บนตึกสูงเสียดฟ้าแห่งตึก BB ความรักได้ผลิบานระหว่างหญิงสาวลึกลับที่ใช้ชีวิตผ่านโดรน และชายหนุ่มผู้พิการที่โชคชะตาเล่นตลกให้ขาสูญเสียความสามารถไป เมื่อเหตุการณ์ลักพาตัวนำพาให้ทั้งคู่ได้พบกัน ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสายใยที่ค่อยๆ ผูกพันแน่นแฟ้นขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกของท้องฟ้าที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่าง
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,ไทย,เรื่องสั้น,นางเอกสวยมาก,พระเอกอบอุ่น,พระเอกหล่อ,พระเอกรวย,พระเอกธงเขียว,นางเอกน่าสงสาร,นางเอกเก่ง,โดรน,ยุคปัจจุบัน,เบาสมอง,อ่านเพลิน,ไม่ดราม่า,สนุกเฮฮา,นิยายรัก,นิยายสั้น,นิยายตลก,นิยายรักชายหญิง,ชีวิตประจำวัน,รักโรแมนติก,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"คุณนักบินโดรนครับ จำผมได้ไหม คนที่คุณเคยช่วยเอาไว้"
ชายหนุ่มรูปงามผู้พิการกล่าวขึ้นอีกครั้ง เพื่อเรียกหาเจ้าของโดรน
'ฉันเคยช่วยคนพิการตอนไหน?' หญิงสาวไม่รู้เลย เธอจำไม่ได้จริงๆ ก่อนจะรีบบอกออกไปเผื่อว่าเขาคนนี้จะจำคนผิด
"เอ่อ.......จำไม่ได้เลยค่ะ" หญิงสาวมองผ่านหน้าจอมองยังไงก็ไม่คุ้น พยายามบินโดรนเข้าไปใกล้ๆ วนไปวนมา
ยิ่งมองก็ยิ่งตะลึงในความหล่อเหลา ดวงตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้กระทบแสงแดดยามเย็นอ่อนๆ เป็นประกายระยับ การแต่งกายที่ดูดีมีระดับ การวางตัวที่ประหนึ่งว่าเป็นผู้ดี สูงศักดิ์ ทำเอาเธอยิ่งตกตะลึง
ธีระหนุ่มรูปงามผู้มีใบหน้าคมคายดั่งดารานักแสดง
"ผมก็จำได้แต่โดรนคุณเหมือนกันครับ ผมชื่อธีระ เมื่อหลายวันก่อนผมโดนจับไปเรียกค่าไถ่ที่ตึกตรงข้ามกันนี้ครับ แล้วก็มีโดรนของคุณมาช่วยเอาไว้"
คำพูดของธีระทำให้เนเน่เบิกตากว้าง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ใบหน้าของชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายจนบวมช้ำปรากฏขึ้นในความทรงจำของเธอ
"อ๋อ...คุณนี่เอง ฉันจำได้แล้วค่ะ" เธออุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของธีระในตอนนี้แตกต่างจากตอนที่เธอพบเขาครั้งแรกราวกับคนละคน รอยบวมช้ำหายไปสิ้น เหลือเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสะอาดสะอ้าน
"ครับก็นั่นล่ะ ผมอยากมาขอบคุณคุณด้วยตัวเอง ขอโทษที่มาขอบคุณช้าไปหน่อย ผมพึ่งจะออกจากโรงพยาบาลมาไม่กี่วัน" ธีระกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยได้ก็ช่วย ฉันคงไม่ปล่อยให้คุณโดนทำร้ายทั้งที่รู้หรอกนะคะ คุณไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ ปลอดภัยมาก็ดีแล้ว ฉันดีใจด้วยที่คุณผ่านวันที่เลวร้ายมาได้ค่ะ" เนเน่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงใจ
ธีระเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหยิบของขวัญชิ้นเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขา "ผมเตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาให้คุณเป็นการขอบคุณครับ"
เนเน่ปฏิเสธเขาไปยืนยันที่จะไม่รับของตอบแทน "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันช่วยคุณเพราะอยากช่วย ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน"
"ครับ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม ผมก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ นับว่าคุณเป็นผู้มีพระคุณต่อผมอย่างแท้จริง"
"อ๋อ ค่ะ" หญิงสาวตอบรับไป แต่ก็รู้สึกว่าชายหนุ่มยกย่องเธอมากเกินไป
"ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ มาให้ครับ เป็นกระเช้าผลไม้พร้อมกับเงินค่าตอบแทน" เมื่อได้ยินคำว่าเงิน หูของเนเน่ก็ผึ่งขึ้นรีบตั้งใจฟังในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ เธอก็ต้องรับไว้แทนแล้ว
'ฮะ เงินเหรอ...น่าสนใจ เพราะช่วงนี้ฉันก็หาเงินไม่ได้เลย รอบจ่ายค่าห้องก็จะเวียนมาแล้วด้วย'
"อ๋อ โอเคค่ะ ฉันจะรับเงินกับผลไม้ของคุณไว้ ถ้าเป็นเงินแบบธนบัตร คุณสามารถติดเทปใส่โดรนของฉันได้เลย"
"พี่สาว พี่จะรับเงินสดแบบนี้เหรอ เดี๋ยวก็ติดเชื้ออะไรจนไม่สบายอีกหรอก" เด็กน้อยที่ยืนฟังการสนทนาของทั้งสองมานานก็ได้จังหวะพูดแทรกขึ้นบ้าง ด้วยความอยากมีส่วนร่วม
"เอ่อ จริงด้วย พี่ลืมไปเลย งั้นคุณโอนเงินให้ฉันแล้วกันค่ะ สแกนโอนผ่านหน้าจอที่ติดอยู่ที่ตัวโดรนได้เลยค่ะ"
เมื่อพูดคุยตกลงกันเข้าใจ ธีระก็ทำการโอนเงินก้อนจำนวนมากเข้าบัญชีของเธอ "ฮะ ห้าแสน!?"
"ครับ ห้าแสน น้อยไปไหมครับ ถ้าน้อยไปผมจะไปโอนเพิ่มให้นะครับ
"อ๋อๆ ไม่ค่ะ เยอะเกินไปด้วยซ้ำ เงินจำนวนนี้ฉันหาทั้งปีจะถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"ดีแล้วครับที่รับไว้ เป็นเงินเก็บของผมสามแสนครับ แล้วก็แม่กับพ่ออีกคนละแสน ส่วนกระเช้าผลไม้แม่ผมฝากมาให้ครับ"
"ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ จริงๆ ฉันก็ช่วยคุณด้วยความเต็มใจ จะไม่ให้อะไรเลยก็ไม่เป็นไรค่ะ"
"งั้นขอคืน กันไหมครับคุณธีระ เพราะเธอไม่น่าจะอยากได้"
เสียงของคนใช้ดังแทรกขึ้นมา เปิดปากออกมาก็พูดจาไม่เข้าหูเสียแล้ว
'จะขอคืนเลยเหรอคะ พูดแค่นี้เอง ตามมารยาทค่ะ ตามมารยาท'
เน่เน่ได้ฟังแบบนั้นก็ใจคอไม่ดี เธอปฏิเสธตามมารยาทเท่านั้น จนนึกร้อนรนในใจได้แต่คิดกระวนกระวาย ถึงจะช่วยแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่ในตอนนี้ที่ตกลงปลงใจเปลี่ยนความคิดแล้วว่าจะรับของมา กลับเป็นทางนั้นที่พูดเหมือนจะไม่ให้ของซะแล้ว
"ได้ที่ไหนกัน เขาไม่รับผมก็จะให้ ชีวิตผมมีค่ามากกว่าของพวกนี้ ให้แค่นี้เผลอๆ ยังน้อยไปจนผมเกรงใจเขาเลย คุณจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ แล้วก็...ผมขอคุยส่วนตัวดีกว่า"
ชายหนุ่มตักเตือนคนที่มาด้วยทันที
ในห้วงเวลาอันตึงเครียดนั้น โดรนก็ร่วงลงสู่พื้นอย่างไม่คาดคิด แต่โชคดีที่ความสูงไม่มากนัก จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
ธีระและบุคคลข้างกายรีบรุดเข้ามาตรวจสอบโดยทันที ตัวโดรนขยับไปมาอย่างรวดเร็ว จนภาพบนจอแสดงผลทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรง
"โอ๊ย...ลืมไปเลยว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว คุณที่ถือโดรนอยู่ช่วยจับให้มั่นคงหน่อยนะคะ ฉันตาลายไปหมดแล้ว" หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงอ่อนแรง
"ขออภัยครับ ผมไม่ทราบว่าด้านไหนคือหัวหรือหาง" ชายหนุ่มตอบพลางถือโดรนไว้ในมืออย่างไม่มั่นคง โดรนจึงถูกวางลงบนตักของธีระอย่างระมัดระวัง
ตรงหน้าของธีระคือตุ๊กตาหมีสีชมพูแสนน่ารักที่สวมหน้ากากอนามัยปิดไว้
"ตุ๊กตาของคุณที่ติดมากับโดรนน่ารักมากเลยนะครับ" ธีระกล่าวชื่นชมของตรงหน้าด้วยความชื่นบาน
คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำด้วยความเขินอาย เพราะตัวตนแท้จริงของเจ้าของโดรนคือหญิงสาวเช่นกัน เธอไร้ซึ่งพลังต้านทานต่อเสน่ห์อันล้นเหลือที่แผ่กระจายออกมาจากชายหนุ่มผู้นี้
"คะ...ค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงแผ่วเบา
"แบตหมดแบบนี้เดี๋ยวคงฝากผมเอาไปให้ที่ชั้นแปดอีกใช่ไหม พี่สาวแบตเตอรี่หมดทำไมไม่ดูให้ดี ห้องพี่มันอยู่ไกลลิฟต์มากเลยนะ" เด็กน้อยเซโร่บ่นใส่หญิงสาว ทำเอาช็อตฟิวสุดๆ
ตึกขนาดใหญ่ด้วยความที่เป็นเด็กน้อยขาสั้นๆ กว่าจะเดินไปถึงห้องสุดท้ายมุมตึกก็เหนื่อยไม่น้อย ไม่แปลกที่เขาจะบ่นทุกครั้งที่ต้องเอาโดรนไปคืนพี่สาว
"ก็เราบอกอยากเล่นกับสุนัขตัวนั้นเพิ่มอีกหน่อยนี่แบตเลยหมด โทษพี่ไม่ได้นะ เลิกบ่นเลย"
เด็กน้อยทำหน้าหงอ เถียงไม่ออก
ก่อนที่จะได้จังหวะบอกกล่าวฝากธุระให้กับคนตรงหน้าช่วยจัดการให้ เพราะเดิมทีแรงเด็กเล็กคงยกกระเช้าผลไม้นั้นไม่ขึ้น
"จะว่าไปแล้ว เรื่องกระเช้าผลไม้นั่น ฉันฝากคุณถือไปให้พี่ยามหน้าตึกทีนะคะ บอกว่าฉันให้"
"อ๋อ ได้ครับได้ครับ" ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะชวนคุยต่อ
"คุณครับ ผมมีเรื่องจะคุยเพิ่มเติม สดวกไหมครับ"
"เรื่องอะไรว่ามาเลยค่ะ ตราบใดที่แบตเตอรี่ยังไม่หมดล่ะก็ได้ค่ะ"
"ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย ให้ผมเรียกคุณว่าอะไรครับ"
"อ่อ ฉันชื่อเนเน่ค่ะ เรียกสั้นๆ ว่าเน่ก็ได้"
"ครับ คุณเน่ คือว่าผมนั่งคิดอยู่ตั้งแต่วันที่ได้ยินเรื่องที่คุณขับโดรน พอดีผมเดินไม่ได้จนต้องนั่งวีลแชร์มาสามปีได้แล้ว ผมแทบจะลืมไปแล้วว่าการเดินไปมาเป็นยังไง ผมคิดว่าถ้าผมได้ขับโดรนแบบคุณบ้างก็น่าจะดี คงเหมือนนกที่มีปีกบิน"
ในบรรยากาศอันอบอุ่น เสียงนุ่มละมุนแฝงความทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอย่างชวนฝัน
"อ๋อ...ดีนะคะถ้าคุณจะเล่นโดรน ฉันสนับสนุนค่ะ น่าจะดีต่อคุณมากๆ เลยล่ะ"
"ครับ เพราะเรื่องนั้น ผมจึงอยากรบกวนคุณช่วยสอนผมเล่น สอนบินโดรนให้หน่อยน่ะครับ"
"ฮะ? สอนบินโดรนเลยเหรอคะ คือฉันไม่เคยสอนใครมาก่อนเลยนะคะ"
"พี่เคยสอนผมไงตอนนั้นน่ะ" เด็กน้อยที่อยู่ในวงสนทนาก็พูดขึ้นตามมา เพราะเคยถูกเนเน่สอนมาบ้าง
"จะบ้าเหรอ เพราะเซโร่บอกว่าเคยเล่นเครื่องบินบังคับ พี่เลยสอนง่ายหรอก แถมสอนออกมาก็ไม่ดีด้วยซ้ำ ทำโดรนพังทันทีเลยนะนั่น อันนั้นไม่นับว่าเคยสอนใครจะดีกว่า"
"อ่อ แบบนั้นเลยเหรอครับ เสียใจจัง" เด็กน้อยเซ็งกับคำตอบ
"เรื่องสอนขับโดรนคือว่า ผมไม่ได้ให้สอนฟรีหรอกนะครับ จะจ้างเดือนละสองหมื่นบาทครับ"
"สองหมื่น!! คุณธีระให้ค่าจ้างขนาดนั้นกับฉันที่ไม่ใช่นักขับโดรนมืออาชีพเนี่ย มันจะคุ้มค่ากับคุณเหรอคะ คุณกลับไปคิดดูดีๆ ก่อนดีไหมคะ"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงไปครับ ผมคิดมาดีแล้ว ปรึกษาคุณแม่มาแล้วด้วย ท่านก็ยินดีที่จะออกค่าใช้จ่ายให้ด้วยครับ แม่ผมก็ว่าถ้าเป็นคุณก็ดีครับ เพราะผมคงไม่น่าจะเรียนกับคนอื่น เลยให้ผมมาคุยลองตกลงกันก่อน จะรับงานนี้ไหม อยู่ที่คุณตัดสินใจเลยครับ ไม่บังคับ"
มีการครุ่นคิดโดยใช้เวลาเล็กน้อย ไม่นานก็ได้รับคำตอบ
"ฉันไม่มีปัญหาค่ะ อยากหารายได้เพิ่มอยู่เหมือนกัน ถ้าทางคุณไม่มีปัญหาเรื่องที่จะให้ฉันสอนก็โอเคค่ะ"
"ครับงั้นพรุ่งนี้ผมจะมาคุยเรื่องรายละเอียดต่อ ช่วงเย็นเจอกันที่นี่เหมือนเดิมนะครับ"
"ได้ค่ะ"
เมื่อสนทนาเสร็จก็แยกย้ายกันคนละทาง