เสี่ยวหลันจื่อหญิงสาวที่ทะลุมิติมา ทำหน้าที่ตัวละครลับเพื่อดำเนินเรื่องในนิยายให้สนุกมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องคำนึงว่าเนื้อเรื่องเดิมจะจบอย่างไร แต่กลับถูกท่านอ๋องที่ฆ่าตัวเองตอนต้นเรื่องตามติดเป็นเงา

ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต - บทที่4 ขายสมุนไพร โดย zuey @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ดราม่า,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ดราม่า,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จีนโบราณ,ทะลุมิติ

รายละเอียด

ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต โดย zuey @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เสี่ยวหลันจื่อหญิงสาวที่ทะลุมิติมา ทำหน้าที่ตัวละครลับเพื่อดำเนินเรื่องในนิยายให้สนุกมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องคำนึงว่าเนื้อเรื่องเดิมจะจบอย่างไร แต่กลับถูกท่านอ๋องที่ฆ่าตัวเองตอนต้นเรื่องตามติดเป็นเงา

ผู้แต่ง

zuey

เรื่องย่อ

เซียวอี้เหิงพยายามใช้ลมปราณเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ที่กำลังจะปะทุของตน เสียงสวบสาบก็ดังขึ้นทางด้านหลัง คราวนี้เขาเข้าใจได้ในทันทีว่าตนเองถูกวางยาแน่แล้ว น่าตายนักใจกล้าเหลือเกินเขาคงใจดีเกินไปสินะ ในสมองก็คิดอย่างหนึ่งแต่ร่างกายกลับไม่ฟัง เซียวอี้เหิงคว้าตัวอวี้ซูเหยาเข้าหาตนแล้วกระชากเสื้อผ้าของนางออกจนหมด จากนั้นไม่นานเสียงครวญครางก็ดังแว่วออกมาจากบ่อน้ำพุร้อน จนกระทั่งรุ่งสางฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดจึงหมดลง เซียวอี้เหิงลุกออกจากตัวของอวี้ซูเหยาอย่างรังเกียจ สายตาลึกล้ำดำมืดที่เหมือนคมมีดมองร่างเล็กที่หมดสติไปนานแล้ว เหมือนกับกำลังมองคนตาย

สารบัญ

ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่1 ตัวละครลับอะไร,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่2 ความทรงจำของคนอื่น,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่3 ขึ้นเขา,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่4 ขายสมุนไพร,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่5 ตามหาศพ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่6 พบพระเอกในนิยาย,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่7 ฝันถึงนางอีกครั้ง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่8 ชายหนุ่มรูปงาม,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่9 หลานเขยผู้หล่อเหลา,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่10 นอนร่วมห้อง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่11 หนุ่มรูปงามขับเกวียนวัว,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่12 คุณหนูสกุลหลู่,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่13 เรามากินหม้อไฟกัน,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่14 หนุ่มชาวนาผู้หล่อเหลา,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่15 เหตุผลที่ต้องนอนด้วยกัน,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่16 พบคุณหนูหลู่อีกครั้ง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่17 ความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่18 หลบหน้า,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่19 ใกล้ชิด,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่20 หวานไม่แผ่ว,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่21 อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่22 เดินทางไปเมืองหลวง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่23 พบกันอีกครั้ง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่24 ข้าขอโทษ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่25 คืนดีกันนะ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่26 ตกหลุ่มพราง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่27 ข่าวลือ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่28 ปลดตำแหน่งรัชทายาท,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่29 อยู่พร้อมหน้า,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่30 ข้าอยากอยู่กับเจ้าตลอดไป,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่31 กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่32 หลี่เอ้อกัง,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่33 ข้าได้ยินเสียงสตรี,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่34 ที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่อเจ้า,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่35 กลับหมู่บ้านเถาฮวา,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่36 ชิงตัวนักโทษ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่37 รีเซ็ต,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่38 หญิงสาวริมสระบัว,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่39 สาวใช้ส่วนตัว,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่40 นอนกับข้าเถอะ,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่41 ข้ากลับมาแล้ว,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่42 จับกุม,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่43 ภาพจำสุดท้าย,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่44 บทส่งท้าย,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่45 ตอนพิเศษ1,ทะลุมิติมาเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต-บทที่46 ตอนพิเศษ2

เนื้อหา

บทที่4 ขายสมุนไพร

เสี่ยวหลันจื่อลงมาจากภูเขาในตอนบ่ายแก่ๆ แล้ว ด้านหลังมีตะกร้าสมุนไพรที่เก็บมา ในอ้อมแขนยังอุ้มเจ้าสัตว์ตัวเล็กสีแดงเพลิงที่นางพึ่งจะตั้งชื่อให้มันว่าเสี่ยวหง เพราะขนมันสีแดงทั้งตัวแม้กระทั่งตาของมันก็มีสีแดง
เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูเดินเข้าไปในลานบ้านวางตะกร้าลง

แม่เฒ่าสวีที่รอนางกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ ก็รีบเดินมาจับตัวนางหมุนไปหมุนมาเพื่อดูว่านางบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่
“ท่านยาย ข้าไม่มีที่ไหนในร่างกายที่บาดเจ็บหรอกนะเจ้าคะ ท่านจับข้าหมุนไปหมุนมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว”


“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ก็ยายเป็นห่วงเจ้าไม่ใช่หรือไงถึงได้ทำแบบนี้ เอาล่ะ กลับมาเหนื่อยๆ พักผ่อนซะหน่อย หิวหรือไม่ให้ยาย ทำอะไรให้กินสักหน่อยไหม”


“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าไม่เหนื่อย อีกอย่างข้ากินซาลาเปาที่ท่านยายให้ข้าไปแล้ว” เสี่ยวหลันจื่อบอกแม่เฒ่าสวีแล้วยิ้มอย่างประจบเอาใจ


“มาดูสมุนไพรที่ข้าเก็บมาดีกว่าเจ้าค่ะว่าสามารถขายได้หรือไม่” เสี่ยวหลันจื่อหยิบสมุนไพรหลายชนิดออกมาจากตะกร้า อาศัยช่วงที่แม่เฒ่าสวี มัวแต่ดูสมุนไพรหยิบเอาโสมออกมาจากไอเทมบ๊อกของนาง เสียงคุยกันของสองสตรี ดังไปถึงหลังบ้าน เฒ่าหลิวที่กำลังสานตะกร้าไม้ไผ่อยู่ถึงกับเดินออกมาดู ว่าพวกนางกำลังทำอะไรกัน

สองสามีภรรยาถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เมื่อเห็นโสมภูเขาที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมานอนอยู่ก้นตะกร้า แม่เฒ่าสวีดีใจจนร้องไห้ออกมา ลูบหัวของเสี่ยวหลันจื่อแล้วเอาแต่พูดว่าเด็กดี เด็กดี

“เรื่องโสมนี่ต้องเก็บไว้เป็นความลับรู้หรือไม่ โดยเฉพาะแก ตาแก่ อย่าได้เที่ยวเอาไปพูดที่ไหนเชียว สิ่งของยิ่งมีค่ายิ่งอันตราย”
แม่เฒ่าสวีหันไปกำชับเสี่ยวหลันจื่อแล้วจึงหันไปกำชับสามีของตนที่ชอบออกไปคุยเล่นกับสหายชราหลังอาหารเย็นทุกวัน หนึ่งเด็กสาวหนึ่งชายชราพยักหน้าขึ้นลงซ้ำๆ พร้อมกัน อย่างกับไก่กำลังจิกข้าวสาร มองดูแล้วน่าขันนัก

แม่เฒ่าสวีถึงกับหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา นี่คงเป็นเพราะสวรรค์เมตตา เห็นนางสองสามีภรรยาเฒ่าไม่มีสายเลือดสืบสกุล จึงส่งเด็กสาวคนนี้มาให้พวกเขา แม่เฒ่าสวียกมือพนมแล้วพึมพำอามิตตาพุทธเบาๆ สายตาก็มองดู
เสี่ยวหลันจื่อที่กำลังแยกสมุนไพรอย่างอ่อนโยน

วันต่อมาสามคนบ้านผู้เฒ่าหลิวขี่เกวียนเข้าไปในอำเภอที่อยู่ห่างออกไปสิบห้าลี้ เสี่ยวหลันจือที่นั่งอยู่ท้ายเกวียนฮำเพลงเบาๆ อย่างสบายอารมณ์ เพราะวันนี้เป็นวันที่นางจะได้เงินแล้ว ในปากก็คาบยอดหญ้าหางกระรอกที่ดึงมาจากข้างทางชมนกชมไม้ไปเรื่อย เสี่ยวหงที่นั่งอยู่บนตักของนาง ก็เลียนแบบท่าทางการกระทำของเสี่ยวหลันจื่อเพียงแต่มันไม่ได้ฮำเพลงออกมาเท่านั้น หนึ่งคนหนึ่งสัตว์โยกหัวไปมาพร้อมกับฮำเพลงอย่างอารมณ์ดี แม่เฒ่าสวีมองดูเสี่ยวหลันจื่อกับเสี่ยวหง แล้วสะกิดให้สามีเฒ่าของตนเองดูทั้งสองถึงกับยิ้มออกมาพร้อมกัน

เมื่อเกวียนมาถึงด้านหน้าทางเข้าของอำเภอหยู่เปิง ผู้เฒ่าหลิวจอดเกวียนไว้ด้านนอก จ่ายเงินให้คนดูแลวัวของตนจากนั้นทั้งสามคนก็เข้าไปด้านใน เสี่ยวหลันจื่อสังเกตรอบๆ ตลอดทางที่ผู้เฒ่าหลิวพาไป อำเภอหยู่เปิงเป็นอำเภอใหญ่ที่เป็นทางผ่านเข้าเมืองหลวง

ดังนั้นที่นี่จึงคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนและเหล่าพ่อค้าที่เดินทางผ่านไปมาเพื่อนำสินค้าไปขาย ทั้งนำเข้าไปขายในเมืองหลวงและนำออกไปขายยังเมืองต่างๆ เสี่ยวหลันจื่อฟังผู้เฒ่าหลิวเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอำเภอหยูเปิงให้ฟังระหว่างเดินไปร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ และยังมีสาขามากมายกระจายไปตามอำเภอต่างๆ

เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้ารับผู้เฒ่าหลิวเป็นพักๆ เพื่อบ่งบอกว่านางกำลังตั้งใจฟังอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งสามคนกำลังตกเป็นเป้าความสนใจของผู้คนรอบด้าน ถ้าจะให้เจาะจงคือคนที่พวกเขาสนใจคือเสียวหลันจื่อ แม้จะใส่เสื้อผ้าที่เก่าแถมยังมีรอยปะชุน แต่กลับไม่สามารถ บั่นทอนความงามของนางได้เลย ตลอดทางจนกระทั่งถึงร้านขายยา เริ่นโส่วถัง ผู้คนเอาแต่เหลียวมองนางเป็นตาเดียวกัน

“ถึงแล้วที่นี่แหละ ร้านขายยาที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอหยู่เปิง และข้ารับรองว่าที่นี่จะให้ราคายุติธรรมแน่นอน สมัยยังหนุ่มข้าเคยเอาโสมหัวเล็กๆ มาขายที่นี่ครั้งหนึ่ง ได้ตั้งยี่สิบตำลึงแนะ จำได้ไหมยายเฒ่า”
ผู้เฒ่าหลิวหันมาหาคู่ชีวิตเพื่อขอให้นางสนับสนุนคำพูดของตน
     

“พูดมากจริงเชียว” แม่เฒ่าหลิวหันไปเอ็ด สามีหนึ่งทีจากนั้นจึงควงแขนของเสี่ยวหลันจื่อเข้าไปข้างใน เริ่นโส่วถัง
“มาซื้อหรือมาขายยาสมุนไพรขอรับ” เด็กหนุ่มที่ดูแลหน้าร้านรีบกุลีกุจอเข้ามาถามแม่เฒ่าสวี ใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู แอบเหลือบมองเสี่ยวหลันจื่อเป็นระยะ

“พวกเรามาขายสมุนไพร เจ้าช่วยตามผู้ดูแลมาได้หรือไม่” ทันทีที่เสี่ยวหลันจื่อเปล่งเสียงออกมา ร่างของเด็กหนุ่มที่มาทำหน้าที่ต้อนรับถึงกับแทบเหลวเป็นน้ำ เขาสามารถพูดได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินเสียงที่ไพเราะขนาดนี้มาก่อน จากใบหน้าที่แดงก่ำอยู่แล้วของเด็กหนุ่มกลับยิ่งแดงเป็นกุ้งเผามากกว่าเดิม เสี่ยวหลันจื่อที่เห็นเขายืนก้มหน้าไม่ได้ตอบรับคำพูดของตนจึงเดินเข้าใกล้กว่าเดิมเพราะคิดว่าเขาไม่ได้ยิน เด็กหนุ่มเห็นนางเดินมาใกล้ตนเองก็ได้สติกลับมา รีบลนลานวิ่งเข้าไปด้านในทันที

“เป็นอะไรของเขานะ รีบลนลานอะไรขนาดนั้น” เสี่ยวหลันจื่อที่อุ้มเสี่ยวหงอยู่ในอ้อมแขน ลูบขนมันเล่นไปมาหันไปหาแม่เฒ่าสวีเพื่อถามนาง แม่เฒ่าสวีสายหน้าเป็นเชิงบอกว่านางก็ไม่รู้เหมือนกัน

ไม่นานผู้ดูแลวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีก็เดินออกมาพร้อมเด็กหนุ่มคนเดิม ทันทีที่เขาเห็นหน้าของเสี่ยวหลันจื่อก็ชะงักงันไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ยกมือป้องปากกระแอมไอเบาๆ เป็นเพราะผ่านประสบการณ์มามากมายเขาจึงควบคุมสีหน้าได้เก่งกว่าเด็กหนุ่มคนนั้น

“ข้าคือผู้ดูแลของเริ่นโส่วถัง แซ่เฉิน มีนามว่าเฉินคุนเจ้าเรียกข้าว่าผู้ดูแลเฉินก็ได้ ไม่ทราบว่าแม่นาง.........มาขายสมุนไพรชนิดใด”

เสี่ยวหลันจื่อหันไปหาสองสามีภรรยาเฒ่าทันที ผู้เฒ่าหลิวรีบเดินขึ้นมาด้านหน้า

“ข้าน้อยแซ่หลิวนี่ภรรยาและหลานสาวของข้า เรานำสมุนไพรมาขายหลายชนิด รบกวนผู้ดูแลเฉินช่วยตีราคาให้สักหน่อย” ผู้ดูแลเฉินเหลือบมองเสี่ยวหลันจื่อเล็กน้อยจากนั้นจึงพยักหน้า

"ท่านทั้งสามตามข้ามาที่ห้องส่วนตัวด้านในเถอะ อาเป่า ยกน้ำชากับขนมมาให้ผู้เฒ่าทั้งสองกับแม่นางที” ผู้ดูแลเฉินหันมาสั่งเด็กหนุ่มคนเดิม

หลังจากเข้ามาในห้องส่วนตัวแล้วสองผู้เฒ่าก็เอาแต่นั่งเกรงไม่กล้าดื่มชาหรือกินขนม ต่างจากเสี่ยวหลันจื่อกับเสี่ยวหงที่กินอย่างสบายๆ คล้ายกับอยู่บ้านตัวเอง ขนมดอกกุ้ยฮวานี่อร่อยจริงๆ ไม่กินเสียดายแย่ ของฟรีเชียวนะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ไม่เคยได้กินของหวานเลยมีโอกาสต้องกอบโกยสักหน่อย เสี่ยวหลันจื่อคิดในใจ

ผู้ดูแลเฉินมองเสี่ยวหลันจื่อกินอย่างเอร็ดอร่อย กระพุ้งแก้มสองข้างพองออกมา ท่าทางเหมือกระรอกที่ซ่อนอาหารไว้กินยามหิว ดูน่ารักน่าชังยิ่งนัก แล้วมองลงไปที่เจ้าสัตว์ตัวเล็กสีแดงเพลิงนี่อีกท่าทางไม่ต่างจากเจ้านายของมันจริงๆ ผู้ดูแลเฉินยกถ้วยชาขึ้นบังริมฝีปากของตนที่โค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี

“ไม่ทราบว่าพวกท่านมีสมุนไพรอะไรมาขายให้เริ่นโส่วถังหรือ”  ผู้ดูแลเฉินเปิดประเด็นหลังจากที่รอมานานพวกเขาก็ยังไม่มีท่าทางว่าจะนำสมุนไพรออกมา เสี่ยวหลันจื่อเปิดผ้าที่คลุมตะกร้าออก หยิบเอาสมุนไพรหลายอย่างออกมาจนกระทั้งอย่างสุดท้ายที่ถูกห่อด้วยผ้า

ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาของผู้ดูแลเฉินเขาพอจะเดาได้ว่าสิ่งที่อยู่ในห่อผ้าคืออะไรแต่ที่เขาตกตะลึงคือ มันใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา เสี่ยวหลันจื่อแกะผ้าที่ห่อโสมออก


“ไม่ทราบว่าผู้ดูแลเฉิน จะให้ราคาโสมหัวนี้เท่าไหร่”

เสี่ยวหลันจื่อไม่อ้อมค้อม ถามเข้าประเด็นทันที ผู้ดูแลเฉินหยิบโสมนั้นออกมาดูอย่างเบามือ เขาถนอมมันยิ่งกว่าลูกในไส้เสียอีก เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้ดูแลเฉินเสี่ยวหลันจื่อก็ยกยิ้มมุมปากบางๆ

 หลังจากที่ดูจนพอใจผู้ดูแลเฉินก็ได้สติกลับมากเขากระแอมไอเบาเพื่อขับไล่ความเขินอายที่ตนเองเสียกิริยา “เรื่องนี้......พวกท่านรอสักครู่ได้หรือไม่เดี๋ยวข้ากลับมา”
ผู้ดูแลเฉินเดินออกไปจากห้องส่วนตัวทันที แต่ยังมิวายหันไปสั่งอาเป่าให้นำขนมดอกกุ้ยฮวาเข้ามาให้สามคนในห้องรับรองกิน