เรื่องราวของ อิงฟ้า เด็กสาวที่เดินทางมาบนเส้นทางนักเขียนกว่าสิบปี เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยของความฝัน กับคำมั่นสัญญากับคนที่เธอรัก รอวันโคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง กับเส้นชัยของความฝัน ที่ทั้งสองคนทำสำเร็จ

my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส - บทที่ 1 01 โดย Alinda(อลินดา) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เรื่องราวของ อิงฟ้า เด็กสาวที่เดินทางมาบนเส้นทางนักเขียนกว่าสิบปี เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยของความฝัน กับคำมั่นสัญญากับคนที่เธอรัก รอวันโคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง กับเส้นชัยของความฝัน ที่ทั้งสองคนทำสำเร็จ

ผู้แต่ง

Alinda(อลินดา)

เรื่องย่อ

เพราะต่างคนต่างมีความฝัน บนเส้นทางของตัวเอง การจากลาถึงต้องมาถึง พร้อมคำหมั้นสัญญา จะกลับมาพบกันอีกครั้ง กับเส้นทางความฝันที่ประสบความสำเร็จ

สารบัญ

my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทนำ 00,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 1 01,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 2 02,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที 3 03,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 4 04,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 5 05,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 6 06,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 7 07,my year love ลุ้นรักล่าฝัน(ยัย)นักเขียนหน้าใส-บทที่ 8 08

เนื้อหา

บทที่ 1 01

บทที่ 1

01

กลับมาปัจจุบัน

กรุงเทพฯ

บริษัท XXX กรุ๊ป จำกัดมหาชน

“น้องอิงฟ้าค่ะ งานที่พี่สั่งแก้ถึงไหนแล้วค่ะ”

เสียงหัวหน้าแผนงของฉันเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมามือของเจ้าตัวเท้าลงที่โต๊ะทำงานของฉัน 

ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นหัวหน้าแผนงเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะส่งแฟ้มงานที่ฉันแก้เสร็จแล้วให้กับหัวหน้างานของฉันเอ่ยปากบอกกับเจ้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มการค้า

“เสร็จแล้วค่ะ”

จบประโยคตอบกลับของฉัน หัวหน้างานของฉันก็รับมันไปเปิดดู ก่อนที่รอยยิ้มพอใจของเธอจะปรากฏขึ้นมาส่งแฟ้มงานที่ฉันเพิ่งส่งให้เธอกลับคืนมาให้ฉัน ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม บอกกับฉันขึ้นมา

“ดีมากจ้ะ แล้วนี้น้องอิงฟ้าว่างอยู่ใช้ไหมค่ะ”

“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฝากเอาไปส่งให้พี่ด้วยเลยและกัน”

“ฝากด้วยนะจ้ะ น้องอิงฟ้า”

สิ้นประโยคดังกล่าวยังไม่ทันที่ฉันจะตอบตกลงอะไรเธอก็รอช้ายัดแฟ้มเอกสารเล่มนั้นใส่มือฉัน ยกมือขึ้นบ๊ายบายฉันก่อนที่เธอจะเดินออกจากโต๊ะทำงานฉันไปอย่างเริงร่าหายลับไปจากโต๊ะ

ทำงานของฉันโดยมีสายตาของฉันมองตามหลังไป ฉันถอนหายออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานของตัวเองเดินถือแฟ้มเอกสารเดินเข้าไปในลิฟท์ขึ้นไม่ยังชั้นผู้บริหารชีวิต

พนักงานออฟฟิศ ใครว่าดี สังคมวัยทำงานนั้นแสงจะ Toxic หนึ่งวันพันกว่าเรื่อง เจอหัวหน้างานดี เพื่อนร่วมงานดี ก็ดีไป แต่สำหรับฉันสิ่งเล่านั้นฉันไม่เคยเจอมาก่อน ทนได้ก็ทนกันไปแต่สำหรับฉันแล้ว ฉันทนมันไม่ได้จริงๆ

ลิฟท์ถูกเปิดออกอีกครั้งบนชั้นผู้บริหาร ไม่รอให้เสียเวลาฉันก้าวเท้ายาวๆเดินออกจากลิฟท์มุ่งตรงไปยังหน้าห้องผู้บริหารยกมือขึ้นเตรียมเคาะประตูห้อง แต่การกระทำของฉันก็ต้องลงเมื่อเสียงของคนที่อยู่ในห้องดังเล็ดลอดออกมา

“อืมๆอ้าๆเบาๆสิครับท่านประธานเดียวมีคนมาเห็น เอาไปเขียนข่าวดาริณก็แยกสิครับ”

“ไม่เอาน้า ไม่มีใครเขาขึ้นมาตอนนี้หลอก เชื่อฉันสิดาริณอีกอย่างถ้ามีข่าวแบบถูกเขียนออกไปจริงๆ ฉันต้องแก้ข่าวให้เธออยู่แล้ว”

“เพราะฉะนั้น มามะ ให้ฉันเข้าไปด้านในของดาริณสุดที่รักของฉันซะดีๆ”

“ดาริณที่รักของฉัน”

“...”

“ไม่รู้จักอ้ายฟ้าอ้ายดินสักบ้าง”

“ให้ตายเถอะ”

ฉันเอ่ยปากพูดขึ้นมาเสียงแผ่วเบาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะหันยืนผิงกับประตูห้องทำงานของท่านประธานสักพัก ก่อนที่ฉันจะสูญลมหายใจเข้าลึกๆ หันกลับไปมองที่ประตูห้องทำงานของท่านประธาน 

ยกมือขึ้นเหนือหัวตัวเองเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะออกแรงเคาะไปที่ประตูห้องทำงานของท่านประธานเอ่ยปากเรียกคนที่ภายในห้อง

“ขอโทษที่รบกวนนะคะ แต่มีเอกสารด่วนที่ต้องให้ท่านประธานเซ็น”

“รบกวนเวลาความสุขของพวกคุณสักครู่ได้ไหมค่ะ”

สิ้นประโยคดังกล่าวเสียงชุลมุนวุ่นวายภายในห้องก็ดังขึ้นฉันขมัวคิ้วเล็กน้อย ถอนหายใจออกมารอจนเสียงท่านประธานที่อยู่ภายในห้อง เอ่ยปากอนุญาตให้ฉันเข้าไป ฉันถึงค่อยเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องทำงานของท่านประธาน

“เข้ามา”

สิ้นประโยคดังกล่าวของท่านประธานฉันนก็ดันประตูห้องทำงานของท่านประธานให้เป็นออกมาสำรวจทั่วห้องเล็กน้อยเอ่ยปากทักคุณดาริณขึ้นมา

“คุณดาริณค่ะ ติดกระดุกผิดเม็คค่ะ ส่วนบอสเนสไทอย่างลืมผูกใหม่ด้วยนะคะ”

สิ้นประโยคทักจากฉันทั้งสองหน้าถอนซีดเล็กน้อยรีบแก้การแต่งกายของตัวเองใหม่ ฉันกุมขมับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะทำตัวปกติ วางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะท่านประธาน พร้อมกับส่งใบลาออกของตัวเองไปตรงหน้าของท่านประธาน

เอ่ยปากบอกกับท่านประธานขึ้นมารอยยิ้ม บอกกับท่านประธานขึ้นมา

“ส่วนใบนี้ รอกวนด้วยนะคะ”

“ฉันขอลาออกค่ะ”

สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน ฉันไม่รอให้ท่านประธานถามอะไรต่อ ตั้งใจจะเดินออกจากห้องทำงานของท่านประธาน

พร้อมกับประโยคที่ช่วงให้เสียวสันกับคนที่ได้ฟังขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม

“อีกเรื่องคราวหน้าคราวหลังจะสนุกกันก็ไม่ว่านะคะ รอบนี้ฉันเป็นคนเจอพวกคุณถือว่าโชคดี”

“แต่คราวหน้าถ้าคนที่ไม่เจอเป็นฉัน ไม่รู้ว่าพวกคุณจะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า”

 “โดยเฉพาะคุณดาริณ อย่างลืมนะคะคุณเป็นคนสาธารณะ ทำอะไรก็ระวังตัวหน่อย”

สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน ฉันก็เดินออกจากห้องผู้บริหารไปทันทีอย่างไม่รอช้าเดินออกจากบริษัทไป ในช่วงบ่ายกว่าๆ หลังจากที่เดินออกจากบรฺษัทมา มือบางของล้วงเข้าไปในกระเป๋าทำงานของตัวเองหยิบเอาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของฉันกดโทรหาเพื่อนสนิทสาวนักแสดงของฉันอย่างยัยอีสเตอร์ทันที ที่เมื่อเช้ามันทักแชทกลุ่มเข้ามาบอกว่าวันนี้ไม่งาน เป็นวันหยุดในรอบหลายเดือนของมันหลังจากลากยาวมาตั้งแต่ต้นเดือน

“แกกินข้าวเที่ยงกันป่ะ วันนี้กูว่างแล้ว”

“ว่าง”

“ว่างก็คือว่างนั้นและ ฉันลาออกจากที่ทำงานเดิมแล้ว”

“ลาออก”

อีสเตอร์เพื่อนสนิทสาวของฉันพิมพ์ตอบกลับมาก่อนที่มันจะส่งสติกเกอร์โอเคกลับมาให้ฉัน พร้อมกับที่อีสเตอร์ส่งโลเคชั่งห้างใกล้ๆที่ทำงานเก่าของฉันมาให้ พร้อมกับข้อความปิดท้ายโลเคชั่งมาว่า

“มาเจอกันที่นี่ ฉันมาติ่งพี่เจ้าขุนกับซันเดย์”

“รีบมา”

“เจอกันที่ห้าง”

“จบงานอีเว้นท์แล้ว เดียวไปกินข้าวกัน”

สิ้นประโยคดังกล่าวของอีสเตอร์ฉันก็โบยมือเรียกรถสาธารณะที่ขับผ่านมาแถวหน้าบริษัทเก่าฉันพอดี ก่อนที่ฉันจะเปิดโลเคชั่งที่เพื่อนสาวฉันส่งมาให้คนขับรถดู คนขับรถพยักหน้ารับคำก่อนที่จะหมุนล้อรถออกจาบริษัทเก่าฉัน ใช้เวลาไม่นานนักรถสาธารณะที่ฉันนั้นมาก่อนชะลอหยุดลงหน้าห้างสรรพสินค้าพอดี พร้อมกับมือฉันที่ส่งค่าโดยสารไปให้คนขับรถ

หลังจากได้รับเงินค่าโดยสารจากฉันรถสาธารณะที่ฉันนั่งมาก็หมุนล้อรถออกจากหน้าห้างไปหายลับจากสาย พอกับเสียงของเพื่อนสาวฉันที่ตะโกนเรียกฉันอยู่บริเวณหน้าห้าง ลากฉันให้เดินตามเข้าไปในห้างไปยังจุดที่พี่เจ้าขุนของมันกับซันเดย์เพื่อนสนิทอีกคนของฉันที่เป็นคู่จิ้นของพี่เจ้าขุนมีงานอีเว้นท์ทันที

“มาทันเฉียดฉิวเลย ได้ที่ดีๆพอดี”

เพื่อนสาวของฉันเอ่ยปากบอกพร้อมรอยยิ้มดีใจโบยมือทักทายพี่เจ้าขุนของมัน และนั้นและมั้งเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับพี่เจ้าขุนอีกครั้งหลังจากสามปีที่ผ่านมา