"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จูเลี่ยนนั่งนิ่งอยู่บนนั้นมองผมเหลือบลงมายังตัวผมด้วยสายตาของผู้ที่อยู่สูงกว่า ท่าทางที่ดูไม่คุ้นเคยแบบนั้นมันช่างผิดปกติจากตัวเขาที่ผมรู้จักเหลือเกิน
เขาจ้องมองมายังผมพร้อมแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ผมนึกแล้วว่าคุณต้องกลับมา คิดไว้แล้วแหละครับคุณคงไม่ใช่คนที่ละทิ้งศักดิ์ศรีหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว”
“หมายความว่ายังไง จริงๆ แล้วนายไม่ได้เสนอให้ฉันกลับเมืองไปหรอกเหรอ?”
จูเลี่ยนเห็นแบบนั้นก็กลั้นขำไม่อยู่ระเบิดหัวเราะ
"นึกว่าคุณจะเข้าใจเสียอีก ผมแค่อยากจะกระตุ้นคุณเพื่อให้ปลดปล่อยพลังผู้กล้าแค่นั้นเอง โพชั่นที่ผมให้คุณไปใช้งานได้ดีใช่ไหมล่ะ? "
"จริงเหรอ ฉันนึกว่านายจะทรยศพวกเราเสียอีก ว่าแล้วคนแบบนายไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว"
พอได้พูดคุยกับจูเลี่ยนก็ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมา เขาหวังจะช่วยผมเองหรอกเหรอ แต่ไม่เห็นจะต้องทำกันขนาดนั้นเลยนี่นา ผมบาดเจ็บปางตายขนาดนั้น
"แต่ว่ามันไม่ดูใจร้ายไปหน่อยเหรอ การพิชิตปราสาทนี้น่ะ ฉันทรมานจนเกือบยอมแพ้ไปแล้วตั้งหลายครั้ง"
"อะไรกันครับ เรื่องแค่นี้ทำบ่นไปได้ แต่สุดท้ายคุณก็ใช้มันได้ไม่ใช่เหรอออร่าสีขาวนั้นน่ะ"
ผมมองดูออร่าที่อยู่รอบๆ ตัวอย่างตื่นเต้น มันส่องแสงเข้มข้นไหลเวียนเหมือนกับดั่งสายน้ำอยู่รอบๆ ตัว
"ก็จริงของนาย แต่ว่าสุดยอดไปเลยนะ รู้สึกว่าตัวของมีพลังอยู่เหลือล้น ร่างกายสดชื่นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ดูนี่สิ…กล้ามเนื้อตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เหลือจะเชื่อจริงๆ นายก็รู้สึกแบบเดียวกันใช่ไหมตอนใช้มัน"
"ของคุณมันดูทรงพลังจริงๆ เลยนะครับ บางทีแล้ว…มันอาจจะดูแข็งแกร่งกว่าของคุณไรลีย์เสียอีก"
"จริงเหรอ? ไม่อยากจะเชื่อเลย เอ…ว่าแต่ตอนนี้ไรลีย์เธออยู่ที่ไหนเหรอ? "
"..."
จูเลี่ยนนิ่งเงียบพร้อมแสดงรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา
"เอาเถอะครับ เรามาเริ่มขั้นตอนสุดท้ายของการเป็นผู้กล้าของคุณดีกว่า"
เขาไม่บ่ายเบี่ยงไม่ตอบลุกขึ้นจากบัลลังก์ เดินลงมาช้าๆ
"นี่ ทำไมนายไม่ตอบล่ะว่าเธออยู่ที่ไหน!? "
"การที่คุณจะเป็นผู้กล้าที่สมบูรณ์แบบได้คุณคงจะเข้าใจสินะว่าจะต้องทำยังไงต่อไป มันก็คือวิธีการที่พวกคุณทำมากันจนถึงตอนนี้-"
"เธอ-อยู่-ที่-ไหน!"
ส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความขุ่นเคืองดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง จนจูเลี่ยนหยุดเดินก้มหน้าลงถอนหายใจออกมาเบาๆ
จูเลี่ยนดึงสร้อยคอออกมา ชูมันขึ้นแสดงให้ผมดู
สร้อยคอที่เดิมทีถูกวางบนบัลลังก์ของจอมมาร เป็นจุดกำเนิดแห่งพลังอันน่าเกรงขาม เมื่อตอนนั้นยังดูเป็นสร้อยคอที่ดูไม่ได้มีพิษร้ายอะไร แต่ตอนนี้มองดูแล้วเหมือนดั่งมีพลังเหลือล้นอยู่ภายใน พร้อมที่จะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ
ตามที่สาวซัคคิวบัสบอก การที่มันจะเป็นแบบนั้นได้จะต้องกลืนกินคนที่มีพลังสูงส่งเข้าไป
คนที่ผมนึกถึงและไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็คือเธอ…
พอคิดแบบนั้น เสียงอู้อี้ก็ดังขึ้นในหัวจนไม่ได้ยินเสียงโดยรอบ ลมหายใจถี่ระรัวตามเสียงหัวใจที่เต้นเป็นเสียงกลอง จิตใจเหมือนถูกทุบให้แตกกระจายออก ความรู้สึกเหมือนร่วงหล่นลงหุบเหว
"นายทำแบบนั้นไปทำไม จูเลี่ยน!"
"ผมก็มีเหตุผลของผมเอง พูดไปคุณเองก็คงไม่เข้าใจหรอกครับ"
จูเลี่ยนกำสร้อยคอไว้แน่นในมือซ้ายและชักดาบออกมาด้วยมือขวา แรงกดดันมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากมือซ้าย ดูเหมือนสิ่งนั้นจะทำให้จูเลี่ยนดูแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม
แต่นั้นเป็นพลังที่ได้มันมาจากการเสียสละเธอไป มันทำให้ผมโกรธอย่างถึงที่สุดจนออร่ารอบตัวสั่นไหวไปตามอารมณ์
พวกเราสองคนจ้องมองกันไม่เคลื่อนไหวใดท่ามกลางปราสาทที่เหมือนกับถูกเขย่าจนสั่นไปมา
เศษหินบนเพดานแตกออกจนล่วงลงมาผ่าท่ามกลางระหว่างสองเราจนแตกออก พวกเราก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยทันที
ผมเข้าโจมตีรวดเร็วฟาดดาบลงมาจากด้านบน
จูเลี่ยนรับดาบนั้นได้แต่พื้นที่เหยียบอยู่ก็แตกออกจากแรงปะทะ จนบัลลังก์จอมมารค่อยๆ หักพังถล่มลงมา
"ใช้ได้เลยนี่ครับ สมกับเป็นคุณจริงๆ "
เห็นท่ามีสบายใจผมยิ่งเพิ่มกำลังดันเขาลงไป
"หุบปากไปซะ!"
พื้นชั้นนั้นแตกออกเราสองคนทะลุลงชั้นล่าง แต่ยังไม่พอผมฟาดฟันซ้ำขณะอยู่ในกลางอากาศจนเขากระเด็นลงไปสองสามชั้น
เศษอิฐแตกกระจาย ฝุ่นควันกระจายปิดบังมองไม่เห็นด้านล่าง ผมจึงรีบกระโดดตามลงไป
ฝ่าฝุ่นควันพวกนั้นไปก็มีรากไม้พรวยพุ่งขึ้นมาสวนทาง จนผมกระเด็กขึ้นมาชั้นเดิม ทำเอาเกือบที่จะเสียหลักล้มลง
จูเลี่ยนกระโดดตามขึ้นมาจากรูบนพื้นนั้น
"ผมจะเอาจริงแล้วนะครับ คุณเองก็ต้องจริงจังด้วยสิ"
เขายกเท้าขึ้นเกิดวงเวทสีเหลืองที่เท้าพร้อมกระทืบลงพื้นสร้างหอกดินจำนวนมากหลั่งไหลมาตามพื้น
ผมตวัดดาบครั้งเดียวหอกดินพวกนั้นก็แตกหักไปทั้งหมด
ทันทีที่เหวี่ยงดาบไปก็โดนลูกศรน้ำโจมตีเข้าช่วงท้องที่เป็นจุดบอด แต่ศรน้ำพวกนั้นสร้างบาดแผลให้ผมเพียงเล็กน้อย คงจะเป็นเพราะออร่ารอบตัวช่วยป้องกัน
ดูเหมือนพลังของจูเลี่ยนคือการใช้เวทมนตร์ของเหล่าขุนพลจอมมาร
ถ้าแบบนั้น…
ผมรีบพุ่งตัวเขาหาเขาก่อนที่จะร่ายเวทเสร็จ เข้าประชิดตัวทันทีจนเขาใช้ดาบรับไว้
ดาบสองเราเข้าปะทะกัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีท่าทีตื่นตระหนกใดยังคงร่ายวงเวทขึ้นที่มือ
ทันใดนั้นไฟที่ดาบของเขาก็ปะทุขึ้น
ผมเห็นแบบนั้นก็เข้าใจถึงอันตรายของมันในทันที ไฟที่แม้แต่เกาะชั้นดีของวิญญาณเกาะเพลิงยังเผาจนหลอมละลาย รีบเบี่ยงตัวหลบในทันที
เปลวไฟลอยผ่านหน้าไป รับรู้ได้ถึงไอร้อนกระทบใบหน้าจนเหมือนผิวหนังถูกเผาไหม้
ดาบที่จูเลี่ยนเหวี่ยงออกไปทำให้เขาเผยจุดบอดผมโจมตีที่ลำตัวเข้มเต็มๆ
ดาบของผมซัดตัวเขาจนปลิวออกไป
"เฮ้อ…"
พักถอนหายใจได้ชั่วครู่จูเลี่ยนก็โผล่มาจากด้านบน ฟาดดาบลงมาใส่ผมจนปะทุพื้นลงไป
แม้ลอยอยู่กลางอากาศเขายังไล่ตามอย่างไม่ลดล่ะ รัวดาบรุกไล่เข้าใส่อย่างไม่หยุดหย่อน ตัวผมเองก็ตั้งรับและสวนไปได้
ทันทีที่ขาผมสัมผัสพื้น ก็ส่งเสริมแรงที่ขาทำให้ผมเป็นฝ่ายได้รุกไล่กลับไป ผลักดันจูเลี่ยนให้ทะลุขึ้นไป
เราสองผลักกันรุกไล่และตั้งรับกันอย่างสูสี เสียงดาบเข้าปะทะกันสนั่นไปทั่วทั้งปราสาท สิ่งก่อสร้างต่างพังทลายลงตลอดเส้นทางการเข้าปะทะ พื้นของปราสาทแต่ล่ะชั้นค่อยๆ พังทลายสะสมกันเรื่อยจนยากจะรับน้ำหนักไหวค่อยๆ พังลงไปทีละชั้น
พวกเราสองคนที่ยืนอยู่บนนั้นก็ร่างหล่นลงไปพร้อมๆ กับพื้นห้อง
แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาของเรา เพราะศัตรูอยู่ตรงหน้าสิ่งรอบตัวก็เป็นเพียงเสียงรบกวน จิตใจตั้งมั่นกับการจำกัดศัตรูตรงหน้าเพียงเท่านั้น ทั้งสองเหมือนตกอยู่ในภวังค์ของการต่อสู้ที่ดุเดือด
ถึงคราวผมรุกไล่โดยฟาดดาบลงมา จูเลี่ยนรับรู้ถอยหลบไปด้านหลังก่อนที่ดาบจะฟาดฟันลงสู่พื้น
เขาหลบได้เฉียดฉิวนั่งลงเหนื่อยหอบอยู่กับพื้น
“เฮ้อ~ ดูเหมือนความสามารถของเราจะใกล้เคียงกันเลยนะครับ แบบนี้คงจะตัดสินกันได้ยาก ลองมาใส่ให้สุดกันในดาบนี้เลยดีกว่าไหมครับ?”
จูเลี่ยนตั้งท่าดาบเป็นท่าเดียวกันกับไรลีย์มักจะใช้ มันทำให้ผมนึกถึงเธอ
พอเห็นแบบนั้นหัวก็เริ่มขุ่นเคือง ในมือกำดาบไว้แน่น ผมไม่รอที่จะให้สัญญาณโจมตี ไม่รีรอแม้แต่ตั้งท่าจู่โจม ยกดาบพุ่งเข้าโจมตีในทันที
“เฮ้ เฮ้… ไม่ใจร้อนไปหน่อยเหรอ?”
เขาตกใจกับการรีบร้อนโจมตีของผม แต่ก็เตรียมพร้อมรับมือในทันที
“!”
แต่สายตาของจูเลี่ยนมองยังด้านบน
ก้อนหินลูกใหญ่หล่นลงมาใส่เขาทำให้จูเลี่ยนต้องกระโดดหลบ
ตัวผมที่พุ่งเข้าไปเห็นช่องว่างในเสียงจังหวะที่เขากระโดดหลบ
ดาบของผมฟันเข้าหาตัวเขาแบบไม่ทันตั้งตัว มันฟันผ่านแขนข้างซ้ายจนขาดกระเด็นออกไปตกลงกับพื้น มือที่กำสร้อยคอที่ใช้กำเนิดพลังของเขาก็หลุดออก จูเลี่ยนถอยไปข้างหลังนั่งทรุดเข่าลงกับพื้น มือกุมรอยตัดของแขนที่หลุดออก
“นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่แกควรได้รับ”
ผมพูดออกไปพลางหายใจเหนื่อยหอบ ดูเหมือนจริงๆ ความสามารถของผมจะตกลงเหมือนกันจากการต่อสู้ที่ยาวนาน แต่ว่าตอนนี้ผมสามารถตัดส่วนที่ช่วยเพิ่มพลังให้จูเลี่ยนได้แล้ว หลังจากนี้คงจะชนะได้อย่างสบาย
แต่ดูเหมือนจูเลี่ยนจะไม่ได้คิดแบบนั้น เขาใช้เวทไฟปิดแผลที่แขนของตัวเอง พร้อมลุกยืนขึ้นมายิ้มแย้มออกมาอย่างพึงพอใจ
ไม่เข้าใจเลยว่าคิดอะไรอยู่