เรื่องราวความรัก ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่ มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,LGBTQIA+,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
My Only You ลุ้นรักล่าฝัน (ยัย) นักเขียนที่รักเรื่องราวความรัก ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้ ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่ มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
เรื่องราวความรัก
ของทั้งห้าคู่ ที่มีอุปสรรค ที่เรียกว่าความฝันของแต่ละคน มาขวางกั้น เกิดเป็นความรัก ที่อาจเปิดเผยได้
ด้วยเส้นเรื่องของแต่ละคู่ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกับอุปสรรค ที่ไม่เหมือนกัน
พวกเขาจะจับมือกันก้าวข้ามอุปสรรค เหล่านั้นไปด้วยกันได้หรือไม่
มาติดตามไปพร้อมๆกัน ในเซ็ตนิยาย my year love
เพราะต่างคนต่างมีความฝัน มีเส้นทางเป็นของตัวเอง การแยกจากถึงต้องมาถึง
หนึ่งคนก้าวเดินออกไปแสงไกล อีกคนกลับอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
หนึ่งคนพร้อมที่จะยกเลิกคำมั้นสัญญาเสมอ อีกกลับยึดมั่นในคำสัญญาไม่เปลี่ยนแปลก
ความรักครั้งนี้จะเป็นเช่นใดจะต้องแยกจากหรือพวกเขาจะได้กับมารักกัน
มาติดตามเรื่องราวความรักของคู่นี้ไปพร้อมๆกัน ในนิยายเรื่องนี้ได้เลย
#เจ้าขุนอิงฟ้า #อลินดา #Alinda
บทที่ 21
21
“กลับกันเถอะค่ะ รบกวนคุณ แกร๊บด้วยนะคะ”
สิ้นประโยคของฉันที่เอ่ยปากบอกคนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้ม คนตรงหน้ายิ้มรับให้กับฉันเล็กก่อนที่คนตรงหน้าจะโค้งตัวลงให้กับฉันอย่างสุภาพ พร้อมกับมือหนาที่จับมือของฉันไว้
“ยินดีใหบริการครับ”
“ขอรับส่งตลอดชีวิตเลยครับ คุณผู้โดยสาร”
“ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสิค่ะ แกร๊บคันเนี่ยฟ้าเหมาเองไว้นั่งคนเดียวตลอดชีวิตแล้วค่ะ”
“ครับ”
“ผมเองก็เต็มใจให้คุณอิงฟ้าเหมาตลอดชีวิตอยู่แล้วครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวเสียงหัวเราะของฉันกับพี่เจ้าขุนประสาทบนรถเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุดภายใต้แสงจากพระจันทร์ดวงโต ที่ลอยละล่ออยู่บนท้องฟ้า
“ไม่สัญญาว่าจะรักตลอดไป แต่จะขอสัญญาว่านับจากนี้จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต จะขอดูแลเป็นอย่างดี ชดเชยตลอดหลายปีที่ไม่ได้ดูแล”
งานอีเว้นท์ เปิดโปรเจคใหม่ระหว่างอิงฟ้านักเขียนมืออาชีพและผู้กำกับปีเตอร์
“ขอโทษนะครับที่วันนี้พี่ไม่ได้ไปส่ง”
“มันช่วยไม่นิค่ะ ก็พี่มีงานนี่น้า”
“ครับ เอาไว้คราวหน้าพี่ไม่พลาดแน่นอนนะครับ”
“ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ พี่จะรีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับไปหานะครับ”
เสียงปลายสายของพี่เจ้าขุนเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ยิ้มละมุนละไมก่อนที่ฉันจะโบยมือลาพี่เจ้าขุนผ่านวีดีโอคอล พร้อมกับเอ่ยปากบอกปลายสายของพี่เจ้าขุนขึ้นมา
“เดินทางปลอดภัยนะคะ บายค่ะ เจอกันเดือนหน้านะคะ”
“ครับ พี่ต้องคิดถึงแฟนพี่มากๆแน่ๆ”
“เอาไว้เจอกันนะครับ”
“อ่อ จริงด้วยถึงวันนี้ตัวพี่ไม่ได้ไปแต่พี่ส่งของขวัญไปให้นะครับ หวังว่าฟ้าจะชอบนะ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉันพี่เจ้าขุนปลายสายของพี่เจ้าขุนก็ถูกกดวางสายพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้องพักสำหรับนักเขียนและนักแสดงดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันหันมอง
“น้องอิงฟ้าค่ะ มีดอกไม้จากแฟนส่งมาให้น้องอิงฟ้าค่ะ”
“เข้าฝากพี่มาบอกน้องอิงฟ้าด้วยนะคะ ว่าครั้งนี้ติดงานเลยไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้”
“แต่คราวหน้าเขาไม่พลาดแน่นอน”
ฉันยิ้มเขิน>////< ให้กับพี่ลดาเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปรับช่อดอกเดซี่ช่อใหญ่จากมือพี่ลดาเอ่ยปากขอบคุณพี่ลดาเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่ทีมงานจะเดินเข้ามาตามฉันที่ห้องรับรอง
“น้องอิงฟ้า ถึงเวลาแล้วค่ะ”
“เตรียมสแตนบายหลังเวทีได้เลยนะคะ”
สิ้นประโยคของทีมงานฉันพยักหน้ารับคำเล็กน้อยก่อนที่ฉันเดินเอาช่อดอเดซี่ขนาดหน้าไปวางแยกระหว่างของขวัญของแฟนคลับกับนักอ่าน และคนสำคัญของฉัน
“ตายจริงดอกเดซี่ช่อใหญ่เลยนะคะ แฟนครับคนสำคัญส่งมาให้เหรอค่ะ หน้าอิจฉาจังเลยนะค่ะ”
“พี่จะมีวาสนามีแฟนครับที่แสงดีอย่างน้องอิงฟ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกสักกี่ครั้ง วาสนาพี่ถึงได้ดีเหมือนน้องอิงฟ้า”
ฉันยิ้มรับให้กับพี่ทีมงานเล็กน้อยก่อนที่จะลุกเดินออกจากห้องรับรองเตรียมแสตนบายหลังเวที
“สวัสดีค่ะทุกคนตอนนี้ตัวหลังของงานในวันนี้มารอพบทุกคนอยู่หลังเวทีลแล้วนะคะ ไปพบกับน้องอิงฟ้าของพวกเรากันดีกว่านะคะ”
เสียงหวานของพิธีกรสาวบนเวทีเอ่ยปากพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มตามมาด้วยเสียงตบมือต้อนรับเสียงดังพร้อมกับที่สตาฟฟ์ที่อยู่บนเวทีจะโผล่หัวออกมาจากเวทีพยักหน้าส่งสัญญาให้ฉันเดินขึ้นไปบนเวที
งานในวันนั้นจจบลงอย่างสวยงานก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทันทีที่ฉันถึงห้องของตัวเองฉัน เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนของฉันดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันหันไปมอง ก่อนที่ฉันจะกดรับสายปลายสายขึ้นมา เอ่ยทักทายปลายสายขึ้นมาเสียงหวาน
“ค่ะ ที่ญี่ปุ่นอากาศเป็นยังไงบ้างค่ะ”
“ก็ดีครับ ทำงานเป็นยังไงบ้างครับเหนื่อยไหม”
“นิดหน่อยค่ะ แต่ก็สนุกดีนะคะ”
ฉันเอ่ยปากตอบปลายสายขึ้นมาเสียงหวาน พร้อมกับเสียงใสของไอ้ซันเดย์ที่เอ่ยตอบกลับฉันมา
“ที่ญี่ปุ่นอากาศโคตรดี”
“แกหน้าจะมาด้วยกัน”
สิ้นประโยคดังกล่าวของไอซันเดย์ไม่ทันทีฉันจะได้ตอบกลับอะไรเสียงพี่ธาดาที่ไปด้วยก็เอ่ยปากตอบแทนฉันขึ้นมาพร้อมกับแขนกว้างของพี่ธาดาจะคล้องเข้าที่ต้นคอขาวของไอซันเดย์
“ช่วยไม่ได้ ฟ้าเขาก็มีงานของเขาที่ต้องทำ”
“พอได้แล้วให้แฟนเขาได้จีบกันบ้าง”
“ส่วนมึงมากับกู แฟนคลับของพวกเรากับรอคลิปใหม่ของกูกับมึงอยู่นะครับ”
“รู้แล้วน้า พี่เนี่ยขี้บ่นชะมัดเมื่อก่อนไม่เห็นขี้บ่นแบบนี้เลยอ่ะ”
“ก็แฟนผมน่ารักก็ต้องหวงเป็นธรรมดา”
ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับนิสัยโชว์หวานไม่สนคนรอบข้ามจนคนรอบข้ามกลายเป็นอากาศ สักพักเสียงของสองคนนั้นก็ค่อยๆออกห่าง จนเงียบลงไป จนภายในห้องเหลือฉันกับพี่เจ้าขุนที่ยังวิดีโอคอลกันค้างไว้อยู่
คุยเล่นถามนู้นถามนี่กันอีกสักพักฉันกับพี่เจ้าขุนที่บอกลากันแยกย้ายกันไปอาบน้ำ อาบท่าเตรียมเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ฉันมีคุยงานเช้ากับคุณปีเตอร์เกี่ยวกับบทและนักแสดงที่จะมาแสดงเป็นนางเอกกับพระเอกในบทซีรีส์ที่ดันแปรงจากนิยายที่ฉันเขียน
“ถ้างั้นฟ้าวางสายก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีงานเช้าถ้าว่างเอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะคะ”
“ครับ ฝันดีนะครับ เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุนฉันก็เอ่ยปากบอกฝันดีพี่เจ้าขุนกลับก่อนที่กับพี่เจ้าขุนจะกดวางสายจากกัน หลังจากวางสายจากพี่เจ้าขุนฉันก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ทันทีที่ฉันอาบน้ำเสร็จฉันก็ล้มตัวลงนอนทันทีก่อนที่ฉันจะคล่อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากทำงานมาทั้งวัน
หนึ่งเดือนถัดมา สำหรับการเตรียมงานโปรเจคใหม่
“แค่นี้ก็เตรียมพร้อมสำหรับโปรเจคใหม่ของพวเราเสร็จแล้วนะครับ”
“ส่วนเรื่องบทฝากฟ้าจัดการต่อให้ด้วยนะครับ”
“เดียวผมต้องขอตัวเดินทางกลับนิวยอร์น ไปดูงานที่บริษัทก่อน ส่วนเรื่องบทฝากคุณอิงฟ้าจัดการต่อด้วยนะครับ”
“เสร็จแล้ว ส่งให้ผมช่วยดูผ่านอีเมล์ได้เลย”
“เอาไว้เจอกันอาทิตย์หน้า”
คุณปีเตอร์เอ่ยปากบอกับฉันขึ้นมาเป็นภาษาบ้านเกิดของคุณปีเตอร์ ฉันยิ้มรับให้กับคุณปีเตอร์เล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากตอบกลับคุณปีเตอร์ไปด้วยภาษาเดียวกับคุณปีเตอร์
ก่อนที่ฉันกับคุณปีเตอร์จะแยกย้ายกันเดินทางออกจากภัตคารอาหารไทยชื่อดังสถานที่นับหมายที่ฉันกับคุณปีเตอร์นัดมาเจอกันบ่อยๆ
เพราะคุณปีเตอร์ติดใจรสชาติของอาหารไทยกับขนนไทยของภัตคารนี้ ถึงจะไม่อร่อยเท่าอาหารไทยกับขนนไทยที่คุณปีเตอร์ได้กินที่ร้านแม่ของฉันที่ฝรั่งเศสตอนไปดูงานครั้งก่อนก็ตาม
“เอาไว้พบกันใหม่”
“เอาไว้พบกันใหม่ค่ะ เดินทางปลอดภัย”
“ครับ”
หลังจากจบประโยคตอบกลับที่คุณปีเตอร์ตอบกลับฉันมาเป็นภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัดเท่าไร ฉันพยักหน้าปิดท้ายคุณปีเตอร์ รอจนแผ่นหลังของคุณปีเตอร์เดินหายลับออกจากร้านไป ฉันถึงล้มตัวนั่งลงที่ ที่นั่งของตัวเองอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย เปิด Macbook ของตัวเองขึ้นมา
แก้นิยายต้นฉบับเรื่องล่าสุดของตัวเองที่เพิ่มเขียนจบ อีกนิดหน่อยก่อนที่ฉันจะกดส่งอีเมล์ต้นฉบับล่าสุดของฉันให้กับสำนักพิมพ์ รอพี่ณรินทร์ตอบกลับเมล์ฉันมา
“ส่งตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“เดียวพี่รีบตัวตรวจต้นฉบับให้นะคะ ถ้ามีแก้เพิ่มเติมเดียวพี่ส่งเมล์กลับไปให้นะคะ จะได้ทันกำหนดการตีพิมพ์นิยายเรื่องต่อไปของน้องิงฟ้า”
“บก.ฝากความคิดถึงมาให้ค่ะ ถ้าว่างแวะเข้ามานักพิมพ์หน่อยนะคะ จะได้ไปกินด้วยกัน”
ข้อความของพี่ณรินทร์ส่งปิดท้ายมาแค่นั้น ก่อนที่ฉันจะพิมพ์ตอบกลับพี่ณรินทร์ไปเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่ฉันจะปิด Macbook ของตัวเองลง เตรียมลุกเดินออกจากร้านอาหาร
“ค่ะ ถ้าว่างเดียวฟ้าแวะเข้าไปนะคะ”
“คิดถึง บก.กับ พี่ณรินทร์เหมือนกันค่ะ”
จบประโยคพิมพ์ตอบกลับของฉัน ฉันก็ปิด Macbook ลงก่อนที่ฉันจะเดินออกจากภัตคารอาหารไป
“โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ”
เสียงพนักงานประจำภัตคารเอ่ยปากบอกกับฉันขึ้นมา ฉันยิ้มรับให้พนักงานประจำภัตรคารเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะเดินออกมาเตรียมหยิบสมาร์ทโฟนเรียกแกรบให้มารับที่หน้าภัตคารอาหารไทย แต่ไม่ทันที่ฉันจะกดเรียกแกร๊บ รถคันหรูสีดำสนิทก็มาจอดเทียบท่าหน้าภัตคารอาหารตรงหน้าของฉัน
“รอนานไหมครับ”
“แกร๊บสุดหล่อมารับคุณผู้โดยสารแล้ว”
“พี่เจ้าขุน กลับมาตั้งแต่เหมือนไรค่ะ ไหนว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง”
“เซอร์ไพสน์ครับ”
“เชิญคุณรถเลยครับคุณผู้โดยสาร”
ฉันยิ้มรับให้กับพี่เจ้าขุนเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะเอื้อมมือไปเปิดประตูลงข้างคนนั่งข้างคนขับ ก่อนที่ฉันจะปิดประตูรถลง พี่เจ้าขุนยิ้มรับก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อมมาดึงเข็นขัดรัดเข็นขัดให้ฉัน
“พร้อมแล้วนะครับ เดินทางได้”
“วันนี้ไม่มีงานที่ไหนแล้วใช้ไหมครับ”
“วันนี้ไปดินเนอร์มื้อเย็นด้วยกันนะครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุน
ฉันพยักหน้ารับคำเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยปากตอบปากรับคำพี่เจ้าขุนขึ้นมา
“ค่ะ”