อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"
ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,ครอบครัว,ไทย,พระเอกร้าย,ราคะ,หื่น,ทาสบำเรอกาม,นางบำเรอ,โรมานซ์,มาเฟียโหด,พระเอกครั่งรัก,พระเอกโหด,มาเฟีย,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"
ผู้แต่ง
M990
เรื่องย่อ
"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะ
ใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็ก
ตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้า
พวกคนใจบาปหยาบช้า"
อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้าง
ให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจาก
ข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตน
เธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่ง
จะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาท
แลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน
แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึง
หนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่
คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไร
ก็ได้แต่งวยงง
"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้
ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"
ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาว
ใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยว
เค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียง
ที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้า
ดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้า
เธอไม่ตอบคำถามเขา
"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิ
ถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"
"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่า
เธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้าง
ให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"
"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อ
แต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!
ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่า
ฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอ
น้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"
"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุย
กับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมด
ความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่า
ไปซะก่อน"
"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะ
เธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมี
นิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจ
เพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อน
แบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"
พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอก
ปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้า
เธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน
~ปัง ปัง ปัง ~
"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็ก
ตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิด
บ้างสิ"
"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิด
หูเขาไว้แล้ว.."
"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขา
ไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของ
พ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลัง
จดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็น
พ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้าง
หน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"
"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้
ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้น
ไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."
"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ย
ก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อ
ใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า
เด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่า
ว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!
คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหน
เขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆ
เขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตาย
แต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศ
หายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉัน
เปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิต
เธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมาก
แค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหน
ฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่
ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะ
ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขา
ชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้
ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่อง
พวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้าง
รึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูก
ตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"
อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยาม
อดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่
พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเอง
ก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่
ไม่น้อยเลย เธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้อง
มาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อม
แบบนี้
"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้ง
อย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"
"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่
ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้า
คุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉัน
คุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้า
เขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดู
ฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจ
เป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่ง
ต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะ
เป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตก
ทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะ
ช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมา
ด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำ
กับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรม
ชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดี
สำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อ
เขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่
คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียน
เขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้ม
กับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ย
มันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของ
คุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"
สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไป
เป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม
ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไป
กับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยัง
ไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไป
จากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้อง
กรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆ
มาหาอันนา พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาว
ของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหน
พีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีม
เพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้
เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและ
เอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอ
เธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆ
ที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำ
ภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึง
กับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะ
พีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ
"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ย
น้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยา
นั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนใน
ครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"
"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่
จะไปจัดการครับนาย"
"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยาก
จะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลย
แต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือ
แต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรอง
ว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"
พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้า
ลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้
เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับ
เหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้า
ที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่
เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีม
เอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้อง
ตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม
"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอ
มาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็น
พี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่าง
แล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะ
ซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"
คำเตือน
ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน
วิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้
ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุติ
นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง
และความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มี
เจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆ
ที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหา
อาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศ
และตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อน
ข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริง
และเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริง
มากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ
อ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณ
ไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่
ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏
ในห้องประชุมอันกว้างใหญ่ตอนนี้
มีผู้คนนับสิบคนกำลังนั่งทำหน้าเครียด
กันอยู่ จู่ๆก็มีเสียงมือถือดังขึ้นท่ามกลาง
ความเงียบ ถึงแม้นมือถือจะเริ่มดังขึ้น
เรื่อยๆและก็ดังมาสักพักแล้วแต่เจ้าตัว
คนเจ้าของเครื่องก็ยังไม่ทันจะรู้ตัว จน
สายตาของคนทั้งห้องจ้องมองมาที่เขา
เขาจึงตื่นตัวรู้ว่ามือถือของตนกำลังดัง
"ท่านประธานคะ...คือว่ามือถือท่าน
มันดังมาสักพักแล้วค่ะ...จะรับสาย
ก่อนมั้ยคะท่าน"
เลขาคนสวยช่วยเอ่ยปากเตือนสติ
เจ้านายอีกแรง เพราะดูจากตรงนี้
ท่านประธานคงจะยังไม่รู้ตัวสักเท่าไหร่
"ของผมหรอ...เป็นของผมเองหรอ"
"ค่ะ...ของท่านประธานเลยค่ะ...มันดัง
มาสักพักแล้วด้วยค่ะท่าน"
"โทษทีครับ...ผมมัวแต่ใจจดใจจ่อแต่
กับเรื่องในหัวมากไปหน่อย...งั้นผมรับ
สายสักครู่ล่ะกัน...พักเบรคสักสิบนาที
แล้วกันนะคุณสวย"
พีรพัฒน์หันไปสั่งเลขาก่อนจะลุกออก
จากเก้าอี้เพื่อเดินออกไปรับสายที่กำลัง
กดโทรมาอย่างดุเดือด
"รับทราบค่ะท่านประธาน"
พีรพัฒน์เดินทำหน้าหงิกออกมาจาก
ห้องประชุมพร้อมกับกดรับสายอย่าง
ท่าทางเซ็งๆ ประกอบกับตอนนี้เขาก็
กำลังอารมณ์ไม่ค่อยจะดี
"ว่าไง...มีอะไรว่ามา"
พีรพัฒน์เอ่ยขึ้นถามคนปลายสายด้วย
น้ำเสียงที่เข้มๆทุ้มๆจนคนปลายสาย
ต้องเงียบไปสักแป๊บแล้วค่อยกล้าที่จะ
เอ่ยปากตอบคำถาม
"ขอประทานอภัยครับนาย...พอดีที่นี่
...ที่โรงพยาบาลเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นครับ"
"มีอะไรว่ามา...ฉันกำลังประชุมอยู่"
"คุณหนูหายตัวไปครับนาย...ตอนนี้
ผมกำลังให้คนออกไปตามหาครับนาย"
"ว่าไงนะ!!!...ลูกฉันหายงั้นหรอกิตติ"
"ครับนาย"
"แล้วพวกแกเฝ้าลูกฉันยังไงให้หายไปได้
ไปเลยนะ...รีบให้คนตามหาให้เจอเลยนะ
ถ้าลูกฉันเป็นอะไรแม้นแต่ปลายเส้นผม
ฉันไม่เอาแกไว้แน่กิตติ...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"
เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิท
พีรพัฒน์ก็ถึงกับเข่าทรุด ก่อนจะกดมือถือ
โทรไปยกเลิกการประชุมครั้งนี้ พีรพัฒน์
เดินทำหน้าเข้มขมวดคิ้วเป็นปมออกจาก
บริษัทเพื่อไปขึ้นรถที่มาจอดรออยู่ที่หน้า
บริษัท ล้อรถหมุนเร็วจี๋มุ่งหน้าไปยัง
โรงพยาบาล
"ว่าไงอาเต๋อ...ได้เรื่องรึเปล่า"
"ทราบตัวคนทำแล้วครับนาย...ตอนนี้
ผมกำลังให้คนของเราเช็คกล้องวงจร
ทุกตัวแถวๆโรงพยาบาลแล้ว...อีกไม่นาน
ก็คงจะเจอตัวการแล้วครับ"
"ดี!!!!!...ถ้าจับได้ให้จับเป็นนะ...มันกล้าดี
ยังไงถึงได้มาล้วงคอคนอย่างฉันถึงที่"
"รับทราบครับนาย"
พีรพัฒน์กดวางสายพร้อมกับกัดฟันกรอด
มือไม้สั่นไปหมดเพราะความโกรธจัด เขา
เผลอใช้มือบีบมือถือจนสุดแรงที่มี
"คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันหวั่นได้
งั้นหรอ...ถ้าเด็กเป็นอะไรไปล่ะก็นะ
ฉันจะเล่นให้ครอบครัวเธอไม่เหลือแม้น
แต่ข้าวเอาไว้กรอกหม้อเลยคอยดูสิพิตา"
*****ตอนนี้เวลาผ่านไปก็เกือบจะ
ค่ำมืดแล้วป่านนี้คนของพีรพัฒน์ก็ยัง
คงตามหาตัวเด็กน้อยนั่นไม่เจอเลย
"ให้ผมแจ้งตำรวจดีมั้ยครับนาย...ให้
ตำรวจช่วยเราอีกแรงเผื่อเราจะเจอ
คุณหนูเร็วขึ้น"
"แกพูดเหมือนพึ่งมาทำงานกับฉันวันแรก
เลยนะกิตติ...แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบตำรวจ
คนอย่างฉันไม่จำเป็นจะต้องพึ่งตำรวจ"
กิตติเงียบไปในทันทีที่โดนด่า เขาก้มลง
โค้งคำนับอย่างรู้สึกผิดก่อนจะกล่าวคำ
ขอโทษออกมาเบาๆ
"ผมขอโทษครับนาย...ผมก็แค่ร้อนใจ
กลัวว่าเราจะหาตัวคุณหนูไม่เจอครับ"
"เอาเถอะ...ฉันไม่ถือโทษโกรธนาย
หรอกนะ...เอางี้นะ..ฉันวานให้นายพา
คนของเราช่วยกันตามหา...ไปขอดู
กล้องทุกจุด...ส่วนฉันกับอาเต๋อจะไป
เยี่ยมญาติฝ่ายหญิงสักหน่อย...ฝาก
ลูกฉันด้วยนะ...เธอก็เป็นเหมือนหลาน
ของนาย...ตามหายเธอให้เจอด้วยนะ"
"ครับนาย...ผมจะตามหาจนเจอครับ"
พูดจบพีรพัฒน์ก็เดินขึ้นรถไปเพื่อมุ่งหน้า
ไปยังบ้านของพิตาแม่ของเด็กน้อยคนนั้น
เมื่อรถพีระพัฒน์ไปถึงหน้าคฤหาสน์ใหญ่
ที่แสนจะสวยและมีการ์ดมากมายเฝ้าหน้า
ประตู เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงชี้นิ้วสั่งให้
ลูกน้องนับสิบๆคนกราดยิงใส่การ์ดที่กำลัง
ยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ข้างประตู
จนตายกันหมดทุกคน พร้อมกับสั่งให้
อาเต๋อลูกน้องมือขวาทำลายกุญแจบ้าน
แล้วบุกเข้าไปในบริเวณบ้านอย่างอุกอาจ
และบ้าคลั่ง ไม่ถึงสามนาทีคนในบ้าน
ก็รีบวิ่งออกมาดูว่าข้างหน้าบ้านนั้นกำลัง
เกิดอะไรขึ้น
"นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ยพีรพัฒน์
เป็นบ้าอะไรถึงได้ถือปืนมายิงคนกลางวัน
แสกๆแบบนี้...คิดว่าตัวเองมีอำนาจใหญ่
ล้นฟ้ามาจากไหนถึงได้กล้าทำเรื่องชั่วๆ
อุกอาจขนาดนี้..."
ชายสูงวัยคนนึงสาวเท้าฉับๆออกมาจาก
ในบ้านเพราะตื่นตระหนกตกใจเสียงปืน
พร้อมกับชี้หน้าด่าผู้มาเยือนแบบไม่ยั้งปาก
"ผมไม่เคยคิดว่าผมใหญ่โตมาจากไหน
หรอกครับท่าน...ผมมันก็เป็นแค่เด็กที่
ไม่รู้จักโต...ผมทำอะไรก็เอาตัวเองเป็น
ศูนย์กลางอยู่เสมอ...แต่ถึงยังไง..ผมก็
ยังเคารพท่านเหมือนพ่อคนนึงนะครับ"
พีรพัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมมากๆ
ถึงแม้นว่าภายในใจของเขาในตอนนี้จะ
ร้อนยิ่งกว่าถูกเปลวไฟนรกโลการนใจ
"นี่ขนาดแกเคารพฉันเปรียบเสมือนพ่อ
แล้วนะเนี่ย...แกยังกล้าฆ่าลูกน้องฉัน
ตายเกลื่อนกลาด...แล้วถ้าเกิดแกไม่
เคยคิดจะนับถือฉันแกไม่เอาปืนมาจ่อ
ยิงกระบาลฉันถึงบนเตียงนอนแล้วหรอ
แกนี่มันไม่รู้จักบุญคุณคนเลยจริงๆนะ"
"เชื่อเถอะครับว่าผมเคารพท่านเจ้าสัว
เสมือนพ่อของผมเอง...แต่วันนี้ที่มาที่นี่
ไม่ใช่เพราะเรื่องพวกนี้หรอกครับคุณอา
ที่ผมมาก็เพื่อจะมาตามหาเด็กครับ
ผมพอจะเดาออกว่าที่เด็กน้อยคนนั้น
หายตัวไป...ก็เป็นเพราะฝีมือของพิตา
ถ้าคุณอาเอาเด็กคืนมาให้ผม...ผมขอ
รับรองว่าผมจะไปจากที่นี่ทันทีเลย..."
พีรพัฒน์พูดด้วยท่าทีที่เย็นชามากๆ
สีหน้าของเขาดูไม่ได้จะเกรงกลัวบุคคล
ที่กำลังด่าเขาอยู่เลยสักนิด เขาใช้
สายตาจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวคนหนึ่ง
ที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
"นี่แกกำลังพูดถึงเรื่องบ้าอะไรอยู่งั้นหรอ
แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยยินดีปรีดาที่จะให้เจ้า
เด็กตัวปัญหานั่นเข้ามาอยู่ในบ้านของฉัน
แล้วมันจะมาอยู่ที่นี่ได้ไง...ไหนแกลองบอก
ฉันมาสิ"
"เรื่องนั้นผมเองก็ทราบดีครับว่าท่านเจ้าสัว
ไม่ได้อยากได้เด็กน้อยคนนั้นเข้ามาอยู่
ร่วมชายคา...ส่วนจะเป็นเพราะรังเกียจ
หรืออะไรก็แล้วแต่ผมไม่สนใจหรอก
ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นยอมเซ็นยกเด็กให้
ผมไปเลี้ยงแต่เพียงผู้เดียวแล้ว...เธอก็
ไม่มีสิทธิ์จะมาทำอะไรที่ไร้สาระแบบนี้
ท่านเองก็คงจะรู้จักนิสัย...อ้อไม่สิครับ
ต้องเรียกว่าท่านเองก็คงจะรู้จักสันดาน
ของผมดีพอ...ผมไม่ใช่เจ้าพีรพลน่าโง่
ที่จะมาทำอะไรก็ได้...ท่านก็รู้ใช่มั้ยครับ"
เจ้าสัวรังสรรค์ถึงกับไอความร้อนขึ้นหู
เพราะถูกพีรพัฒน์เจ้าเด็กจองหอง
พูดย้อนเกล็ดอย่างเสียหมา เจ้าสัวรังสรรค์
ถูกเด็กตอกหน้าจังๆจนหน้าชาไปชั่วขณะ
ก่อนจะตะโกนเสียงดังราวกับฟ้าผ่าเมือง
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน...แกกล้ามากนะที่
เดินเข้ามาขู่ฉันถึงในบ้าน...วันนี้ฉันจะทำ
ให้แกได้รู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่แกจะมาพูด
แบบนี้ด้วยได้...เด็กๆ!!!!...ไปจัดการมันซะ"
พลันพริบตาเดียวบอดี้การ์ดของท่าน
เจ้าสัวผู้ยิ่งใหญ่ก็ล้มลงไปนอนตายกองกัน
อยู่บนพื้นหญ้าจนเกือบหมด
"ผมว่าท่านส่งเด็กมาให้ผมซะก็สิ้นเรื่อง
อย่าฝืนธรรมชาติอีกเลยครับท่าน....
เดี๋ยวท่านจะเจ็บตัวซะเปล่าๆนะครับ
เก็บแรงไว้ไปเดินชมสวนน่าจะดีกว่า
นะครับ...แต่ถ้าท่านยังคงดื้อด้านอยาก
จะมีเรื่องให้ได้...ผมก็ทำให้มีได้นะครับ"
"ไอ้เด็กไร้มารยาท...ออกไปจากบ้านฉัน
เดี๋ยวนี้เลยนะ...ฉันกับแกนับตั้งแต่วันนี้
ความสัมพันธ์ที่ฉันกับพ่อของแกสร้างมา
มันขาดกันนับจากวินาทีนี้ไปไอ้เสือ!!!"
"แบบนั้นก็ยิ่งดีเลยครับ...งั้นก็ขออนุญาต
ล่วงเกินแล้วนะครับท่านเจ้าสัวรังสรรค์"
พีรพัฒน์แสยะยิ้มร้ายออกมาทางมุมปาก
พร้อมกับหันหน้าไปยิ้มเย้ยใส่พิตาผู้หญิง
ที่เขานั้นเกลียดที่สุดในโลก ก่อนจะหัน
หน้าไปตะโกนสั่งให้ลูกน้องบุกเข้าไป
ค้นหาตัวเด็กในบ้านท่านเจ้าสัวตามใจตัว
"เด็กๆ!!!...เข้าไปค้นในบ้าน...ใครมันกล้า
ขัดขวางทางปืนก็เป่ากระบาลมันได้เลย!!!!"
สายตาที่ดุร้ายถูกเอาออกมาใช้เพื่อข่มขู่
ทุกคนในบ้าน พีรพัฒน์ใช้สายตาแสดง
ออกว่าเขาไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหน
ในบ้านนี้เลย ลูกน้องส่วนหนึ่งของพีรพัฒน์
แยกย้ายกันเข้าไปค้นหาเด็กตามคำสั่ง
ในบ้านและส่วนที่เหลือก็คอยตรึงกำลัง
ยืนล้อมรอบตัวเจ้านายเอาไว้เป็นอย่างดี
"แกมันเด็กเปรต...ฉันไม่เอาแกไว้แน่"
"จริงครับ...ผมมันเด็กเปรตมาตั้งแต่เกิด
ขนานแท้...ผมชอบท่านนะครับที่แก่แล้ว
ก็ยังคงคิดว่าตัวเองยังพอมีกึ๋นอยู่บ้าง
ตาต่อตาฟันต่อฟันแบบนี้แหละครับ
ผมโคตรชอบเลย...ว่ามั้ยครับท่าน"
.
.
.
.
.
⏭️โปรดติดตามตอนต่อไป⏩