"ใครจัดการจอมมารได้ก่อนคนนั้นเป็นผู้กล้าแบบนั้นเป็นยังไง" เป็นข้อเสนอจากอีกฝ่าย "ได้เลยสิฉันจะทำให้แกได้เห็นใครกันที่คู่ควรเป็นผู้กล้า" การเดินทางของศัตรูคู่ปรับ คู่กัด คู่หู จึงได้เริ่มต้นขึ้น
แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราสาทจอมมารที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านภายใต้ดวงจันทร์กลมโตส่องสว่างก้อนใหญ่ ในห้องชั้นบนสุดจากห้องเป็นร้อยชั้น เหนือห้องในเพดานภายใต้ดาดฟ้าของปราสาทใหญ่อันนี้
ภายในนั้นมีหญิงสาวนอนสลบอยู่ ท่ามกลางแสงสว่างของดวงจันทร์ที่สาดส่องออกมาจากทางช่องเปิดเล็กๆ
"อ๋า...!
เธอสะดุ้งตัวตื่นขึ้นกะทันหันหลังจากที่หลับไปนานอย่างเหนื่อยล้าคล้ายว่าสูญเสียพละพลังไปมาก
"อู้ยยยย ปวดคอจริงๆเลย ทำไมถึงปล่อยให้ฉันนอนบนพื้นแข็งๆได้กัน...เอ๊ะ!"
มองไปนิ้วมือที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผล นิ้วมือที่ถูกจูเลี่ยนกรีดด้วยดาบแล้วนำเลือดที่ออกมาหยดลงบนสร้อยคอจอมมาร หลังจากนั้นก็รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนถูกดูดพลังออกไปจนฉันหลับไป
เขาทำไปเพื่ออะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย
"!"
อยู่ๆ ปราสาทก็สั่นสะเทือนอย่างหนัก เหมือนมีอะไรที่รุนแรงปะทะกันอยู่ด้านล่าง
"เกิดอะไรขึ้น!? หรือว่าจูเลี่ยนกับอาริน…"
ฉันรีบพยุงตัวเองลุกขึ้น รีบมองหาทางออกจากที่นี้โดยเร็ว แต่ในห้องที่มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยจากช่องเปิดเล็กก็ทำให้มองได้ยากลำบาก
ได้ยินเสียงของฝีเท้าท่ามกลางความมืด
"ใครน่ะ!? "
ฉันรีบชักดาบออกมาชี้ไปทางต้นตอของเสียง
ดีแล้วที่ดาบยังอยู่เมื่อตอนสลบไป
"..."
ไร้เสียงตอบรับ
เสียงฝีเท้ายิ่งขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ
บ้าจริงมันมืดเกินไป!
พอคิดแบบนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ว่าเคยให้อารินช่วยสอนเวทมนตร์ให้ ใช้เวลาเล่าเรียนอยู่นานกว่าจะสำเร็จ ดีล่ะเวลาแบบนี้…
ลองหลับตาพยายามรวบรวมพลังเวทในร่างกายที่มีอยู่น้อยนิด สกัดออกมาเป็นเวทมนตร์ น้อยเกินไป…ต้องมากกว่าอีก
ลืมตาขึ้น
"ไฟเยอร์บอล!"
เปลวเพลิงถูกสร้างขึ้นบนมือหมุนวนกันจนก่อเป็นบอลเพลิงลูกเล็กเท่านิ้วหัวแม่มือ แต่ก็พอส่งแสงสว่างไปทั่วห้อง
ค่อยๆ เผยให้เห็นต้นตอของเสียงตรงหน้า ปีกค้างคาวสีดำ รูปร่างหญิงสาวใส่ชุดวาบหวิวพร้อมเขาบนหัว
"เธอเองเหรอ? "
ยัยซักคิวบัสเมื่อตอนนั้น เมื่อเห็นหน้าทำเอาอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที ฉันเนี้ยนะแพ้ให้กับเธอ ไม่อยากจะยอมรับเลย
แต่ตอนนี้เธอดูร่างสะบักสะบอมเป็นอย่างมาก เดินลากเท้าเข้ามาหา
เมื่อเห็นหน้าเธอชัดก็เผยรอยยิ้มอันน่าขนลุก
"ในที่สุด…ในที่สุดฉันก็เจอแก ยัยสาวน้อยตัวดี แคก แคก!"
สภาพเธอตอนนี้ดูไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด รู้ได้เลยว่าเธอนั้นบาดเจ็บสาหัส ใครเป็นคนทำให้เธออยู่ในสภาพแบบนี้กันนะ คงจะเป็นจูเลี่ยน…หรือบางทีอาจจะเป็นอารินก็ได้ บางทีแล้วฉันเชื่อว่าความสามารถลึกๆของเขา
ว่าแล้ว...
"เธอต้องการอะไร แล้วที่นี่คือที่ไหน? ตอบมาซะ!"
ฉันพูดออกไปพลางเอาดาบชี้ไปที่คอของเธอ ถึงแม้ตอนนี้ฉันเองร่างกายก็สภาพไม่ดีรักแต่ก็ต้องทำขึงขังไว้ก่อน
"เฮ้ เฮ้ เดี๋ยวก่อน ใจเย็นก่อนสิ ฉันไม่ได้มาต่อสู้กับเธอหรอกนะ"
"ทำไมฉันต้องเชื่อล่ะ? "
"ฉันก็หาทางออกจากที่นี่แบบเดียวกันกับเธอเหมือนกัน พอดีอยู่ๆ ก็พุ่งทะลุขึ้นมาอยู่ที่น่ะ"
"หืมมมม…"
ฉันจ้องมองเธอไม่ว่าง ไม้อยากจะเชื่อในกับศัตรูที่เกือบจะฆ่าตัวเองไปเลย แต่ดูจากสภาพของเธอแล้วคงจะทำอะไรมากไม่ค่อยได้
"เชื่อใจฉันเถอะน่า ขอแค่ออกจากที่นี่ได้ฉันจะหนีไปพักฟื้นตัวเอง ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้เจ้าหนุ่มสารเลวสองคนนั้นแล้ว"
"...เข้าใจแล้วถ้างั้นก็ลองหาทางออกให้ฉันดูสิ"
ฉันเก็บดาบเข้าไป ปล่อยความแค้นทิ้งไว้ข้างหลังตอนนี้สิ่งสำคัญคือรีบไปดูว่าสองคนนั้นทำอะไรกันอยู่
เราสองคนลองเดินหาไปทั่วทั้งห้อง ยัยซักคิวบัสนั้นบอกว่าทางออกจะมีวงเวทวางอยู่ที่พื้น เราจึงค่อยใช้บอลไฟอันเล็กของฉันสอดส่องตามพื้นไปทั่ว
"นี่ ฉันถามอะไรหน่อยสิ ทำไมจูเลี่ยนถึงสามารถใช้สร้อยคอจอมมารอะไรนั้นของพวกแกด้วยล่ะ หรือว่าเขาจะเป็นจอมมาร? "
"ใครจะไปรู้ล่ะ อาจจะเป็นก็ได้"
"แต่เขาเป็นผู้กล้านะ ฉันยืนยันได้ เขาใช้พลังจากตราผู้กล้าได้ทรงพลังมาก"
พอถามไปอย่างงั้น อีกฝ่ายก็ผายมือออกแสดงออกว่าไม่รู้อะไรเลย ไร้ประโยชน์จริงๆ เลย
เดินหาไปได้สักพักแสงไฟก็ค่อยสาดส่องไปบนพื้นข้างหน้า ค่อยๆมองเห็นขอบของวงเวทสีขาวที่ถูกเขียนลงบนพื้น
"นั้นไงวงเวท! รีบไปหันเถอะ"
ฉันรีบวิ่งออกไปที่วงเวทหวังรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นด้านนอก ระหว่างที่เดินหามันอยู่ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนดังขึ้นหลายครั้ง ข้างนอกต้องเกิดอะไรขึ้นอยู่เป็นแน่
"เอ๊ะ!"
ทันทีที่ออกตัววิ่งไปก็รับรู้ถึงอันตราย ไม่ใช่อันตรายจากวงเวทแต่มาจากด้านหลัง
"ยัยโง่! คิดเหรอว่าฉันจะญาติดีกับแกน่ะ"
หันกลับไปเจอยัยซักคิวบัสนั้นกำลังจะใช้เวทมนตร์น้ำอยู่ในมือโจมตีเข้ามา
แต่ว่า…
ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย
แขนของเธอถูกตัดขาดออก
ดาบของฉันถูกชักออกมาอย่างรวดเร็ว จริงๆ แล้วก็คอยระวังตัวอยู่ตลอด คิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะเชื่อใจเธอน่ะ
"ได้ไงกัน หน่อยแก ยัยเด็กสารเลว!"
เธอใช้กรงเล็บพุ่งเข้าโจมตีแทน
"อุก!"
เท้าของฉันกระแทกเข้าที่ท้องจนเธอนั่งทรุดลงกับพื้น สำรอกออกมาจนหมดสภาพ
"ไม่นึกจริงๆ ว่าจะได้แก้แค้นได้เร็วขนาดนี้ ถึงจะสู้กับแกที่บาดเจ็บอยู่ก็เถอะ แต่รู้สึกดีจริงๆ "
ฉันชี้ดาบไปที่เธอที่นั่งอยู่พร้อมมองมาด้วยสายตาเคียดแค้น
"...พวกแก ไอ้พวกสารเลว ทำทุกอย่างที่ฉันเตรียมมาพังทลายจนหมด แคก แคก!"
"มีอะไรจะสั่งเสียไหม? "
พอได้ยินแบบนั้นเธอก็ทำหน้าตาบิดเบี้ยวเหมือนเสียสติ
"หึ หึ ฉันไม่ยอมตายคนเดียวหรอก!"
เธอพุ่งกระโจนเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ฉันใช้ดาบแทงเข้าทะลุกลางอกของเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่หยุดปล่อยให้ดาบแทงทะลุร่างตัวเองเข้ากอดรัดตัวฉันจนล้มไปข้างหลัง
แขนที่เหลืออยู่ข้างเดียวเข้ารัดคอ ปีกของเธอเข้าห่อหุ้มร่างกายของเราไว้ กลิ้งเหมือนถังน้ำไปหยุดที่วงเวทที่เธออ้างว่ามันคือทางออก
"ปล่อยนะ จะทำอะไรของเธอ"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ท่านจอมมารค๋าาา ฉันนำร่างกายอันสมบูรณ์แบบมามอบให้แก่ท่านแล้วได้โปรดรับมันไว้ด้วยเถอะค่ะ~"
เธอเสียสติจนพร่ำเพ้อไม่เป็นเรื่อง แต่ว่าเธอโดนดาบเสียบทะลุอกไปขนาดนั้นแต่ยังมีแรงเหลือรัดฉันแน่นจนขยับออกไม่ได้เลย
"ได้โปรดใช้เป็นพลังให้ท่านแล้วใช้ร่างของยัยเด็กนี้เพื่อคืนชีพออกมาได้เลยค่าาาา~"
"เธอเป็นบ้าหรือไง คิดว่า-"
ทันใดนั้นวงเวทที่พื้นก็ทำงาน มวลคลื่นแห่งความชั่วร้ายกระจัดกระจายออกมา
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถ้าจอมมารยังไม่เกิดฉันก็จะคืนชีพท่านจอมมารในร่างของเธอเอง ยินดีเสียเถอะที่ได้เป็นภาชนะของจอมมาร"
ควันสีดำลอยฟุ้งไปทั่วเหมือนกลุ่มก้อนพลังงานของความชั่วร้ายลอยไปมารอบๆ
"ไม่นะ ปล่อยนะ!"
ทันใดนั้นกลุ่มก้อนพลังงานโดยรอบก็หมุนวนไปมาเหมือนกับว่ากำลังค้นหาบางสิ่งอยู่ จากค่อยๆ หลั่งไหลเข้าหาตัวฉัน ไปรวบรวมกันที่หน้าท้องแล้วก็ค่อยหลั่งไหลเข้าไปอย่างรวดเร็วเหมือนกันว่าเจอเข้ากับสิ่งที่ตามหา
"อะไรกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!? "
ซักคิวบัสเธอทำหน้าตกใจจนซีดเฝือก
แทนที่เธอจะดีใจแต่กลับตื่นตระหนกกับเรื่องที่เกิดแทน
"อย่าบอกนะว่า…จริงๆ แล้วมีจอมมารเกิดใหม่ขึ้นมาแล้วนะ!? "
หลังจากนั้นตัวเธอก็ค่อยๆ ถูกดูดเข้าไปในท้องของฉัน
กลุ่มพลังหายไปจนหมด ปีกที่รัดฉันอยู่ก็หายไป
"แคก แคก! เรื่องทั้งหมดนี้...มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ?"
ทุกสิ่งโดยรอบหายไป จนทั้งห้องอยู่ในความเงียบสงบ
ทันใดนั้น…
พลังงานในตัวฉันก็ระเบิดออกมาจากหน้าท้อง พื้นโดยรอบถูกแรงระเบิดค่อยประเด็นแผ่กระจายออกไปรอบตัวฉัน พื้นห้อง เพดาน กำแพงต่างสลายออกไปจนหมด จนมองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าอมม่วง ดวงจันทร์กลมโตสาดแสงลงมา
เศษอิฐที่กระจายออกไม่ได้ล่วงลงไปแต่กลับลอยอยู่แบบนั้นไม่ยอมขยับไปใน
ฉันมองดูภาพโดยรอบด้วยความแปลกใจ
มองดูหน้าท้องตัวเองที่เป็นต้นตอของพลังงานเหล่านี้ มันส่งพลังงานความมืดหลั่งไหลออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ หายไป
ตอนนี้ตัวฉันไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนนี้จอมมารกำลังจะเกิดใหม่งั้นเหรอ? แล้วตัวฉันคือเครื่องสังเวยงั้นเหรอ? ความคิดเต็มหัวไปหมด
"ไรลีย์!"
ได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อจากทางด้านล่าง
พื้นด้านล่างแตกออกจนมองเห็นภายในปราสาทได้อย่างชัดเจน แต่ละชั้นพังทลายเหมือนกับเกิดการต่อสู้อย่างหนักหน่วง
ฉันมองหาต้นตอของเสียงอันคุ้นเคยก็พบในที่สุด
"อารินนั้นนายเหรอ!? "
เจอกับอารินที่กำลังต่อยไต่กำแพงขึ้นมาเพราะพื้นห้องแต่ละชั้นพังทลายเกือบหมด
"ฉันเองงงง...เธอรอก่อนนะ ฉันจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ"