เรื่องราวความรัก ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่ มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,LGBTQIA+,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
My Only You ลุ้นรักล่าฝัน (ยัย) นักเขียนที่รักเรื่องราวความรัก ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่ มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
เรื่องราวความรัก
ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้
ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน
พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่
มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
เพราะต่างคนต่างมีความฝัน มีเส้นทางเป็นของตัวเอง การแยกจากถึงต้องมาถึง
หนึ่งคนก้าวเดินออกไปแสงไกล อีกคนกลับอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
หนึ่งคนพร้อมที่จะยกเลิกคำมั้นสัญญาเสมอ อีกกลับยึดมั่นในคำสัญญาไม่เปลี่ยนแปลก
ความรักครั้งนี้จะเป็นเช่นใดจะต้องแยกจากหรือพวกเขาจะได้กับมารักกัน
มาติดตามเรื่องราวความรักของคู่นี้ไปพร้อมๆกัน ในนิยายเรื่องนี้ได้เลย
#เจ้าขุนอิงฟ้า #อลินดา #Alinda
บทที่ 1
01
กลับมาปัจจุบัน
กรุงเทพฯ
บริษัท XXX กรุ๊ป จำกัดมหาชน
“น้องอิงฟ้าค่ะ งานที่พี่สั่งแก้ถึงไหนแล้วค่ะ”
เสียงหัวหน้าแผนงของฉันเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมามือของเจ้าตัวเท้าลงที่โต๊ะทำงานของฉัน
ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นหัวหน้าแผนงเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะส่งแฟ้มงานที่ฉันแก้เสร็จแล้วให้กับหัวหน้างานของฉันเอ่ยปากบอกกับเจ้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มการค้า
“เสร็จแล้วค่ะ”
จบประโยคตอบกลับของฉัน หัวหน้างานของฉันก็รับมันไปเปิดดู ก่อนที่รอยยิ้มพอใจของเธอจะปรากฏขึ้นมาส่งแฟ้มงานที่ฉันเพิ่งส่งให้เธอกลับคืนมาให้ฉัน ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม บอกกับฉันขึ้นมา
“ดีมากจ้ะ แล้วนี้น้องอิงฟ้าว่างอยู่ใช้ไหมค่ะ”
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฝากเอาไปส่งให้พี่ด้วยเลยและกัน”
“ฝากด้วยนะจ้ะ น้องอิงฟ้า”
สิ้นประโยคดังกล่าวยังไม่ทันที่ฉันจะตอบตกลงอะไรเธอก็รอช้ายัดแฟ้มเอกสารเล่มนั้นใส่มือฉัน ยกมือขึ้นบ๊ายบายฉันก่อนที่เธอจะเดินออกจากโต๊ะทำงานฉันไปอย่างเริงร่าหายลับไปจากโต๊ะ
ทำงานของฉันโดยมีสายตาของฉันมองตามหลังไป ฉันถอนหายออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานของตัวเองเดินถือแฟ้มเอกสารเดินเข้าไปในลิฟท์ขึ้นไม่ยังชั้นผู้บริหารชีวิต
พนักงานออฟฟิศ ใครว่าดี สังคมวัยทำงานนั้นแสงจะ Toxic หนึ่งวันพันกว่าเรื่อง เจอหัวหน้างานดี เพื่อนร่วมงานดี ก็ดีไป แต่สำหรับฉันสิ่งเล่านั้นฉันไม่เคยเจอมาก่อน ทนได้ก็ทนกันไปแต่สำหรับฉันแล้ว ฉันทนมันไม่ได้จริงๆ
ลิฟท์ถูกเปิดออกอีกครั้งบนชั้นผู้บริหาร ไม่รอให้เสียเวลาฉันก้าวเท้ายาวๆเดินออกจากลิฟท์มุ่งตรงไปยังหน้าห้องผู้บริหารยกมือขึ้นเตรียมเคาะประตูห้อง แต่การกระทำของฉันก็ต้องลงเมื่อเสียงของคนที่อยู่ในห้องดังเล็ดลอดออกมา
“อืมๆอ้าๆเบาๆสิครับท่านประธานเดียวมีคนมาเห็น เอาไปเขียนข่าวดาริณก็แยกสิครับ”
“ไม่เอาน้า ไม่มีใครเขาขึ้นมาตอนนี้หลอก เชื่อฉันสิดาริณอีกอย่างถ้ามีข่าวแบบถูกเขียนออกไปจริงๆ ฉันต้องแก้ข่าวให้เธออยู่แล้ว”
“เพราะฉะนั้น มามะ ให้ฉันเข้าไปด้านในของดาริณสุดที่รักของฉันซะดีๆ”
“ดาริณที่รักของฉัน”
“...”
“ไม่รู้จักอ้ายฟ้าอ้ายดินสักบ้าง”
“ให้ตายเถอะ”
ฉันเอ่ยปากพูดขึ้นมาเสียงแผ่วเบาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะหันยืนผิงกับประตูห้องทำงานของท่านประธานสักพัก ก่อนที่ฉันจะสูญลมหายใจเข้าลึกๆ หันกลับไปมองที่ประตูห้องทำงานของท่านประธาน
ยกมือขึ้นเหนือหัวตัวเองเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะออกแรงเคาะไปที่ประตูห้องทำงานของท่านประธานเอ่ยปากเรียกคนที่ภายในห้อง
“ขอโทษที่รบกวนนะคะ แต่มีเอกสารด่วนที่ต้องให้ท่านประธานเซ็น”
“รบกวนเวลาความสุขของพวกคุณสักครู่ได้ไหมค่ะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวเสียงชุลมุนวุ่นวายภายในห้องก็ดังขึ้นฉันขมัวคิ้วเล็กน้อย ถอนหายใจออกมารอจนเสียงท่านประธานที่อยู่ภายในห้อง เอ่ยปากอนุญาตให้ฉันเข้าไป ฉันถึงค่อยเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องทำงานของท่านประธาน
“เข้ามา”
สิ้นประโยคดังกล่าวของท่านประธานฉันนก็ดันประตูห้องทำงานของท่านประธานให้เป็นออกมาสำรวจทั่วห้องเล็กน้อยเอ่ยปากทักคุณดาริณขึ้นมา
“คุณดาริณค่ะ ติดกระดุกผิดเม็คค่ะ ส่วนบอสเนสไทอย่างลืมผูกใหม่ด้วยนะคะ”
สิ้นประโยคทักจากฉันทั้งสองหน้าถอนซีดเล็กน้อยรีบแก้การแต่งกายของตัวเองใหม่ ฉันกุมขมับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะทำตัวปกติ วางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะท่านประธาน พร้อมกับส่งใบลาออกของตัวเองไปตรงหน้าของท่านประธาน
เอ่ยปากบอกกับท่านประธานขึ้นมารอยยิ้ม บอกกับท่านประธานขึ้นมา
“ส่วนใบนี้ รอกวนด้วยนะคะ”
“ฉันขอลาออกค่ะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน ฉันไม่รอให้ท่านประธานถามอะไรต่อ ตั้งใจจะเดินออกจากห้องทำงานของท่านประธาน
พร้อมกับประโยคที่ช่วงให้เสียวสันกับคนที่ได้ฟังขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“อีกเรื่องคราวหน้าคราวหลังจะสนุกกันก็ไม่ว่านะคะ รอบนี้ฉันเป็นคนเจอพวกคุณถือว่าโชคดี”
“แต่คราวหน้าถ้าคนที่ไม่เจอเป็นฉัน ไม่รู้ว่าพวกคุณจะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า”
“โดยเฉพาะคุณดาริณ อย่างลืมนะคะคุณเป็นคนสาธารณะ ทำอะไรก็ระวังตัวหน่อย”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน ฉันก็เดินออกจากห้องผู้บริหารไปทันทีอย่างไม่รอช้าเดินออกจากบริษัทไป ในช่วงบ่ายกว่าๆ หลังจากที่เดินออกจากบรฺษัทมา มือบางของล้วงเข้าไปในกระเป๋าทำงานของตัวเองหยิบเอาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของฉันกดโทรหาเพื่อนสนิทสาวนักแสดงของฉันอย่างยัยอีสเตอร์ทันที ที่เมื่อเช้ามันทักแชทกลุ่มเข้ามาบอกว่าวันนี้ไม่งาน เป็นวันหยุดในรอบหลายเดือนของมันหลังจากลากยาวมาตั้งแต่ต้นเดือน
“แกกินข้าวเที่ยงกันป่ะ วันนี้กูว่างแล้ว”
“ว่าง”
“ว่างก็คือว่างนั้นและ ฉันลาออกจากที่ทำงานเดิมแล้ว”
“ลาออก”
อีสเตอร์เพื่อนสนิทสาวของฉันพิมพ์ตอบกลับมาก่อนที่มันจะส่งสติกเกอร์โอเคกลับมาให้ฉัน พร้อมกับที่อีสเตอร์ส่งโลเคชั่งห้างใกล้ๆที่ทำงานเก่าของฉันมาให้ พร้อมกับข้อความปิดท้ายโลเคชั่งมาว่า
“มาเจอกันที่นี่ ฉันมาติ่งพี่เจ้าขุนกับซันเดย์”
“รีบมา”
“เจอกันที่ห้าง”
“จบงานอีเว้นท์แล้ว เดียวไปกินข้าวกัน”
สิ้นประโยคดังกล่าวของอีสเตอร์ฉันก็โบยมือเรียกรถสาธารณะที่ขับผ่านมาแถวหน้าบริษัทเก่าฉันพอดี ก่อนที่ฉันจะเปิดโลเคชั่งที่เพื่อนสาวฉันส่งมาให้คนขับรถดู คนขับรถพยักหน้ารับคำก่อนที่จะหมุนล้อรถออกจาบริษัทเก่าฉัน ใช้เวลาไม่นานนักรถสาธารณะที่ฉันนั้นมาก่อนชะลอหยุดลงหน้าห้างสรรพสินค้าพอดี พร้อมกับมือฉันที่ส่งค่าโดยสารไปให้คนขับรถ
หลังจากได้รับเงินค่าโดยสารจากฉันรถสาธารณะที่ฉันนั่งมาก็หมุนล้อรถออกจากหน้าห้างไปหายลับจากสาย พอกับเสียงของเพื่อนสาวฉันที่ตะโกนเรียกฉันอยู่บริเวณหน้าห้าง ลากฉันให้เดินตามเข้าไปในห้างไปยังจุดที่พี่เจ้าขุนของมันกับซันเดย์เพื่อนสนิทอีกคนของฉันที่เป็นคู่จิ้นของพี่เจ้าขุนมีงานอีเว้นท์ทันที
“มาทันเฉียดฉิวเลย ได้ที่ดีๆพอดี”
เพื่อนสาวของฉันเอ่ยปากบอกพร้อมรอยยิ้มดีใจโบยมือทักทายพี่เจ้าขุนของมัน และนั้นและมั้งเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับพี่เจ้าขุนอีกครั้งหลังจากสามปีที่ผ่านมา