อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด) - ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่พึ่งจะรู้จักกัน โดย M990 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,ครอบครัว,ไทย,พระเอกร้าย,ราคะ,หื่น,ทาสบำเรอกาม,นางบำเรอ,โรมานซ์,มาเฟียโหด,พระเอกครั่งรัก,พระเอกโหด,มาเฟีย,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,ครอบครัว,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกร้าย,ราคะ,หื่น,ทาสบำเรอกาม,นางบำเรอ,โรมานซ์,มาเฟียโหด,พระเอกครั่งรัก,พระเอกโหด,มาเฟีย,รักวัยรุ่น,ดราม่า

รายละเอียด

อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

ผู้แต่ง

M990

เรื่องย่อ

"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะ


ใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็ก

ตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้า

พวกคนใจบาปหยาบช้า"





อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้าง

ให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจาก

ข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตน

เธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่ง

จะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาท

แลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน



แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึง

หนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่

คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไร

ก็ได้แต่งวยงง



"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้

ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"



ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาว

ใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยว

เค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียง

ที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้า

ดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้า

เธอไม่ตอบคำถามเขา



"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิ

ถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"



"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่า

เธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้าง

ให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"



"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อ

แต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!

ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่า

ฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอ

น้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"



"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุย

กับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมด

ความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่า

ไปซะก่อน"



"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะ

เธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมี

นิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจ

เพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อน

แบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"



พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอก

ปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้า

เธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน



           ~ปัง ปัง ปัง ~



"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็ก

ตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิด

บ้างสิ"



"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิด

หูเขาไว้แล้ว.."



"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขา

ไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของ

พ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลัง

จดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็น

พ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้าง

หน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"



"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้

ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้น

ไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."



"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ย

ก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อ

ใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า

เด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่า

ว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!

คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหน

เขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆ

เขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตาย

แต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศ

หายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉัน

เปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิต

เธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมาก

แค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหน

ฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่

ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะ

ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขา

ชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้

ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่อง

พวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้าง

รึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูก

ตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"



อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยาม

อดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่

พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเอง

ก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่

ไม่น้อยเลย เธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้อง

มาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อม

แบบนี้



"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้ง

อย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"



"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่

ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้า

คุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉัน

คุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้า

เขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดู

ฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจ

เป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่ง

ต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะ

เป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตก

ทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะ

ช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมา

ด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำ

กับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรม

ชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดี

สำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อ

เขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่

คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียน

เขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้ม

กับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ย

มันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของ

คุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"



สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไป

เป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม 

ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไป

กับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยัง

ไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไป

จากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้อง

กรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆ

มาหาอันนา พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาว

ของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหน

พีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีม

เพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ 



เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและ

เอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอ

เธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆ

ที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำ

ภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึง

กับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะ

พีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ



"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ย

น้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยา

นั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนใน

ครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"



"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่

จะไปจัดการครับนาย"



"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยาก

จะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลย

แต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือ

แต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรอง

ว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"



พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้า

ลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้

เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับ

เหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้า

ที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่

เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีม

เอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้อง

ตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม





"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอ

มาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็น

พี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่าง

แล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะ

ซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"





คำเตือน



ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน

วิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้

ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุติ

นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง

และความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มี

เจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆ

ที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหา

อาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศ

และตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อน

ข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริง

และเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริง

มากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ

อ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณ

ไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่

ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏













สารบัญ

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 2 ชื่อน้องเหมียวเหมี่ยวดีมั้ยนะ,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 3 นี่ลูกฉันเป็นอะไร,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 4 เคยรู้อะไรจริงๆบ้างมั้ย,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่พึ่งจะรู้จักกัน,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 7 ปลิดชีพศัตรูวิถีคนดิบเถื่อน,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 8 หาเรื่องจะกินน้องแล้วไงคุณพีรพัฒน์,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 9 เธออยากจะตายด้วยวิธีไหนเลือกมาเลย,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 10 Nc🔞ฉันจะจูบเธอให้เสียสติเลยคอยดู,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 11 อยากจูบตรงไหนก็จะจูบเหรอ

เนื้อหา

ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่พึ่งจะรู้จักกัน

"สองวันแล้วนะหมอนิ่ม...ทำไมน้องพีม

ถึงได้เอาแต่ร้องๆๆไม่ยอมหยุดแบบนี้

คุณไม่มีวิธีไหนอีกแล้วหรอ"



"คุณพีคะ...สองวันมานี้ฉันลองหลายวิธี

มากค่ะ...ทุกสิ่งที่คุณหนูพีมเคยชอบกิน

ของเล่นทุกชิ้นที่เคยชอบเล่น...ตอนนี้เธอ

ไม่เอาอะไรเลยสักอย่างค่ะ...ดูเหมือนว่า

เธอจะถูกเลี้ยงแบบใหม่หมด...เราจำเป็น

ที่จะต้องไปถามพี่เลี้ยงคนนั้นค่ะ...เธออาจ

จะมีวิธีทำให้เด็กหยุดร้องได้...ถ้าภายใน

วันสองวันนี้เด็กไม่หยุดร้องปอดอาจจะโต

ขยายมากกว่าที่จำเป็น...ไปถามเธอเถอะค่ะ"



"เป็นไปได้มั้ยว่าผู้หญิงคนนั้นจะเอาอะไร

ให้น้องพีมกิน...น้องพีมถึงได้ร้องราวกับ

ว่าเจ็บปวดมากขนาดนี้"



"ก็เป็นไปได้ค่ะ"



พีรพัฒน์เมื่อได้คำตอบที่อยากจะฟังแล้ว

เขาก็ลงไปที่ห้องมืดหลังสวนพร้อมกับไป

ดูหน้าแม่พี่เลี้ยงใจยักษ์ที่เป็นสาเหตุทำให้

ลูกสาวของเขาร้องไห้ไม่ยอมหยุด



"มันยังไม่ตายใช่มั้ย"



"ยังครับนาย...แต่แค่อ่อนแรงเพราะไม่ได้

กินอะไรเลยตั้งแต่มาที่นี่ครับ"



"แล้วไง...ถ้าจะใจเสาะตายเพราะได้อดข้าว

ก็ให้มันตายไปเลย...ปลุกมันขึ้นมา...ฉันจะ

ถามมันเองว่ามันอยากจะมีชีวิตอยู่หรือว่า

มันอยากจะตายตอนนี้"



ในห้องมืดๆถูกเปิดไฟสีส้มเพียงแค่หนึ่งดวง

พีรพัฒน์มองเห็นแต่เพียงว่าผู้หญิงที่อยู่

ตรงหน้าของเขาอายุอานามคงไม่น่าจะ

เกินยี่สิบต้นๆ แต่ก็ไม่ได้เห็นว่าใบหน้าของ

เธอนั้นเป็นอย่างไรแต่ดูแค่หุ่นกับผิวที่แขน

ดูเป็นคนที่หุ่นดีและมีผิวพรรณที่ขาวสะอาด

หมดจด สิ้นเสียงคำสั่งของเจ้านาย ลูกน้อง

ก็หยิบเอาน้ำหนึ่งถังมาสาดใส่ตัวเธอเพื่อ

จะทำให้เธอตื่นฟื้นมีสติ 



อันนาเมื่อถูกน้ำเย็นๆสาดใส่ร่างกายเธอก็

มีสติขึ้นมาทันที เธอค่อยๆลืมตามาแล้ว

สอดส่ายสายตาไปรอบก่อนตาลายเห็น

พีรพัฒน์เป็นพ่อตัวเอง



"พ่อคะ...พ่อมาช่วยหนูแล้วใช่มั้ยคะพ่อ

หนูอยากออกไปจากที่นี่...พ่อช่วยหนูที

นะคะ"



"นี่เธอ...ฉันไม่ใช่พ่อของเธอ...รีบๆมีสติ

แล้วตอบคำถามฉันมา..ถ้าเธออยากจะ

ออกไปจากที่นี่ในสภาพที่หายใจและครบ

สมบูรณ์แบบสามสิบสองก็รีบบอกมาว่า

ใครเป็นคนจ้างเธอให้ทำเรื่องเหล่านี้"



"คำถามเดิมๆแล้ว...ไม่ว่าจะเปลี่ยนคนถาม

อีกสักพันคนฉันก็มีคำตอบเดียวคือฉันไม่รู้

คนที่จ้างให้ฉันเลี้ยงเด็กเป็นใคร...แม้นแต่

หน้าหรือเสียงของเขาฉันก็ไม่เคยเห็นและ

ไม่เคยได้ยิน...เขาแค่ทิ้งจดหมายไว้กับเด็ก

ฉันรู้แค่นั้นจริงๆ"



"แค่จดหมาย!!!...เธอคิดว่าฉันโง่นักรึไง

ติดต่อกันทางจดหมายเนี่ยนะ"



"แล้วคนอย่างนายคิดว่าฉันจะโง่พอที่จะ

โกหกเพื่อให้ตัวเองมีสภาพแบบนี้งั้นหรอ

ถ้าฉลาดนักแล้วทำไมถึงได้ปล่อยให้คน

ลักพาตัวลูกตัวเองไปได้ล่ะ..ห๊ะไอ้คนเก่ง"



พีรพัฒน์ฉุนอันนาจนเลือดขึ้นหน้าไปหมด

เขาเงื้อมือทำท่าจะตบอันนาแต่ก็ทำไม่ได้



"เธอพูดแบบนี้เป๊ะทุกรอบที่เราถามครับ

หรือว่าเธอจะไม่รู้จริงๆครับว่าใครเป็นคน

ที่สั่งการอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด"



พีรพัฒน์หันหน้าไปมองหน้าโทรมๆของ

อันนาอีกรอบแล้วเปลี่ยนคำถามใหม่อีก

ครั้ง คราวนี้เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่

เบาลงและฟังดูเหมือนจะนุ่มนวลขึ้น



"เธอได้เอาอะไรที่ไม่ดีให้น้องพีมกิน

รึเปล่า...ตั้งแต่น้องพีมกลับมาเธอก็เอา

แต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลย"



"ว่าไงนะ...เหมียวเหมี่ยวร้องไม่ยอมหยุด

พวกคุณดูแลเธอกันยังไง...ไม่รู้หรอว่า

ถ้าเด็กตัวแค่นั้นร้องไห้ไม่หยุดปอดอาจ

จะมีปัญหาได้...ไม่มีใครรู้เลยหรอ"



"ก็เพราะรู้ไงถึงได้มาถามเธอว่าเธอได้

เอาอะไรให้น้องพีมกินรึเปล่า...เธอมีอาการ

แปลกๆแล้วตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา...เธอร้องแล้วก็

พูดคำว่า..มำๆ..มาๆอยู่ตลอดเลย"



"ถ้าร้องแบบนั้นก็แปลว่าเขาอยากให้อุ้มไง

แค่นี้ก็ไม่รู้หรอ"



"น้องพีมไม่ยอมให้ใครอุ้ม...ไม่ยอมให้ใคร

เข้าใกล้ตัวเลยด้วยซ้ำ..แล้วจะอุ้มยังไง"



"เธออาจจะอารมณ์ไม่ดีเพราะหิวด้วยล่ะมั้ง

ตั้งแต่มาเธอกินนมกินข้าวอิ่มรึเปล่า...หรือ

ว่าคุณปล่อยให้เธออดข้าวเหมือนฉัน"



"นั่นมันลูกฉันนะ...ฉันจะปล่อยให้เธออด

ข้าวอดน้ำได้ไง"



"ถ้าท้องอิ่ม...ได้นอนเต็มที่แล้วทำไมเธอ

ถึงจะยังร้องอยู่ล่ะ"



อันนาชักสีหน้ากวนไปใส่พีรพัฒน์อย่างไม่

ได้รู้สึกเกรงกลัวเขาเลยสักนิด พีรพัฒน์

เองที่หมดปัญญาที่จะทำให้น้องพีมหยุดร้อง

เขาจึงตัดสินใจสั่งคนหิ้วเอาตัวอันนาขึ้น

ไปบนบ้านใหญ่กับเขาด้วย เผื่อว่าถ้าคน

สองคนได้เจอกันเด็กน้อยอาจจะหยุดร้อง

และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อน้องพีมได้

เห็นหน้าอันนาจากที่ตอนแรกร้องๆไห้อยู่

ก็หยุดร้องเอาดื้อๆแถมยังทำตัวดุ๊กดิ๊กๆ

เหมือนจะอยากเข้าไปใกล้อันนาอีกด้วย

จนทุกๆสายตาในห้องถึงกับมึนงงเป็น

ไก่ตาแตกกันทั้งห้อง



"ไหนใครร้องไห้เอ่ย...ไหนใครงอแงกันนะ

ไม่ร้องนะคะสาวน้อยไม่ร้องนะคนดี"



อันนาที่นั่งคุกเข่าอยู่ห่างไปจากเตียงตบมือ

ร้องเรียกเสียงเบาพร้อมกับยิ้มกว้างส่งไป

ให้แม่สาวน้อยที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียง

เมื่อเด็กน้อยได้ยินเสียงอบอุ่นที่คุ้นเคย

เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที น้องพีม

ฉีกยิ้มที่ใสซื่อบริสุทธิ์ออกมาครั้งแรกเลย

หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน เธอค่อยๆเผย

เสียงหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับยกมือ

น้อยๆโบกไปมาเพื่อสื่อให้คนที่เรียกเธอ

ได้รับรู้ว่าเธอดีใจมากๆที่ได้เห็นหน้ากัน

น้องพีมมีอาการตื่นเต้นราวกับว่าเธอได้

เจอหน้าของแม่ตัวเองหลังจากที่ไม่ได้เห็น

กันมาสักวันสองวัน





(พีรพัฒน์คิดในใจ)

"อะไรกันเนี่ย...น้องพีมเห็นหน้ายัยเด็กนี่

แล้วหยุดร้องไห้เลยงั้นหรอ...หรือว่ายัย

เด็กคนนี้เอาอะไรให้น้องพีมกินจริงๆ

น้องพีมถึงได้ติดใจยัยนี่หนักขนาดนี้"



*******************



"อาเต๋อ...หาอะไรมาปิดหูให้น้องพีมทีสิ

ฉันจะคุยกับยัยเด็กนี่ให้รู้เรื่องสักที"



"ได้ครับนาย"



อาเต๋อเดินออกจากห้องไปได้ไม่นานเขา

ก็กลับเข้ามาพร้อมหูฟังอันเล็กเพื่อไปสวม

ปิดป้องกันไม่ให้น้องพีมได้ยินสิ่งที่ไม่ควร

ที่จะได้ยิน 







"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้

ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"



ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาว

ใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยว

เค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียง

ที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้า

ดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้า

เธอไม่ตอบคำถามเขา



"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิ

ถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"



"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่า

เธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้าง

ให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"



"เสียดายใบหน้าหล่อๆ ของแกเนอะ..หล่อ

แต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!

ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่า

ฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอ

น้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"



"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉัน..เธอจะได้ไปนอนคุย

กับรากมะม่วงแน่ๆ ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมด

ความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่า

ไปซะก่อน"



พีรพัฒน์ควักปืนออกมาขู่อันนาหวังจะให้

เธอนั้งกลัวเขาจนคุณนมและคนใช้อีกหลาย

คนร้องกรี๊ดห้ามกันแทบเสียงหลง แต่กลับ

กันเลย อันนาไม่ได้เกรงกลัวปืนที่เอามาขู่

เธอด้วยซ้ำ เธอไม่กลัวตายแถมยังท้าทาย

ให้พีรพัฒน์ยิงเธอเลย



"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะ

เธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมี

นิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจ

เพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อน

แบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"



พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอก

ปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้า

เธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน



~ปัง ปัง ปัง ~



"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็ก

ตัวเล็กๆ อยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิด

บ้างสิ"



"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิด

หูเขาไว้แล้ว.."



"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขา

ไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมอันชั่วช้าของ

พ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลัง

จดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็น

พ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้าง

หน้าโง่ๆ แบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"



"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้

ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้น

ไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."



"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ย

ก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูแกเอาปืนมาจ่อ

ใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า

เด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...แกรู้บ้างรึเปล่า

ว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!

คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหน

เขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆ

เขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตาย

แต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศ

หายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉัน

เปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิต

เธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมาก

แค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหน

ฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่

ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะ

ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขา

ชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้

ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่อง

พวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้าง

รึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆ เกี่ยวกับลูกของ

ตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"



อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยาม

อดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่

พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเอง

ก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่

ไม่น้อยเลย เธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้อง

มาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อม

แบบนี้



"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้ง

อย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"



"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่

ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้า

คุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉัน

คุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้า

เขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดู

ฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจ

เป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่ง

ต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะ

เป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตก

ทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะ

ช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมา

ด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำ

กับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรม

ชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดี

สำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อ

เขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่

คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียน

เขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ ...คุณว่ามันคุ้ม

กับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ย

มันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของ

คุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"



สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไป

เป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม

ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไป

กับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยัง

ไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไป

จากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆ เธอก็ร้อง

กรี๊ดๆ ลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆ

มาหาอันนา พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาว

ของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหน

พีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆ น้องพีม

เพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้



เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและ

เอาอกเอาใจใส่เธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่

ของเธอ  เธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับ

ไปแตะๆที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้

พึมพำภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึง

กับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะ

พีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ



"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ย

น้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยา

นั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนใน

ครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"



"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่

จะไปจัดการครับนาย"



"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยาก

จะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลย

แต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือ

แต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรอง

ว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่นอน"



พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้า

ลูกสาวเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้

เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆ พร้อมกับ

เหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้า

ที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่

เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีม

เอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆ เขาก็คงต้อง

ตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม





"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอ

มาไว้ที่ห้องเล็กทีนะ...ฉันจะให้เธอมาเป็น

พี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่าง

แล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะ

ซื้อไว้เลย...ซื้อให้เป็นชื่อของเธอ"







(เราไม่สนับสนุนให้ผู้ใหญ่ใช้ความรุนแรง

แบบนี้หรือทุกๆกรณีต่อหน้าเด็กๆนะคะ

เพราะมันจะเป็นการปลูกฝังเด็กให้โตขึ้น

มาเป็นคนไม่ดีได้ โปรดใช้วิจารณญาณ

ในการอ่านด้วยนะคะ ขอความกรุณา

อย่าดราม่าด่าไรท์นะคะ)



.

.

.

.

.

⏭️โปรดติดตามตอนต่อไป⏩