อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด) - ตอนที่ 9 เธออยากจะตายด้วยวิธีไหนเลือกมาเลย โดย M990 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,ครอบครัว,ไทย,พระเอกร้าย,ราคะ,หื่น,ทาสบำเรอกาม,นางบำเรอ,โรมานซ์,มาเฟียโหด,พระเอกครั่งรัก,พระเอกโหด,มาเฟีย,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,ครอบครัว,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกร้าย,ราคะ,หื่น,ทาสบำเรอกาม,นางบำเรอ,โรมานซ์,มาเฟียโหด,พระเอกครั่งรัก,พระเอกโหด,มาเฟีย,รักวัยรุ่น,ดราม่า

รายละเอียด

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด) โดย M990 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

ผู้แต่ง

M990

เรื่องย่อ

"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะ


ใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็ก

ตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้า

พวกคนใจบาปหยาบช้า"





อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้าง

ให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจาก

ข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตน

เธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่ง

จะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาท

แลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน



แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึง

หนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่

คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไร

ก็ได้แต่งวยงง



"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้

ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"



ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาว

ใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยว

เค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียง

ที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้า

ดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้า

เธอไม่ตอบคำถามเขา



"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิ

ถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"



"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่า

เธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้าง

ให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"



"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อ

แต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!

ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่า

ฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอ

น้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"



"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุย

กับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมด

ความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่า

ไปซะก่อน"



"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะ

เธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมี

นิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจ

เพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อน

แบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"



พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอก

ปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้า

เธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน



           ~ปัง ปัง ปัง ~



"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็ก

ตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิด

บ้างสิ"



"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิด

หูเขาไว้แล้ว.."



"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขา

ไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของ

พ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลัง

จดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็น

พ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้าง

หน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"



"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้

ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้น

ไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."



"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ย

ก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อ

ใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า

เด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่า

ว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!

คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหน

เขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆ

เขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตาย

แต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศ

หายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉัน

เปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิต

เธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมาก

แค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหน

ฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่

ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะ

ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขา

ชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้

ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่อง

พวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้าง

รึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูก

ตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"



อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยาม

อดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่

พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเอง

ก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่

ไม่น้อยเลย เธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้อง

มาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อม

แบบนี้



"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้ง

อย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"



"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่

ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้า

คุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉัน

คุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้า

เขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดู

ฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจ

เป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่ง

ต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะ

เป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตก

ทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะ

ช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมา

ด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำ

กับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรม

ชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดี

สำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อ

เขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่

คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียน

เขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้ม

กับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ย

มันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของ

คุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"



สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไป

เป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม 

ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไป

กับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยัง

ไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไป

จากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้อง

กรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆ

มาหาอันนา พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาว

ของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหน

พีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีม

เพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ 



เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและ

เอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอ

เธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆ

ที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำ

ภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึง

กับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะ

พีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ



"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ย

น้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยา

นั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนใน

ครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"



"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่

จะไปจัดการครับนาย"



"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยาก

จะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลย

แต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือ

แต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรอง

ว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"



พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้า

ลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้

เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับ

เหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้า

ที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่

เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีม

เอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้อง

ตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม





"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอ

มาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็น

พี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่าง

แล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะ

ซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"





คำเตือน



ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน

วิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้

ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุติ

นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง

และความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มี

เจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆ

ที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหา

อาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศ

และตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อน

ข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริง

และเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริง

มากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ

อ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณ

ไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่

ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏













สารบัญ

อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 2 ชื่อน้องเหมียวเหมี่ยวดีมั้ยนะ,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 3 นี่ลูกฉันเป็นอะไร,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 4 เคยรู้อะไรจริงๆบ้างมั้ย,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่พึ่งจะรู้จักกัน,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 7 ปลิดชีพศัตรูวิถีคนดิบเถื่อน,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 8 หาเรื่องจะกินน้องแล้วไงคุณพีรพัฒน์,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 9 เธออยากจะตายด้วยวิธีไหนเลือกมาเลย,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 10 Nc🔞ฉันจะจูบเธอให้เสียสติเลยคอยดู,อุ้มรักกราวใจ(มาเฟียโหด)-ตอนที่ 11 อยากจูบตรงไหนก็จะจูบเหรอ

เนื้อหา

ตอนที่ 9 เธออยากจะตายด้วยวิธีไหนเลือกมาเลย

มาถึงวันนี้อันนาก็เข้ามาอยู่ในบ้าน

ของตระกูลสิริภัทรธนศาลเป็นเวลา

ได้หนึ่งอาทิตย์พอดี อันนาปรับตัว

และเข้าได้ดีกับทุกคนในบ้าน ยกเว้น

แต่กับเจ้าของบ้านคนเดียวเท่านั้นที่

อันนาไม่ค่อยอยากจะสนิทด้วย



"นี่เธอ!! นมบอกว่าเมื่อตอนกลางวัน

น้องพีมท้องเสียหรอ เป็นอะไรทำไม

อยู่ๆน้องพีมก็ท้องเสียได้ล่ะ"



พีรพัฒน์ชักสีหน้าดุดันใส่พี่เลี้ยงคนโปรด

ของลูกสาวพร้อมกับแววตาที่ไม่ค่อยจะ

สบอารมณ์สักเท่าไหร่



"ใช่ค่ะน้องพีมท้องเสีย แต่ตอนนี้กลับ

มาเป็นปกติแล้ว ที่เธอท้องเสียก็เป็น

เพราะการปรับเปลี่ยนนมที่ให้ดื่มค่ะ

เด็กที่เริ่มจะหกเจ็ดเดือนจะต้องปรับ

และเปลี่ยนนมไปตามอายุของเขาค่ะ

เด็กจะได้มีพัฒนาการที่ดีมากขึ้นตาม

เกณฑ์อายุที่ควรจะเป็น"



"ก็แค่ปรับเปลี่ยนนมแล้วทำไมต้องท้อง

เสียจนได้พบหมอแบบนั้นล่ะ หรือว่าเธอ

แกล้งน้องพีม"



"นี่คุณพีคะ!!! จะพูดจะจาอะไรออกมาก็

หัดคิดก่อนหน่อยก็จะเป็นการดีนะคะ

ถึงฉันจะพึ่งอายุยี่สิบแต่ฉันก็มีวุฒิภาวะ

มากพอที่จะไม่เอาเรื่องนึงไปปนกับอีก

เรื่องนึงเพราะฉันไม่ใช่คนอย่างคุณค่ะ"



อันนาจ้องพีรพัฒน์ราวกับว่าเธอต้องการ

จะจับเขาฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ อันนาถอน

หายใจเพราะรู้สึกเหนื่อยใจกับความชอบ

อคติของอีกฝ่าย



"เธอพูดแบบนี้คงจะหมายความว่าฉันเป็น

คนที่ใจแคบมากๆเลยสินะอันนา ฉันพูด

เพราะมันมีมูล ถ้าคนเป็นพ่อไม่คิดระแวง

ไว้ก่อนแล้วใครจะเป็นคนคิดล่ะ เธอเคย

รับเงินจากคนที่ลักพาตัวน้องพีมไปแล้ว

ตอนนี้เธอก็อยู่ในบ้านของฉัน ก็เท่ากับว่า

ฉันจ้างคนที่เคยเป็นศัตรูมาเลี้ยงลูกของ

ตัวฉันเองถูกต้องมั้ย แล้วแบบนี้จะไม่ให้

คนเป็นพ่ออย่างฉันระแวงเธอบ้างไม่ได้

เลยรึไง"



"ที่แท้คุณก็คิดแบบนี้นี่เองสินะ คุณคิดว่า

ฉันเป็นศัตรูมาโดยตลอด ที่คุณเก็บฉันไว้

ข้างกายในนรกขุมนี้คงเป็นเพราะคุณ

อยากจะล่อคนที่เป็นต้นเหตุออกมาสินะ

ฉันเดาถูกใช่มั้ย คุณเห็นฉันเป็นศัตรู

คุณไม่ได้ให้ฉันอยู่ที่นี่เพียงแค่น้องพีม

ต้องการฉัน!!! แต่คุณต้องการที่จะใช้ฉัน

แก้แค้นคนพวกนั้น"



"ฉลาดเหมือนกันนี่ รู้ตัวก็ดี ใช่!!! ฉันให้

เธออยู่ที่นี่ก็เพื่อจะใช้ตัวเธอเป็นประกัน

ถ้าเธออยู่ที่นี่ฉันก็อาจจะได้ข้อมูลอะไร

เกี่ยวกับพวกนั้นเพราะฉะนั้นหลายวันมานี้

ฉันจึงพยามจะเอาตัวไปยั่วยวนเธอให้เธอ

ตกหลุมพรางฉัน แต่ไม่คิดว่าคนที่หิวเงิน

อย่างเธอจะเล่นตัวไม่ยอมตกหลุมพราง

ที่ฉันขุดไว้ ถ้าใช้วิธีนุ่มนวลแล้วมันไม่ได้ผล

ต่อจากนี้ไปฉันก็คงจะต้องใช้ไม้แข็งกับเธอ

เตรียมรับมือเอาไว้เลยแม่เด็กน้อย"



อันนาเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เกิดอาการหูดับ

เลือดขึ้นหน้าจนใบหน้าของเธอแดงไปหมด

ที่แท้ตลอดมาเขาคิดแบบนี้นี่เอง เขาพยาม

อยากจะมีสัมพันธ์กับเธอเพื่อจะล้วงเอา

ความลับจากเธอ อันนาในใจก็รู้สึกผิดหวัง

อยู่บ้างเพราะเธอเองก็เกือบจะตกหลุม

พรางของเขาแล้ว อันนาเดินออกจากตรงนั้น

มุ่งหน้าไปยังห้องครัวเพื่อจะไปหาอะไรกิน

เพราะวันนี้ทั้งวันเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย

เธอยุ่งอยู่แต่กับน้องพีมที่เอาแต่ร้องไห้

เพราะปวดท้อง อันนาลงไปที่ครัวเพื่อจะ

ต้มบะหมี่สำเร็จรูปกินแต่ก็ยังไม่ทันที่จะ

ได้กินเธอก็ถูกพีรพัฒน์ไปหาเรื่องอีกรอบ

พีรพัฒน์ในอาการดื่มเหล้ามานิดหน่อย

และอารมณ์โมโหก็ยังค้างคาเขาจึงอยาก

จะหาที่ระบายอารมณ์นั้นกับใครสักคน



พีรพัฒน์หายตัวไปสักพักหลังจากที่ทะเลาะ

กับอันนาแล้วตอนนี้เขาก็กลับมากับอาการ

เมานิดหน่อย เขาเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อ

จะไปหาเรื่องทะเลาะกับอันนาอีกครั้งแต่

เขาก็ไปเห็นว่าอันนานั้นยืนคุยกับผู้ชาย

คนนึงในมือถือบะหมี่ถ้วยที่พึ่งจะต้มเสร็จ

ใหม่ๆ พีรพัฒน์เมื่อเห็นแบบนั้นก็รู้สึกไม่

ค่อยพอใจที่เห็นอันนาคุยอยู่กับใคร

เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกระชากแขนอันนา

ให้ออกห่างจากผู้ชายคนนั้นจนน้ำในถ้วย

บะหมี่หกตกลงมาลวกมือแขนและเท้าของ

อันนา อันนาตกใจสะดุ้งแรงและร้องกรี้ด

เพราะปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย



"อ๊ายยยยย!!! ทำบ้าอะไรเนี่ยไม่เห็นหรอ

ว่าฉันกำลังถืออะไรอยู่ในมือ น้ำเนี่ยพึ่ง

จะออกจากหม้อเลยนะเว้ย ไอ้บ้าโรคจิต"



เมื่อผู้ชายเห็นว่าอันนาโดนน้ำร้อนลวกตัว

เขาก็รีบพาอันนาไปล้างน้ำโดยที่เขาและเธอ

ก็ไม่ได้สนใจว่าพีรพัฒน์จะยืนอยู่ตรงนั้นมั้ย



"ที่แท้ก็ลงมาอ่อยหมออยู่ที่นี่นี่เองหรอ

เป็นไงล่ะได้จับได้จูบเธอสักครั้งรึยังล่ะหมอ

แต่ก็จะยากหน่อยนะเพราะถ้าเงินไม่หนาพอ

เธอคงจะไม่ยอมพลีกายให้เชยชมง่ายๆ

หรอก เพราะขนาดคนอย่างผมเธอก็ยังไม่

ชายตามองเลย"



อันนาและคุณหมอหันมามองหน้าของพีรพัฒน์

พร้อมๆกันแล้วก็รีบเอาตัวผละออกห่างจากกัน

หมอพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองอาจจะมีอันตรายได้

ถ้าหากเขายังจะเข้าใกล้อันนาอีกในครั้ง

ต่อๆไป



"ผมขอโทษที่ไม่ทันระวังนะครับคุณพีรพัฒน์

ผมก็แค่บังเอิญผ่านมาเจอคุณอันนาเข้าก็

เลยมาปรึกษากับเธอเรื่องนมที่พึ่งจะเปลี่ยน

ให้คุณหนูพีมเมื่อตอนกลางวัน ต่อไปผมจะ

ระวังให้มากกว่านี้ครับทั้งเรื่องคุณหนูพีม

แล้วก็เรื่องอยู่ใกล้คุณอันนา"



พีรพัฒน์มองหน้าหมอแล้วฉีกยิ้มหวานให้

พร้อมกับเรียกให้การ์ดที่อยู่แถวๆนั้นมา

ลากตัวหมอออกไปให้ห่างจากสายตา



"เอาตัวไอ้หมอนี่ไปจัดการซะ ฉันไม่อยาก

จะเห็นหน้ามันอีก แม้นแต่เงาหรือเสียงพูด

ของมันฉันก็ไม่อยากจะเห็นและไม่อยาก

ได้ยิน เป่ามันทิ้งซะ รีบลากตัวมันออกไป!!"



อันนาหน้าเสียทันทีเมื่อได้ยินและได้เห็น

ท่าทีของพีรพัฒน์ที่ตอนนี้คงจะกำลัง

โมโหแบบขั้นสุด อันนาเห็นแล้วก็รู้สึกว่า

แท้จริงแล้วพีรพัฒน์เขาเป็นคนที่น่ากลัว

มากขนาดไหน 



"จะให้เอาตัวมันไปหลังสวนมั้ยครับนาย

หรือไปโกดังดีครับ"



"ไปเรียกอาเต๋อกับกิตติมา ฉันจะให้พวกนั้น

ช่วยควักลูกกะตาของไอ้หมอนี่ออกมาดอง

แช่เหล้า"



"ไม่ได้นะ!!! แค่นี้ก็จะฆ่าจะแกงกันเลยหรอ

ก็แค่น้องพีมท้องเสียเองนะไม่ได้ตาย

นายจะทรมาณเขาไม่ได้นะบ้านเมืองนี้

มีกฎหมายไม่ใช่กฎหมาที่จะรุมหมู่แบบนี้

ปล่อยเขาไปนะ ปล่อยเขาไปเถอะนะ"





ยิ่งพีรพัฒน์เห็นว่าอันนาช่วยร้องขอชีวิต

ให้กับชายผู้นั้นพีรพัฒน์ก็ยิ่งอารมณ์เสีย

มากขึ้นไปอีก เขาคว้าเอามือเธอแล้วเดิน

ตามหลังพวกลูกน้องไปจนถึงหลังสวน

เขาสั่งให้อันนานั่งดูตอนที่ลูกน้องของเขา

ชำแหละร่างของหมอคนนั้นออกทีละชิ้น

อย่างโหดร้ายและดิบเถื่อน



"จะให้ผมทำยังไงกับมันดีครับนาย"



"ตัดมือของมันทั้งสองข้างทิ้งซะ มือเน่าๆ

ของมันเที่ยวหยิบจับอะไรที่มีค่าไปเรื่อย

ฉันไม่ชอบคนมือบอน หยิบจับของคนอื่น

โดยไม่คิด แล้วก็ควักลูกกะตาของมันออก

ด้วยนะ มันใช้มองอะไรที่ไม่ควรจะมอง

ดูอะไรที่ไม่ควรจะได้ดู"



กิตติก้มคำนับนายเพื่อรับคำสั่งแล้วเดิน

มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ตอนนี้ถูกซ้อม

ปางตาย อันนากรีดร้องราวกับจะขาดใจ

เพราะเธอทำใจทนเห็นไม่ได้



"ไม่นะ ฉันจะไม่พูดไม่ดีกับคุณอีกแล้ว

ฉันขอร้องล่ะนะคุณช่วยอภัยให้เขาสักครั้ง

จะได้มั้ย เขาก็ทำไปตามหน้าที่ของเขานะ

เด็กก็แค่ท้องเสียตอนนี้ก็หายดีแล้วด้วยอ่ะ

อย่าทำร้ายคนบริสุทธิ์เลยนะคุณ ฉันขอร้อง

อย่าทำอะไรเขาเลยนะ"



พีรพัฒน์กัดฟันเสียงดังเมื่อเห็นว่าอันนา

ดิ้นรนขอร้องเขาแทนหมอจนเป็นจะตาย

เขาก็ยิ่งเพิ่มความโกรธให้เขาไปอีก



"อาเต๋อ ช่วยปิดปากมันด้วยนะมันใช้ปาก

พูดโดยไม่คิด ถึงแม้นมันตายฉันก็ไม่อยาก

ได้ยินเสียงโหยหวนของมันในยามค่ำคืน"



"ครับนาย จัดให้ตามคำขอเลยครับ"



อันนาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนิ่มก็อยู่ไม่สุขเมื่อ

ดวงตาของเธอจะได้เห็นการฆ่าคนแบบที่

เลือดเย็นที่สุด เธอพยามจะดิ้นและลุก

ออกจากเก้าอี้เพื่อที่จะให้คุณหมอคนนั้น

ไม่ตายฟรีๆ แต่ถึงอันนาจะวิ่งไปเท่าไหร่

ก็ไม่ทันการณ์อยู่ดี เลือดกระเซ็นกระเด็น

พุ่งมาติดที่ใบหน้าของเธอโดยที่คนทำก็

ไม่ได้ตั้งใจ อันนาถึงกับสติแตกไปเลย

เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดสดๆและได้เห็น

ว่าสองคนทำยังไงกับร่างที่ไร้วิญญาณนี้

อันนากรีดร้องสุดเสียงก่อนจะเป็นลมไป

ในที่สุด





"ไอ้พวกโรคจิตวิตถาร พวกแกมันเป็น

ซาตานในร่างมนุษย์ชัดๆเลยอ่ะ ทำแบบ

นั้นกับมนุษย์ด้วยกันได้ยังไงเขาเป็นคน

มีเลือดเนื้อมีจิตใจเหมือนกันกับพวกแกนะ

ไม่เกรงกลัวเวรกรรมกันเลยรึไงเนี่ยห๊ะ!!!"



อันนาล้มเป็นลมคอพับลงข้างๆร่างที่

ไร้วิญญาณของหมอผู้ดวงซวยคนนั้นทั้ง

น้ำตา พีรพัฒน์ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปอุ้ม

อันนาออกมาจากหลังสวน ในระหว่าง

ทางที่นั่งรถมาจากหลังสวนพีรพัฒน์ก็

ให้อันนานอนหนุนตักของเขา มือเรียวยาว

เอื้อมมือมาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าสวย

แล้วจ้องมองอยู่อย่างนั้นอย่างไม่วางตา



"ใครหน้าไหนที่มันบังอาจแตะต้องของ

ที่เป็นของฉันมันก็จะมีจุดจบแบบนี้แหละ

นี่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้นอันนา"



เมื่อกลับถึงบ้านพีรพัฒน์ก็อุ้มอันนาขึ้นไป

บนบ้าน เขาอุ้มเธอไปที่เตียงกว้างของเขา

แล้วเรียกให้เด็กรับใช้ที่สนิทสองคนมาช่วย

​​​​​​อันนาอาบน้ำล้างคราบเลือดและช่วยเปลี่ยน

เสื้อผ้าให้แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอะไรอันนาก็

ตื่นขึ้นมาซะก่อน 



"ทำอะไรน่ะ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!!!"



เด็กสาวทั้งสองก้มหน้าคำนับอันนาอย่าง

นอบน้อมแล้วรีบถอยห่างออกจากเธอ



"พวกคุณเป็นใคร ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็น

หน้ามาก่อนเลยล่ะมาใหม่หรอ"



สาวใช้ทั้งสองไม่เพียงเอาแต่ก้มหน้ามองต่ำ

แล้วยังไม่ยอมพูดจาตอบคำถามอะไรกับ

อันนาเลย เมื่อพวกเธอเห็นว่าอันนานั้นฟื้น

แล้วทั้งคู่จึงรีบออกจากห้องของเจ้านายไป

ไม่นายพีรพัฒน์ก็เดินสวนสาวใช้เข้ามา



"โวยวายอะไรอีกแล้วล่ะ ทำไมไม่ยอมให้

สองคนนั้นช่วยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้"



อันนาไม่พูดอะไรกับเขา เธอลุกลงจากเตียง

แล้วมุ่งหน้าหมายจะออกจากห้องของพีรพัฒน์

แต่ก็ถูกแขนแมนอันแข็งแกร่งขวางทางไว้

เขาอุ้มตัวเธอขึ้นแล้วก็ไปวางลงที่เตียง

เช่นเดิม 



"ปล่อยฉันลงนะ มีสิทธิ์อะไรมาแตะต้อง

ตัวฉัน ปล่อยฉันนะไปให้ห่างๆฉันด้วย"



"ทีนี้ก็พูดกับฉันได้แล้วสินะ"



"ฉันจะไปจากที่นี่ให้ได้ไปจากขุมนรกแห่งนี้

พวกคนในบ้านนี้ไม่ใช่คน ทุกคนเป็นปีศาจ

ฉันไม่น่าหลวมตัวไปยุ่งตั้งแต่แรกเลยจริงๆ

ต้องโทษความใจดีของฉันที่มันเยอะเกินไป

ถ้าวันนั้นฉันไม่กลับไปช่วยเด็กคนนั้น ชีวิต

ของฉันคงจะไม่มาเจอเรื่องราวเลวร้ายอย่าง

ทุกวันนี้ ขอร้องสักครั้งเถอะนะถือว่าทำบุญ

ช่วยปล่อยฉันให้เป็นอิสระได้มั้ย ฉันขอทวง

บุญคุณ"



"คิดว่าที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้ารึไงที่ใครคิด

จะเข้าจะออกได้ตามอำเภอใจ ฉันไม่ให้

เธอไปจากที่นี่ อ้อ!!! เมื่อกี้เธอถามถึงสิทธิ์

ที่ฉันแตะต้องเธอใช่มั้ยฉันจะบอกอะไรให้

ฟังนะคนสวย ไอ้หมอที่เธอเห็นมันตายต่อ

หน้าต่อตาเมื่อกี้ มันตายเพราะเธอนะเธอรู้

มั้ย ฉันฆ่ามันเพราะมันไม่เจียมกะลาหัวไง

ทุกชีวิตที่อยู่ในอาณาเขตรั้วบ้านของฉัน

ก็เป็นของฉันทั้งหมดรวมถึงตัวของเธอด้วย

เห็นมือมันที่โดนตัดทิ้งมั้ยอันนั้นก็ต้องโทษ

เธอเพราะเธอบังอาจให้มันแตะตัวเธอ มัน

ก็เลยโดนตัดมือ แล้วก็ตาทั้งสองข้างของ

มันนั่นก็ต้องโทษเธอด้วยเพราะเธอให้มัน

มองเธอนานเกินไปฉันไม่ชอบสุกท้ายที่

ฉันสั่งให้อาเต๋อเย็บปากมันก็เป็นเพราะเธอ

คุยเสียงเล็กเสียงน้อยกับมัน จำไว้ว่า

ไอ้หมอคนนั้นมันตายเพราะเธอ เธอเป็น

คนทำให้มันตาย แล้วก็ตายอย่างน่าอนาถ

มากซะด้วยสิน่าสงสาร"



อันนาอึ้งเธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งฟัง

อยู่เงียบๆพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม

เป็นทางยาว เธอยกเอามือขึ้นมาปิดป้อง

ที่ปากแล้วร้องไห้ส่ายหน้าไปมาอย่าง

หมดหวัง



"พอจะเข้าใจแล้วรึยังว่าฉันมีสิทธิ์อะไร

ในตัวเธอ แต่ถ้าเธอยังคงไม่เข้าใจอยู่อีก

ฉันคงจะเหลือแค่ทางเดียวแล้วล่ะนะ

ที่พอจะยืนยันให้เธอได้เห็นกับตาว่าตัว

ของเธอเป็นของฉัน"



พีรพัฒน์แสยะยิ้มร้ายออกมาพร้อมกับก้ม

ลงไปใกล้ๆหน้าของอันนาแล้วหอมแก้ม

ของเธอ เมื่อเห็นว่าตัวเองจะถูกคุกคาม

มากเกินไปอันนาตบไปที่หน้าของเขา

เต็มแรงมือจนหน้าของพีรพัฒน์สะบัดไป

ตามทิศทางมือ 



"ก็นับว่ามีความกล้ามากนะที่กล้าตบหน้า

หล่อๆของฉัน เธออยากให้ฉันทำยังไงกับ

เธอล่ะ ฆ่ายัดกล่องแล้วถ่วงน้ำซะเลยดีมั้ย

เลือกมาสักวิธีสิเธออยากตายวิธีไหนถึงจะ

สาสมใจ!!! เลือกมาเลยสักวิธี!!!"





.

.

.

.

.

⏭️โปรดติดตามตอนต่อไป⏩

​​​​​