"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผมพยายามลุกขึ้นด้วยความรีบร้อนวิ่งเข้าไปในประตูจนลืมไปว่าตัวเองยังบาดเจ็บหนักอยู่ แต่ด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลขนาดใหญ่ทำให้ล้มลงหน้ากระแทกกับพื้น จนร้องคราญครางอย่างน่าสมเพช
มองไปที่ขวดโพชั่นชั้นดีในมือ รีบยกเปิดฝาออกเทมันเข้าปากจนหมดขวด
"อ้ากกกก!"
ผลของมันเกิดขึ้นในทันที่โพชั่นไหลลงสู่กระเพาะ ความร้อนความเจ็บประดังเข้ามา มันรุนแรงมากกว่าเดิมเป็นสิบๆเท่า คล้ายกับว่ามีคนกำลังขยี้บาดแผลบนท้องของผมจนนอนดิ้นทุรนทุรายไปกับพื้นเหมือนจะรายให้ได้เลย
ทันทีที่ความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลง ผมรีบพยุงตัวเองลุกขึ้น กำสร้อยขอของไรลีย์ไว้ในมือแน่นลากขาของตัวเองเข้าไปทางประตู
"มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี้ย ทำไมจูเลี่ยนถึงเป็นแบบนั้นได้"
เจอศัตรูแข็งแกร่งสุดแสนร้ายกาจจนพวกเราพลาดท่า แล้วจูเลี่ยนทำตัวแปลกไปจากนั้นไรลีย์ก็ถูกจับโดยบอกว่าจะนำเธอไปเป็นสารอาหารเอปลดปล่อยพลังจอมมาร ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นล่ะ จูเลี่ยนเป็นผู้กล้าไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงทรยศพวกเรา? หรือเขามีเรื่องราวเบื้องหลังอะไรที่ไม่ได้บอกพวกเรา?
คำถามมากมายเข้าในหัวเต็มไปหมด แต่อยู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ ก่อนที่จะถูกส่งออกมาด้านนอกปราสาท ผมเห็นสายตาอันขมขื่นนั้นจูเลี่ยนต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแน่ เพราะฉะนั้นแล้ว…
"ต้องรีบเข้าไปช่วยไรลีย์ออกมาก่อน"
พละกำลังที่ขาเริ่มกลับมาทำให้สามารถวิ่งออกไปได้ ผมวิ่งกระแทกประตูออกไปอย่างรีบร้อนพุ่งตัวเข้าไปยังกลางห้องชั้นแรกของปราสาทจอมมาร
พบห้องมืดสนิทเหมือนเดิมทำให้ผมรู้ว่าอีกสักพักไฟคบเพลิงจะถูกจุดขึ้นเอง แต่ไม่อาจรอโดยเสียเวลาเปล่าได้ ผมรีบมองหาบันไดขึ้นชั้นถัดไปในทันที
"..."
แว่วเสียงขู่คำรามดังขึ้นท่ามกลางความมืด เป็นเสียงคำรามของสัตว์ร้ายโดยแท้ ดวงตาสีแดงค่อยๆ ปรากฏออกมาโดยรอบ ทันใดนั้นคบเพลิงก็ถูกจุดขึ้นเผยให้เห็นสัตว์เหล่านั้น
"หมาป่า? "
หมาป่าหลายสิบตัวกระจายอยู่ทั่วห้อง ได้แต่สงสัยว่าพวกมันจากที่ไหน หรือว่าพวกมันหลุดเข้ามันแอบเข้ามาภายในประตู มันแสดงคมเขี้ยวพร้อมขย้ำผมได้ทุกเมื่อกรูเข้ามาปิดล้อม
แต่ได้สนใจพวกมันอีกแล้ว ผมมองข้ามพวกมันมองไปยังบันไดชั้นถัดไปที่มองเห็นได้ชัดเจนจากแสงสว่างของคบเพลิง
"ขอข้ามผ่านไปก่อน ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกแกหรอกนะ"
ไม่รอช้ารีบกระโดดหลบคมเขี้ยวพวกนั้นข้ามผ่านพวกมันไปมุมไปยังชั้นถัดไป
"โอ้ย!"
หน้าผมกระแทกเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น จนตัวหงายหลังไป พร้อมถูกหมาป่าที่วิ่งตามหลังมารุมกัด
"ปล่อยฉันสิเฮ้ย!"
หมาป่าถูกสลัดออกเหลือเพียงตัวเดียวที่ยังคงทิ้งคมเขี้ยวลงบนแขนของผมอยู่ ดาบของผมจึงถูกใช้แทงลงตัวมันจนสิ้นใจในทันที ทันทีที่แววตาของมันเลือนหายไปร่างกายก็ค่อยๆสลายกลายเป็นแสงเหมือนกับดวงวิญญาณภูติลอยเข้าไปผลึกคริสตัลที่วางอยู่กลางห้อง แต่ตอนนี้คริสตัลมันเป็นสีใสต่างจากรอบแรกที่เข้ามาเป็นสีขุ่น
"อย่าบอกนะว่า…"
ทันทีที่ผมคิดได้ผมก็เข้าต่อสู้กับพวกหมาป่าทุกตัวจนจัดการได้หมด คริสตัลตรงก้อนนั้นก็กลับมาเป็นสีขุ่น กำแพงที่มองไม่เห็นมี่ขัดขวางทางขึ้นบันไดก็หายไป ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง
"โอ้ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว"
หลังจากสู้กับหมาป่าพวกนั้นตัวผมก็โดนทั้งกรงเล็บและคมเขี้ยวไปทั่วทั้งตัว แต่ดูเหมือนผลของโพชั่นจะยังอยู่บาดแผลจะค่อยๆถูกรักษาแต่มันก็ไม่ได้รวดเร็วมากนัก
เมื่อขึ้นไปยังชั้นถัดไปผมเจอเข้ากับหมีป่ายักษ์ห้าตัว คริสตัลก้อนใสเช่นเดิม เมื่อจัดการมันได้ก็กลายเป็นสี่ขุ่นพร้อมขึ้นไปถัดไปได้
เมื่อขึ้นถึงชั้นที่สามพบเจอเข้ากับฝูงก็อบลินเกือบห้าสิบตัวดูเหมือนยิ่งขึ้นสูงขึ้นจะเจอศัตรูที่รับมือยากยิ่งขึ้น ทุกๆ อย่างก็จะมีรูปแบบตามเดิมซ้ำๆ ตรงตามความคิดที่ผมคาดการณ์ไว้
ถึงแม้จะรู้ว่ายิ่งขึ้นไปเรื่อยจะเจอศัตรูที่ยากลำบากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไรผมก็ต้องฝ่าขึ้นไปให้ได้ ผลของโพชั่นยังคงทำงานอยู่โดยไม่รู้ว่ามันจะหมดฤทธิ์เมื่อใด จึงต้องกัดฟันอดทนแบกรับบาดแผลที่ค่อยๆ สะสมจากการต่อสู้กับศัตรูที่ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อที่จะขึ้นไปให้ทันไม่ใช่แค่ก่อนฤทธิ์โพชั่นจะหมด แต่เพื่อขึ้นไปช่วยไรลีย์ให้ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะยังสบายดีอยู่หรือไม่ แต่ต้องรีบขึ้นไปช่วยเธอ ความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอช่วยเป็นแรงผลักดันให้ขาผมก้าวเดิมขึ้นบันไดต่อไปแม้บาดแผลอยู่เต็มตัว แม้จะทะเลาะกันบ่อยครั้งแต่ยังคงจะอยากคอยปกป้องเธอ แม้ฝีมือจะอ่อนด้อยกว่าแต่ก็ยังคงอยากจะช่วยเหลือเธอ แม้ฐานะสูงกว่าแต่ก็ยังคงอยากผลักดันเธอ
ตัวผมขึ้นบันไดออกไปพุ่งตัวเข้าใส่ศัตรูตรงหน้าในทันที
"อย่ามาขว้างทางนะเฮ้ย!!!"
ดาบของผมพลาดฟันศัตรูแลกเปลี่ยนกับกรงเล็บที่สวนกลับมา
ถึงจะเจ็บปวดแต่ในใจยังนึกช่วยเหลือจูเลี่ยนอยู่ เขาต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำเรื่องแบบนั้น เพราะด้วยเหตุผลแบบนั้นตัวผมจึงยิ่งต้องรีบขึ้นไปชั้นบนสุดโดยเร็วก่อนที่จูเลี่ยนจะทำอะไรลงไปก่อนที่จะไม่อาจย้อนกลับได้
เข้าปะทะกับฝูงออร์คทำให้ร่างกายถูกบดขยี้จนกระดูดหักหลายซี่แต่ก็ต้องก้าวต่อไป
เผชิญหน้ากับรังของงูพิษโดนกัดจนเป็นแผลสีม่วงไปทั่วทั้งตัวถึงต้องยอมดื่มเลือดพวกมันแก้พิษก็ต้องยอม
ต้องยอมถูกน้ำย่อยในกระเพาะหนอนทะเลทรายละลายเนื้อหนังถึงอย่างนั้นก็มุ่งหน้าทิ่มแทงหัวใจของมัน
แม้โดนเพลิงของมังกรไฟแผดเผาร่างกายบางส่วนจนไหม้เกรียมก็ต้องปีนขึ้นบนตัวมันแล้วตัดหัวจนหลุดออกมาเพื่อปีนป่ายไปยังชั้นถัดไป
แต่เมื่อขึ้นไปยังส่วนท้ายๆ ของหอคอยบาดแผลเริ่มน้อยลง ความเจ็บปวดที่สะสมตั้งแต่ชั้นแรกก็ค่อยๆ ถูกฟื้นฟูได้ทัน เดิมที่คิดว่าเมื่อปีนขึ้นมายังชั้นที่สูงขึ้นรู้สึกเหมือนศัตรูจะอ่อนแอลง แต่พอเมื่อมองไปยังร่างของมังกรที่จัดการได้เมื่อเทียบกับศัตรูชั้นแรกๆ แล้วคงบอกแบบนั้นไม่ได้ หรือจริงๆ แล้วเป็นตัวเราเองที่แข็งแกร่งขึ้นเอง การผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากด้วยโพชั่นฟื้นฟูหายาก อาจจะเป็นเคล็ดลับความแข็งแกร่งที่คาดไม่ถึง
"ถ้าเป็นแบบนี้ละก็…"
เหลืออีกไม่ถึงสิบชั้นที่ต้องข้ามผ่าน กับศัตรูที่แข็งแกร่งแบบทวีปคูณในแต่ล่ะชั้นที่เหลือ ชั้นสุดท้ายอาจจะเพิ่มมากขึ้นเป็นสิบเท่า แต่ตอนนี้ตัวผมไร้สิ้นซึ่งความเกรงกลัวอะไรก็ตามที่จะถาโถมเข้ามา ในใจตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
"ถ้าเป็นแบบนี้ขึ้นไปทันเวลาอย่างแน่นอน เอาล่ะนะ ลุยรวดเดียวไปเลย!"
ผมร้องตะโกนลั่นเปิดประตูออกไปกระโจนเข้าปะทะกับศัตรูตัวใหญ่มหึมาตรงหน้า
.
.
.
ณ ปราสาทจอมมารบนชั้นที่เก้าสิบเก้า ซักคิวบัสวารียืนอยู่ตรงใจกลางของห้อง เธอยืนกอดอกทำหน้านิ่วคิ้วขมวด กระดิกนิ้วไปอย่างไม่สบอารมณ์จนถึงที่สุด
เธอถูกสั่งให้มาเป็นคนคุมที่ชั้นเก้าสิบเก้าเหมือนกับมอนเตอร์ตัวอื่น จึงทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคนที่สั่งเธอกลับเป็นมนุษย์คนหนึ่งเพียงเท่านั้น เป็นถึงขุนพลจอมมารแต่กลับถูกมนุษย์ชั้นต่ำใช้งานเป็นลูกสมุน ความไม่พอใจของเธอแทบจะล้นออกมา
แต่เพื่อความอยู่รอดต้องอดทนทำตามคำสั่ง แค่จัดการมนุษย์อีกคนที่มากับเขาได้ก็เพียงพอแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นเดินทางมาด้วยกันแต่กลับทรยศกันเอง
ถึงกลับยอมใช้ชีวิตหญิงสาวคนนั้นเพื่อปล่อยพลังจอมมารให้แก่ตัวเองช่างเป็นคนที่อวดดีเหลือเกิน ถึงจะไม่รู้ว่าเขาใช้พลังจอมมารได้อย่างไรแต่ก็รู้หงุดหงิดที่พลังของนายตัวเองถูกใช้แบบนั้น แทนที่จะถูกนำมาใช้คืนชีพให้จอมมารแท้
จึงทำให้เธอไม่สบอารมณ์อยู่ตอนนี้ รอที่จะระบายอารมณ์กับชายหนุ่มที่อ่อนแอขึ้นมาบนนี้
"น่าขันจริงๆ ทำไมถึงคิดว่าคนอ่อนแอแบบนั้นจะฝ่าฟันมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งมากมายจนมาถึงที่นี่ได้ จนถึงตอนนี้เจ้านั้นคงยอมแพ้แล้วหนีกลับเมืองเอาตราผู้กล้าจอมมารปลอมไปอวดชาวเมืองแล้วล่ะมั้ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"
"เธอหมายถึงฉันงั้นเหรอ? "
"!"
ประตูขนาดใหญ่ถูกเปิดออก แรงกดดันมหาศาลแผ่กระจายออกมาจากประตู เท้าก้าวเข้ามาเหยียบลงบนพื้นช่วยเพิ่มแรงกดดันขึ้นจนตอนนี้เธอรู้ถึงว่าถูกขยี้ไปทั้งตัวจากเท้าข้างนั้น
ผ่านประตูออกมาเผยให้เห็นชายหนุ่มสภาพสะบักสะบักสะบอมไปทั่วทั้งตัว เลือดซึมจากบนศีรษะรวมถึงแขนขาก็มีแผลไปทั่ว
"กะ แกใช้คนเดียวกันกับเมื่อไม่นานนี้จริงๆ เหรอ? "
มันเป็นความรู้สึกของเธอ บรรยายกาสโดยรอบตัวของชายคนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ตัวเธอสั่นกลัวชายคนนี้เหมือนกับที่เกรงกลัวชายที่ชื่อจูเลี่ยน