ชาย-หญิง,ดราม่า,รัก,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึก ไม่ใช่ว่าเธอละเลยความรู้สึกของตัวเองแต่เพียงแค่คำว่ารักคำเดียวที่ทำให้เธอยอมเขาได้ทุกอย่าง
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำกับเธอเช่นนี้ หลายครั้ง...แต่เธอก็ยังทน ไม่ว่าเขาจะทำกับเธอแบบไหนเธอก็ยอมได้ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอคิดได้คือการกระทำของเขาที่สื่อว่าเขาไม่รักเธอแล้ว เธอไม่ได้รับความรักจากเขาอีกต่อไป
ครั้งหนึ่งหญิงสาวพยายามทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการถูกเขาละเลยหรือถูกลืมในวันสำคัญ เธอมักจะคิดในแง่ดีว่ามันคงเป็นความเคยชินที่เราสองคนอยู่ด้วยกันก็อาจจะมีเบื่อกันบ้าง เธอเองก็เข้าใจ ณ จุดนั้น ส่วนเรื่องการลืมวันสำคัญ เรื่องนั้นเธอก็เข้าใจ อาจจะเป็นเพราะเขาทำงานหนักก็อาจจะมีหลงๆ ลืมๆ บ้าง แต่การที่เขานำคนอื่นเข้ามาในความสัมพันธ์นี้เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้
หลายครั้งที่เธอพยายามที่จะหันหน้าคุยกัน แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงตลอด แต่เวลามีคนเข้าหาเธอกลับเป็นเขาที่รู้สึกไม่ชอบและพาลกันทะเลาะทุกครั้ง
"ตื่นแล้วเหรอคะ"
วริญนั่งอยู่บนเตียงที่มีเขานอนอยู่ เธอรอเขาได้สักพักแล้ว จนตอนนี้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกตัว
"เมื่อคืนใครมาส่ง"
นี่เป็นประโยคแรกที่เขาถามขึ้นหลังจากลืมตาตื่น
"พี่แก้มค่ะ"
"แก้มเหรอ...มือถือพี่อยู่ไหน" เขาถามหามือถือทันทีหลังจากที่ได้ยินชื่อนั้น
"ไม่เห็นนะคะ"
เขาวุ่นหามือถือของเขาทันทีหลังจากที่เธอตอบกลับไป เมื่อเจอเครื่องมือสื่อสารนั้นแล้ว เขาพิมพ์หาใครบางคนสักพักก็นำมาแนบข้างหู
"ฮัลโหลแก้ม.."
ชื่อแรกที่เขาเรียกเป็นชื่อของผู้หญิงคนนั้น มันไม่ใช่ชื่อของเธออีกแล้ว
.
.
.
'ตื่นแล้วเหรอคะ'
'มอนิ่งค่ะ'
'มอนิ่งค่ะพี่ฟ้า หิวมั้ยคะ'
'อะไรเนี่ย พี่ยังลืมไม่เต็มตาก็ถามแล้วเหรอ..' เขาพูดปนขำ
'ก็กลัวพี่หิวนี่นา'
'ถามแบบนี้แสดงว่าหนูหิวแล้วใช่ไหมคะ'
'ก็...นิดนึงค่ะ'
'หนูอยากทานอะไรคะ บอกมาได้เลยน้าเดี๋ยวพี่ทำให้'
'ข้าวผัดค่ะ'
'รอพี่ล้างหน้าแปรงฟันแป๊บหนึ่งน้า หนูไปรอที่โต๊ะเลยค่ะ เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ออกไป'
ถ้าวันไหนที่เธอไม่ได้ไปทำงานเธอจะมักจะตื่นก่อนเขาและนั่งรอจนกว่าเขาตื่น เมื่อเขาตื่นแล้ว เขามักจะส่งยิ้มให้เธอแม้ว่าตายังไม่เปิดดีก็ตาม แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว มีแต่ชื่อผู้หญิงคนนั้นแทนชื่อของเธอ
.
.
.
"พี่ฟ้าจะออกไปไหนคะ"
หลังจากที่วางส่ายไปเขาดูรีบร้อนที่จะออกไป
"เดี๋ยวพี่กลับ"
"เดี๋ยวสิคะ...ยังไม่เลยว่าจะไปไหน แล้วข้าวละคะ"
"ไว้ค่อยคุย ส่วนข้าวกินไปก่อนเลย" พูดจบเขาก็ออกไป
ปั้ง!
เสียงประตูปิดเสียงดัง มันบ่งบอกว่าเขาเปิดแรงแค่ไหน
อีกแล้วชายหนุ่มทิ้งเธอไว้ลำพังอีกแล้ว
.
.
.
"ฮัลโหลจิมมี่"
"ว่าไงหล่อน"
"ว่างไหม"
"ว่างค่ะ"
"มารับฉันหน่อยได้ไหม" สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถกลั้นเสียงสะอื้นได้
"เดี๋ยวๆๆ แกร้องไห้เหรอเป็นอะไร"
"มารับฉันก่อนได้ไหม เดี๋ยวเล่าให้ฟังทุกอย่างเลย"
"ได้ๆ แต่ฉันยังไม่อาบน้ำนะ"
"ไม่เป็นไร ฮึก ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
"โอเคๆ ใจเย็นๆ ก่อน"
หลังจากนั้นไม่นานจิมมี่ก็โทรหาว่าถึงแล้ว เธอเก็บของเพียงบางส่วนเท่านั้น หญิงสาวออกจากห้องก่อนจะปิดประตูเธอมองรอบๆ ห้อง ความทรงจำมากมายที่เธอมีกับเขาในห้องนี้มันมากมายจนเธอรู้สึกเสียดาย ในใจขอเธอตอนนี้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง ใจนึงก็ไม่อยากทนแต่อีกใจก็รู้สึกเสียดาย
"ฮัลโหล ลงมาหรือยัง ให้ขึ้นไปช่วยไหม"
"ไม่เป็นไร กำลังลงไปแล้ว"
เมื่อขึ้นรถไปกับจิมมี่ บรรยากาศในรถทั้งเงียบและน่าอึดอัดจนจิมมี่ต้องเปิดเพลงให้คลายความเงียบ จิมมี่พยายามชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย เธอเองก็ไม่อยากเสียมารยาทเลยตอบกลับไปแต่เป็นการถามคำตอบคำจนในที่สุดจิมมี่ก็เลิกถามและขับรถเงียบๆ ต่อไป
เมื่อขับมาถึงคอนโดนของจิมมี่เธอก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ
"เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนนะ ตามสบายเลย"
"โอเค"
หลังจากที่จิมมี่หายเข้าไปในห้องน้ำ ตัวเธอนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องพร้อมจ้องห้องแชทของชายหนุ่ม หลายสายที่มาจากเขาแต่เธอไม่รับ พร้อมข้อความมากมายที่ถูกส่งมา
.
.
.
เมื่อจิมมี่อาบน้ำเสร็จแล้วเธอจึงเริ่มถามเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น วริญเล่าให้ฟังทุกอย่าง ระหว่างที่เธอเล่าก็มีทั้งเสียงข้อความและเสียงโทรจากเขาเข้ามาไม่หยุด เธอมองมันด้วยสายตาละห้อยเธออยากรับสายนั้นแต่จิมมี่ห้ามไว้
"อย่ารับนะ"
"..."
"ไม่ต้องรับหรอกวริญ ตอนนี้จิตใจของแกอ่อนแอมากๆ ขืนคุยกันตอนนี้เดี๋ยวก็ใจอ่อนให้เขาอีก"
"แต่พี่ฟ้าโทรมาหลายสิบสายแล้วนะ"
"เดี๋ยวมันก็หยุดโทร เนี่ยหยุดไปละ"
"ถ้าหลังจากนี้โทร ขอรับนะ"
"ก็ได้ แต่ฉันว่าไม่โทรมาแล้..." พูดยังไม่ทับจบประโยคเสียงโทรเข้าก็เข้ามาและแน่นอนว่าเป็นพี่ฟ้า
กริ๊ง!
"รับนะ"
"อืม...ตายยากจริงๆ" จิมมี่พูดอย่างเอือมระอา
จิมมี่ยื่นมือถือคืนให้เธอ และเธอรับมันจากจิมมี่และไปคุยไกลๆ
.
.
.
"ฮัลโหลวริญ อยู่ไหน ทำไมไม่อยู่ห้องไปไหนทำไมไม่บอก โทรไปก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็อ่านไม่ตอบ"
เมื่อเธอรับสายเขาแล้ว ปลายสายพูดรัวๆ จนเธอตอบไม่ทันและเลือกที่จะเงียบ
"ฮัลโหลยังอยู่ไหมวริญ"
"อยู่ค่ะ"
"อยู่ไหน ตอบมา ไปกับมันใช่ไหมไอรุ่นพี่ที่ทำงานของเธอน่ะ"
"ไม่ใช่ค่ะ"
"ไม่ต้องมาโกหก ลืมหรือเปล่าว่าล็อกอินไลน์ไว้ในไอแพดพี่ เดี๋ยวนี้ถึงขั้นนัดไปกินข้าวหลับหลังพี่แล้วเหรอ หะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น โมโห ตอนนี้ชายหนุ่มไม่สามารถระงับโกรธได้เลย
"พี่เขานัดเพราะแม่พี่ชิตอยากเจอค่ะ และไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย"
"ไม่เชื่อ! อย่าคิดว่าพี่ดูไม่ออกนะ นานแค่ไหนแล้วที่ทำลับหลังพี่"
"แล้วพี่ล่ะ นานแค่ไหนแล้วที่ทำแบบนี้ลับหลังหนู"
"อะไร"
"กี่ครั้งแล้วที่มีพี่ไม่หาพี่แก้ม กี่ครั้งแล้วที่พี่ทำ มันจะไม่เป็นไรเลยถ้าพี่มาบอกกับหนูตามตรงว่าเบื่อกันแล้วแทนที่จะทำอย่างนั้น หนูจะทำใจยอมรับการตัดสินใจของพี่ แต่นี่อะไร หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดตรงไหน ทำไมถึงต้องเป็นหนูทุกครั้งที่ยังรอพี่"
"เดี๋ยวสิวริญ เรื่องนั้นพี่อธิบายได้ บอกมาก่อนว่าอยู่ตรงไหน"
"พี่จะอธิบายอะไรอีกคะ ในเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้แล้ว กี่ครั้งที่หนูพยายามจะคุยกับพี่แต่พี่ก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้งแล้วมาตอนนี้จะมาอธิบาย เหอะ"
"พี่ขอโทษ ฟังพี่ก่อนนะ"
"ไม่ค่ะ ต่อจากนี้เราไม่รู้จักกันอีก เราเลิกกันนะคะ"
ตู้ด!
เธอกดวางสายทันทีที่พูดจบโดยไม่ฟังอะไรอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้ใจของเธอเต้นแรงมากๆ
'ยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะพูดคำนั้นออกไปตอนที่เขาพูดคำว่าขอโทษเธอเกือบจะใจอ่อนอยู่แล้วเชียวถ้าเธอไม่ได้ยินเสียงแทรกเข้ามา ตอนนี้เธอทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง ตอนนี้อาจจะทำใจยากแต่เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เธอชื่ออย่างนั้น'