เรื่องราวความรัก ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่ มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,LGBTQIA+,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
My Only You ลุ้นรักล่าฝัน (ยัย) นักเขียนที่รักเรื่องราวความรัก ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่ มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
เรื่องราวความรัก
ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้
ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน
พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่
มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
เพราะต่างคนต่างมีความฝัน มีเส้นทางเป็นของตัวเอง การแยกจากถึงต้องมาถึง
หนึ่งคนก้าวเดินออกไปแสงไกล อีกคนกลับอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
หนึ่งคนพร้อมที่จะยกเลิกคำมั้นสัญญาเสมอ อีกกลับยึดมั่นในคำสัญญาไม่เปลี่ยนแปลก
ความรักครั้งนี้จะเป็นเช่นใดจะต้องแยกจากหรือพวกเขาจะได้กับมารักกัน
มาติดตามเรื่องราวความรักของคู่นี้ไปพร้อมๆกัน ในนิยายเรื่องนี้ได้เลย
#เจ้าขุนอิงฟ้า #อลินดา #Alinda
บทที่ 18
18
หลังจากงานบวงสรวงจบลง ก็ต่อด้วยงานเวิร์นช็อปเสื้อผ้านักแสดงต่อ ถ่ายโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์ ออกให้แฟนคลับได้ติดตามต่อ พร้อมกับถ่าย Teaser สั้นๆของเนื้อเรื่องทั้งหมดของทุกคู่ที่จะออกมาให้แฟนคลับได้ดูเป็นน้ำจิ้นเรียนน้ำย่อยแฟนคลับ
“น้องอิงฟ้ากับคุณเจ้าขุนช่วยขยับเข้าใกล้กันอีกนิดได้หรือเปล่าครับ”
“ดีมากประมาณนั้นและครับ ต่อไปช่วยมองตกันให้หวานกว่านี้หน่อยนะครับ”
ตากล้องประจำกองถ่ายเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ฉันกับพี่เจ้าขุนพยักหน้ารับคำเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆทำตามที่ตากล้องบอก แต่จะทำยังไงให้ไม่เขินสายตาของพี่เจ้าขุนที่ส่งมาฉันเพียงแค่ไม่กี่วินาทีฉันก็เป็นฝ่ายหลบสายตาพี่เจ้าขุนก่อน แก้มของฉันขึ้นเป็นสีแดงละลื่น >////< ไปถึงใบหูเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพี่เจ้าขุนได้ไม่ใช้น้อย ในจังหวะที่ฉันจะผลักออกจากพี่เจ้าขุนอยู่ดีเสียงของตากล้องที่เห็นเหตุการณ์ก็เอ่ยปากบอกฉันกลับ่เจ้าขุนขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อนครับ ค้างเอาไว้ในท่านั้นก่อนนะครับ”
“ดีครับ”
“ดีมากกำลังสวยเลย”
“เยี่ยมเลยครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของตากล้องเสียงกดถ่ายก็ดังขึ้นก่อนที่ตากล้องจะเอ่ยปากบอกกับพวกฉันขึ้นมา
“ได้แล้ว”
“แยกย้าย ส่วนของคุณเจ้าขุนกับน้องอิงฟ้าเสร็จแล้วนะครับ”
“คู่ต่อไปเตรียมสแตนบายนะครับหน้าฟิล์ม”
สิ้นประโยคดังกล่าวของตากล้องฉันกับพี่เจ้าขุนก็ผลักตัวออกจากกันก่อนฉันกับพี่เจ้าขุนจะแยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวของนักแสดงทันที ก่อนที่ฉันจะขอตัวกลับก่อน เพราะมีงานต่อหลังจากนี้ งานที่นักเขียนอย่างชั้นถูกเชิญให้ไปร่วมแบบช่วยไม่ได้ ฉันให้พี่อิงดาวแต่งหน้าเพิ่มให้ฉันนิดหน่อยก่อนที่ฉันจะขอตัวออกจากห้องแต่งตัวไปโบยรถหน้าสตูดิโอ ไปงานหนังสือต่อ
งานหนังสือ
“น้องอิงฟ้า มาแล้วเหรอค่ะ”
“เชิญที่ห้องรับรองเลยค่ะใกล้จะได้เวลาแล้ว”
“ต้องคุยรายละเอียนเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ”
เสียงพี่ณรินทร์เอ่ยบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมกับเดินนำฉันเข้าไปที่ห้องรับรองก่อนที่พวกฉันจะเริ่มคุยรายละเอียนเพิ่มเติมของงานหนังสือที่กำลังจะเริ่มขึ้น หลังจากคุยรายละเอียนกันเสร็จ
พี่ณรินทร์ก็พาฉันมาประจำที่นั่งของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม เอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“มาทำให้งานหนังสือครั้งแรกของพวกเราให้ดีที่สุดเลยนะคะ นักอ่านที่น่ารักของน้องอิงฟ้ารอที่จะเจอน้องอิงฟ้านักเขียนคนโปรดของพวกเขาอยู่”
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่ณรินทร์ฉันพยักหน้ายิ้มรับให้กับ
พี่ณรินทร์เล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งที่นั่งของตัวเองที่คนจัดงานหนังสือเตรียมเอาไว้ให้เตรียมตัวสักพักก็ถึงเวลาที่เปิดให้นักอ่านทุกคนที่มารอเจอฉันเข้ามาทักทายพูดคุยกับฉันพร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดีครับน้องอิงฟ้า พี่ติดตามน้องอิงฟ้ามาตั้งแต่แรกเลยนะครับ ทันบล็อกที่น้องอิงฟ้าเขียน นิยายพี่ก็ตามไปอ่านมาหมด ต่อนี้น้องอิงฟ้าก็กำลังจะมีซีรีส์ จะรอติดตามนะครับ”
เสียงนักอ่านคนแรกที่เข้ามาคุยกับฉันเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาฉันยิ้มเขินเล็กน้อยให้กับนักอ่านคนนั่นก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากบอกกับนักอ่านขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณนะคะ หลังจากนี้ก็ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วย ทั้งงานเขียนและงานแสดงอีเว้นท์ต่างๆก็ด้วยนะคะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวนักอ่านคนนั้นพยักหน้ารับคำยิ้มดีใจก่อนจะเดินออกจากแถวไปหลังจากเสียงประกาศหมดเวลาของสตาฟฟ์ที่ดังขึ้นเปลี่ยนให้นักอ่านคนต่อไปเข้ามาคุยกับฉันบ้าง คนแล้วคนเล่าจนถึงคนสุดท้าย ก่อนที่งานจับมือจะจบลง ฉันก็เตรียมจะกลับคอนโด้ แต่ก่อนที่ฉันจะได้เดินออกจากห้องอยู่ดีพี่ณรินทร์ก็ร้องเรียกฉันไว้ก่อน
“น้องอิงฟ้า รีบกลับหรือเปล่าค่ะ มีคนมาติดต่อขอซื้อนิยายของน้องอิงฟ้าไปทำซีรีส์ค่ะ”
“นิยายของฟ้าเหรอค่ะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน พี่ณรินทร์ พยักหน้ารับคำเล็กน้อยก่อนที่ พี่ณรินทร์ จะยิ้มรับให้กับฉันเล็กน้อย ก่อนที่ พี่ณรินทร์ จะเอ่ยปากบอกฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“ใช้ค่ะ แต่ช่วงนี้พี่เห็นฟ้ายุ่งๆเลยยังไม่ได้บอกนะคะ”
“ทั้งเรื่องงานเขียนและงานซีรีส์ วันนี้พี่เห็นว่าฟ้าจะมางานหนังสือวันนี้พอดี เลยถือโอกาสนัดคุณปีเตอร์มาคุยเรื่อง นิยายของฟ้าที่เขาอย่างซื้อลิขสิทธิ์ไปทำซีรีส์”
สิ้นประโยคดังกล่าวของ พี่ณรินทร์ ฉันพยักหน้ารับคำให้กับพี่ณรินทร์เล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะเอื้อมมือไปผลักประตูห้องรับรองที่คุณปีเตอร์อยู่ให้เปิดออก ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากทักทายคนที่อยู่ในห้องขึ้นมาอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะ คุณปีเตอร์ ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน คนที่อยู่ในห้องหันมามองฉันเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะยิ้มให้ฉันบางเบาส่ายหัวตอบกลับฉันขึ้นมาเป็นเชิญบอกว่าไม่เป็นอะไร ก่อนที่คนที่อยู่ในห้องจะส่งมือหนามาให้ฉันจับ ฉันยิ้มรับบางเบาก่อนที่ฉันจะส่งมือของตัวเองไปจับกับมือหนาของคุณปีเตอร์
“เป็นเกียรติ ที่ได้พบกับคุณ”
“นิยายที่คุณเขียนดีมาก จะเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ถ้าผมขอซื้อนิยายของคุณไปทำซีรีส์”
สิ้นประโยคของคุณปีเตอร์ ฉันพยักหน้ารับคำเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากถามย้ำคำขอของคุณปีเตอร์
“เรื่องนั้น ฉันไม่มีปัญหาค่ะ”
“แต่คุณแน่ใจเหรอค่ะ ว่าจะเอานิยายฉันไปทำบทซีรีส์จริงๆ คนที่เขียนดีกว่าฉันก็มี”
“ถ้าผมไม่แน่ใจผมไม่ยืนอยู่ตรงนี้หลอกครับ”
“จนมั่นใจเถอะ ว่านิยายที่คุณเขียนนั้นดีจริงๆ”
“อนุญาตให้ผมเอาไปทำบทซีรีส์เถอะครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของคุณปีเตอร์ ฉันหันไปขอความช่วยเหลือจาก พี่ณรินทร์เล็กน้อย ก่อนที่พี่ณรินทร์ จะเดินมาจับที่ไหล่ของฉันพายักหน้าให้กับฉันเล็กน้อยเป็นการให้กำลังใจฉัน ฉันยิ้มรับให้กับพี่ณรินทร์ เล็กน้อยก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากอนุญาตให้คุณปีเตอร์เอานิยายของฉันไปแปลเป็นบทซีรีส์
“ถ้าคุณคิดว่ามันดีจริงๆ ฉันต้องขอบคุณมากๆ”
“เชิญคุณเอานิยายของฉันไปทำบทซีรีส์เถอะค่ะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉันคุณปีเตอร์ยิ้มขอบคุณให้ฉันเล็กน้อยก่อนที่ฉันกับคุณปีเตอร์จะทำสัญญาซื้อขายนิยายกันเพื่อเอาไปทำบทซีรีส์ทำตามความต้องการของคุณปีเตอร์ที่อย่างเอานิยายของฉันไปทำบทซีรีส์
หลังจากทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จฉันกับคุณปีเตอร์ก็นัดกันทานข้าวอีกทีภายหลัง หลังจากนี้
หลายวันถัดมาหลังจากวันนั้น
ห้องเวิร์นช็อป
“พี่ฟ้า ยินดีด้วยนะคะ ได้ข่าวว่านิยายของได้ทำเป็นซีรีส์”
เสียงหวานของยัยเอมิเอ่ยปากถามฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ฉันเงยหน้าขึ้นมองยัยเอมิเล็กน้อยก่อนเอ่ยถามยัยเอมิขึ้นมา
“ข่าวไว้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ว่าแต่เธอรู้ได้ไง”
“เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้บอกใครเลยนะ นอกจากพี่ณรินทร์ที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น”
“วงในค่ะ บังเอิญว่าฉันรู้จักคนวงในที่ทำงานที่สำนักพิมพ์พี่”
“วงในเหรอ”
“แล้วเธอได้บอกใครไปหรือยัง”
ฉันเอ่ยถามยัยเอมิขึ้นมาอย่างตั้งคำถามก่อนที่ยัยเอมิยิ้มรับยกมือขึ้นจุ๊ฟที่ปากของฉันเอ่ยปากตอบคำถามฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม อย่างมีลับลมคมใน
“วางใจเถอะค่ะ เรื่องนี้นอกจากฉันแล้วยังไม่ใครที่รู้ ท่านประธานเองก็ยังไม่รู้”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน ฉันถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างโล่งอก ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากบอกกับยัยเอมิขึ้นมา
“แล้วไปอย่าเพิ่งหลุดปากบอกใครไปและกัน โดยเฉพาะกับท่านประธานของพวกเธอ โอเคไหม”
“ค่ะ แต่พี่จะเก็บไปอีกนานแค่ไหนค่ะ ฉันกลัวว่าท่านประธานจะเหนื่อยที่จะรอพี่เอานะคะ พี่อิงฟ้า”
ยัยเอมิเอ่ยปากเตือนฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มก่อนที่ยัยเอมิจะย่อตัวนั่งลงข้างๆฉันในห้องเวิร์นช็อป
“ก็รู้อยู่หลอก แต่ว่านะ…”
“ยังไงก็อยากจะมั่นใจให้มากกว่านี้ก่อน”
“เพื่อที่ฉันจะได้ก้าวเท้าไม่ยืนข้างๆพี่เจ้าขุนอย่างมั่นใจ”
“งั้นเหรอค่ะ”
“แต่ฉันดูแล้ว ท่านประธานเข้าคงไม่คิดเล็กคิดน้อยแบบนั้นหลอกมั้งค่ะ เพราะยังไงท่านประธานก็เลือกพี่ตั้งแต่แรกนี้น้า”
“พี่ข้ามขั้นมาไกลได้ขนาดนี้ พี่ควรมั่นใจในตัวเองได้แล้วนะคะ พี่อิงฟ้า อย่างปล่อยให้ท่านประธานรอนานไปกว่านี้เลยนะคะ”
เสียงหวานของยัยเอมิเอ่ยเตือนสติฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะเอ็นหลังของเธอพิงกับกระจกห้องเวิร์นช็อป
ฉันถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูดขอบคุณยัยเอมิขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มเอ็นหลังผิงกับกระจกห้องเวิร์นช็อปเช่นเดียวกับยัยเอมิ
“ขอบคุณ
เธอมากนะเอมิ ฉันเข้าใจแล้ว”
“แต่เธอไม่ต้องเป็นห่วงหลอกนะ”
“อีกแค่นิดเดียว”