ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วันแล้ววันเล่าที่ความรู้สึกของวริญถูกเมินเฉย ถูกละเลยจนมันทำให้เธอรู้สึกชินชาไปเสียแล้ว
หญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมของพะรุงพะรังในมือ วันนี้เธอตั้งใจจะทำอาหารทานเอง
"อ้าวกลับมาแล้วเหรอ" เสียงคนที่อยู่ในห้องเอ่ยถาม
วริญมองไปยังต้นเสียงและหันไปมองนาฬิกาตรงผนังห้องที่มันบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้วแต่อีกฝ่ายยังไม่ไปทำงานนั่นทำให้เธอรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ
"พี่ฟ้ายังไม่ไปทำงานเหรอคะ" หญิงสาวถามออกไป
"พี่รู้สึกไม่ค่อยสบาย วันนี้เลยขอที่ร้านหยุดน่ะ"
"อ้าว เป็นอะไรมากไหมคะ ทานยาหรือยังคะ" วริญถามด้วยความเป็นห่วง
"เรียบร้อยแล้วค่ะ มาเดี๋ยวพี่ช่วย" ชายหนุ่มตอบไปพร้อมช่วยอีกฝ่ายยกของ
"ขอบคุณค่ะ"
"หนูไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนนะ เดี๋ยวตรงนี้พี่เอาเข้าตู้เย็นให้ค่ะ"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะพี่ฟ้า เดี๋ยวหนูทำเองพี่ฟ้าไปนั่งพักนะเดี๋ยวจะปวดหัวเอา" หญิงสาวคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายไปนั่งพักส่วนนั้นเธอจะเป็นคนทำเอง
"หนูต่างหากที่ควรนั่งพักทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวพี่จัดการเอง"
"เอางั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
เมื่อเวลาผ่านไปสักพักวริญที่หายเข้าไปในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาพร้อมสวมเสื้อผ้าที่สบายที่สุด
"เสร็จแล้วเหรอคะ" เป็นพี่ฟ้าที่ถามขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
"เสร็จแล้วค่ะ พี่ฟ้าทานอะไรหรือยังคะ"
"ยังเลยค่ะ"
"หิวไหม เดี๋ยวรอหนูแป๊บหนึ่งน้า เสร็จแล้วเรามาทานข้าวกัน"
"พี่ช่วยด้วยดีกว่าค่ะ"
"เอางั้นเหรอคะ"
"ค่ะ วันนี้หนูจะทำเมนูอะไรคะ" พี่ฟ้าถามเมนูจากหญิงสาว
"อืม วันนี้หนูตั้งใจจะทำแกงส้มของโปรดพี่ฟ้าค่ะ" หญิงสาวตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม
"จริงเหรอคะ พี่คิดถึงแกงส้มฝีมือหนูที่สุดเลย งั้นวันนี้พี่ขอเป็นลูกมือหนูเองนะ" พี่ฟ้าพูดพร้อมกอดเธอจากข้างหลัง
"ได้เลยค่ะ"
ทั้งสองก็เริ่มทำอาหารด้วยกันทางชายหนุ่มที่เป็นลูกมือก็คอยช่วยหยิบจับ ส่งของให้เเก่หญิงสาวเพื่อให้สะดวกในการทำกับข้าวมากยิ่งขึ้น ในส่วนของหญิงสาวก็ตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่
"พี่ฟ้าลองชิมนะคะ ว่ายังขาดอะไรไหม" วริญถาม
"พี่ว่ามันโอเคแล้วนะ แบบนี้เลยรสชาติที่พี่ชอบ"
"โอเคค่ะ งั้นพี่ไปรอที่โต๊ะเลยนะคะ เดี๋ยวจัดจานแป๊บหนึ่งน้า"
"ได้เลยค่ะ" พี่ฟ้าตอบกลับไปพร้อมหอมแก้มเธอดังฟอดใหญ่
"อะไรเนี่ยพี่ฟ้า อยู่ๆ มาหอมแก้มกัน ตกใจหมดเลย" หญิงสาวเอ็ดเขาไป
"ก็แค่หอมแก้มแฟนเอง แก้มแฟนพี่นุ่มที่สุดแล้ว"
"ไปเลย ไปนั่งรอเลย"
"โอเคครับ" อีกฝ่ายหอมแก้มทิ้งท้ายแล้วเดินไปนั่งรอที่โต๊ะ
หญิงสาวจัดจานเรียบร้อยแล้วก็ทยอยเสิร์ฟทีละเมนูไปที่โต๊ะอาหาร
"น่ากินทั้งนั้นเลย" พี่ฟ้าเอ่ยชม
"น่ากินก็กินเยอะๆ เลยนะคะ หนูทำแต่ของโปรดพี่ฟ้าเลยนะ" วริญตอบพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่าย
"ขอบคุณนะครับ พี่จะให้หมดจะซดไม่ให้เหลือซักหยดเลย"
"พี่ก็พูดเป็นเล่นไป"
.
.
.
ระหว่างที่ทั้งสองทานอาหารมื้อเย็นพร้อมหน้ากัน วริญมองอีกฝ่ายที่ทานข้าวอย่างตั้งใจ นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ทำอาหารด้วยกัน นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้นั่งมองอีกฝ่ายทานอาหารที่เธอทำอย่างนี้ วริญยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในใจ มันปลื้มปิติจริงๆนะที่เราทำอาหารแล้วเห็นอีกฝ่ายตั้งใจทานขนาดนี้ อยากจะทำให้ทานทุกวันเลย เธอคิดอยู่ในใจ
.
.
.
"หนูยิ้มอะไรคะ" พี่ฟ้าเงยหน้าจากอาหารและถามวริญ
"เปล่าค่ะ" เธอปฏิเสธ
"เปล่าอะไร ก็เห็นอยู่ว่าหนูยิ้ม"
"หนูแค่มีความสุขที่เห็นพี่ทานอาหารที่หนูทำ" หญิงสาวตอบกลับไป
"โธ่ นึกว่าอะไร ก็มันอร่อยนี่คะ พี่ชอบมากๆ หนูนั่นแหละมัวแต่ยิ้มข้าวในจานไม่พร่องเลย ระวังพี่แย่งกินหมดแล้วจะโตไม่ทันพี่น้า" พี่ฟ้าเอ่ยกลับอย่างติดตลก
"หนูก็ไม่เคยโตทันพี่ฟ้าอยู่แล้ว"
"ฮ่าๆๆ งั้นกินเยอะๆ เดี๋ยวพี่ตักให้" พี่ฟ้าขำพร้อมตักกับข้าวที่เป็นเมนูโปรดของหญิงสาว
"ขอบคุณค่ะ งั้นหนูตักแกงให้นะคะ" วริญตักแกงให้อีกฝ่าย
.
.
.
เธอนึกถึงวันวานก็ได้แต่ยิ้มอยู่ในใจ เวลาผ่านไปไม่นานกับข้าวบนโต๊ะก็พร่องไปเยอะมากแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากมือถือของพี่ฟ้า พี่ฟ้าละสายตาจะจานอาหารและหันมองไปยังต้นเสียง
"ฮัลโหล" พี่ฟ้ารับสายพร้อมกับชายตามามองเธอ
คุยได้ไม่เท่าไหร่ชายหนุ่มก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารและเดินไปคุยกับปลายสายที่ระเบียงห้อง ระหว่างที่คุยอยู่เธอได้สังเกตตลอดว่าเวลาที่พี่ฟ้าคุยกับปลายสายเขามีสีหน้าที่กังวลและมักจะหันมามองเธออยู่บ่อยๆ
พี่ฟ้าหันมองเธอเป็นพักๆ และวางสายไป เขาเดินมาหาพร้อมบอกกับเธอว่าต้องออกไปข้างนอก เมื่อเธอถามว่าจะไปที่ไหนคำตอบที่ได้รับมา กลับทำให้ตัวเธอนั้นชา
"เดี๋ยวพี่มานะ"
"จะไปไหนเหรอคะ"
"เออ คือพอดีว่าแก้มเขาอกหักแล้วอยากให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนหน่อย"
"พี่แก้มเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ มันจะไม่ใช่อย่างที่หนูคิดแน่นอนค่ะ พี่สัญญา"
"ไม่ไปได้ไหมคะ" วริญพยายามยื้ออีกฝ่ายเอาไว้
"เอ่อ แต่พี่จำเป็นต้องไปจริงๆนะคะ"
"แล้วข้าวละคะพี่ยังกินไม่เสร็จเลย"
"พี่อิ่มแล้ว" พี่ฟ้าตอบพร้อมกับมองข้าวที่อยู่ในจาน
"แล้วหนังที่เราจะดูกันคืนนี้ละคะ"
"ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่กลับมาทันก่อนหนูเข้านอนอยู่แล้ว คืนนี้เรามาดูหนังกันนะคะ"
"สัญญานะคะ"
"สัญญาค่ะ"
ชายหนุ่มคว้าเสื้อเสื้อคลุมพร้อมออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างนั้นแต่เธอไม่เคยสบายใจเลยสักนิดที่ต้องให้แฟนของตัวเองออกไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น มันเลยทำให้กลายเป็นคนที่ขี้กังวลและระแวง
.
.
.
"พี่จะกลับตอนไหนเหรอคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว" หญิงสาวพิมพ์ข้อความส่งไปในห้องแชตของอีกฝ่าย
ไม่มีการตอบกลับ ไม่มีการกดอ่านจากอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้เธอเริ่มกังวลว่าอีกฝ่ายจะเกิดอันตรายหรือเปล่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่
'ตู้ด' เสียงรอสาย
เธอตัดสินใจโทรหาอีกฝ่ายในเมื่อความกังวลและความคิดมากของเธอประเดประดังเข้ามาจนทำให้เธอร้อนใจและตัดสินใจกดโทรหาอีกฝ่ายไปในที่สุด
ตู้ด ตู้ด ตู้ด
ชายหนุ่มไม่รับสายเธอ
ตู้ด
เธอตัดสินใจโทรหาอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ไม่รับสายเท่านั้นแต่อีกฝ่ายกลับตัดสายเธอทิ้งอีกด้วย
ในหัวของวริญตอนนี้มีแต่คำว่าทำไม
ทำไมไม่รับสาย
ทำไมตัดสาย
.
.
.
ติ้ด
เสียงเปิดประตูห้อง
หญิงสาวหันขวับไปทางประตูเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอก็รีบสาวเท้าไปทันทีพร้อมพ่นคำถามโดยที่ไม่มีโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตอบ
"ทำไมพี่ไม่รับสายหนู ทำไมตัดสาย ทำไมเพิ่งกลับมาเวลานี้"
"พี่ขับรถอยู่ มันอันตราย"
"แล้วพี่หายไปไหนมาตั้งนานทำไมถึงกลับมาเวลานี้ ไหนสัญญาว่าจะกลับมาให้ทันก่อนหนูนอนไง"
"..." อีกฝ่ายไม่ตอบแต่เดินผ่านเธอไปอย่างไม่แยแส
ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าและเดินเข้าห้องน้ำไป
วริญหยิบเสื้อจากตะกร้าและได้กลิ่นน้ำหอมที่ต่างออกไปจากปกติ นี่มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมที่พี่ฟ้าใช้ประจำและทำไมกลิ่นนี้ถึงติดอยู่ที่เสื้อพี่ฟ้าได้
เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่ามีหญิงสาวนั่งรอเขาพร้อมกับเสื้อคลุมตัวโปรดที่เขาได้ถอดทิ้งไว้ในตะกร้าก่อนที่จะเข้าห้องน้ำไป
"หนูหยิบเสื้อพี่ทำไม พี่ใส่ไว้ในตะกร้าแล้ว"
"ก็ถ้าหนูไม่หยิบขึ้นมา หนูจะรู้ไหมว่าเสื้อคลุมตัวโปรดของพี่มีกลิ่นน้ำหอมอื่นติดอยู่"
เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบมาคว้าเสื้อคลุมจากมือเธอทันที
"พี่บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ว่าทำไมกลิ่นนั้นถึงติดพี่มา"
"ก็คงเป็นกลิ่นน้ำหอมแก้มละมั้ง"
"ของพี่แก้มงั้นเหรอคะ แล้วไปทำท่าไหนน้ำหอมพี่แก้มถึงได้ติดเสื้อพี่มาด้วย ต้องนั่งกันใกล้แค่ไหน นั่งตกเลยไหมคะ"
"นี่วริญ มันจะไปกันใหญ่แล้วนะ มันไม่มีอะไรอย่างที่เธอคิดทั้งนั้น อีกอย่างพี่ก็รีบกลับมาดูหนังกับเธอตามสัญญาแล้วนี่ไง"
"ตามสัญญางั้นเหรอ พี่เล่นหายไปหลายชั่วโมง ถึงแล้วก็ไม่ทักมาบอก ถ้าหนูไม่โทรไปพี่คงไม่รีบกลับบ้านมาหรอกใช่ไหมคะ"
"นี่เธอกำลังชวนพี่ทะเลาะอยู่นะ ไหนว่าเราจะไม่ทะเลาะกันแล้วไง"
"หนูเองก็ไม่ได้อยากทะเลาะหรอกค่ะ แต่พี่เล่นให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าหนู หนูไม่ชอบที่พี่ต้องออกไปอยู่กับคนอื่นข้างนอกโดยเฉพาะพี่แก้ม"
"แต่พี่กับแก้มไม่มีอะไรเกินเลยเลยนะ ไม่มีอะไรอย่างที่หนูคิด"
"แล้วหนูจะมั่นใจได้ยังไงว่าพี่แก้มไม่ได้คิดอะไรกับพี่"
ไม่มีใครลดโทสะของตัวเองลง มีแต่เสียงโต้เถียงกันไปมาไม่มีท่าทีว่าจะลดลง อีกฝ่ายก็พยายามอธิบายส่วนเธอก็กังวลมากเกินไป ถ้ามันไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเธอก็คงไม่ต้องมาคอยกังวลแบบนี้
.
.
.
สุดท้ายแล้วค่ำคืนนั้นก็จบลงที่อีกต่างคนต่างเข้านอนโดยที่ฝ่ายชายนอนตรงโซฟาหน้าทีวีมีแต่วริญที่นอนอยู่บนเตียงอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง
มีปากเสียงในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่รักกันมากขึ้น อย่างที่คนเขาบอกว่ายิ่งทะเลาะยิ่งรักกันมากขึ้นเพราะได้ทำความเข้าใจกัน แต่มันไม่ใช่กับคู่ของเธอที่ยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งมีแต่ความเสียใจเพราะต่างฝ่ายก็ต่างหันหลังใส่กันไม่มีการปรับความเข้าใจ
หญิงสาวไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์นี้กับพี่ฟ้าได้นานแค่ไหน เธอไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าเธอจะถูกอีกฝ่ายปล่อยมือไปตอนไหน
ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงรู้สึกไปต่างกัน ไม่มีใครชอบที่ต้องมาทนอยู่กับความสัมพันธ์เช่นนี้ แต่เธอก็อยากที่จะประคับประคองมันไปให้ได้นานที่สุดเช่นกัน
เธอเลิกกังวลไม่ได้เลยสักนิดและมันทำให้เธอกลายเป็นคนขี้กลัว กลัวที่จะถูกทิ้ง กลัวที่จะไม่ถูกรัก ถ้าเะอยังเป็นอย่างนี้
เธอกลัวและกังวลไปไปหมด
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอคอมเมนต์จากนักอ่านทุกคน คนละ 1 คอมเมนต์ได้ไหมคะ