ข้าเป็นมังกร ข้าไม่ใช่แมว ข้าไม่เล่นของเล่นแมว ข้าไม่นอนในบ้านแมว พวกเจ้ามีสายตาเป็นญาติกับถั่วเรอะ? เลิกหยุมพุงข้าสักที ไม่งั้นข้าจะหนีออกจากบ้าน! "แต่วันนี้มีสเต็กให้เจ้านะ" เอาไว้ข้าหนีวันหลังก็ได้

AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว - บทที่ 1 เริ่มมาก็ปังแล้ว โดย ItsAlthero @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ไซไฟ,สงคราม,เลือดสาด,แมว,นายเอกเก่ง,วายแฟนตาซี,#BL,พลังวิเศษ,เวทมนตร์,18+,สงคราม,อสูร,ภูต ,ปีศาจ,เทพ ,ยุคดวงดาว,โลกอนาคต,ต่างดาว,อมนุษย์,มังกร,ฮาเร็มชาย,ไซไฟ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ไซไฟ,สงคราม,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แมว,นายเอกเก่ง,วายแฟนตาซี,#BL,พลังวิเศษ,เวทมนตร์,18+,สงคราม,อสูร,ภูต ,ปีศาจ,เทพ ,ยุคดวงดาว,โลกอนาคต,ต่างดาว,อมนุษย์,มังกร,ฮาเร็มชาย,ไซไฟ,แฟนตาซี

รายละเอียด

AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว โดย ItsAlthero @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ข้าเป็นมังกร ข้าไม่ใช่แมว ข้าไม่เล่นของเล่นแมว ข้าไม่นอนในบ้านแมว พวกเจ้ามีสายตาเป็นญาติกับถั่วเรอะ? เลิกหยุมพุงข้าสักที ไม่งั้นข้าจะหนีออกจากบ้าน! "แต่วันนี้มีสเต็กให้เจ้านะ" เอาไว้ข้าหนีวันหลังก็ได้

ผู้แต่ง

ItsAlthero

เรื่องย่อ

#เป็นมังกรไม่ใช่แมว

นามของข้า คือ 'เอมารันไธน์' และข้าต้องการความช่วยเหลือ...

คือเรื่องมันเป็นแบบนี้นะท่านผู้มาเยือน อันตัวข้านั้นเป็นมังกรรุ่นเยาว์ ได้ลงหลุมไปคุยกับรากอ่อนของต้นแอชจิ๋ว จำศีลไปราวๆหนึ่งพันปีตามวิสัยปกติของมังกร แต่พอตื่นมาอีกครั้งก็ต้องพบว่า... ข้ากลายเป็นแมวไปแล้ว

...ตอนข้าหลับอุตุมันมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ข้าไม่เข้าใจ

มิหนำซ้ำ ดวงของข้ายังดิ่งลงเหวอย่างที่นรกก็ฉุดไม่อยู่ ทั้งผู้บัญชาการชาวมนุษย์เอย จักรพรรดิสวรรค์เอย ราชาปีศาจเอย จ้าวอสูรเอย และผู้นำอมนุษย์เผ่าอื่นๆมากมาย ต่างก็จ้องจะเข้ามาขย้ำพุงข้าไม่หยุดไม่หย่อน เอาแต่กวักมือเรียกข้า
เหมียวๆ... เหมียวบ้านพวกเจ้าสิ 

ข้าคือมังกรบรรพกาลตัวสุดท้ายของโลก ทั้งยังเป็นสายพันธุ์หายากขึ้นทะเบียนเป็นอันดับต้นๆของทุกทำเนียบเชียวนะ แต่พวกเจ้ากลับทำเหมือนข้าเป็นแมวจรไร้บ้านแบบนี้ ถือว่าตนเป็นใหญ่เลยจะข่มข้าอย่างไรก็ได้งั้นรึ? คิดหรือว่าข้าจะยอมอยู่ในโอวาท ทำตัวเชื่องเยี่ยงสัตว์เลี้ยงกับพวกเจ้า? ไม่ว่าพวกเอ็งจะทำอะไร ก็ซื้อใจข้าไม่ได้หรอก!

"อย่างอนกันนานนักเลยน่า เอมี่ ฉันซื้อแมวเลียรสโปรดของเจ้ามาให้สามร้อยลังเลยนะ ให้ฉีกตอนนี้เลยไหม คืนดีกันนะ"

"ใจเย็นก่อน เอ็ม ข้าเพียงแต่มาง้อเท่านั้น เจ้าชอบกินเนื้องูใช่ไหม? ข้าเอาเนื้อบาซิลิสก์จากแดนปีศาจมาฝากเจ้า"

"อย่าโกรธกันเลยนะ เด็กดี วันนี้พี่ซื้อขนมมาให้เจ้าเยอะแยะเลยนะ เค้กช็อกโกแลตจากแดนอสูรที่เจ้าชอบยังไงล่ะ มีเครป พาย ทาร์ต อยู่ในตู้อีกเป็นร้อยด้วยนะ"

"ช่างน่าดีใจนักที่ เอมี่น้อย ชอบของขวัญของเรามากถึงเพียงนี้ เจ้าอยากได้เพชรพลอยไปประดับรังเพิ่มอีกเท่าไหร่ล่ะหืม? เรายกให้ทั้งคลังแดนสวรรค์เลยก็ยังได้นะ แต่หากเจ้ายังไม่พอใจแล้วล่ะก็ เดี๋ยวเราจะลองไปถามแดนภูตดูให้ด้วย ดีหรือไม่?"

"ไม่ต้องขอ แดนภูตยกให้หมดเลย ที่รัก"

.....

เอาเป็นว่าข้าจะยอมนอนเฉยๆบนกองเงินกองทองของพวกเจ้าต่อไปอีกสักหน่อยก็แล้วกัน แต่จงระวังไว้เถอะ ประมาทข้ามากๆแล้วเจ้าจะเสียใจ สักวันนึงข้าจะยึดครองโลก ไม่สิ ครองจักรวาล ครองเอกภพไปด้วยเลยเอ้า ยึดได้แล้วข้าก็จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นคาเฟ่แมวซะให้หมดเลยคอยดู อย่าล้อเล่นกับระบบ เพราะระบบตบสวนนะจะบอกให้! 

ระวังโลกเจ้าเอาไว้ให้ดีเถอะ! (●`ω´●)




WARNING!!!

นิยายเรื่องนี้เป็น Boy Love แนว Sci-Fi ผสมแฟนตาซี ไทม์ไลน์ยุคอนาคต/ยุคดวงดาว มีหลายโลก หลายเวิร์ส และมีพระเอกหลายคน มีการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหล่าพระ-นาย แบบ Polygamy เพราะเป็น ฮาเร็มชาย จัดอยู่ในหมวด18+แต่เป็นฉบับCutเพื่อความเหมาะสม จะมีเนื้อหาที่ถูกตัดทอนออกไปบางส่วนเพื่อให้มีเนื้อหาเชิง [Trigger] น้อยที่สุด นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ18ปีขึ้นไป จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ความรุนแรง และฉากทารุณบางประการ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน โดยจะเขียนคำเตือนกำกับไว้ซ้ำในบทที่จำเป็นเพื่อประกอบการใช้วิจารณญาณในการอ่านต่อไป อนึ่ง ฉบับUncutอยู่ในบ้านหลักสีฟ้า

*เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงจินตาการของผู้เขียน เป็นเรื่องแต่ง ไม่อิงประวัติศาสตร์หรือหลักความเป็นจริงแต่อย่างใด มีเนื้อหาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น*

⚠ นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือกระทำการใดๆ อันเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย ⚠

⚠ หากเราเตือนแล้วยังคุยกันไม่เข้าใจอีก ศาลจะเป็นที่ต่อไปที่ท่านจะได้มานั่งคุยกับเรา ⚠





แวะไปทักทายกันได้ที่

FB: @Althero_LD

X (Twitter) : @ItsAlthero

♡ ด้วยรักและขอบคุณจ้า ♡


สารบัญ

AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทนำ มาจะกล่าวบทไป,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 1 เริ่มมาก็ปังแล้ว,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 2 เกือบหลับแต่กลับมาได้,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 3 อยู่ดีๆ เราก็วาร์ป,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 4 โลกใหม่สอนให้เปิด,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 5 เป็นแมวจรต่างดาวไม่ง่ายเลย,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 6 เป็นมนุษย์บนต่างดาวยากยิ่งกว่า,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 7 เปิดใจลูกผู้ชาย ปรับทัศนคติ (1),AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 8 เปิดใจลูกผู้ชาย ปรับทัศนคติ (2),AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 9 ยังไม่ได้ไปเที่ยว,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 10 เปิดอกอีกรอบ รอบนี้แค่เปรียบเปรย,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 11 ยื่นหมูครึ่งเทพ ยื่นแมวมังกร,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 12 ชีวิตใหม่ ผ่อนคลายไม่ไหว (1),AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 13 ชีวิตใหม่ ผ่อนคลายไม่ไหว (2),AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 14 ชีวิตใหม่ ผ่อนคลายไม่ไหว (3),AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-บทที่ 15 ชีวิตใหม่ ผ่อนคลายก็แย่แล้ว,AMARANTHINE เป็นมังกรไม่ใช่แมว-**คั่นเวลาเล็กน้อย ด้วยรูปท่านนายพล**

เนื้อหา

บทที่ 1 เริ่มมาก็ปังแล้ว

ก็อย่างที่บอก ข้าคือมังกรตัวสุดท้ายของโลก


เจ้าอาจสงสัยว่าโลก [Earth-01] มีมังกรด้วยหรือ? ต้องขอสารภาพว่าพวกเราน่ะอยู่มาตั้งนานแล้ว นานแสนนานก่อนที่พวกเจ้าจะหลุดจากการเป็นวานรเสียอีก เพียงแต่ไม่เคยปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นเลยก็เท่านั้น อำนาจของพวกเรามากพอจะปิดกั้นมนุษย์จากการรับรู้ถึงการมีอยู่ของมังกรได้ตราบที่จำเป็น อำนาจที่มนุษย์จะไม่มีวันเข้าใจ มังกรอย่างเรานั้นมีช่วงชีวิตที่ยาวนาน พวกเราเหลือเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นในตอนที่มนุษย์วิวัฒนาการขึ้นมาจากวงศ์วานร และเหลือน้อยลงไปอีกเมื่อมนุษย์ได้พัฒนาเทคโนโลยีจนก้าวไปสู่อนาคต ในขณะเดียวกันก็สูบเอาพลังชีวิตของโลกไปจนเกือบหมด และทิ้งไว้เพียงโลกที่กำลังจะตาย


นานมาแล้ว มังกรบรรพกาลหลายตัวที่ใกล้หมดอายุขัย จะเลือกทิ้งร่างตนเองลงบนผืนดิน แล้วปล่อยให้ร่างขนาดยักษ์ของพวกเขาค่อยๆถูกผืนดินกลืนกิน และเปลี่ยนสภาพเป็นเทือกเขาหิน ส่วนพลังชีวิตก็มอบให้พืชพรรณได้เติบโตจากร่างพวกเขาต่อไป


เมื่อมนุษย์ทอดทิ้งโลกไปยังบ้านใหม่ มีมังกรหลายตัวได้ตัดสินใจทิ้งร่างลงทั้งบนผืนดิน และมหาสมุทร เพื่อให้ตนเองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลก ค่อยๆฟื้นฟูชีวิตให้กลับมา มันกลายเป็นธรรมเนียมที่ถูกรัดเร่งเข้ามากว่าที่เคย เมื่อในทุกๆหนึ่งพันปี มังกรหนึ่งตนก็จะทิ้งร่างลงและเข้าสู่การจำศีลนิรันดร์


มีมังกรหลายตัวเช่นกันที่เลือกจะกลับลงทะเล ร่องมหาสมุทรที่มนุษย์เคยคิดว่าลึกที่สุดที่เคยค้นพบ กลับเป็นเพียงประตูที่นำไปสู่ถิ่นกำเนิดของมังกรที่แท้จริง พวกเขาเหล่านั้นเลือกที่จะกลับไปสิ้นใจในรังกำเนิดของตนแทน


หูข้าพลันแว่วเสียงมารดาขับกล่อมเห่มังกร:


‘เราชาวมังกรถือกำเนิดจากพสุธา มหาสมุทรอุ้มชูเรามา ฟากฟ้าคุ้มครองเราเสมอ และเหล่าดวงดาวจะเปล่งแสงอำนวยพรให้แก่เจ้า ในท้ายที่สุดแล้ว โลกนี้ก็จะเป็นสุสานของเราเช่นกัน’


วิทยาการของเหล่ามนุษย์เทียบไม่ได้แม้แต่น้อยกับภูมิปัญญาอันเก่าแก่และพลังอำนาจอันมากล้นของเผ่าพันธุ์ที่อยู่มานานกว่าสิ่งใดอย่างมังกร แต่ก็เพราะเป็นแบบนี้เช่นกัน มังกรอย่างเราจึงไม่อาจวิวัฒน์ตัวเองได้เร็วอย่างมนุษย์ เผ่าพันธุ์มังกรที่ทรงอำนาจยิ่ง ...จึงกำลังจะสูญพันธุ์


ข้าคือลูกมังกรตัวสุดท้ายของโลกที่ถือกำเนิดขึ้นในรอบหมื่นปีมานี้ หรือในอีกนัยหนึ่ง ข้าเป็นลูกมังกรตัวเดียวที่ฟักออกจากไข่จำนวนห้าพันกว่าฟองซึ่งได้กลายเป็นหินไปแล้วทั้งหมด


มารดาของข้าเลี้ยงดูข้าอย่างสุดความสามารถ แต่ข้ามีเวลาอยู่กับนางเพียงห้าร้อยปีเท่านั้น และเมื่อถึงเวลาที่มารดาของข้าต้องเข้าสู่การจำศีลนิรันดร์ ข้าก็กลายเป็นมังกรตัวสุดท้ายของโลกไปในที่สุด


มังกรอย่างพวกเรารักโลกใบนี้มากเกินไป เราไม่อาจทำใจทิ้งบ้านที่ฟูมฟักเรามาหลายพันล้านปีไปยังที่อื่นได้เหมือนอย่างมนุษย์ แม้กระทั่งข้าที่เยาว์วัยที่สุด ก็ไม่เคยมีความคิดที่จะรวบรวมอำนาจเหลือคณาจากบรรดาพี่น้องที่ฝังร่างลงบนโลกนี้ เพื่อกางปีกบินหนีไปยังดาวดวงอื่นเพื่อที่ข้าจะไม่ต้องเดียวดายอีกต่อไป เพราะข้าไม่อาจทำเรื่องเลวทรามเช่นนั้นต่อที่พักผ่อนสุดท้ายของพวกเขาได้ ไม่มีสิ่งใดควรจะรบกวนความสงบของพวกเขา อีกทั้งในอนาคตที่กำลังจะมาถึงนี้ แผ่นดินก็จะกลายเป็นสุสานของข้าด้วยเช่นกัน


ห้าร้อยปีต่อมาหลังข้าเกิดนั้น โลกก็เริ่มเย็นลงอีกครั้ง ระดับน้ำทะเลค่อยๆต่ำลงจนมีแผ่นดินโผล่กลับคืนมามากมาย เปิดโอกาสให้พืชพรรณเจริญเติบโตอีกครั้ง สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจที่สุด คือผู้ครองโลกที่เพิ่งฟื้นจากความตายนี้ กลับกลายเป็นเหล่านก กิ้งก่า ปลา และแมลงนั่นเอง


แม้ว่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ที่ค่อยๆกลับมานี้ จะกลายพันธุ์จนไม่เหมือนสายพันธุ์เดิมที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว ข้าก็รักพวกมันทั้งหมด แม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานที่ไม่อาจเข้าใจข้า แต่พวกมันก็มีสังคมของพวกมันเอง ในบางครั้งก็ยอมให้ข้าเข้าไปอยู่ใกล้ได้หากข้าสามารถอดทนอยู่นิ่งได้มากพอ และเพราะเริ่มมีสิ่งมีชีวิตกำเนิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆนี่เอง ข้าจึงไม่ต้องทนอยู่กับความเงียบสงัดของโลกเพียงตนเดียวนานเท่าใดนัก


เมื่อย่างเข้าแปดร้อยปี ข้ากำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แม้จะคึกคะนองตามวัย ก็ไม่เคยทิ้งการร่ำเรียนพลังมังกรและความรู้เก่าก่อนของพงศ์พันธุ์ ข้าพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอเมื่อกลับจากการออกล่าหาอาหาร ข้าบินเล่นกับฝูงนกท้าลมหนาว ข้านอนหลับพร้อมกับเหล่ากิ้งก่าดินที่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ ข้าจับปลาและงูทะเลกินจนหนำใจ แล้วข้าก็ฝึกใช้พลังอย่างหนักจนกระทั่งข้ามีอำนาจพอจะเทียบเทียมมารดาเมื่อครั้งยังอายุเท่ากันในสมัยที่นางมีชีวิตได้ในที่สุด


แต่ในบางคืนที่ข้าพบว่าไม่อาจฝืนทำตัวให้ยุ่งได้อีก ข้าก็ต้องเผชิญความจริงว่าตัวเองโดดเดี่ยวแค่ไหน และทำได้เพียงแหงนมองท้องฟ้าเช่นเดิม


เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปอีก กระทั่งข้ามีอายุได้หนึ่งพันสามร้อยปีเศษ ข้าก็หมดแรงที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว แม้นว่าหากเทียบอายุกับมังกรในอดีตทั้งหลายแล้วข้าก็เพิ่งจะวัยรุ่นเท่านั้น แต่ข้าไม่อาจทนความโดดเดี่ยว ความเดียวดาย ความโศกเศร้าที่ต้องอยู่ตัวเดียวบนโลกนี้ได้อีกต่อไป ข้าตัดสินใจฝังร่างตนเองลงบนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นร่างของบิดามังกรของข้า ใช้พลังกลบฝังดินทับร่างตนเองพร้อมกับเมล็ดของต้นไม้โบราณ แล้วเข้าสู่การจำศีลนิรันดร์เช่นกัน


มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าทิ้งเอาไว้ คือป้ายหินสลักด้วยพลังมังกรที่ตั้งอยู่ดั่งป้ายหลุมศพ เพื่อเป็นของดูต่างหน้าของข้าให้สำหรับใครก็ตามที่อาจจะขับยานบินลงมาพบมันเข้าและได้อ่านป้ายหลุมศพนี้ ในใจลึกๆข้ารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน ต่อให้มีตัวอะไรมาเจอจริงก็คงอ่านไม่ออกด้วยซ้ำ แต่ข้าไม่ใส่ใจหรอก อย่างน้อยๆ ข้าก็อยากให้มีอะไรสักอย่างไว้รำลึกบ้างว่าครั้งหนึ่งข้าเคยมีตัวตนอยู่จริงๆ


ข้อความที่สลักไว้ อ่านได้ว่า: 


“นามของข้า คือ ‘เอมารันไธน์’

ข้าคือมังกรตัวสุดท้ายของโลก และบัดนี้ข้าได้เข้าสู่การจำศีลนิรันดร์ ร่างของข้าจะกลับคืนสู่อ้อมกอดของพสุธา และจะเป็นรากฐานแก่ชีวิตที่จะถือกำเนิดใหม่บนดาวสีน้ำเงินดวงนี้เหมือนดังที่พี่น้องตัวอื่นๆของข้าเป็น ข้าหวังว่าโลกใบนี้จะกลับไปสวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตดังเดิมในเร็ววัน

หากเจ้าได้อ่านข้อความนี้ เจ้าผู้มาแดนไกล ข้าขออวยพรให้เป็นครั้งสุดท้าย ขอฟากฟ้าจงคุ้มครองให้เจ้าแคล้วคลาดจากอันตราย ขอพสุธาจงอวยพรให้เจ้าก้าวถึงจุดหมายที่วาดฝัน ขอดวงดาวจงนำทางให้เจ้าก้าวเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่หลงเดินในทางผิด และกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ยินดีที่ได้รู้จัก และลาก่อนเช่นเดียวกัน”

.

.

.

.

.

.

.

...และข้าคงยังนอนอยู่ในหลุมแบบนั้นจนรากงอกสมใจ แต่ไม่เลย! โชคชะตาของข้าต้องพลิกผันในอีกหนึ่งพันปีให้หลัง ชนิดดิ่งลงเหวอย่างที่นรกก็ยังฉุดรั้งไว้ไม่อยู่ เมื่อเจ้าทาสในอนาคตหมายเลขหนึ่งของข้าขับยานสำรวจลำยักษ์ลงมาจากอวกาศเพื่อทำการสำรวจโลกเก่า [Earth-01] ซึ่ง... เป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากนักแม้แต่สำหรับมังกรที่มีอายุยืนยาวก็ตาม 


จากในความทรงจำของมารดา มีไม่บ่อยหรอกที่พวกเราจะเห็นเจ้าสิ่งต่างดาวขับยานบินเข้ามาใกล้วงโคจรโลก เพราะครั้งล่าสุดที่พวกมันทำเช่นนั้น พวกมันต้องเสียยานลำยักษ์ที่มีไปเกือบทั้งหมดเพราะต้านแรงโน้มถ่วงและสนามแม่เหล็กของโลกที่เสียสมดุลอย่างหนักไม่ได้ สุดท้ายก็มีเพียงไม่กี่ลำเท่านั้นที่สามารถบินกลับขึ้นฟ้าได้สำเร็จโดยไม่ถูกทำลาย


แล้วก็อย่างที่เห็น มันลงมาสำรวจเฉยๆก็ไม่ได้ว่าอะไร บังเอิญพบป้ายหลุมศพของข้าเข้าแล้วเกิดสนใจมากก็ยังน่าดีใจอยู่แหละ แต่... 


ไอ้การลงแรงขุดเอากลับไปยานแม่มัน ทั้งป้ายข้า และตัวข้าที่ฝังอยู่ในดิน นี่มันใช่เรอะ?!


...สงสัยหรือไม่ว่าเจ้าทาสในอนาคตหมายเลขหนึ่งสามารถอุ้มร่างของข้าขึ้นไปบนยานได้อย่างไร? เพราะหากข้าเป็นมังกรที่อายุตั้งสองพันกว่าปีเข้าไปแล้วจริง ข้าก็ควรจะมีขนาดตัวพอๆ กับยานของมันนั่นแหละ


ตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นสภาพร่างของตัวเองอีกครั้งในภายหลัง ข้าก็ตกใจเหมือนกัน


ร่างที่เคยใหญ่โตและสง่างามดั่งภูผาของข้า กลับหดตัวลงจนเหลือเพียงสภาพที่มีขนาดใหญ่เพียงหนึ่งส่วนสี่ของมนุษย์เท่านั้น


พูดง่ายๆ เลยก็คือว่าข้าเหลือตัวใหญ่เท่าแมวนั่นเอง


เจ้าทาสในอนาคตหมายเลขหนึ่ง แม้จะหน้านิ่งแต่ข้าก็มองแววตามันออกว่ามีความตื่นเต้นสนใจอยู่ในนั้น ซึ่งก็แน่ล่ะ เพราะมันไม่เคยเห็นสายพันธุ์อย่างข้ามาก่อนนี่นา หลังจากที่มันอุ้มข้าซึ่งกำลังมึนหนักซ้ำงงงวยสุดขีดเพราะโดนปลุกได้อย่างไรไม่รู้ขึ้นยาน ข้าก็สติไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่ จนภาพที่เห็นวูบวาบเป็นพักๆ (แหม ก็ข้าเพิ่งถูกขุดออกมาจากหลุมเองนี่นา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...คิดว่าข้าจะขำออกมั้ยนั่น) 


พอขึ้นไปบนยานลำยักษ์ของมันแล้ว มันก็ส่งชาวเผ่าเดียวกันกับมันมาตรวจสอบข้าหลายคน พวกเขาต่างก็ใส่หน้ากากหนาและสวมชุดปิดมิดชิดเสียจนข้าไม่เห็นหน้า รู้แต่เพียงว่ามีหนึ่งหัวกับสองมือสองเท้า พวกนั้นพยายามวัดหัววัดตัว ชั่งน้ำหนักข้าหลายครั้ง หลังจากนั้นมันก็ย้ายข้าไปไว้ในห้องกระจกแก้วที่น่าประหลาด บนพื้นเต็มไปด้วยหมอนนุ่มนิ่มปูทับกันจนกลายเป็นเตียงขนาดใหญ่ ทำให้ข้าอดไม่ได้ที่เผลอขยับกลิ้งไปมาอย่างสบายตัวสบายใจ 


ข้าไม่ได้หนุนหมอนนอนเลียนแบบมนุษย์อย่างนี้มานานแล้ว


กระทั่งข้าเริ่มที่จะง่วงและหลับลงอีกครั้งนั่นแหละ ข้าถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าร่างมังกรของข้าในตอนนี้ มันหดเล็กลงจนมีขนาดเท่ากับหมอนใต้ร่างตัวเองเลยนี่หว่า


....เฮ้อม


ทำไมการที่มังกรตัวนึงจะตรอมใจตัวเองตาย ถึงต้องเจอเรื่องท้าทายมากมายแบบนี้ด้วย...


ท้อใจชิบผาย


....


นอนต่อดีกว่าเรา


 





[TALK: 

ปุจฉา: ปังอะไรเอ่ย?

วิสัชนา: ปังปินาศ]