เมื่อเด็กสาวที่ป่วยใกล้ตายวิงวอนขอพรต่อสวรรค์ขอให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ฟังเสียงร้องจากเธอ เธอตายจากไปจากโลกนี้ไปแต่จู่ๆเธอกลับได้ไปพบเจอกับโลกใหม่อีกใบที่แสนประหลาด

บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ) - ตอนที่ 1 จะจีบหรืออะไร? โดย M990 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,อื่นๆ,จูบฉ่ำ,พระเอกขี้หึง,โลกคู่ขนาน,เอาแต่ใจ,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกครั่งรัก,หึงหวง,รักแฟนตาซี,ครั่งรัก,โรมานซ์แฟนตาซี,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จูบฉ่ำ,พระเอกขี้หึง,โลกคู่ขนาน,เอาแต่ใจ,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกครั่งรัก,หึงหวง,รักแฟนตาซี,ครั่งรัก,โรมานซ์แฟนตาซี,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เมื่อเด็กสาวที่ป่วยใกล้ตายวิงวอนขอพรต่อสวรรค์ขอให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ฟังเสียงร้องจากเธอ เธอตายจากไปจากโลกนี้ไปแต่จู่ๆเธอกลับได้ไปพบเจอกับโลกใหม่อีกใบที่แสนประหลาด

ผู้แต่ง

M990

เรื่องย่อ

สุชาดาเด็กสาววัยสิบเก้าปีบริบูรณ์จู่ๆในคืน


วันเกิดของเธอก็เกิดเรื่องราวเลวร้ายบางอย่าง

ขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว วันที่13-3-2023 คือวัน

คล้ายวันเกิดของเธอในอายุครบสิบเก้าปีบริบูรณ์

ในตอนนั้นที่เกิดเรื่องคือเวลาจากห้าทุ่มห้าสิบห้า

ไปจนถึงเที่ยงคืนห้านาทีซึ่งเป็นเวลาของการที่

เวลาของดาราจักรกำลังจะปรับเปลี่ยนดวงพอดี

ตอนนั้นสุชาดากำลังจะเข้านอนหลังจากที่เธอ

และครอบครัวและเพื่อนพ้องฉลองวันเกิดเธอ

เสร็จ วินาทีที่เธอกำลังจะขึ้นไปนั่งบนเตียงจู่ๆ

เธอก็รู้สึกหน้ามืดแล้วก็ล้มลงสู่พื้นในทันทีแล้วก็

สลบไปในที่สุดโดยที่เธอยังคุยสายค้างอยู่กับ

ใครคนหนึ่งอย่างมีความสุข



"พรุ่งนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปสารภาพรัก

กับพี่เขา ฉันจะใจกล้าหน้าด้านขอพี่เขาเป็น

แฟนฉันช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะ"



"............…............"



"หมายความว่าไง!!!!!!"



ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนปลายสายพูดอะไรกับเธอ

หรือเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ที่จู่ๆก็ทำให้

เธอล้มลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับการหมดสติ

ไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พอรุ่งเช้าเธอตื่นขึ้นมา

เธอก็ได้พบว่าตัวเองได้นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

ที่โรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่ลืมตาขึ้น

มาเธอก็เห็นพ่อแม่พี่น้องญาติคนสนิทและเพื่อนๆ

ของเธอยืนล้อมข้างเตียงของเธอเต็มไปหมดและ

สีหน้าของแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักโดยเฉพาะ

คุณยายและคุณแม่ของเธอที่บนใบหน้าเห็นมีแต่

คราบน้ำตาเปื้อนหน้าเต็มไปหมด ทั้งสองคนต่าง

นั่งกุมมือสวยๆของเธออยู่อย่างไม่ห่างวางตาเลย

เหมือนภายในใจกำลังมีเรื่องให้กลุ้มใจอย่างหนัก

สุชาดาค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาช้าๆเพราะเธอรู้สึกว่า

ตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นเหนือการควบคุมมาก

จากสมองของเธอ ทันทีที่เธอมองเห็นทุกอย่าง

ได้อย่างชัดเจนเธอก็รีบฉีกยิ้มส่งให้กับทุกคน

เพื่ออยากจะบอกว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นสบายดีแล้ว



"แม่คะแม่เป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้ล่ะเกิดอะไร

ขึ้นหรอทำไมทุกคนถึงได้กลับมาอีกล่ะไม่ใช่ว่า

เมื่อกี้ทุกคนกลับบ้านไปนอนกันหมดแล้วหรอ

หรือว่ามีเซอร์ไพรส์วันเกิดอะไรให้หนูอีกหรอก

นะคะคุณแม่คุณยาย"



"ชาดาลูก!!! อย่าพึ่งพูดอะไรมากเลยนะคนดี

ของยายตอนนี้หลานสาวคนดีของยายหิวมั้ย

อยากกินน้ำหรือหิวข้าวหรือเปล่าลูก"



"คุณยายคะคุณยายเป็นอะไรคะร้องไห้ทำไม

เจ้านันตามันทำอะไรให้ยายโมโหอีกแล้วใช่มั้ย

คะเนี่ย คุณยายไม่ร้องนะเดี๋ยวหนูจะจัดการมัน

ให้คุณยายนะโอเคมั้ย ไม่ร้องนะคะไม่ร้อง"



สุชาดายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าให้กับ

คุณยายสมรของเธอพร้อมกับเอ่ยปลอบใจโดย

ที่เธอก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไรกับพฤติกรรมที่

แปลกไปของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น พอเธอฟื้นขึ้น

มาได้เพียงไม่นานเหล่าคุณหมอและพยาบาลก็

ต่างพากันได้วิ่งวุ่นเข้ามาในห้องของเธออีกครั้ง

เพราะเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาได้ไม่นานเธอก็เกิดอาการ

หัวใจวายเฉียบพลันช็อกหมดสติไปอีกครั้งโดย

ที่ครั้งนี้อาการเธอนั้นหนักลงกว่าเดิมมาก



"คุณหมอคะลูกของฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ

ทำไมแกที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาก็กลับไปเป็นแบบนี้ได้

อีกบอกเราเถอะค่ะคุณหมอ"



"หมอต้องบอกแบบนี้ครับ ผู้ป่วยตอนนี้หลังจาก

ที่ช่วยกลับมาได้อาการก็ยังคงทรงตัวอยู่ครับ

แต่หมอก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่าให้ญาติเริ่ม

เตรียมใจไว้เลยเพราะเธอเป็นระยะสุดท้ายแล้ว

ที่ผ่านมาโรคไม่ส่ออาการให้เห็นอาจเป็นเพราะ

ร่างกายของคนไข้แข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็ง

ตอนนี้ก็ทำได้แค่พยุงอาการไม่ให้ทรุดลงกว่านี้

หมอจะจัดยาเพื่อไม่ให้เธอเจ็บปวดมากก่อนเธอ

จะจากไป"



"ลูกของฉันจะไม่รอดแล้วหรอคะไม่มีทางรักษา

ได้เลยงั้นหรอคะคุณหมอ ช่วยเธอหน่อยเถอะ

นะคะเธออายุเพิ่งจะสิบเก้าปีเองได้โปรดเถอะค่ะ

หาทางช่วยเธอที"



"ญาติคนไข้ครับ หมอเองก็รู้ดีแล้วในใจก็เห็นใจ

คนไข้มากเหมือนกันแต่ในสามเดือนที่ผ่านมานี้

เราหาทางและปรึกษากับหลายๆโรงพยาบาลแม้

กระทั่งหมอผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศแล้วทุกคน

ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเคสนี้หาได้ยากมากๆ

ปกติแล้วคนไข้ส่วนมากถ้ามีเนื้องอกที่มีก้อนใหญ่

มากขนาดนี้เกิดขึ้นในร่างกาย ร่ายกายน่าจะมี

ปฏิกิริยาอะไรบ่งบอกออกมาบ้างแต่นี่เธอเป็นมา

นานมากแล้วจนเข้าขั้นระยะสุดท้ายของโรคแล้ว

เธอจะมามีอาการก็ตอนที่หนักแล้วไม่สามารถที่

จะรักษาได้แล้ว ผมไม่อยากจะพูดคำนี้หรอกนะ

ครับแต่ไม่มีทางรักษาได้แล้วจริงๆหมอเสียใจด้วย

จริงๆนะครับ เธออาจจะอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนแล้ว

ในระหว่างนี้ถ้าเกิดคนไข้ฟื้นขึ้นมาญาติก็ควรใช้

เวลากับคนไข้ให้ได้มากที่สุดอยู่กับเธอเป็นกำลัง

แรงใจให้เธอเผื่อเธอจะอยู่กับเราให้ได้นานที่สุด"



"ไม่เกินเดือน!!!! ยัยหนูของยาย"





สุชาดาหลังจากช็อกแล้วถูกยื้อชีวิตกลับคืนมา

ได้อีกครั้งพอหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาสีโลกของ

เธอก็เปลี่ยนไป เธอเมื่อได้สติกลับคืนมาแต่ยัง

ไม่ทันจะได้ลืมตามองดูหน้าใครๆหูของเธอก็

พลันได้ยินคำพูดของคนในครอบครัวของตัวเอง

จนหมดแล้วว่าเธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึง

หนึ่งเดือนสาเหตุเป็นเพราะเธอมีเนื้องอกในก้าน

สมองซีกซ้ายขนาดใหญ่อีกทั้งเจ้าเนื้องอกตัวนี้

ก็ได้ก่อเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงไปแล้วทั่วสมองถึง

แม้นว่าถ้าผ่าก็ใช่ว่าจะมีทางรอดโอกาสที่จะรอด

นั้นเป็นศูนย์ เนื้อก้านสมองถูกมะเร็งกัดกินลาม

เป็นวงกว้างไปทั่วทุกที่ของสมองเพราะฉะนั้น

หมอจึงแนะนำให้ญาติคนไข้ทำใจ และมันก็เป็น

แบบนั้นจริงๆสุชาดาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนเธอก็พลัน

จากโลกใบนี้ไปอย่างสงบ



"ถ้านรกหรือสวรรค์มีจริงได้โปรดท่านช่วยรับฟัง

คำขอจากหนู นางสาวสุชาดา พิเศษโสณี คนนี้

สักครั้งจะได้มั้ยคะปีนี้หนูเพิ่งจะอายุแค่สิบเก้าปี

เองนะคะท่าน ท่านใจดีให้หนูได้เกิดมาแล้วทำไม

ท่านไม่ปล่อยให้หนูได้อยู่สร้างความดีให้โลกใบนี้

อีกสักหน่อยล่ะคะท่าน หนูยังไม่มีโอกาสได้เรียน

มหาลัยให้จบเลยหนูยังไม่มีโอกาสที่จะหาเงินมา

ตอบแทนคุณพ่อแม่ปู่ย่าตายายเลยหนูยังไม่ได้

มีโอกาสพาครอบครัวของหนูไปเที่ยวที่ไหนสวยๆ

สักที่เลยหนูยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องชายดีๆ

เลยเราสองคนพี่น้องส่วนมากก็เอาแต่ทะเลาะกัน

ตลอดจนพ่อแม่ต้องไม่ค่อยสบายใจ หนูเป็นพี่สาว

โตจนถึงป่านนี้ก็ยังไม่เคยได้สอนน้องทำการบ้าน

เลยสักครั้งแล้วอีกอย่างหนูโตมาจนถึงป่านนี้หนู

ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนเมื่อหลายเดือนก่อนนี้

หนูเพิ่งจะไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงมากะว่าจะได้ไป

สารภาพรักกับพี่เขาอยู่แล้วแท้ๆแต่ท่านก็จะมา

พรากหนูไปเสียก่อน แบบนี้หนูจะพูดว่าท่านทำ

กับหนูแบบไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยหนูพูดได้มั้ยคะ

หนูอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อถึงจะให้ได้ไม่นานอย่าง

น้อยๆก็น่าจะให้หนูได้เตรียมใจก่อนสักนิดนะคะ

หนูขอสักปีสองปีก็ได้ถ้าปีสองปีมันมากไปหนูขอ

แค่ปีเดียวก็ได้สิบเดือนก็ได้ห้าวันก็ยังดีให้หนูได้

มีโอกาสได้ทำใจได้บอกลาครอบครัวหนูอีกสัก

หน่อยจะได้รึเปล่า ขอร้องล่ะค่ะท่านอย่าใจร้าย

กับเด็กน้อยอย่างหนูนักเลยได้โปรดเถอะนะคะ

ได้โปรดให้หนูได้ร่ำลาพวกเขาอีกสักนิดก่อนไป

ได้มั้ยคะได้โปรดล่ะหนูขอร้องนะคะท่าน"



------ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด------



เสียงเครื่องวัดชีพจรร้องดังขึ้นยาวๆเพื่อแจ้งเตือน

ว่าคนไข้ได้เสียชีวิตแล้ว ลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ของสุชาดาถูกพ้นออกมาใส่หน้ากากเครื่องช่วย

หายใจเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็หมดลงไปหลังจาก

นั้นในห้องก็มีแต่เสียงร้องไห้โดยความโศกเศร้า

และเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นที่รักคนหนึ่ง

ของครอบครัวพิเศษโสณี สุชาดาหลั่งน้ำตาหยด

สุดท้ายออกมาแล้วจากไปอย่างกายสงบแต่ภาย

ในจิตใจกลับมีแต่ความหม่นหมองจิตใต้สำนึก

ของใจกลับเต็มไปด้วยคำขอร้องจากสวรรค์หรือ

คนที่กุมอำนาจอยู่เบื้องบนฟ้าที่แสนไกล





อีกหนึ่งซีกของมิติจักรวาลแสนไกล



ณ.กรุงบีดีมัลล์ แห่งฟลอเทียร์



"ท่านคะได้โปรดให้โอกาสหนูได้มีชีวิตอีกครั้ง

เถอะนะคะ ท่านคะหนูขอร้อง!!!!!"



เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มสดใสนอนหลับอยู่บนเตียง

เธอดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับพูดพร่ำเพ้อละเมออะไร

ออกมาโดยที่คนเป็นแม่ก็ฟังไม่ค่อยได้ความมาก

ดีลิสเดรียเดินเข้าห้องมาปลุกผู้เป็นลูกสาวอย่าง

เช่นทุกๆวันเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา



"อิสซี!!! อิสซี!!!! ตื่นได้แล้วนะลูกรักสายแล้ว

อิสซีจ๊ะอิสซี!!!"



"แม่คะ!!!! หนูยังไม่อยากตายพ่อคะช่วยหนูที"







คำเตือน



ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน

วิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้

ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุติ

นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง

และความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มี

เจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆ

ที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหา

อาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศ

และตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อน

ข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริง

และเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริง

มากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ

อ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณ

ไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่

ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏
























สารบัญ

บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 1 จะจีบหรืออะไร?,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 2 อาคาเดรคือเป้าหมาย,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 3 หนูเป็นสายเลือดสุดพิเศษค่ะ,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 4 ลาแล้วโลกที่เคยอยู่,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 5 คุณเป็นแม่เก่าหนูหรอ,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 6 เพื่อนเก่าในโลใหม่

เนื้อหา

ตอนที่ 1 จะจีบหรืออะไร?

12:15 นาที



กรุงเทพมหานคร



"เด็กน้อยวันนี้เรียนเป็นไงบ้างก้าวหน้าขึ้นบ้าง

รึเปล่า ใกล้จะสอบปิดเทอมแล้วมีแพลนจะไป

เที่ยวที่ไหนไว้บ้างรึยัง(ซอฟ)"



ชายหนุ่มรูปหล่อสูงขาวตากลมคิ้วเข้มดกดำ

เดินส่งยิ้มหวานหล่อลอยเอ่ยทักรุ่นน้องปีหนึ่ง

มาแต่ไกล เสียงทุ้มต่ำฟังแล้วละมุนหูนั่นคือเสียง

ของพ่อเทพบุตรจากแดนทรวงสวรรค์ของสุชาดา

รุ่นพี่สุดหล่อโปรไฟล์ดีเลิสเดือนสุดหล่อเท่ของ

คณะศิลปศาสตร์ (ซอฟ นายพีรดล กองแก้วษา)

รุ่นพี่ปีสามที่ช่วงนี้ชอบตามมาคุยตีสนิทกับชาดา

อยู่บ่อยๆประหนึ่งว่าเหมือนอยากจะจีบเธอไปเป็น

แฟน เมื่อหญิงสาวสี่ห้าคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ใต้ร่มไม้

ต้นสนหันไปมองก็พบว่าเป็นพี่ซอฟสุดหล่อคนดี

คนเดิมที่ตอนนี้เดินชอคอเสนอหน้าหล่อๆเดิน

หล่อลอยมาแต่ไกลพร้อมกับคำถามที่คล้ายๆกัน

ซ้ำๆอยู่ทุกวัน สุชาดาเมื่อเห็นซอฟก็เกิดอาการ

ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำตัวไม่ค่อยจะถูกเพราะเขา

คนนี้คือคนที่เธอนั้นหลงรักมาเกือบปี



"เสียงที่คุ้นเคยมาอีกแล้วจ้า!! มาทักทายทุกวันๆ

แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าจีบแล้วจะให้เรียกว่าอะไรได้

อีกล่ะใช่มั้ยพวกแก!!(ยูเน่)"



"พูดอะไรบ้าๆน่ายัยเน่ แกก็รู้ว่าพี่ซอฟเขาเป็น

คนอัธยาศัยดีมากแค่ไหนที่พี่เขามาทักทาย

พวกเราทุกวันก็แค่มารยาทมั้ย!!(ชาดา)"



"แหม่ะๆๆแหม๊ะ!!!! ค้าาาาาแม่คนโลกสวยแม่คน

มองแต่แง่บวกอ่อนต่อโลกมาก!!!ใสนะซื่อเนาะ

หล่อนเอ่ยวาจานี้ขึ้นมาเพื่อจะหลอกใครกันคะ

ชะนีน้อยร้อยเขี้ยว(มิริน)"



"นี่ยัยมิชะนีน้อยบ้านแกหน้าตาเจ้าเล่ห์ขนาดนี้

เลยหรอหน้าตาแบบนี้มันงูพิษชัดๆเลยเหอะค่ะ

นี่แม่สาวน้อยแกจะแกล้งใสไปอีกนานมั้ยฮะ แก

ไม่สงสารพี่เขาหรือไง ฉันว่าแกรีบๆบอกพี่เขาไป

เหอะว่าปิดเทอมใหญ่นี้แล้วแกจะไปเที่ยวที่ไหน

ไปกับใครไปยังไง(แอเรียล)"



"ก่อนที่จะบอกปัดหรืออะไรนะยัยชาดาแกบอก

ให้พี่เขาเลิกซื้อขนมพวกนี้มาให้แกสักทีจะได้มั้ย

พี่เขาซื้อมาพวกแกก็ไม่ยอมกิน สุดท้ายแล้วไอ้

ความลำบากนี้มันตกมาที่ใครมันตกมาที่ท้องกู

นี่ค่ะสาว นี่มึงรู้มะว่าเดือนนี้น้ำหนักกูขึ้นไปอีก

เท่าไหร่ สองกิโลค่ะสาว!!!! กูเครียดมากเลยนะ

เว็บตอนเนี้ยหุ่นกูแค่ไหนมาก็เป็นถังแก๊สอยู่แล้ว

ตอนนี้เห็นนี่มั้ยว่าคอกูจะไม่มีแล้วค่ะ(ตั้ล)"



สาวสวยออกหล่ออย่างตั้ลบ่นโวยวายกับเพื่อน

เมื่อเธอเห็นว่าในมือของซอฟวันนี้ก็ถือถุงขนม

แบบเดิมๆติดไม้ติดมือมาเหมือนเดิม ตั้ลบ่นขึ้น

เสียงดังจนเพื่อนๆที่นั่งข้างๆต้องคอยช่วยกัน

ห้ามปรามเพราะกลัวว่าคนที่หิ้วมาฝากจะได้ยิน

แล้วรู้สึกไม่ดี



"ไอ้ตั้ลมึงรีบหุบปากไปเลยนะมึงพี่เขาเดินเข้า

มาใกล้แล้วเดี๋ยวเขาได้ยินเขาจะเสียใจ(มิริน)"



มิรินสาวสวยหุ่นแซ่บแบบฉบับนางแบบรีบยก

มือขึ้นมาปิดป้องปากหมาๆของเพื่อนสาวเอาไว้

ก่อนที่รุ่นพี่จะมาได้ยินแล้วจะคิดไปในทางที่ผิด



"ว่าไงคะเด็กน้อย เมื่อกี้คุยอะไรกันอยู่หรอเห็น

คุยกันสนุกสนานเชียวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่(ซอฟ)"



ซอฟเดินมาหยุดอยู่ข้างๆชาดาพร้อมกับก้มโค้ง

เอาใบหน้าหล่อๆลงมามองหน้าชาดาที่ในระยะ

ประชิด ซอฟมองตามองหน้าแล้วจ้องลงมาที่

ริมฝีปากของแม่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับ

ฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ให้เธอไปอีกหนึ่งกรุบจนคนที่

ถูกมองด้วยสายตาที่อ่อยใจละลายอยู่ดีแทบจะ

ไม่ได้แล้ว 



"อ้อ!!...คือว่า คือพวกเราก็แค่คุยกันไปเรื่อยเปื่อย

ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะรุ่นพี่(ชาดา)"



ชาดายิ้มแห้งพร้อมกับกระพริบตาปริบๆแล้วรีบ

เอียงตัวและหน้าออกจากระยะประชิดนั่นอย่าง

เหนียมอาย เธอรู้ดีว่าเป็นเธอเองที่ไม่กล้าที่จะ

สู้สายตานั้นของเขาได้หรอกเพราะสายตาที่

สุดแสนจะขี้อ่อยของรุ่นพี่นั้นอาจจะทำให้ใจ

ของเธอตกที่นั่งลำบากได้เพราะเขาสำหรับเธอ

มีดาเมจที่รุนแรงมากถ้าขืนปล่อยให้เขาเข้ามา

จ้องตาใกล้ๆบ่อยๆแบยนี้เธอาจจะช็อกไปเลย

ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

​​​​​​

"รุ่นพี่คะมันยังไงกันแน่คะเนี่ย รุ่นพี่เล่นเช้าถึง

เที่ยงถึงเย็นถึงยัยชาดาของเราแบบนี้คิดอะไร

กับมันรึเปล่าคะเนี่ย(ยูเน่)"



"แล้วคิดว่าไงล่ะครับน้องยูเน่ ที่น้องยูเน่พูดมา

ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่ครับ(ซอฟ)"



ซอฟพูดพลางหันไปมองหน้าชาดาแล้วก็ส่งยิ้ม

เหมือนจะแอบๆเขินให้กับชาดา ยิ่งชาดาเห็นและ

ได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ่งมั่นใจว่ารุ่นพี่คนนี้บางทีแล้ว

เขาก็อาจจะมีใจตรงกันกับเธอก็เป็นได้



"ดูพูดเข้า!! พูดจากำกวมแบบนี้จะให้คิดยังไง

กันคะถ้าจะจีบก็พูดมาตรงๆเลยสิหรือว่ารุ่นพี่

มีปัญหาในการใช้ศัพท์ภาษาไทย ทำไมคะ!!!!

ถ้าพูดตรงๆมันจะทำให้ความเท่ความหล่อของ

พี่ลดน้อยลงรึไง ผู้ชายแบบนี้น่าเบื่อนะ(ตั้ล)"



ตั้ลเปิดปากพูดดังคอซอฟอย่างตรงไปตรงมา

จนเพื่อนๆแทบจะเอามือปิดปากหมาๆของเธอ

แทบจะไม่ทัน ซอฟสีหน้าเปลี่ยนทันทีเมื่อเขา

ได้ยินคำพูดเหล่านั้นคำพูดที่ทั้งเสียดทั้งแทง

เข้าเป้ากลางใจเขาจนเกือบกระอักเลือดตาย

ซอฟหุบยิ้มทันทีแล้วพูดว่าขอตัวเพียงสั้นๆแล้ว

เขาก็รีบเดินจากไปด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสบ

อารมณ์สักเท่าไหร่นัก แต่เมื่อซอฟเดินหันหลัง

จากไปตั้งก็เปลี่ยนท่าทีทันทีเธอหันกลับมาหยิบ

ห่อขนมขึ้นมาแกะๆแงะๆแล้วจับขนมหย่อนเข้า

ปากอยู่ดี เธอตีเนียนทำสีหน้าท่าทางตีมึนกิน

ขนมต่อไปจนชาดาจำต้องรีบลุกเดินตามหลัง

ซอฟไปเพื่อที่จะขอโทษขอโพยแทนเพื่อนเธอ



"นี่อีตั้ล!!! กูรู้นะว่าที่เมื่อกี้มึงพูดกันท่ารุ่นพี่ไป

แบบนั้นเป็นเพราะมึงหึงไอ้ชาดามันอ่ะ แต่มึงก็

ต้องเข้าใจมันนะเว้ยว่ามันไม่ได้ชอบผู้หญิงอ่ะ

คนที่มันชอบก็คือเขาคนนั้น กูรู้ว่าตัวมึงเองก็

พอที่จะดูออกว่ามันแคร์รุ่นพี่มากแค่ไหนแล้ว

มึงเองก็แคร์มันมากเหมือนกัน ถ้ามึงชอบมัน

จริงๆมึงควรจะบอกมันว่ามึงชอบมันแล้วให้มัน

ตัดสินใจของมันเองไม่ใช่มึงจะไปพูดหยาบๆ

กับพี่เขาแบบนั้น แบบนั้นเขาเรียกหมาหวงของ

ไม่มีสิทธิ์หรอกแต่หวงไปงั้น(มิริน)"



"เดี๋ยวๆ!!! มิรินมึงหมายความว่าไงนี่สรุปคือว่า

อีตั้ลมึงแอบชอบอีชาดาหรอ ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่

แล้วชอบมานานแค่ไหนแล้วเนี่ยนี่ถ้ามิรินมันไม่

หลุดปากพูดออกมาพวกกูจะถูกพวกมึงปิดตา

ไปอีกนานแค่ไหน รีบๆอธิบายมาให้ละเอียดเลย

นะนังตัวดีถึงว่าล่ะชอบชวนนังชะนีน้อยชาดา

ไปเที่ยวไหนต่อไหนอยู่บ่อยๆที่แท้เป็นแบบนี้

นี่เอกหรอกหรอ เข้าใจแล้ว(ยูเน่)"



"ปิดพวกกูซะมิดชิดเลยนะมึงอีตั้ล ถ้าพวกกูไม่

รู้วันนี้ถ้าต่อไปเกิดอีนังชะนีน้อยนั่นมันเล่นด้วย

กับมึง มึงไม่พามันไปล้วงลับตับไตลับหลังพวก

กูนานแล้วหรอเนี่ยฮะอีตั้ล หวังแดกเพื่อนเงียบๆ

เลยนะคะมึงอีดอก(แอเรียล)"



"อีดอกไม่พูดแปลได้ว่ามึงยอมรับนะคะอีห่า

นี่มึงหวังแอบอยากกินตับมันจริงๆหรอเนี่ยฮะ

อีเพื่อนเลว!!! อย่างอีชะนีน้อยนั่นน่ะมันไม่เอา

มึงหรอกแต่ถ้าเป็นพวกกูก็ไม่แน่นะจะเอาแก้

ขัดก่อนป่ะล่ะพวกกูก็แซ่บนะคะมึง(ยูเน่)"



ยูเน่พูดจาหลอกล่อยียวนกวนประสาทตั้ลหวัง

ว่าตั้ลจะขำแล้วเลิกคิดมากเรื่องเพื่อนแต่ตั้ลกลับ

เอาจริง ตั้ลหลี่ตาลงแล้วยื่นหน้าสวยเข้มๆเข้าไป

หายูเน่พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแอบดุดัน

ตั้ลเอ่ยเชิงกระซิบที่จ้างหูของยูเน่พร้อมกับทำ

หน้าทำตาขิงข่าตะไคร้ใส่อีกเป็นเข่งเป็นตะกร้า



"อีเน่เพื่อนร้าย!!! กูไม่ได้เก่งแค่ใช้มือล้วงนะเว้ย

ลิ้นกูก็ไม่เคยด้อยไปกว่านิ้วกูเลยนะมึง อยากจะ

ลองดูสักครั้งสองครั้งหน่อยมั้ยล่ะแต่บอกไว้ก่อน

เลยนะกูกลัวว่าถ้ามึงได้ลองแล้วอาจจะติดใจจน

ลืมอะไรของแฟนมึงไปเลย(ตั้ล)"



ยูเน่เมื่อถูกตั้ลพูดเชิงเย้ยปนขู่จู่ๆเธอก็รู้สึกขน

ลุกซู่ขึ้นมาในทันที ยูเน่หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันควัน

พร้อมกับมีท่าทางที่เลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกเลย

จนมิรินกับแอเรียลต้องรีบพูดตัดบทสวนขึ้นมา

ก่อนที่เพื่อนของพวกเธอทั้งสองจะเปิดฉากหยุม

หัวกันจนตายไปข้างหนึ่ง



"เอาเถอะๆพอได้แล้วจะล้อกันก็มีขอบเขตด้วย

นะพวกมึงอะ เรามาคุยกันเรื่องของขวัญวันเกิด

ของยัยชะนีน้อยดีกว่านะอีกสามวันเองไม่ใช่หรอ

วันเกิดนัยชะนีน้อย พวกแกจะเอาอะไรเป็น

ของขวัญให้มันกูคิดไม่ออกว่ะว่าจะให้อะไรมัน

ดี(แอเรียล)"



"พูดถึงเรื่องนี้กูก็ลืมไปเลย เมื่อวานพอดีกูได้มี

โอกาสได้คุยกับแม่ของยัยชะนีน้อยท่านบอกว่า

วันเกิดของยัยชะนีน้อยปีนี้พวกท่านอยากจะทำ

เซอร์ไพรส์สักหน่อยแต่พวกท่านยังไม่มีไอเดีย

ท่านเลยอยากขอไอเดียจากพวกเรา(มิริน)"



ทั้งสี่สาวต่างพากันช่วยกันคิดช่วยกันกันปรึกษา

หาลือเรื่องที่แม่บัวแม่ของชาดาขอร้องมาว่าปีนี้

อยากจะทำเซอร์ไพรส์งานวันเกิดให้ชาดาโดยที่

ลืมไปเลยว่าชาดาได้หายไปนานพอสมควรแล้ว

ชาดาเดินตามหลังไปขอโทษรุ่นพี่แล้วพูดคุยกัน

จนเข้าใจกันดีแล้วและอีกฝ่ายก็ให้อภัยเพื่อนของ

เธอแล้วชาดาจึงเดินจะกลับมาหาเพื่อน แต่ทว่า

เธอกลับเดินมาไม่ถึงเพราะในระหว่างทางที่กำลัง

เดินมาเธอกลับล้มสลบลงระหว่างทางมา



               ~~~~~ตุ๊บ!!!!!!!!!~~~~



"โอ๊ย!!!!!!!!"



.

.

.

.

.

⏭️โปรดติดตามตอนต่อไป⏩