"เราจะให้เหตุผล 10 ข้อ หลังจากนี้พี่ลองเก็บไปคิดดูนะ"

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ - ข้อที่ 4 กลายเป็นคนขี้กลัว โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ โดย คุณสีชา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"เราจะให้เหตุผล 10 ข้อ หลังจากนี้พี่ลองเก็บไปคิดดูนะ"

ผู้แต่ง

คุณสีชา

เรื่องย่อ

สารบัญ

รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 1 มีค่าแค่ตอนที่เธอต้องการ,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 2 ลืมว่ายังรออยู่ตรงนี้,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 3 ขอเวลา,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 4 กลายเป็นคนขี้กลัว,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 5 ถูกละเลย,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 6 เรื่องเดิมๆ ,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 7 ความรู้สึก,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 8 ให้มันผ่านไป,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 9 ไม่ถูกรัก,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 10 ตาสว่าง,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 11 เหตุผล,รักแล้วทำไม...ปล่อยให้น้อยใจแบบนี้ล่ะ-ข้อที่ 12 ตอนจบ

เนื้อหา

ข้อที่ 4 กลายเป็นคนขี้กลัว

วันแล้ววันเล่าที่ความรู้สึกของวริญถูกเมินเฉย ถูกละเลยจนมันทำให้เธอรู้สึกชินชาไปเสียแล้ว

หญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมของพะรุงพะรังในมือ วันนี้เธอตั้งใจจะทำอาหารทานเอง

"อ้าวกลับมาแล้วเหรอ" เสียงคนที่อยู่ในห้องเอ่ยถาม

วริญมองไปยังต้นเสียงและหันไปมองนาฬิกาตรงผนังห้องที่มันบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้วแต่อีกฝ่ายยังไม่ไปทำงานนั่นทำให้เธอรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ

"พี่ฟ้ายังไม่ไปทำงานเหรอคะ" หญิงสาวถามออกไป

"พี่รู้สึกไม่ค่อยสบาย วันนี้เลยขอที่ร้านหยุดน่ะ"

"อ้าว เป็นอะไรมากไหมคะ ทานยาหรือยังคะ" วริญถามด้วยความเป็นห่วง

"เรียบร้อยแล้วค่ะ มาเดี๋ยวพี่ช่วย" ชายหนุ่มตอบไปพร้อมช่วยอีกฝ่ายยกของ

"ขอบคุณค่ะ"

"หนูไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนนะ เดี๋ยวตรงนี้พี่เอาเข้าตู้เย็นให้ค่ะ"

"ไม่เป็นไรเลยค่ะพี่ฟ้า เดี๋ยวหนูทำเองพี่ฟ้าไปนั่งพักนะเดี๋ยวจะปวดหัวเอา" หญิงสาวคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายไปนั่งพักส่วนนั้นเธอจะเป็นคนทำเอง

"หนูต่างหากที่ควรนั่งพักทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวพี่จัดการเอง"

"เอางั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ"

เมื่อเวลาผ่านไปสักพักวริญที่หายเข้าไปในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาพร้อมสวมเสื้อผ้าที่สบายที่สุด

"เสร็จแล้วเหรอคะ" เป็นพี่ฟ้าที่ถามขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู

"เสร็จแล้วค่ะ พี่ฟ้าทานอะไรหรือยังคะ"

"ยังเลยค่ะ"

"หิวไหม เดี๋ยวรอหนูแป๊บหนึ่งน้า เสร็จแล้วเรามาทานข้าวกัน"

"พี่ช่วยด้วยดีกว่าค่ะ"

"เอางั้นเหรอคะ"

"ค่ะ วันนี้หนูจะทำเมนูอะไรคะ" พี่ฟ้าถามเมนูจากหญิงสาว

"อืม วันนี้หนูตั้งใจจะทำแกงส้มของโปรดพี่ฟ้าค่ะ" หญิงสาวตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม

"จริงเหรอคะ พี่คิดถึงแกงส้มฝีมือหนูที่สุดเลย งั้นวันนี้พี่ขอเป็นลูกมือหนูเองนะ" พี่ฟ้าพูดพร้อมกอดเธอจากข้างหลัง

"ได้เลยค่ะ"

ทั้งสองก็เริ่มทำอาหารด้วยกันทางชายหนุ่มที่เป็นลูกมือก็คอยช่วยหยิบจับ ส่งของให้เเก่หญิงสาวเพื่อให้สะดวกในการทำกับข้าวมากยิ่งขึ้น ในส่วนของหญิงสาวก็ตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่

"พี่ฟ้าลองชิมนะคะ ว่ายังขาดอะไรไหม" วริญถาม

"พี่ว่ามันโอเคแล้วนะ แบบนี้เลยรสชาติที่พี่ชอบ"

"โอเคค่ะ งั้นพี่ไปรอที่โต๊ะเลยนะคะ เดี๋ยวจัดจานแป๊บหนึ่งน้า"

"ได้เลยค่ะ" พี่ฟ้าตอบกลับไปพร้อมหอมแก้มเธอดังฟอดใหญ่

"อะไรเนี่ยพี่ฟ้า อยู่ๆ มาหอมแก้มกัน ตกใจหมดเลย" หญิงสาวเอ็ดเขาไป

"ก็แค่หอมแก้มแฟนเอง แก้มแฟนพี่นุ่มที่สุดแล้ว"

"ไปเลย ไปนั่งรอเลย"

"โอเคครับ" อีกฝ่ายหอมแก้มทิ้งท้ายแล้วเดินไปนั่งรอที่โต๊ะ

หญิงสาวจัดจานเรียบร้อยแล้วก็ทยอยเสิร์ฟทีละเมนูไปที่โต๊ะอาหาร

"น่ากินทั้งนั้นเลย" พี่ฟ้าเอ่ยชม

"น่ากินก็กินเยอะๆ เลยนะคะ หนูทำแต่ของโปรดพี่ฟ้าเลยนะ" วริญตอบพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่าย

"ขอบคุณนะครับ พี่จะให้หมดจะซดไม่ให้เหลือซักหยดเลย"

"พี่ก็พูดเป็นเล่นไป"

.

.

.

ระหว่างที่ทั้งสองทานอาหารมื้อเย็นพร้อมหน้ากัน วริญมองอีกฝ่ายที่ทานข้าวอย่างตั้งใจ นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ทำอาหารด้วยกัน นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้นั่งมองอีกฝ่ายทานอาหารที่เธอทำอย่างนี้ วริญยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในใจ มันปลื้มปิติจริงๆนะที่เราทำอาหารแล้วเห็นอีกฝ่ายตั้งใจทานขนาดนี้ อยากจะทำให้ทานทุกวันเลย เธอคิดอยู่ในใจ

.

.

.

"หนูยิ้มอะไรคะ" พี่ฟ้าเงยหน้าจากอาหารและถามวริญ

"เปล่าค่ะ" เธอปฏิเสธ

"เปล่าอะไร ก็เห็นอยู่ว่าหนูยิ้ม"

"หนูแค่มีความสุขที่เห็นพี่ทานอาหารที่หนูทำ" หญิงสาวตอบกลับไป

"โธ่ นึกว่าอะไร ก็มันอร่อยนี่คะ พี่ชอบมากๆ หนูนั่นแหละมัวแต่ยิ้มข้าวในจานไม่พร่องเลย ระวังพี่แย่งกินหมดแล้วจะโตไม่ทันพี่น้า" พี่ฟ้าเอ่ยกลับอย่างติดตลก

"หนูก็ไม่เคยโตทันพี่ฟ้าอยู่แล้ว"

"ฮ่าๆๆ งั้นกินเยอะๆ เดี๋ยวพี่ตักให้" พี่ฟ้าขำพร้อมตักกับข้าวที่เป็นเมนูโปรดของหญิงสาว

"ขอบคุณค่ะ งั้นหนูตักแกงให้นะคะ" วริญตักแกงให้อีกฝ่าย

.

.

.

เธอนึกถึงวันวานก็ได้แต่ยิ้มอยู่ในใจ เวลาผ่านไปไม่นานกับข้าวบนโต๊ะก็พร่องไปเยอะมากแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากมือถือของพี่ฟ้า พี่ฟ้าละสายตาจะจานอาหารและหันมองไปยังต้นเสียง

"ฮัลโหล" พี่ฟ้ารับสายพร้อมกับชายตามามองเธอ

คุยได้ไม่เท่าไหร่ชายหนุ่มก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารและเดินไปคุยกับปลายสายที่ระเบียงห้อง ระหว่างที่คุยอยู่เธอได้สังเกตตลอดว่าเวลาที่พี่ฟ้าคุยกับปลายสายเขามีสีหน้าที่กังวลและมักจะหันมามองเธออยู่บ่อยๆ

พี่ฟ้าหันมองเธอเป็นพักๆ และวางสายไป เขาเดินมาหาพร้อมบอกกับเธอว่าต้องออกไปข้างนอก เมื่อเธอถามว่าจะไปที่ไหนคำตอบที่ได้รับมา กลับทำให้ตัวเธอนั้นชา

"เดี๋ยวพี่มานะ"

"จะไปไหนเหรอคะ"

"เออ คือพอดีว่าแก้มเขาอกหักแล้วอยากให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนหน่อย"

"พี่แก้มเหรอคะ"

"ใช่ค่ะ มันจะไม่ใช่อย่างที่หนูคิดแน่นอนค่ะ พี่สัญญา"

"ไม่ไปได้ไหมคะ" วริญพยายามยื้ออีกฝ่ายเอาไว้

"เอ่อ แต่พี่จำเป็นต้องไปจริงๆนะคะ"

"แล้วข้าวละคะพี่ยังกินไม่เสร็จเลย"

"พี่อิ่มแล้ว" พี่ฟ้าตอบพร้อมกับมองข้าวที่อยู่ในจาน

"แล้วหนังที่เราจะดูกันคืนนี้ละคะ"

"ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่กลับมาทันก่อนหนูเข้านอนอยู่แล้ว คืนนี้เรามาดูหนังกันนะคะ"

"สัญญานะคะ"

"สัญญาค่ะ"

ชายหนุ่มคว้าเสื้อเสื้อคลุมพร้อมออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างนั้นแต่เธอไม่เคยสบายใจเลยสักนิดที่ต้องให้แฟนของตัวเองออกไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น  มันเลยทำให้กลายเป็นคนที่ขี้กังวลและระแวง

.

.

.

"พี่จะกลับตอนไหนเหรอคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว" หญิงสาวพิมพ์ข้อความส่งไปในห้องแชตของอีกฝ่าย

ไม่มีการตอบกลับ ไม่มีการกดอ่านจากอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้เธอเริ่มกังวลว่าอีกฝ่ายจะเกิดอันตรายหรือเปล่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่

'ตู้ด' เสียงรอสาย

เธอตัดสินใจโทรหาอีกฝ่ายในเมื่อความกังวลและความคิดมากของเธอประเดประดังเข้ามาจนทำให้เธอร้อนใจและตัดสินใจกดโทรหาอีกฝ่ายไปในที่สุด

ตู้ด ตู้ด ตู้ด

ชายหนุ่มไม่รับสายเธอ

ตู้ด

เธอตัดสินใจโทรหาอีกครั้ง

ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ไม่รับสายเท่านั้นแต่อีกฝ่ายกลับตัดสายเธอทิ้งอีกด้วย

ในหัวของวริญตอนนี้มีแต่คำว่าทำไม

ทำไมไม่รับสาย

ทำไมตัดสาย

.

.

.

ติ้ด

เสียงเปิดประตูห้อง

หญิงสาวหันขวับไปทางประตูเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอก็รีบสาวเท้าไปทันทีพร้อมพ่นคำถามโดยที่ไม่มีโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตอบ

"ทำไมพี่ไม่รับสายหนู ทำไมตัดสาย ทำไมเพิ่งกลับมาเวลานี้"

"พี่ขับรถอยู่ มันอันตราย"

"แล้วพี่หายไปไหนมาตั้งนานทำไมถึงกลับมาเวลานี้ ไหนสัญญาว่าจะกลับมาให้ทันก่อนหนูนอนไง"

"..." อีกฝ่ายไม่ตอบแต่เดินผ่านเธอไปอย่างไม่แยแส

ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าและเดินเข้าห้องน้ำไป

วริญหยิบเสื้อจากตะกร้าและได้กลิ่นน้ำหอมที่ต่างออกไปจากปกติ นี่มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมที่พี่ฟ้าใช้ประจำและทำไมกลิ่นนี้ถึงติดอยู่ที่เสื้อพี่ฟ้าได้

เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่ามีหญิงสาวนั่งรอเขาพร้อมกับเสื้อคลุมตัวโปรดที่เขาได้ถอดทิ้งไว้ในตะกร้าก่อนที่จะเข้าห้องน้ำไป

"หนูหยิบเสื้อพี่ทำไม พี่ใส่ไว้ในตะกร้าแล้ว"

"ก็ถ้าหนูไม่หยิบขึ้นมา หนูจะรู้ไหมว่าเสื้อคลุมตัวโปรดของพี่มีกลิ่นน้ำหอมอื่นติดอยู่"

เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบมาคว้าเสื้อคลุมจากมือเธอทันที

"พี่บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ว่าทำไมกลิ่นนั้นถึงติดพี่มา"

"ก็คงเป็นกลิ่นน้ำหอมแก้มละมั้ง"

"ของพี่แก้มงั้นเหรอคะ แล้วไปทำท่าไหนน้ำหอมพี่แก้มถึงได้ติดเสื้อพี่มาด้วย ต้องนั่งกันใกล้แค่ไหน นั่งตกเลยไหมคะ"

"นี่วริญ มันจะไปกันใหญ่แล้วนะ มันไม่มีอะไรอย่างที่เธอคิดทั้งนั้น อีกอย่างพี่ก็รีบกลับมาดูหนังกับเธอตามสัญญาแล้วนี่ไง"

"ตามสัญญางั้นเหรอ พี่เล่นหายไปหลายชั่วโมง ถึงแล้วก็ไม่ทักมาบอก ถ้าหนูไม่โทรไปพี่คงไม่รีบกลับบ้านมาหรอกใช่ไหมคะ"

"นี่เธอกำลังชวนพี่ทะเลาะอยู่นะ ไหนว่าเราจะไม่ทะเลาะกันแล้วไง"

"หนูเองก็ไม่ได้อยากทะเลาะหรอกค่ะ แต่พี่เล่นให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าหนู หนูไม่ชอบที่พี่ต้องออกไปอยู่กับคนอื่นข้างนอกโดยเฉพาะพี่แก้ม"

"แต่พี่กับแก้มไม่มีอะไรเกินเลยเลยนะ ไม่มีอะไรอย่างที่หนูคิด"

"แล้วหนูจะมั่นใจได้ยังไงว่าพี่แก้มไม่ได้คิดอะไรกับพี่"

ไม่มีใครลดโทสะของตัวเองลง มีแต่เสียงโต้เถียงกันไปมาไม่มีท่าทีว่าจะลดลง อีกฝ่ายก็พยายามอธิบายส่วนเธอก็กังวลมากเกินไป ถ้ามันไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเธอก็คงไม่ต้องมาคอยกังวลแบบนี้

.

.

.

สุดท้ายแล้วค่ำคืนนั้นก็จบลงที่อีกต่างคนต่างเข้านอนโดยที่ฝ่ายชายนอนตรงโซฟาหน้าทีวีมีแต่วริญที่นอนอยู่บนเตียงอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง

มีปากเสียงในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่รักกันมากขึ้น อย่างที่คนเขาบอกว่ายิ่งทะเลาะยิ่งรักกันมากขึ้นเพราะได้ทำความเข้าใจกัน แต่มันไม่ใช่กับคู่ของเธอที่ยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งมีแต่ความเสียใจเพราะต่างฝ่ายก็ต่างหันหลังใส่กันไม่มีการปรับความเข้าใจ

หญิงสาวไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์นี้กับพี่ฟ้าได้นานแค่ไหน เธอไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าเธอจะถูกอีกฝ่ายปล่อยมือไปตอนไหน

ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงรู้สึกไปต่างกัน ไม่มีใครชอบที่ต้องมาทนอยู่กับความสัมพันธ์เช่นนี้ แต่เธอก็อยากที่จะประคับประคองมันไปให้ได้นานที่สุดเช่นกัน

เธอเลิกกังวลไม่ได้เลยสักนิดและมันทำให้เธอกลายเป็นคนขี้กลัว กลัวที่จะถูกทิ้ง กลัวที่จะไม่ถูกรัก ถ้าเะอยังเป็นอย่างนี้

เธอกลัวและกังวลไปไปหมด



.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอคอมเมนต์จากนักอ่านทุกคน คนละ 1  คอมเมนต์ได้ไหมคะ