญาณเพลิงกล่าวออกมาทางด้านหลังของซักคิวบัสวารี

“เดี๋ยวข้าจะรีบพาเธอออกไปเอง ขอเวลาข้าสักครู่-”

“ไม่ต้อง! เดี๋ยวข้าจัดการที่เหลือต่อเอง”

“...เข้าใจแล้ว”

ซักคิวบัสวารีจ้องมารไรลีย์ด้วยความสงสัย สายตาจ้องเขม็งแสดงถึงความสนอกสนใจในตัวของเธอมากทีเดียว

“เธอเนี้ยน่าสนใจดีจริงๆ เธอชื่ออะไรงั้นหรือ?”

“ฉันชื่อไรลีย์! ฉันจะปราบพวกแก แล้วก็ไปปราบจอมมารอีกด้วย”

“แหม่ แหม่~ ใจสู้เหลือเกินนะ จะแน่สักแค่ไหนลองแสดงออกมาให้ดูหน่อยสิจ๊ะ”

ไรลีย์ได้ยินแบบนั้นก็ตั้งท่าดาบแบบประจำของเธอ พุ่งตัวออกไปเข้าหาศัตรู ออร่าสีขาวเข้าครอบคลุมร่างกายของเธอ แสดงพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

ซักคิวบัสวารีเห็นแบบนั้นก็ทำหน้าตกใจ แล้วก็แสยะยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“ว้าว เธอของก็มีของอยู่เหมือนกันสินะ แต่ว่า…”

น้ำสีดำทมิฬในมือของซักคิวบัสวารีถูกยิงออกมา จากขนาดเท่าลูกแก้วมันขยายใหญ่ขึ้นทันทีจนมันใหญ่กว่าตัวคนปกติพร้อมพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงกระแทกเข้ากับไรลีย์จนตัวเธอถูกดันไปพร้อมกับก้อนน้ำสีดำนั้น ลากถูไถผ่านหน้าของผมไปจนไปหยุดที่กำแพงหลังห้อง

ก้อนน้ำระเบิดออกทันที ไรลีย์กระแทกเข้ากับกำแพงจนยุบตัวลงไป ตัวเธอบาดเจ็บอย่างหนักจนออร่าที่ตัวสลายออกไป พร้อมสติของเธอก็หลับไป ร่างกายล่วงหลุดจากกำแพงดิ่งลงมานอนนิ่งบนพื้น

เสียงการโจมตีเดียวก็สามารถสยบไรลีย์ได้แล้วผมแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

“บ้าจริงเลย เธอนี้ตัวแสบจริงๆ ฉันเผลอใช้พลังไปส่วนหนึ่งเลยนะ เกือบฆ่าเธอไปซะแล้วสิ”

ซักคิวบัสเดินดึงคอเสื้อของไรลีย์ลากร่างที่ไร้สติของเธอไปกับพื้น

“เจ้าจะเอายัยเด็กสาวคนนั้นไปไหน พวกเราจำเป็นต้องใช้เธองั้นหรือ?”

“ก็แน่นอนสิ ฉันจะเอาเธอไปเป็นสารอาหารที่ใช้สำหรับการจุติของท่านจอมมาร บ้าจริงเลย! ไอ้เจ้าบ้าหน้าไหนบังอาจมาทำลายแผนการที่จะรวบรวมสารอาหารของพวกเรา จากป่าแห่งมิติแม่มดก็ทีนึง ไหนจะการพยายามรวบรวมไข่ปลาบินก็ยังถูกขัดขวาง อย่าให้ข้ารู้นะว่าใครมันบังอาจทำเรื่องแบบนี้”

“เอาน่า…ใจเย็นกันก่อน ก่อนอื่นจัดการกับเธอก่อน”

ซักคิวบัสวารีแสดงความหงุดหงิดออกมาพร้อมลากไรลีย์หันไปทางบัลลังก์ของจอมมาร ผ่านตัวผมที่นั่งนิ่งอย่างเจ็บปวดทั้งกายและใจที่เห็นไรลีย์โดนลากผ่านไปแต่ตัวกลับขยับไม่ได้

เธอเดินเข้าไปแล้วก็หยุดกึก!

สายตาเธอมองขึ้นไปยังบัลลังก์อย่างแปลกใจ

“แกเป็นใคร!?”

คนที่เธอเอ่ยถึงคือคนที่ยืนอยู่ด้านข้างของบัลลังก์ ชายผู้ที่สง่างามใครเห็นก็ต่างจดจำได้ว่าเขาคือผู้กล้า เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นจนผมเกือบลืมไปเลยว่าจูเลี่ยนก็เดินทางเข้ามากับพวกเราด้วย เดิมทีคิดว่าจะไม่ให้จูเลี่ยนต้องเข้าร่วมการต่อสู้นี้ แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้คงต้องให้เขาช่วยพวกเราแล้ว

“ฉันถามว่าแกคือใคร ไม่ได้ยินหรือไง!?”

จูเลี่ยนยังไงนิ่งเงียบสายตาจับจ้องไปยังสร้อยคอที่เดิมทีวางไว้บนบัลลังก์ของจอมมารแต่ตอนนี้เขาถือมันขึ้นมาจ้องมองมันอย่างจริงจัง

“ถ้าไม่ตอบแกก็ตายซะ”

ซักคิวบัสวารีสร้างกระสุนน้ำยิงออกไปหาจูเลี่ยน แต่เพียงจูเลี่ยนใช้มือปัดโดยไม่ได้หันมามองแม้แต่นิดเดียว กระสุนน้ำก็แตกกระจายกายเป็นเม็ดกลางอากาศ

จูเลี่ยนหันหน้ากลับมองอย่างไม่สบอารมณ์

"พวกแกนี่ น่ารำคาญจริงเลย"

ท่าทางของเขาดูต่างจากเดิมไปมาก ความเงียบขรึมเข้าปกคลุม สายตาเย็นชามองมาที่พวกเรา

"ดูเหมือนฉันต้องสั่งสอนพวกแกสองคนให้ดีสินะ ว่าอย่าบังอาจทำร้ายนายของตัวเอง"

"พูดอะไรของแกน่ะ อย่าอวดเบ่งไปหน่อยเลย!"

ซักคิวบัสวารีปล่อยลูดบอลน้ำขนาดใหญ่ออกมาเป็นท่าเดียวกันกับใช้กับไรลีย์จนสลบ

พริบตาเดียวลูกบอลน้ำพุ่งเข้าหาจูเลี่ยน แต่เขากลับนิ่งเฉยตวัดดาบเพียงครั้งเดียวลูกบอลน้ำก็แตกกระจายออก ท่ามกลางสายตาอันเบิกกว้างของผู้ใช้

"ได้ไงกัน!? "

ดูเหมือนเธอไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น

สายตาของจูเลี่ยนเพ่งมองขุนพลจอมมารทั้งสองอย่างขุ่นเคือง ค่อยๆ ก้าวเท้าลงมาจากบัลลังก์พร้อมถือสร้อยคอที่เคยวางอยู่บนนั้นลงมาด้วย

แต่ละก้าวที่เยื้องย่างลงมาของเขาเหมือนกับมีมวลคลื่นสีดำกดดันสองขุนพลจอมมารไม่ให้ขยับไปไหน ทั้งสองคนยืนตัวสั่นเหงื่อตกอยู่กับที่ไม่ขยับเท้าไปไหน

"อย่าอวดดีไปหน่อยเลย เจ้าคนโอหัง!"

วิญญาณเกราะเพลิงฝืนขยับจากแรงกดดันออกมา ยกดาบเปลวเพลิงที่มีไฟลุกร้อนแรงจนผิวหนังของผมรับรู้ถึงความร้อนได้ ฟาดลงมาเข้าใส่จูเลี่ยน

"!"

เสียงดาบกระทบกัน จูเลี่ยนยกดาบขึ้นป้องกันอย่างนิ่งเฉย เปลวไฟลุกโชนจากดาบถูกพัดหายออกไปเหมือนกองไฟที่มอดไหม้

"เปลวไฟลุกโชนสีสวยงาม แต่กลับแสดงความร้อนแรงออกมาเหมือนกันไฟจากคบเพลิง เดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดูว่าดาบเปลวเพลิงจริงๆ เป็นยังไง"

ทันทีที่พูดแบบนั้นเปลวเพลิงบนดาบของจูเลี่ยนก็ปะทุขึ้นจนวิญญาณเกราะเพลิงตื่นกลัวมองดูดาบของตัวเองที่กำลังหลอมละลายจากเพลิงอันร้อนแรง

จูเลี่ยนตวัดดาบขึ้นเพียงเบาๆ เพลิงร้อนแรงก็พัดวิญญาณเกราะเพลิงกระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพง จนเหลือเป็นเศษซากของเกราะที่กำลังหลอมละลายติดกันอยู่

"พลังของมันก็เกินคาดอยู่เหมือนกัน"

เขาพูดออกมาพลางมองสร้อยคอที่อยู่ในมือ

"นายทำไมนั้นได้ยังไง ทำไมนายถึงใช้พลังของจอมมารได้ล่ะ!? "

จูเลี่ยนไม่ได้ตอบอะไร หันหน้าเดินเข้าหาซัคคิวบัสวารี

"ตะ ต้องการอะไร ฉันขอยอมแพ้ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันขอร้องล่ะ"

จูเลี่ยนยังคงนิ่งเงียบเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าของเธอ แววตาจ้องเขม่นเหมือนกันจะฆ่าให้ตาย

"ฉันบอกว่าฉันยอมแพ้แล้วยังไง! หยุดได้แล้ว-"

"ส่งเธอมา"

ได้ยินแบบนั้นผมก็โล่งใจ ดูเหมือนว่าจูเลี่ยนต้องการจะช่วยไรลีย์แค่นั้นเอง ผมเห็นท่าทีเคร่งขรึมผมนึกว่าเขาจะโดนอะไรสิงสู่เข้าไปเสียแล้ว แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่าทำไมเขาถึงปล่อยยัยซัคคิวบัสนั่นไปกันนะ

เขาอุ้มตัวของไรลีย์ด้วยแขนทั้งสองข้างขึ้นอย่างทะนุถนอม จากนั้นเดินหันหลังกลับไปพาเธอไปที่บัลลังก์

"นายจะนำเธอไปทำอะไรน่ะ? "

เสียงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายดังออกมา พลางหันมองไปยังด้านหลัง

"ถามมากจริง …ฉันจะใช้เธอเป็นสารอาหารไงล่ะ"

"นายจะปลดปล่อยพลังจอมมารงั้นเหรอ ทำไมกัน!? นายเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ หรือว่านายอยากจะเป็นจอมมารเสียเอง? "

"แล้วฉันบอกตอนไหนว่าฉันเป็นมนุษย์? เธอมีปัญหาหรือไง"

"ขะ เข้าใจแล้ว"

หลังพูดจบเธอก็ไม่ถามอะไรอีกพร้อมทำท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนทันที

ส่วนตัวของไรลีย์ถูกนำไปนอนอยู่บนบัลลังก์อย่าสงบ ถ้าทางของเธอยังคงหลับใหลไม่ตื่นอยู่เหมือนเดิม ผมกังวลว่าเธอจะบาดเจ็บหนักส่วนไหนสักที่ อยากจะเข้าไปตรวจสอบให้แน่ใจดูว่าเธอยังสบายดี แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือเรื่องที่จูเลี่ยนพูด ผมไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร

"จูเลี่ยน! นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรน่ะ นายจะทำอะไรกับไรลีย์!? "

ผมส่งเสียงร้องทั้งๆ ที่ยังบาดเจ็บอย่างหนัก ทำให้รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่บาดแผลทำให้ไอออกมาอย่างแรง

"อ้อ! ผมลืมคุณไปเลยคุณอาริน ขออภัยด้วยนะครับ ผมนึกว่าคุณจะบาดเจ็บจนตายไปแล้วเสียอีก"

ทั้งทำพูดและท่าทางแสดงถึงการเยาะเย้ยเผยให้เห็นทางสีหน้าดูต่างจากจูเลี่ยนในทุกทีที่อ่อนน้อม

เสียงโลหะขวดแก้วกระแทกกับพื้นหลายครั้งก่อนที่จะกลิ้งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของผม หยิบขึ้นมาดูเห็นเป็นตราผู้กล้าอีกครึ่งหนึ่งในส่วนของไรลีย์ ส่วนขวดแก้วเป็นโพชั่นชั้นดีราคาแพงที่รักษาบาดแผลใหญ่ๆ ได้

"...หมายความว่าไง? "

"ผมจะให้คุณได้เป็นผู้กล้าไงล่ะ ยานั้นก็ใช้รักษาตัวเองซะ ส่วนตราผู้กล้าก็ใช้ทั้งสองอันนั้นกลับเมืองไปบอกว่าตัวเองชนะแล้วก็ได้เป็นผู้กล้าตามที่ใจคุณปรารถนายังไงล่ะ"

"เฮ่ย เฮ้ย เฮ้ย! แกหมายความว่ายังไง! อย่างมาเล่นตลกนะ-"

"ลาก่อนครับ"

สิ้นสุดคำพูดของเขา ตัวของผมก็ถูกผลักออกไปจากประตูห้องในทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว เหมือนกันว่าอะไรบางอย่างดึงออกไปด้วยความเร็วสูงจนภาพมองเห็นมันบิดเบี้ยว ก่อนที่จะออกไปเห็นรอยยิ้มของจูเลี่ยนที่เต็มไปด้วยความขมขื่น ผมมองเห็นทั้งสามคนจากทางไกลเส้นทางยืดยาวขึ้นเรื่อยๆ และยาวขึ้นจนผมเห็นคนเหล่านั้นเล็กเหมือนกับมด

พริบตาเดียวตัวผมก็นั่งคุกเข่าอยู่หน้าประตูใบใหญ่ เป็นประตูทางเข้าของปราสาทจอมมาร

"มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย? "

อารมณ์หลายผสมปนเปกันจนผมไม่อาจจะตั้งสติได้ เหงื่อแตกพลั่กหายใจไม่เป็นจังหวะ