"เราจะให้เหตุผล 10 ข้อ หลังจากนี้พี่ลองเก็บไปคิดดูนะ"

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ - ข้อที่ 3 ขอเวลา โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"เราจะให้เหตุผล 10 ข้อ หลังจากนี้พี่ลองเก็บไปคิดดูนะ"

ผู้แต่ง

คุณสีชา

เรื่องย่อ

สารบัญ

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 1 มีค่าแค่ตอนที่เธอต้องการ,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 2 ลืมว่ายังรออยู่ตรงนี้,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 3 ขอเวลา,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 4 กลายเป็นคนขี้กลัว,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 5 ถูกละเลย,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 6 เรื่องเดิมๆ ,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 7 ความรู้สึก,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 8 ให้มันผ่านไป,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 9 ไม่ถูกรัก,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 10 ตาสว่าง,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 11 เหตุผล,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 12 ตอนจบ

เนื้อหา

ข้อที่ 3 ขอเวลา

เมื่อถึงห้องวริญก็รีบจัดการตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยและมานั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี ในมือของเธอถือรีโมททีวีเพื่อเลือกรายการที่ต้องการแต่สายตาของเธอไม่ได้จดจ้องมันเลยสักนิด

กี่ครั้งแล้วที่วริญรู้สึกน้อยใจกับการกระทำของคนรักของเธอ

วริญพยายามที่จะไม่คิดถึงมันอีกและตั้งใจจะใช้เวลาตรงนี้กับรายการทีวีตรงหน้า

'ติ้ง!

เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น

เธอผินหน้ามองไปยังต้นตอของเสียงและพบว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาหาเธอและมันคงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่คนที่มักจะทำให้เธอน้อยใจ

"ถึงห้องหรือยังคะ"

"ถึงแล้วค่ะ" วริญพิมพ์ตอบกลับอีกฝ่ายไป

"ถึงแล้วทำไมไม่ทักมาบอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง" อีกฝ่ายพิมพ์ส่งมาเชิงตำหนิ

'ถ้าจะเป็นอะไรมันคงเป็นตั้งแต่ที่พี่ปล่อยให้เรารออยู่คนเดียวที่หน้าบริษัทแล้วล่ะ' นั่นมันเป็นสิ่งที่วริญคิดแต่ไม่ได้พิมพ์ตอบกลับไป

"ขอโทษค่ะ พอดีว่าถึงห้องแล้ววริญอาบน้ำเลย พึ่งจะได้จับมือถือตอนที่พี่ส่งข้อความมา" เธอตอบกลับไป

"โอเค อย่าลืมกินข้าวล่ะ วันนี้พี่อาจจะกลับเช้า นอนเลยไม่ต้องรอ"



หลังจากที่อ่านแล้ววริญไม่ได้ตอบกลับอีกฝ่ายไป ความน้อยใจของเธอเพิ่มทวีคูณเป็นสองเท่าจากที่เป็นอยู่

เมื่อตอนเย็นเธอนึกดีใจที่พี่ฟ้าชวนเธอไปทานข้าวข้างนอก วริญคิดว่าพี่ฟ้าคงจะจำได้ว่าเป็นวันอะไร แต่ผิดคาดพี่ฟ้าจำมันไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเธอ

ตั้งแต่ที่เราทั้งสองได้เข้าสู่ช่วงทำงาน ต่างคนก็ต่างยุ่งและเวลาทำงานของเราทั้งสองก็ไม่ตรงกันจึงยากที่จะหาเวลาอยู่ด้วยกันถ้าไม่ใช่วันหยุดของวริญที่ตื่นมาแล้วจะได้มองหน้าเขาได้นานกว่าทุกวัน

นานวันเข้าวันสำคัญของเราก็ค่อยๆ ถูกลืมเหมือนอย่างวันนี้ วริญมักจะคิดในแง่ดีว่าพี่ฟ้าอาจจะลืมเพราะทำงานหนัก เมื่อคิดได้ดังนั้นตัวเธอเองก็ทำงานหนักไม่ต่างจากพี่ฟ้าเหมือนกัน แต่ทำไมตัวเธอถึงไม่เคยลืมวันสำคัญของอีกฝ่ายเลย

หลายปีก่อน ณ ตอนนั้นถึงแม้ว่าเราจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ลืมวันสำคัญต่างๆ มีบ้างที่วริญจำได้และมีบ้างที่พี่ฟ้าคอยทวงถามว่าวันนี้วันอะไร แต่ตอนนี้มันไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว



เป็นปีที่เท่าไหร่แล้วที่วริญฉลองวันเกิดตัวเองคนเดียว

เป็นปีที่เท่าไหร่แล้วที่เธอฉลองวันครบรอบคนเดียว

เป็นปีที่เท่าไหร่แล้วที่เธอต้องเข้านอนคนเดียว



ปีนี้ก็เช่นเคยที่ตอนนี้เธอได้เตรียมเค้กก้อนเล็กๆ ที่แวะซื้อที่ซูเปอร์มาเก็ตก่อนที่เธอจะขึ้นห้อง

วริญมองเค้กที่ปักเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารพร้อมยกมืออธิษฐานขอพรในวันเกิดของตัวเองเพียงลำพัง ไม่มีเสียงร้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์ ไม่มีใครมานั่งข้างเธอในวันสำคัญ



เช้านี้เป็นวันที่ไม่สดใสเช่นเคย เมื่อคืนเธอไม่แน่ใจว่าเธอได้เผลอหลับไปตอนไหน ข้างกายไม่มีรอยยับของที่นอน ไม่มีความอุ่นหลงเหลืออยู่มันแสดงให้รู้ว่าพี่ฟ้าไม่ได้กลับห้อง

วริญหยัดตัวเองขึ้นจากที่นอนและไปชำระร่างกายเพื่อไปทำงาน ถึงแม้ว่าหัวใจของเธอจะบอบช้ำแค่ไหนแต่เธอมีหน้าที่ที่ยังคงต้องทำ

ระหว่างที่กำลังจะเปิดประตู แต่ประตูดันถูกเปิดจากข้างนอกทั้งสองสบตากัน เธอหวังจะได้ยินคำอวยพรจากปากของเขาแต่ไม่เลย

"จะไปแล้วเหรอ"

"ค่ะ"

"งั้นก็เดินทางดีๆ นะ ถึงแล้วอย่าลืมบอกพี่"



เมื่อพูดจบพี่ฟ้าก็เดินเข้าไปในห้องทันที ไม่มีการกอดลาก่อนไปทำงาน วริญตัวชาที่ถูกเมินใส่

เมื่อถึงที่ทำงานเธอก็รายงานกับพี่ฟ้าทันที ขณะที่ทำอย่างนั้นวริญรู้สึกว่าเธอทำเพราะความเคยชินไม่ใช่ทำเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะเป็นห่วง

วริญเดินไปยังโต๊ะทำงาน เมื่อถึงโต๊ะสิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอแปลกใจที่มีของและการ์ดถูกวางไว้บนโต๊ะ

"อุ้ย มีขนมมีการ์ดวางไว้บนโต๊ะซะด้วย" เป็นเจมี่ที่เดินมาแซววริญถึงที่โต๊ะ

"ของใครอ่ะ" วริญถามคนตรงหน้า

"ไม่รู้ เพิ่งเห็นพร้อมแกเหมือนกัน อ่ะนี่แฮปปี้เบิร์ดเดย์จ้า" พูดจบพร้อมยื่นของขวัญให้

"จริงๆไม่ต้องก็ได้นะ แค่คำอวยพรก็พอแล้ว" วริญรู้สึกเกรงใจ

"งั้นเอาคืนมา" เจมี่พูดแกมตลก

"ให้แล้วให้เลยสิ จะเอาคืนได้ยังไง" วริญยื้อของในมือกลับ

"แล้วเป็นไงบ้างเมื่อวานไปทานข้าวกับแฟน"

วริญหน้าเปลี่ยนสีทันทีเมื่อถูกถามเช่นนั้น เพราะเธอไม่คิดว่าจะโดนถามเช่นนี้

"ก็โอเคดีนะ อาหารถูกปาก" วริญจำใจต้องโกหกเพื่อนสาวไป

"ร้านไหนอ่ะ เผื่อฉันไปลองชิมบ้าง"

"เอ่อ..ไม่แน่ใจเลยพี่ฟ้าเป็นคนจองให้อ่ะ ไว้ถามพี่ฟ้าให้นะ"

"โอเคจ่ะ"



เลิกงานแล้ววริญรีบกลับห้องทันที

"วันนี้พี่อาจจะกลับเช้านะ ล็อกห้องให้ดี"

นั่นเป็นข้อความที่พี่ฟ้าส่งมาให้เธอ วริญไม่ได้กดเข้าไปอ่าน เธอทำแค่เพียงอ่านจากแจ้งเตือนข้างนอก



อีกแล้ว...

เป็นแบบนี้อีกแล้ว...



วริญพยายามใจเย็น แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้

"วันนี้วันอะไรคะ" วริญตัดสินใจพิมพ์ถามไป

ผ่านไปแล้วหลายนาที จากนาทีเป็นชั่วโมงที่พี่ฟ้ายังไม่ได้อ่านข้อความของเธอ จวบจนเธอกำลังจะเข้านอน



'ติ้ง!'

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

เธอรีบคว้าเครื่องมือสื่อสารนั้นทันที

"วันศุกร์ไง มีอะไรหรือเปล่า" แต่ก็ต้องผิดหวังกับคำตอบของอีกฝ่าย

"คิดดีๆ ค่ะ วันนี้วันอะไรคะ"

"ก็วันศุกร์ไง มีอะไรก็รีบๆพิมพ์มาเดี๋ยวพี่ต้องรีบไปทำงานต่อแล้ว" วริญสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากข้อความของอีกฝ่าย

"ไม่มีอะไรค่ะ"

"แน่นะ ถ้ามีอะไรก็พิมพ์ทิ้งไว้ เดี๋ยวพี่กลับมาอ่าน รีบนอนได้แล้ว"

"ค่ะ"

วริญไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ไม่อยากให้เกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้นวริญจึงตัดจบบทสนทนา

.

.

.

เมื่อปีที่แล้ว

'วันนี้วันอะไรคะ' วริยพิมพ์ข้อความไปหาอีกฝ่าย

'พี่จำได้ไหม'

'วันอะไร หนูบอกมาเลย'

'ไม่เอาหนูอยากให้พี่ทาย'

ข้อความไม่ถูกอ่าน ผ่านไปกี่นาทีก็ยังคงไม่ถูกเปิดอ่าน

ติ้ง!

'วันนี้พี่กลับเช้านะพอดีคนขาดพี่เลยต้องอยู่ช่วย'

'โอเคค่ะ'

เหมือนในอดีตที่วริญทนฟังประโยคเดิมๆ เหมือนในตอนนี้

วันนี้พี่ไม่กลับ

วันนี้พี่มีงาน

พี่ไม่ว่าง

พี่ติดงาน

ไว้ค่อยคุย



'ราวกับว่าพี่ฟ้ามีเวลาให้กับทุกอย่างแต่พอเป็นเธอพี่ฟ้ากลับไม่มีเวลาให้ เดี๋ยวก็ไม่ว่าง เดี๋ยวก็ติดงานแล้วเมื่อไหร่ที่ในเวลาของพี่ฟ้าจะมีเธออยู่ในนั้นด้วย กี่ครั้งแล้วที่เธอถูกละเลย กี่ครั้งแล้วที่เธอถูกหมางเมิน มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกกระทำเช่นนี้ วริญเองก็อยากจะรู้สึกชินเหมือนกัน แต่เธอไม่เคยทำมันได้เลย เธอถึงได้รู้สึกน้อยใจแบบนี้อยู่เสมอ'







โปรดติดตามตอนต่อไป