อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"
ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,ครอบครัว,ไทย,พระเอกร้าย,ราคะ,หื่น,ทาสบำเรอกาม,นางบำเรอ,โรมานซ์,มาเฟียโหด,พระเอกครั่งรัก,พระเอกโหด,มาเฟีย,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"
ผู้แต่ง
M990
เรื่องย่อ
"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะ
ใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็ก
ตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้า
พวกคนใจบาปหยาบช้า"
อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้าง
ให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจาก
ข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตน
เธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่ง
จะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาท
แลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน
แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึง
หนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่
คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไร
ก็ได้แต่งวยงง
"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้
ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"
ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาว
ใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยว
เค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียง
ที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้า
ดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้า
เธอไม่ตอบคำถามเขา
"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิ
ถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"
"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่า
เธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้าง
ให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"
"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อ
แต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!
ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่า
ฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอ
น้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"
"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุย
กับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมด
ความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่า
ไปซะก่อน"
"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะ
เธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมี
นิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจ
เพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อน
แบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"
พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอก
ปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้า
เธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน
~ปัง ปัง ปัง ~
"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็ก
ตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิด
บ้างสิ"
"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิด
หูเขาไว้แล้ว.."
"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขา
ไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของ
พ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลัง
จดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็น
พ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้าง
หน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"
"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้
ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้น
ไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."
"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ย
ก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อ
ใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า
เด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่า
ว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!
คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหน
เขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆ
เขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตาย
แต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศ
หายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉัน
เปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิต
เธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมาก
แค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหน
ฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่
ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะ
ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขา
ชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้
ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่อง
พวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้าง
รึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูก
ตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"
อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยาม
อดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่
พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเอง
ก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่
ไม่น้อยเลย เธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้อง
มาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อม
แบบนี้
"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้ง
อย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"
"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่
ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้า
คุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉัน
คุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้า
เขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดู
ฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจ
เป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่ง
ต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะ
เป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตก
ทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะ
ช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมา
ด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำ
กับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรม
ชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดี
สำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อ
เขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่
คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียน
เขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้ม
กับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ย
มันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของ
คุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"
สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไป
เป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม
ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไป
กับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยัง
ไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไป
จากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้อง
กรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆ
มาหาอันนา พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาว
ของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหน
พีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีม
เพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้
เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและ
เอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอ
เธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆ
ที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำ
ภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึง
กับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะ
พีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ
"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ย
น้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยา
นั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนใน
ครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"
"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่
จะไปจัดการครับนาย"
"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยาก
จะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลย
แต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือ
แต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรอง
ว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"
พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้า
ลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้
เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับ
เหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้า
ที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่
เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีม
เอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้อง
ตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม
"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอ
มาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็น
พี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่าง
แล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะ
ซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"
คำเตือน
ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน
วิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้
ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุติ
นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง
และความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มี
เจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆ
ที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหา
อาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศ
และตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อน
ข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริง
และเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริง
มากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ
อ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณ
ไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่
ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏
05.45 ของวันใหม่
ในห้องครัว
อันนาตื่นลงมาที่ห้องครัวแต่เช้าเพราะ
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เธอตามเสียง
จอแจๆของพวกแม่บ้านไปเรื่อยๆจนถึง
ประตูหน้าห้องครัว
"พี่แมว...คนนี้พี่จะลงพนันกับฉันมั้ยพี่
ฉันว่าคนนี้อยู่ได้ไม่เกินเดือน...ดูก็รู้ว่า
อายุยังน้อย...ดีไม่ดีอาจจะรุ่นราวคราว
เดียวกันกับพวกเรา"
"คนนี้ฉันว่าน่าจะสามเดือนนะ...เพราะดู
จากการพูดการจาของนาง...นางก็เหมือน
ว่าจะแน่อยู่เหมือนกัน...แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่ะ
ฉันตะหงิดๆใจว่าคนนี้ไม่เหมือนกันกับทุก
คนที่มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก...นางดูมีออร่า
อะไรบางอย่าง...ดูผิวพรรณวรรณะนางก็
ดูผ่องๆไม่เหมือนคนที่จะมาเป็นขี้ข้าอย่าง
เราๆ...นางดูมีอะไรๆอยู่"
เสียงจอแจของบรรดาสาวใช้น้อยใหญ่
ต่างพากันพูดกันถึงเรื่องของอันนาที่มา
เป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนูพีม
"นี่ถึงขั้นลงพนันกันเลยหรอเนี่ย...ใครลง
ก็แพ้หมดนั่นแหละเพราะฉันจะอยู่ไม่นาน
ฉันจะหาทางออกไปจากขุมนรกนี้ให้เร็ว
ที่สุด...ขืนอยู่ต่อนะ...มีหวังได้ลงไปนอน
คุยกับรากมะม่วงอย่างที่พวกนั้นขู่ไว้แน่ๆ"
อันนาบ่นกับตัวเองแล้วก็ค่อยๆเดินไปยัง
ห้องครัวที่อยู่ไม่ไกลจากตรงที่เธอยืนอยู่
แต่ไม่ทันที่อันนาจะได้แสดงตัวเธอก็ถูก
สาวใช้อีกคนจับได้ซะก่อน
"คุณคะ...ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะคะ...หรือ
ว่าต้องการอะไรรึเปล่า...หิวข้าวหรอคะ"
อุ้มสาวใช้ตัวน้อยเดินมาจากทางด้านหลัง
แล้วบังเอิญเห็นอันนายืนแอบอยู่ข้างหลัง
ประตู อุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและ
อ่อนโยนพร้อมกับโค้งคำนับจนอันนาเห็น
แล้วก็ต้องแปลกใจในพฤติกรรมนั้น
"คือว่าฉัน...ฉันนอนไม่ค่อยหลับก็เลยเดิน
ลงมาเรื่อยๆ...มีอะไรให้ฉันช่วยทำบอกได้
เลยนะคะ...ฉัน...ฉันยังไม่รู้ว่าควรทำอะไร
บ้างเกี่ยวกับหน้าที่พี่เลี้ยง"
"เจ้านายไม่ได้สั่งไว้ล่วงหน้าหรอคะ...อ้อ
ฉันหมายถึง...ยังไม่ได้รับคำสั่งอะไรจาก
นายหรอคะ"
"ยังค่ะ...เขาไม่ได้สั่งอะไรไว้เลยค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอคำสั่งค่ะ...เพราะที่นี่
นอกจากเจ้านายแล้วไม่มีใครออกคำสั่ง
หรือให้คุณทำอะไร...เข้าไปนั่งคุยเล่นกับ
ทุกคนก่อนมั้ยคะ...เผื่อคุณอยากจะทำ
ความรู้จักกับคนอื่นๆ"
"ค่ะ...ฉันชื่ออันนาค่ะ...แล้วคุณล่ะคะ"
"ฉันชื่ออุ้มค่ะ...ทุกคนรู้ชื่อของคุณและ
ประวัติคร่าวของคุณแล้วค่ะเหลือเพียง
แค่ให้คุณทำความรู้จักกับคนอื่นๆค่ะ"
อันนายกคิ้วขึ้นสูงเพราะรู้สึกตกใจและ
เป็นงงสุดกับคำพูดของสาวใช้ที่อยู่
ตรงหน้า
"รู้จักชื่อ...แล้วก็ประวัติคร่าวๆของฉัน
หมายความว่าไงคะ...ทุกคนรู้ได้ไงคะ"
"ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกค่ะคุณ
เจ้านายจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ
คุณ...ทุกคนในบ้านเลยจำเป็นที่จะต้อง
รู้เกี่ยวกับคุณ...อย่างน้อยก็ต้องรู้ชื่อ..
รู้อายุรู้ประวัตินิดๆหน่อยๆ"
"เจ้านายจอมเผด็จการสินะคะ..."
อันนาพอพูดถึงพีรพัฒน์เธอก็เผลอแสดง
อาการไม่ชอบใจแล้วก็เหลือบตาขึ้นมองบน
โดยอัตโนมัติจนอุ้มสาวใช้แอบเห็นแล้วนาง
ก็แอบยิ้มแอบขำเบาๆ อุ้มเดินนำหน้าอันนา
เข้าไปในห้องครัวพร้อมกับเอ่ยปากว่าเธอ
เองก็จะพนันกับพวกสาวใช้ที่คุยกันอยู่ก่อน
หน้า
"ฉันว่าคนนี้อยู่นาน...นานพอที่บ้านหลังนี้
จะมีการเปลี่ยนแปลง...ฉันลงเดิมพันด้วย
เงินหนึ่งหมื่นบาท"
อุ้มเอ่ยปากขึ้นเสียงดังพร้อมกับส่งซิก
ให้เพื่อนได้รู้ตัวว่าคนที่พวกเธอกำลัง
พูดถึงได้ยืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว เมื่อทุกคน
หันไปเจออันนาก็ถึงกับอึ้งแดก ต่างคน
ต่างพากันมีอาการที่เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก
"ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอกค่ะพี่ๆ...ฉันไม่ได้
ติดใจอะไรกับคำพูดแบบนั้นเลยนะคะ
ฉันว่ามันก็น่าสนุกดีออกค่ะ"
อันนาพูดคุยหยอกล้อสนทนากับพวก
สาวใช้อย่างสนิทสนมราวกับว่าเคยเจอ
กันมานานแล้ว
"คุณอันนา...เป็นเรื่องจริงหรอคะที่เขาว่า
เขาลือกันมาว่าคุณไปเจอคุณหนูตัวเล็ก
ที่กองขยะในซอยเปลี่ยวๆ"
"ค่ะ...ทีแรกที่ได้ยินเสียงร้องไห้อันนาคิด
ว่าเป็นแค่เสียงน้องแมวด้วยซ้ำค่ะ...จนถึง
ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าวันนั้นอันนาไม่
ถอยหลังกลับไปดู...เจ้าตัวเล็กจะเป็นยังไง
ไม่กล้าคิดเลยล่ะค่ะพี่ต้อยติ่ง"
"คนทำนี่ก็ช่างใจร้ายใจดำกับเด็กเหลือเกิน
นะคะ...โดยเฉพาะเด็กคลอดก่อนกำหนด
แบบคุณหนูพีม...จิตใจมันทำด้วยอะไรก็
ไม่รู้นะคะ...พี่ว่ามันน่าจับมาตัดมือบั่นคอ
ให้มันตายๆไปเลย...คุณคิดแบบนั้นมั้ยคะ"
อันนาไม่ได้ตอบอะไรเธอทำเพียงพยักหน้า
พร้อมกับยิ้มแห้งๆส่งกลับไปเพื่อเป็นการ
ตอบกลับต้อยติ่ง อันนากวาดสายตามองไป
รอบๆตัวพร้อมกับฉุกคิดอะไรไปภายในใจ
(อันนาคิดในใจ)
"คนบ้านนี้ทำไมดูแล้วน่ากลัวกันทุกคนเลย
นะ...เจ้านายก็จอมขู่...แม้กระทั่งสาวใช้ก็ยัง
จะฆ่าคนตัดมือคนบั่นคอคน...นี่เป็นกันหมด
ทั้งนายทั้งบ่าวเลยหรอเนี่ย...น่ากลัวจังเลย"
********************
อันนารีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น เธอ
เดินไปเรื่อยๆเพื่อสำรวจดูทางหนีทีไล่
เอาไว้ เดินออกจากห้องครัวไม่ไกลนัก
อันนาก็เดินออกมานอกบ้านแล้วพบเจอ
กับสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆบ้าน
ในสวนข้างบ้านถูกจัดไว้อย่างร่มรื่นและ
เงียบสงบถึงแม้นว่าในทุกๆตารางของพื้น
ที่รอบๆบ้านจะมีแต่ชายฉกรรจ์หน้าตาดูแล้ว
ดุร้ายราวกับสัตว์ป่าล่าเนื้อก็ตาม อันนาเดิน
ชมสวนพร้อมกับรอยยิ้มที่เบิกบานอารมณ์ดี
พฤติกรรมเหล่านั้นของเธอถูกดวงตาคู่หนึ่ง
ที่ยืนจิบกาแฟอยู่บนห้องตรงระเบียงบ้าน
"ทีเมื่อคืนบอกไม่อยากจะอยู่"
พีรพัฒน์ใช้ดวงตาคมจ้องมองไปที่ร่างบาง
อย่างไม่วางตา ก่อนที่จะลุกออกจากตรงนั้น
แล้วเดินลงมาหาเจ้าหล่อนที่สวน
"อ้าว!!!...ยังอยู่หรอ...คิดว่าหนีออกจากที่นี่
ไปได้แล้วซะอีก...ก็คงจะแค่ปากเก่งล่ะสินะ
เอ๊ะ!!!..หรือว่าเปลี่ยนใจเพราะเห็นว่าที่นี่
หรูหราน่าอยู่ขึ้นมา..."
พีรพัฒน์เอ่ยปากพูดทักทายพร้อมกับพูด
เย้ยหยันอันนาอยู่ด้านหลัง เขาตั้งใจเดิน
ย่องเท้าเบาเพื่อจะมาพูดแขวะเธอโดยเฉพาะ
อันนาเมื่อได้ยินเสียงนั้นก็สะดุ้งตัวตื่นตกใจ
เธอหันขวับไปมองคนต้นเสียงอย่างไวพร้อม
กับรีบสาวเท้าจ้ำอ้าวหวังจะเดินหนีเขาไปให้
ไกลที่สุดแต่ก็ไม่ทันจะได้ก้าวไปหลายก้าว
เอวคอดของเธอก็ถูกล็อกเอาไว้ด้วยท่อนแขน
อันแข็งแกร่งจากคนร่างโต
"ทำอะไรเนี่ยคุณ...อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉัน
แบบนี้นะ...อย่าคิดว่าที่คุณทำกับฉันได้มะคืน
แล้ววันนี้มันจะเกิดขึ้นได้อีกนะ...ไม่มีทางค่ะ"
"อ้ออออ...อย่างนั้นหรอ?"
ว่าแล้วพีรพัฒน์ก็กอดเอวอันนาไว้จนแน่นมือ
พร้อมกับค่อยๆก้มหน้าลงไปดูหน้าคนตัวเล็ก
ที่ตอนนี้พยายามจะดีดดิ้นหนีจากเขา
พีรพัฒน์ก้มลงแล้วหันจมูกไปที่ลำคอของ
อันนาแล้วกระซิบคำพูดใส่หูอันนาอย่าง
แผ่วเบา
"ถ้าฉันเกิดหน้ามืดต้องการเธอขึ้นมาจริงๆ
เธอคิดหรอว่าเธอจะรอดจากมือฉันไปได้
ก็บอกไปแล้วไง...ถ้าอยากจะไปจากที่นี่
มีแค่ไม่กี่วิธี...ฉันแนะนำนะ...ถึงเธอจะ
กลายร่างเป็นแมลงอะไรก็ช่าง..จะเป็น
ยุงก็ตาม...คนของฉันก็เห็นเธอได้หมด
ไม่เชื่อก็ลองหาทางหนีออกไปดูสิ..ไม่
เกินห้านาทีเธอจะถูกพวกการ์ดพวกนั้น
หิ้วตัวเธอกลับมา...แต่จะกลับมาสภาพไหน
อันนั้นฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ"
พูดจบพีรพัฒน์ก็ยื่นจมูกโด่งๆของเขาลง
ไปแตะๆที่ลำคอขาวของอันนาพร้อมกับจุ๊บ
จารึกประทับตราเบาๆ พฤติกรรมเช่นนั้น
ของเขามันทำให้อันนาถึงกับสะดุ้งตัวแรง
เธอยกมือน้อยขึ้นมาจับต้นคอของเธอแล้ว
ใช้มืออีกข้างดันใบหน้าของเขาให้ออกห่าง
จากใบหน้าเธอ
"ว๊ายยย!!!...เป็นโรคจิตรึไงเนี่ย...ขาดการ
อบรมสั่งสอนรึไง...ทำไมถึงได้ชอบรังแก
ฉันนักห๊ะ...ไอ้คนไม่รู้จักบุญคุณคนเอ้ย"
พีรพัฒน์แสยะยิ้มร้ายทันทีเมื่อเขาถูกเธอ
ด่าว่าขาดการอบรมสั่งสอน เขากำลังจะจูบ
เธออีกครั้งแต่ดันถูกขัดจังหวะเพราะพยาบาล
ดันร้องเรียกหาอันนาบอกว่าน้องพีมตื่นมา
ก็ร้องไห้หาแต่เธอ คราวนี้อันนาจึงรอดตัว
ไปได้อย่างหวุดหวิด อันนาเมื่อถูกปล่อย
จากการพรรณนาการเธอก็รีบวิ่งสับเท้า
เข้าบ้านอย่างไว เธอมุ่งหน้าวิ่งไปยังห้อง
ของน้องพีม
"จ๊ะเอ๋....ใครร้องไห้คะ...ไหนคนไหนร้องไห้
ไม่ร้องนะคะ..ไม่ร้อง...คนสวยไม่ร้องนะคะ"
อันนาเอื้อมมือลงไปอุ้มเอาน้องพีมขึ้นมาอุ้ม
ไว้ในอ้อมแขนแต่เป็นเพราะเธอรีบมากเกิน
ไปเธอจึงยกน้องพีมผิดจังหวะ เธอพาตัว
น้องพีมเซถอยหลังเกือบจะล้มลงแต่ก็ยัง
โชคดีที่พีรพัฒน์รับตัวของทั้งคู่ไว้ได้ทัน
ทั้งอันนาและน้องพีมเซลงไปอยู่ในอ้อมแขน
ของพีรพัฒน์อย่างปลอดภัย
"ระวังหน่อยซิเธอ...ถ้าเกิดฉันไม่ได้อยู่
ตรงนี้เมื่อกี้เธอคงจะพาลูกของฉันล้มลง
หัวฟาดพื้นแล้วมั้งเนี่ย...ประมาทแบบนี้
เธอจะพาลูกฉันเจ็บตัวมั้ยเนี่ยอันนา"
อันนาหันไปสบตากับพีรพัฒน์พร้อมกับ
ยกเท้าน้อยไปกระเทือบลงบนเท้าใหญ่
เขาถูกเธอสั่งสอนทั้งทางร่างกายและ
ทางสายตาที่แอบก่นด่าเขาอยู่ภายในใจ
"ถ้าฉันจะพลาดทำให้น้องพีมเจ็บตัวก็
คงจะเป็นเพราะคุณนั่นแหละ...ออกไป
ได้แล้วฉันจะพาน้องพีมไปอาบน้ำ"
"ก็ไปสิ...ใครห้ามเธอไว้ล่ะ"
"ไม่มีใครห้าม...แต่มีมือของมารตัวหนึ่ง
กำลังกอดรั้งตัวฉันไว้...ไม่ยอมปล่อย
สักที...กอดเป็นหมอนข้างเลยเนี่ย"
พีรพัฒน์พอถูกด่าเขาก็สะดุ้งตัวเด้ง
เพราะพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นกอดอันนา
ไว้แน่น พีรพัฒน์เพื่อแก้เขินเขาจึงเดิน
ไปหยิบนั่นดูนี่แล้วก็ทำเป็นบ่นๆไปเรื่อย
ก่อนจะทำทีเดินเลี่ยงๆหนีออกไปจากห้อง
อย่างหน้าแดงๆ
.
.
.
.
.
⏭️โปรดติดตามตอนต่อไป⏩