เมื่อเด็กสาวที่ป่วยใกล้ตายวิงวอนขอพรต่อสวรรค์ขอให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ฟังเสียงร้องจากเธอ เธอตายจากไปจากโลกนี้ไปแต่จู่ๆเธอกลับได้ไปพบเจอกับโลกใหม่อีกใบที่แสนประหลาด

บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ) - ตอนที่ 3 หนูเป็นสายเลือดสุดพิเศษค่ะ โดย M990 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,อื่นๆ,จูบฉ่ำ,พระเอกขี้หึง,โลกคู่ขนาน,เอาแต่ใจ,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกครั่งรัก,หึงหวง,รักแฟนตาซี,ครั่งรัก,โรมานซ์แฟนตาซี,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จูบฉ่ำ,พระเอกขี้หึง,โลกคู่ขนาน,เอาแต่ใจ,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกครั่งรัก,หึงหวง,รักแฟนตาซี,ครั่งรัก,โรมานซ์แฟนตาซี,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,ต่างโลก,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

เมื่อเด็กสาวที่ป่วยใกล้ตายวิงวอนขอพรต่อสวรรค์ขอให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ฟังเสียงร้องจากเธอ เธอตายจากไปจากโลกนี้ไปแต่จู่ๆเธอกลับได้ไปพบเจอกับโลกใหม่อีกใบที่แสนประหลาด

ผู้แต่ง

M990

เรื่องย่อ

สุชาดาเด็กสาววัยสิบเก้าปีบริบูรณ์จู่ๆในคืน


วันเกิดของเธอก็เกิดเรื่องราวเลวร้ายบางอย่าง

ขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว วันที่13-3-2023 คือวัน

คล้ายวันเกิดของเธอในอายุครบสิบเก้าปีบริบูรณ์

ในตอนนั้นที่เกิดเรื่องคือเวลาจากห้าทุ่มห้าสิบห้า

ไปจนถึงเที่ยงคืนห้านาทีซึ่งเป็นเวลาของการที่

เวลาของดาราจักรกำลังจะปรับเปลี่ยนดวงพอดี

ตอนนั้นสุชาดากำลังจะเข้านอนหลังจากที่เธอ

และครอบครัวและเพื่อนพ้องฉลองวันเกิดเธอ

เสร็จ วินาทีที่เธอกำลังจะขึ้นไปนั่งบนเตียงจู่ๆ

เธอก็รู้สึกหน้ามืดแล้วก็ล้มลงสู่พื้นในทันทีแล้วก็

สลบไปในที่สุดโดยที่เธอยังคุยสายค้างอยู่กับ

ใครคนหนึ่งอย่างมีความสุข



"พรุ่งนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปสารภาพรัก

กับพี่เขา ฉันจะใจกล้าหน้าด้านขอพี่เขาเป็น

แฟนฉันช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะ"



"............…............"



"หมายความว่าไง!!!!!!"



ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนปลายสายพูดอะไรกับเธอ

หรือเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ที่จู่ๆก็ทำให้

เธอล้มลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับการหมดสติ

ไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พอรุ่งเช้าเธอตื่นขึ้นมา

เธอก็ได้พบว่าตัวเองได้นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

ที่โรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่ลืมตาขึ้น

มาเธอก็เห็นพ่อแม่พี่น้องญาติคนสนิทและเพื่อนๆ

ของเธอยืนล้อมข้างเตียงของเธอเต็มไปหมดและ

สีหน้าของแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักโดยเฉพาะ

คุณยายและคุณแม่ของเธอที่บนใบหน้าเห็นมีแต่

คราบน้ำตาเปื้อนหน้าเต็มไปหมด ทั้งสองคนต่าง

นั่งกุมมือสวยๆของเธออยู่อย่างไม่ห่างวางตาเลย

เหมือนภายในใจกำลังมีเรื่องให้กลุ้มใจอย่างหนัก

สุชาดาค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาช้าๆเพราะเธอรู้สึกว่า

ตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นเหนือการควบคุมมาก

จากสมองของเธอ ทันทีที่เธอมองเห็นทุกอย่าง

ได้อย่างชัดเจนเธอก็รีบฉีกยิ้มส่งให้กับทุกคน

เพื่ออยากจะบอกว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นสบายดีแล้ว



"แม่คะแม่เป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้ล่ะเกิดอะไร

ขึ้นหรอทำไมทุกคนถึงได้กลับมาอีกล่ะไม่ใช่ว่า

เมื่อกี้ทุกคนกลับบ้านไปนอนกันหมดแล้วหรอ

หรือว่ามีเซอร์ไพรส์วันเกิดอะไรให้หนูอีกหรอก

นะคะคุณแม่คุณยาย"



"ชาดาลูก!!! อย่าพึ่งพูดอะไรมากเลยนะคนดี

ของยายตอนนี้หลานสาวคนดีของยายหิวมั้ย

อยากกินน้ำหรือหิวข้าวหรือเปล่าลูก"



"คุณยายคะคุณยายเป็นอะไรคะร้องไห้ทำไม

เจ้านันตามันทำอะไรให้ยายโมโหอีกแล้วใช่มั้ย

คะเนี่ย คุณยายไม่ร้องนะเดี๋ยวหนูจะจัดการมัน

ให้คุณยายนะโอเคมั้ย ไม่ร้องนะคะไม่ร้อง"



สุชาดายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าให้กับ

คุณยายสมรของเธอพร้อมกับเอ่ยปลอบใจโดย

ที่เธอก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไรกับพฤติกรรมที่

แปลกไปของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น พอเธอฟื้นขึ้น

มาได้เพียงไม่นานเหล่าคุณหมอและพยาบาลก็

ต่างพากันได้วิ่งวุ่นเข้ามาในห้องของเธออีกครั้ง

เพราะเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาได้ไม่นานเธอก็เกิดอาการ

หัวใจวายเฉียบพลันช็อกหมดสติไปอีกครั้งโดย

ที่ครั้งนี้อาการเธอนั้นหนักลงกว่าเดิมมาก



"คุณหมอคะลูกของฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ

ทำไมแกที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาก็กลับไปเป็นแบบนี้ได้

อีกบอกเราเถอะค่ะคุณหมอ"



"หมอต้องบอกแบบนี้ครับ ผู้ป่วยตอนนี้หลังจาก

ที่ช่วยกลับมาได้อาการก็ยังคงทรงตัวอยู่ครับ

แต่หมอก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่าให้ญาติเริ่ม

เตรียมใจไว้เลยเพราะเธอเป็นระยะสุดท้ายแล้ว

ที่ผ่านมาโรคไม่ส่ออาการให้เห็นอาจเป็นเพราะ

ร่างกายของคนไข้แข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็ง

ตอนนี้ก็ทำได้แค่พยุงอาการไม่ให้ทรุดลงกว่านี้

หมอจะจัดยาเพื่อไม่ให้เธอเจ็บปวดมากก่อนเธอ

จะจากไป"



"ลูกของฉันจะไม่รอดแล้วหรอคะไม่มีทางรักษา

ได้เลยงั้นหรอคะคุณหมอ ช่วยเธอหน่อยเถอะ

นะคะเธออายุเพิ่งจะสิบเก้าปีเองได้โปรดเถอะค่ะ

หาทางช่วยเธอที"



"ญาติคนไข้ครับ หมอเองก็รู้ดีแล้วในใจก็เห็นใจ

คนไข้มากเหมือนกันแต่ในสามเดือนที่ผ่านมานี้

เราหาทางและปรึกษากับหลายๆโรงพยาบาลแม้

กระทั่งหมอผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศแล้วทุกคน

ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเคสนี้หาได้ยากมากๆ

ปกติแล้วคนไข้ส่วนมากถ้ามีเนื้องอกที่มีก้อนใหญ่

มากขนาดนี้เกิดขึ้นในร่างกาย ร่ายกายน่าจะมี

ปฏิกิริยาอะไรบ่งบอกออกมาบ้างแต่นี่เธอเป็นมา

นานมากแล้วจนเข้าขั้นระยะสุดท้ายของโรคแล้ว

เธอจะมามีอาการก็ตอนที่หนักแล้วไม่สามารถที่

จะรักษาได้แล้ว ผมไม่อยากจะพูดคำนี้หรอกนะ

ครับแต่ไม่มีทางรักษาได้แล้วจริงๆหมอเสียใจด้วย

จริงๆนะครับ เธออาจจะอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนแล้ว

ในระหว่างนี้ถ้าเกิดคนไข้ฟื้นขึ้นมาญาติก็ควรใช้

เวลากับคนไข้ให้ได้มากที่สุดอยู่กับเธอเป็นกำลัง

แรงใจให้เธอเผื่อเธอจะอยู่กับเราให้ได้นานที่สุด"



"ไม่เกินเดือน!!!! ยัยหนูของยาย"





สุชาดาหลังจากช็อกแล้วถูกยื้อชีวิตกลับคืนมา

ได้อีกครั้งพอหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาสีโลกของ

เธอก็เปลี่ยนไป เธอเมื่อได้สติกลับคืนมาแต่ยัง

ไม่ทันจะได้ลืมตามองดูหน้าใครๆหูของเธอก็

พลันได้ยินคำพูดของคนในครอบครัวของตัวเอง

จนหมดแล้วว่าเธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึง

หนึ่งเดือนสาเหตุเป็นเพราะเธอมีเนื้องอกในก้าน

สมองซีกซ้ายขนาดใหญ่อีกทั้งเจ้าเนื้องอกตัวนี้

ก็ได้ก่อเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงไปแล้วทั่วสมองถึง

แม้นว่าถ้าผ่าก็ใช่ว่าจะมีทางรอดโอกาสที่จะรอด

นั้นเป็นศูนย์ เนื้อก้านสมองถูกมะเร็งกัดกินลาม

เป็นวงกว้างไปทั่วทุกที่ของสมองเพราะฉะนั้น

หมอจึงแนะนำให้ญาติคนไข้ทำใจ และมันก็เป็น

แบบนั้นจริงๆสุชาดาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนเธอก็พลัน

จากโลกใบนี้ไปอย่างสงบ



"ถ้านรกหรือสวรรค์มีจริงได้โปรดท่านช่วยรับฟัง

คำขอจากหนู นางสาวสุชาดา พิเศษโสณี คนนี้

สักครั้งจะได้มั้ยคะปีนี้หนูเพิ่งจะอายุแค่สิบเก้าปี

เองนะคะท่าน ท่านใจดีให้หนูได้เกิดมาแล้วทำไม

ท่านไม่ปล่อยให้หนูได้อยู่สร้างความดีให้โลกใบนี้

อีกสักหน่อยล่ะคะท่าน หนูยังไม่มีโอกาสได้เรียน

มหาลัยให้จบเลยหนูยังไม่มีโอกาสที่จะหาเงินมา

ตอบแทนคุณพ่อแม่ปู่ย่าตายายเลยหนูยังไม่ได้

มีโอกาสพาครอบครัวของหนูไปเที่ยวที่ไหนสวยๆ

สักที่เลยหนูยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องชายดีๆ

เลยเราสองคนพี่น้องส่วนมากก็เอาแต่ทะเลาะกัน

ตลอดจนพ่อแม่ต้องไม่ค่อยสบายใจ หนูเป็นพี่สาว

โตจนถึงป่านนี้ก็ยังไม่เคยได้สอนน้องทำการบ้าน

เลยสักครั้งแล้วอีกอย่างหนูโตมาจนถึงป่านนี้หนู

ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนเมื่อหลายเดือนก่อนนี้

หนูเพิ่งจะไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงมากะว่าจะได้ไป

สารภาพรักกับพี่เขาอยู่แล้วแท้ๆแต่ท่านก็จะมา

พรากหนูไปเสียก่อน แบบนี้หนูจะพูดว่าท่านทำ

กับหนูแบบไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยหนูพูดได้มั้ยคะ

หนูอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อถึงจะให้ได้ไม่นานอย่าง

น้อยๆก็น่าจะให้หนูได้เตรียมใจก่อนสักนิดนะคะ

หนูขอสักปีสองปีก็ได้ถ้าปีสองปีมันมากไปหนูขอ

แค่ปีเดียวก็ได้สิบเดือนก็ได้ห้าวันก็ยังดีให้หนูได้

มีโอกาสได้ทำใจได้บอกลาครอบครัวหนูอีกสัก

หน่อยจะได้รึเปล่า ขอร้องล่ะค่ะท่านอย่าใจร้าย

กับเด็กน้อยอย่างหนูนักเลยได้โปรดเถอะนะคะ

ได้โปรดให้หนูได้ร่ำลาพวกเขาอีกสักนิดก่อนไป

ได้มั้ยคะได้โปรดล่ะหนูขอร้องนะคะท่าน"



------ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด------



เสียงเครื่องวัดชีพจรร้องดังขึ้นยาวๆเพื่อแจ้งเตือน

ว่าคนไข้ได้เสียชีวิตแล้ว ลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ของสุชาดาถูกพ้นออกมาใส่หน้ากากเครื่องช่วย

หายใจเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็หมดลงไปหลังจาก

นั้นในห้องก็มีแต่เสียงร้องไห้โดยความโศกเศร้า

และเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นที่รักคนหนึ่ง

ของครอบครัวพิเศษโสณี สุชาดาหลั่งน้ำตาหยด

สุดท้ายออกมาแล้วจากไปอย่างกายสงบแต่ภาย

ในจิตใจกลับมีแต่ความหม่นหมองจิตใต้สำนึก

ของใจกลับเต็มไปด้วยคำขอร้องจากสวรรค์หรือ

คนที่กุมอำนาจอยู่เบื้องบนฟ้าที่แสนไกล





อีกหนึ่งซีกของมิติจักรวาลแสนไกล



ณ.กรุงบีดีมัลล์ แห่งฟลอเทียร์



"ท่านคะได้โปรดให้โอกาสหนูได้มีชีวิตอีกครั้ง

เถอะนะคะ ท่านคะหนูขอร้อง!!!!!"



เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มสดใสนอนหลับอยู่บนเตียง

เธอดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับพูดพร่ำเพ้อละเมออะไร

ออกมาโดยที่คนเป็นแม่ก็ฟังไม่ค่อยได้ความมาก

ดีลิสเดรียเดินเข้าห้องมาปลุกผู้เป็นลูกสาวอย่าง

เช่นทุกๆวันเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา



"อิสซี!!! อิสซี!!!! ตื่นได้แล้วนะลูกรักสายแล้ว

อิสซีจ๊ะอิสซี!!!"



"แม่คะ!!!! หนูยังไม่อยากตายพ่อคะช่วยหนูที"







คำเตือน



ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน

วิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้

ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุติ

นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง

และความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มี

เจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆ

ที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหา

อาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศ

และตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อน

ข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริง

และเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริง

มากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ

อ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณ

ไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่

ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏
























สารบัญ

บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 1 จะจีบหรืออะไร?,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 2 อาคาเดรคือเป้าหมาย,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 3 หนูเป็นสายเลือดสุดพิเศษค่ะ,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 4 ลาแล้วโลกที่เคยอยู่,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 5 คุณเป็นแม่เก่าหนูหรอ,บันทึกรักนายซุปตาร์(The Star's Love)ข้ามมิติ)-ตอนที่ 6 เพื่อนเก่าในโลใหม่

เนื้อหา

ตอนที่ 3 หนูเป็นสายเลือดสุดพิเศษค่ะ

13-03-2523

"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู"



เสียงผู้คนมากหน้าหลายตาร้องเพลงวันเกิด

ร่วมฉลองสังสรรค์ให้กับเจ้าของวันเกิดดังขึ้น

ต่อเนื่องอยู่สักประมาณห้าถึงหกนาที เมื่อเสียง

ร้องจบลงไฟก็ถูกเปิดให้สว่างจ้าอีกครั้ง



"สุขสันต์วันเกิดนะลูกรักของพ่อกับแม่ ปีนี้อายุ

สิบเก้าแล้วนะโตเป็นสาวแล้วตอนนี้เป็นนักศึกษา

สาวของมหาลัยแล้ว ต่อจากนี้ไปทำตัวให้ดีกว่า

เดิมรู้ความให้มากเป็นคนดีของสังคมด้วยเป็น

เด็กน้อยที่รู้ความของพ่อแม่และคุณยายด้วยนะ

พ่อแม่ขอให้ลูกสาวแม่ในวันเกิดและอนาคตใน

ภายภาคหน้าต่อไปพบเจอแต่ความสุขและความ

เจริญอย่าได้เจ็บป่วย เป็นสาวสวยที่มีสุขภาพที่ดี

และแข็งแรงต่อปีตลอดไปนะลูกรัก"



แม่บัวคำแสนกับพ่อสุมาหรันเอ่ยกล่าวคำอวยพร

ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้เป็นลูกสาวอย่างจริงใจ สุชาดา

พนมมือรับคำอวยพรจากพ่อกับแม่พร้อมน้ำตา

ที่คลอเบ้าเพราะปลื้มใจในความเซอร์ไพรส์นี้และ

เธอก็ไม่ลืมที่จะโผเข้าไปโอบกอดพ่อกับแม่อย่าง

ดีใจอย่างสุดซึ้ง 



"ถึงทียายจะอวยพรบ้าง มานั่งลงใกล้ๆยายนี่มา

ยายก็ขอให้เจ้าหญิงตัวน้อยของยายจากนี้ต่อไป

พบเจอแต่ความโชคดีไม่ว่าหนูคิดจะทำอะไรหรือ

ต้องการจะทำอะไรก็ขอให้หลานยายสมพรด้วย

ทุกประการที่ปราถนา ถ้าต่อไปในวันข้างหน้าหาก

อยากจะมีคู่ครองก็ให้ลูกได้พบเจอกับคนที่ดีๆนะ

ถึงต่อให้ในภายภาคหน้าหลายยายจะไปตกระกำ

ลำบากอยู่ที่ไหนก็ขอให้มีคนคอยดูแลอุ้มชูให้หนู

พ้นภัยนะคะสุชาดาของยาย"



คุณยายสายสมรอวยพรสุดลึกล้ำแต่คำอวยพร

แปลกๆตอนสุดท้ายมันกลับไปสะกิดต่อมความ

กังวลใจให้กับใครหลายๆคนรวมไปถึงพ่อแม่ของ

เจ้าของวันเกิดด้วย คืนนี้เป็นคืนวันเกิดที่ชาดานั้น

มีความสุขมากๆเธอนั่งคุยเล่นกับเพื่อนๆอยู่นาน

ค่อยตัดใจปล่อยเพื่อนๆของเธอกลับบ้านไปนอน



23:55นาที



หลังจากที่เพื่อนๆและแขกเหรื่อกลับไปจนหมด

สุชาดาก็ได้รับสายหนึ่งด้วยรอยยิ้มปลื้มปริ่มที่

สุดของหัวใจเพราะซอฟยกหูต่อสายโทรมาเพื่อ

อวยพรวันเกิดให้กับเธอและเมื่อวางสายจากซอฟ

ก็มีอีกหนึ่งสายโทรมาหาเธอ



"ว่าไงทำไมวันนี้ถึงไม่มางานวันเกิดฉันล่ะจ้ะ"



"โทษทีนะที่ไม่ได้ไปพอดีมีธุระด่วน แต่ก็ยังทัน

โทรมาอวยพรนะ"



"อย่าพึ่งๆ..เรื่องอวยพรเอาไว้ก่อนนะเพราะฉันมี

เรื่องจะปรึกษาเธออ่ะ...คือว่าฉัน..แบบว่านะคือ..

พรุ่งนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปสารภาพรัก

กับพี่เขา ฉันจะใจกล้าหน้าด้านขอพี่เขาเป็น

แฟนฉันช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะ"



"ชะดา!!! คือว่าพี่เขาพี่ซอฟเขาพึ่งจะขอฉัน

เป็นแฟนก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันเอง เธอ.."



"หมายความว่าไง!!!!!!"



"ฉันกับพี่ซอฟเราสองคนตกลงคบกันแล้ว"



"ไม่มีทาง..ถ้าคบกับเธอแล้วฉันจะทำยังไง

ทำไมเธอทำกับฉันแบบนี้เราเป็นเพื่อนรักกัน

เลยนะเธอ...เธอ...เธอทำไมถึงได้ทำ..."





ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนปลายสายพูดเรื่องสะเทือน

กับเธอหรือเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ที่จู่ๆ

ก็ทำให้เธอล้มตึงหงายหลังลงไปนอนกองอยู่กับ

พื้นพร้อมกับการหมดสติไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว





แอสตั้ลทาวน์ กรุงพาโจลแห่งฟลอเทียร์



"ผมรู้ว่าเป็นเพราะความหวังดีของพี่แต่ผมไม่

ต้องการผู้ช่วยอีกแล้วจริงๆนะ ทาเทียพี่ช่วยฟัง

คำขอของผมบ้างเถอะนะได้โปรดยกเลือกการ

คัดเลือกหาผู้ช่วยคนนี้ของผมเถอะนะพี่"



น้ำ​เสียงที่ทุ้มนุ่มละมุนหูที่​ยิ่งฟังไปเท่าไหร่ก็ยิ่ง

น่าลุ่มหลงของบีดีสเวล​​​​​ ซุปตาร์ชายหนุ่มผู้เพียบ

พร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาบุคลิกท่าทางอันทรงสง่า

นั่งเหมือนจะอ้อนวอนขอร้องผู้จัดการส่วนตัวถึง

เรื่องที่ทาเทียเปิดรับสมัครหาผู้ช่วยคนที่ห้าให้

กับดีดีสเวลซุปตาร์ตัวท็อปในสังกัดของเขา



"ดีสเวลยอดรักของพี่นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ

เดือนนี้นายไล่ผู้ออกไปกี่รายแล้ว นายไม่รู้ตัว

หรือไงว่าตัวเองเป็นคนที่เอาใจยากมากแค่ไหน

เรื่องเยอะเรื่องแยะเป็นที่หนึ่งฉันเลยต้องหาคนที่

จะเอานายอยู่หมัดมารับมือกับนายไง"



"ผมไม่เคยเรื่องมากพี่เองก็รู้ แล้วพวกผู้ช่วยที่

ผ่านมาพวกเขาถูกผมไล่ออกก็เป็นเพราะตัวของ

พวกเขาเองล้วนๆไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยสักนิด

แล้วที่ผมมีอยู่ก็เพียงพอแล้วไหนจะบอดี้การ์ด

อีกเป็นโขยงนั่นอีก ผมไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย

ด้วยซ้ำตอนเนี้ย เอ๊ะ!!! หรือผมจะตัดปัญหาง่ายๆ

โดยการอำลาวงการเลยดีมั้ยแบบนี้ง่ายกว่าเยอะ"



"หยุดๆ!!!! หยุดความคิดพวกนั้นไปเลยนะดีสเวล

รู้มั้ยว่าถ้านายออกจากวงการไปปัญหาใหญ่มัน

จะตามมาอีกบานเลย จะมีคนไม่น้อยที่อดตาย

เพราะนายเป็นร้อยเป็นพันชีวิตเพราะฉะนั้นห้าม

คิดเด็ดขาดเพราะฉันไม่มีทางยอมแน่นอน"



"งั้นพี่ก็ให้พื้นที่ส่วนตัวกับผมบ้างสิครับ นี่อะไร

พี่เล่นรับงานให้ผมตลอดทั้งปีแบบนี้ผมเหนื่อย

มากนะรู้มั้ยพี่ นี่แล้วเรื่องหน้าที่ใกล้จะถ่ายทำนั่น

อีกนะ ผมได้อ่านบทคร่าวๆแล้วฉากเลิฟซีนแล้ว

ก็ฉากจูบจะเยอะไปไหน นี่ถ้าถ่ายจบมีหวังผม

ได้ปากเปื่อยแน่ถ้าจะให้จูบกันเกือบทุกซีนแบบ

นั้น พูดแล้วก็น่าปวดหัวเอาเป็นว่าเรื่องผู้ช่วยคน

ที่ห้าคนที่หกปัดตกไปไม่ต้องรับสมัครมาอีก"



"ไม่ได้หรอกเพราะพี่ได้รับเขาเข้ามาทำงานแล้ว

แล้ววันพรุ่งนี้เธอคนนั้นก็จะมาทำงานแล้วด้วย

คนนี้เป็นเด็กพึ่งจะเรียนจบมาหน้าตาก็ดีใช้ได้เลย

ด้วย ตัวเล็กๆหุ่นอรชรอ้อนแอ้นเอวบางๆปากนิด

จมูกหน่อยผิวนี่ขาวเนียนเชียวล่ะ เห็นว่าเธอเป็น

แฟนคลับของนายด้วยนะไม่แน่เธออาจจะเข้าใจ

นายก็ได้นะดีสเวล เปิดใจหน่อยเถอะนะที่รัก"



"พี่รับมาพี่ก็รับผิดชอบเองก็แล้วกันนะเพราะผม

จะขอปฏิเสธไม่เอาผู้ช่วยอีก ได้โปรดเข้าใจตรง

กันด้วยนะครับพี่"



ดีสเวลเขาพูดปฏิเสธด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยพร้อม

กับเดินไปหาอะไรกินในครัวโดยที่ไม่สนใจทาเทีย

ที่เอ่ยวาจาตามหลังของเขาเลยแม้แต่น้อยนิด



"พี่ครับ.. พี่จะกินอะไรก่อนแล้วค่อยกลับมั้ยพี่

ผมจะทำสลัดกินพี่จะเอาด้วยมั้ย"



"ไม่ล่ะ!! พี่มีนัดต้องไปคุยเรื่องสัญญาพรีเซ็นเตอร์

ของนายอีกสองตัว นายก็รีบกินรีบนอนพักผ่อนนะ

เพราะพรุ่งนี้นายต้องเข้าไปบริษัทเพื่อไปดูผู้ช่วย

คนใหม่ เด็กดีฟังคำพี่แล้วนายจะได้ดีนะที่รัก"



"พี่ก็รู้ว่าผมน่ะรวยอยู่แล้วไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน

ต่อให้ชาตินี้ผมไม่ทำงานผมก็มีกินมีใช้ทั้งชาติ

เรื่องนี้พี่น่าจะรู้ดีที่สุดนะครับ เพราะฉะนั้นพี่ไม่

จำเป็นที่จะต้องเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาต่อรองกับ

ผมซะให้ยากผมไม่ไปก็คือไม่ไปและไม่เอาก็คือ

ไม่เอาครับ"



"จ้ะพ่อคนรวยพ่อคนมีอันจะกินทั้งชาติแต่พี่ขอ

ถามนายหน่อยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่นายจะรอด

มาถึงปัจจุบันนี้มั้ยจริงอยู่ที่บ้านนายรวยมีเงิน

กอนท่วมหัวแต่แล้วมันยังไงล่ะ นายก็ไม่เป็น

ตัวเองได้ตามใจชอบอยู่ดีถ้าไม่ใช่เพราะนายเป็น

ดาราเป็นซุปตาร์ป่านนี้ครอบครัวนายคงจะบีบ

บังคับให้นายแต่งงานมีลูกหลานทายาทตระกูล

ดรอเทร์นัลเป็นห้าคนสิบคนไปนานแล้วมั้ง พูด

แบบนี้นายว่าฉันพูดถูกมั้ย รับใช้ชีวิตในยามที่ยัง

เป็นของตัวเองอยู่เถอะนะเด็กน้อยของพี่เพราะ

ดาราก็มีขาลงสักวันหนึ่งนายก็ต้องมีคนที่หล่อ

และแสดงเก่งมากฝีมือขึ้นมาแทนที่นาย พอถึง

ตอนนั้นนายค่อยมาต่อต้านฉันดีมั้ย"



"พี่ก็พูดซะไม่ให้ผมมีทางลงเลยเนี่ย ก็ไ​ด้ๆผมจะ

เข้าบริษัทตามคำที่พี่บอกแบบนี้คงจะพอใจแล้ว

ใช่มั้ยครับท่านราชินีผู้​ทรงเกียรติ"



"ก็แค่นั้น รีบกินรีบโตนะเด็กดีพี่ไปทำงานต่อล่ะ"



​​ทาเทียเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับรอยยิ้มร้าย

รอยยิ้มแห่งราชินีแม่มดอหังการรอยยิ้มแห่งปีศาจ

เป็นเธอคนเดียวในตอนนี้ที่สยบฝีปากที่แสนจะ

ร้ายกาจของบีดีสเวลได้อย่างอยู่หมัดและเธอเอง

ก็ยังหวังว่าบนจักรวาลนี้จะมีผู้หญิงอีกสักคนที่มา

คอยช่วยเธอปราบพยศดีสเวลช่วยเธออีกสักคน



เช้าของวันต่อมาอีสซีรีบตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง

ก็ด้วยเพราะความตื่นเต้นดีใจที่ในที่สุดเธอก็จะได้

ไปเจอกับไอดอลคนโปรดอย่างที่ใจเธอเฝ้าใฝ่ฝัน

เฝ้ารอคอยปราถนามาตลอดสิบกว่าปี อีสซีตื่นขึ้น

มาจัดเตรียมชุดสวยๆน่ารักๆแต่งหน้าทำผมเพื่อ

ความประทับใจแรกกับการเจอกับคนที่เธออยาก

จะเจอที่สุดในชีวิต อีสซีตื่นเช้ามากทั้งเช้าก็วุ่นวี่

วุ่นวายอยู่แต่กับการแต่งตัวจนผู้เป็นแม่ต้องห้าม

ปรามบอกคอยเตือนให้เธอคุมสติให้ได้เพราะมอง

แล้วคุณแม่กลัวว่าลูกสาวของเธออาจจะตกงาน

ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงานเพราะเสียอาการมากเกินไป



"อีสซีลูกรัก ลูกจงตอบแม่มาตามความเป็นจริง

เมื่อคืนลูกได้นอนบ้างมั้ยไม่ใช่ว่าลูกตื่นเต้นจน

เมื่อคืนไม่ยอมหลับยอมนอนหรอกนะใช่มั้ย"



ดีลีสเดรียเอ่ยวาจาเสียงนุ่มละมุนหูถามไถ่ลูกสาว

ด้วยความเป็นห่วงและเป็นกังวลกลัวทุกอย่างจะ

ต้องพังทลายลงเพราะความตื่นเต้นเกินเหตุของ

เธอเอง อีสซีเมื่อเห็นแล้วส่าคนเป็นแม่ดูออกเธอก็

ยิ้มแห้งแตกคนเป็นแม่ตั้งแต่เช้าตรู่เพราะเธอเอง

ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฎิเสธเพราะทุกคำที่แม่ของ

เธอพูดมามันคือเรื่องจริงทั้งหมด



"คุณแม่ขาาาา อีสซีขอโทษที่ทำตัวให้คุณแม่

ต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อยอีสซีไม่ปิดบังและไม่

ขอปฎิเสธว่าเมื่อคืนลูกไม่ได้นอนจริงๆค่ะ แต่

คุณแม่ก็ต้องเข้าใจลูกนะคะลูกผ่านการสมัคร

มาได้และลูกตะได้ไปเจอพี่เขาแล้วมันก็เป็นเรื่อง

ธรรมดาที่ลูกจะตื่นเต้นไม่ใช่เหรอคะคุณแม่

คุณแม่เองก็รู้ว่าลูกชอบพี่เขามากแค่ไหน วันนี้

เป็นการเริ่มต้นทำงานที่สำคัญของลูกวอนคุณแม่

อย่าดุอย่าว่าลูกเลยนะคะต่อไปลูกสัญญาว่าจะ

ไม่อดหลับอดนอนทำให้คุณแม่ต้องเป็นวังวลอีก"



หนูน้อยอีสซีทำเสียงเล็กเสียงน้อยออดอ้อนแม่

ของเธอด้วยท่าทางที่น่ารักน่าชังจนผู้เป็นแม่ต้อง

ยอมให้เหมือนดั่งเช่นทุกๆครั้งไป



10:12 นาที ที่บริษัทอาคาเดร



อีสซีตื่นเต้นมากๆเธอสัมผัสและรู้สึกได้ถึงเสียง

จองหัวใจเธอที่ตอนนี้มีนเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆและ

แทบจับจังหวะไม่ได้เลย ยิ่งวินาทีนี้ที่ดวงตาคู่สวย

ของเธอได้เห็นชายอันเป็นที่รักของเธอกำลังนั่ง

เจิดจรัสอยู่ตรงหน้าเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธออาจจะ

ช็อกตายตอนไหนก็ได้เพราะหัวใจเธอมันเต้นเร็ว

เกินกว่าคนปกติจะรับไหว



"หนูขอแนะนำตัวนะคะพี่ๆทุกคน หนูชื่ออีสซีเดรีย

อายุยี่สิบปีบริบูรณ์หนูมีสายเลือดเมเตพีคีนีค่ะพี่

แต่หนูจะพิเศษอยู่สักหน่อยคือพ่อของหนูเป็น

สายเลือดเมเตดุสวีแบบเลือดผสมส่วนแม่ของหนู

เป็นเมเตพีคีนีสายเลือดบริสุทธิ์ฉะนั้นหนูก็เลยถูก

บันทึกให้เป็นเมเตมิโนกันสายเลือดเฉพาะกลุ่ม"

(เมเตดุสวีคือสายเลือดของบุคคลชั้งสูงที่สุด

ส่วนเมเตพีคีนีเป็นสายเลือดบุคคลชนชั้นต่ำ

แบบรากหญ้าธรรมดาบ้านๆเบๆ ส่วนมิโนกัน

คือสายเลือดบริสุทธิ์พิเศษหาได้ยากถูกจัดให้

เป็นสายเลือดชนชั้น1+ หรือเรียกกันในหมู่กลุ่ม

คือสายเลือดสีเทาที่หาพบได้ยากจะมีแค่หนึ่ง

ในแสนหรือในล้าน)



"ถ้าเป็นแบบนั้นก็แสดงว่าฉันยังคงมีสายตาที่

เฉียบแหลมอยู่สินะ ควาวนี้หาผู้ช่วยให้ซุปตาร์

ได้สายเลือดมิโนกันซะด้วยถือได้ว่าล้ำค่ามาก"



ทาเทียเอ่ยชมตัวเองกับความสามารถที่สุดแสน

ที่จะบรรเจิดเลิศล้ำนี้ ทาเทียยิ้มร่าเริงดี๊ด๊าแต่พอ

เธอหันไปหาซุปตาร์คนโปรดของเธอเขากลับไม่

เห็นด้วยที่จะรับเธอมาทำงานนี้ บีดีสเวลที่นั่งฟัง

เด็กใหม่แนะนำตัวอยู่จู่ๆเมื่อเขาได้รู้ว่าเธอมีสาย

เลือดสีเทาเขาก็พลันส่ายหน้าทันทีและยังพูด

สั้นๆห้วนๆออกมาเพื่อเตือนสติผู้จัดการของเขา



"ผมไม่เห็นด้วยที่จะรับเอาคนที่มีสายเลือดของ

กุสติมา(ก็คล้ายกับพระเจ้า)มาทำงานกับเราผม

ต้องขอโทษด้วยที่จำเป็นที่จะต้องบอกว่าคุณ

ไม่ผ่านเกณฑ์"



"ทำไมล่ะคะหนูขอคำอธิบายหนูขอเหตุผลค่ะ"



"เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสายเลือดอย่างพวก

คุณเป็นสายเลือดที่เป็นลูกรักของกุสติมา ถ้าเกิด

ต่อไปในภายภาคหน้าหากคุณมีการได้ทำผิดกฎ

อะไรพวกเราจะไม่สามารถลงโทษพวกคุณได้เลย

ผมพูดแบบนี้คุณคงจะพอเข้าใจใช่มั้ย"



"แต่หนูยังไม่ได้เข้าร่วมพิธีกรรมอัคสะเลยนะคะ

หนูเป็นแค่ลูกหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาทั่วๆไป

ไก็โปรดเห็นใจหนูด้วยเถอะนะคะหนูต้องการงาน

นี้มากจริงๆ ได้โปรดเถอะค่ะพี่ทาเทียหนูของร้อง"



"ถึงตอนนี้คุณจะยังไม่ได้เข้าร่วมพิธีอัคสะแต่

พอคุณอายุยี่สิบห้าปีถ้าคุณยังไม่มีคนรักคุณก็

ต้องเข้าร่วมพิธีกรรมนั้นอยู่ดีนั่นก็แปลว่าคุณไม่

ผ่านเกณฑ์เชิญกลับบ้านไปเถอะครับผมก็ขอ

ร้องคุณเหมือนกันผมไม่อยากมีปัญหาตามมา

ทีหลัง"



"อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจนักสิดีสเวล ยังไงๆพี่ก็ยัง

คิดว่าน้องเขาน่าจะทำงานกับพวกเราได้อยู่นะ

ให้โอกาสน้องเขาหน่อยเถอะนะ เอาล่ะเอาเป็น

ว่าพี่รับเธอเข้าทำงานแต่พี่ขอเพียงแค่อย่างเดียว

อย่าทำอะไรที่มันเสี่ยงต่อการผิดกฎเด็ดขาดนะ

เพราะพี่กลัวจะรับผิดชอบเธอไม่ไหว"



"ขอบคุณค่ะพี่ทาเทีย ขอบคุณในความมีน้ำใจ

ของพี่นะคะหนูจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังเลยค่ะ"



"ดีจ้ะ ถ้างั้นเราก็ไปเรียนรู้งานและหน้าที่ของเธอ

กันดีกว่าเนาะไปเลยจ้ะตามรุ่นพี่ของเธอไปเรียน

รู้งานก่อนลงสนามจริง ขอให้โชคดีนะอีสซี"



ทาเทียเอ่ยส่งอีสซีไปทำงานเสร็จ จู่ๆดีสเวลก็พูด

ตัดบทออกมาอย่างหน้าตาเฉยโดยที่เขาก็ไม่ได้

รีรอให้อีสซีเดินออกไปพ้นขอบประตูออฟฟิศ



"ผมว่าทางที่ดีพี่เตรียมใจไว้บ้างก็ดีนะเพราะพี่

เลือกสายเลือดสีเทามาทำงานให้ พี่เชื่อผมสิว่า

ต่อไปในวันข้างหน้าเธอจะนำเรื่องร้ายแรงมาสู่

พวกเราแน่นอน"



.

.

.

.

.

⏭️โปรดติดตามตอนต่อไป⏩