เมื่อนักเลงคีย์บอร์ดทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ - บทที่1 กรูว่าไม่ใช่ละ โดย DUR_ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ดราม่า,ไซไฟ,ทะลุมิติ,ดราม่า,นิยายวาย,แฟนตาซี,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ดราม่า,ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ทะลุมิติ,ดราม่า,นิยายวาย,แฟนตาซี,#BL

รายละเอียด

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ โดย DUR_ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อนักเลงคีย์บอร์ดทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

ผู้แต่ง

DUR_

เรื่องย่อ

    ไทป์ที่มีงานอดิเรกเป็นการอดข้าวแล้วเอาเงินไปซื้อนิยายมาอ่าน จนมาถึงนิยายแนวโรแมนติกแฟนตาซีเรื่องล่าสุดที่เขาพึ่งอ่านจบไปหยก ๆ แล้วรู้สึกโคตรที่จะหน่วงกับเรื่องราวของตัวร้ายเลย นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขารู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันไม่ยุติธรรมกับตัวร้ายหรือตัวประกอบบ้างตัวเลย เอาจริงความรู้สึกนี้มันก็จะอยู่แค่สองสามวันนั้นแหละ เดี๋ยวก็กลายเป็นปกติเองแต่ตอนนี้คือหน่วงมากนะ "ถ้าได้ทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวร้ายก็คงดี ฉันจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอเด็ดขาด!!" ไม่ทันขาดคำภาพตรงหน้าของเขาก็เริ่มที่จะมัว ๆ มองเห็นไม่ชัดก่อนจะค่อย ๆ จบสู่ความมืดมิด ไทป์คิดในใจ โอ้กูจะตายแล้วเหรอไม่แปลกใจเท่าไหร่คงจะได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องนี้... ซึ่งไม่ผิดไทป์เข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้จริง ๆ 

สารบัญ

ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่00 ตัวร้ายไม่มีสิทธิ์,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่1 กรูว่าไม่ใช่ละ,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-ตอนที่2 ความบรรลัยในภายภาคหน้า,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่3 คนแบบนี้พี่เจอมาเยอะแล้ว,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-ตอนที่4 ไม่มีความรู้(โง่),ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่5 คิดจะสู้กับนักเลงคีย์บอร์ดอย่างพี่ยังเร็วไปร้อยปีไอ้หนู,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่6 เด็กน้อย,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่7 ผ่านมาเป็นสิบปี,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่8 ไซฮาร์,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่9 ที่ผ่านมาเหงามากเลย,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่10 ไทป์คือใคร?,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่11 ดาวนับล้านดวงบนท้องฟ้า,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่12 ข้อมูลของโลกทางฝั่งนี้,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-บทที่13 ตัวปลอม,ก็ตัวร้ายไม่ได้ถูกกำหนดให้ถูกรักนิ-วันเกิด ตัวละคร

เนื้อหา

บทที่1 กรูว่าไม่ใช่ละ




   
   แน่นนอนว่าไทป์เองก็เป็นนักเลงคีย์บอร์ด เขา
ไม่มีวันที่จะยอมให้พวกชาวเน็ตมาด่าลูกสาวของเขาโดยที่ไม่โดนเขาด่ากลับไม่ได้หรอก ถึงแม้จะมีคนเดียวแต่เขาเองมันก็เลือดนักสู้ซะด้วยสิ

     ทุกวันหยุดเขาแทบที่จะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการคอมเม้นต์ตอบกลับพวกชาวเน็ตที่เข้ามาด่าเฮเซียไป จนเขาโดนแบนไปหลายแอคเคานต์แล้วแต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา

    เซ็งชิบ ต้องมาเถียงกับพวกประสาทแดกในเน็ตอยู่ทุกวัน

    ไทป์พูดกับตัวเองในใจคิ้วทั้งสองข้างพรางขมวดเข้าหากัน

    จริง ๆ จะให้เมินไปเลยก็ได้นะ แต่มันก็ขัดใจไทป์ซะเหลือเกิน ทำให้เขาจะต้องแวะเข้าไปเถียงกับพวกนั้นอยู่ทุกวัน

     “แทนนายเป็นประธานนักเรียนไม่ใช่หรือยังไง ไปเรียนสายแบบนี้ได้เหรอ”

     “ไม่เป็นไรหรอก ผมจัดการแล้ว”

     สายตาของไทป์เหลือบมองตามนักเรียนชายสองคนที่กำลังเดินเข้าร้านสะดวกซื้อสวนทางกันกับเขาที่กำลังเดินออก

     ชุดแบบนั่น มาจากโรงเรียนดังที่อยู่ไม่ไกลจากนี่สินะ

     เดินสวนกับลูกเศรษฐีด้วยเป็นบุญยิ่ง

     น่าอิจฉาจริง ๆ เลยนะ…

     อ๊ะ!!

     ไทป์ที่เดินคิดอะไรเพลินซะจนลืมดูไฟจราจรทางม้าลาย เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบเดินถอยหลังกลับมาที่ฟุตบาททันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไฟจราจรที่เป็นท่าคนยืนนิ่งพร้อมกับไฟสีแดง

     โชคดีไปที่ไทป์พึ่งก้าวขาลงบนพื้นถนนไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวบวกกับที่ยังไม่มีรถผ่านมา ไม่งั้นมีหวังได้ไปต่างโลกแน่ ต่างโลกเหรอ…ก็อยากลองไปอยู่นะ

     จากไฟสีแดงที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวท่าคนเดินไทป์ก็เดินข้ามถนนทันที ไม่ทันที่จะพ้นอีกฝั่งก็มีเสียงที่ไทป์ไม่อยากได้ยินที่สุดเวลาเดินข้ามถนนดังขึ้นติดต่อกันและกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ 

     ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ดดดดด

     !!!!

     ตึงง…

     ดวงตาที่พร่ามัวซะจนมองเห็นภาพตรงหน้าไม่ชัด

     อะไรอ่ะ รถสิบล้อ… มึงอีกแล้วเหรอ เครื่องมือส่งคนไปต่างโลกที่พี่เจแปนเขาฮิตกัน

     กูเองก็จะไปแล้วเหรอต่างโลกน่ะ ยังไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ถึงจะอยากลองไปแต่ก็ไม่ใช่ตอนนี้โว้ยย ยังมีอีกตั้งหลายคอมเม้นต์เลยที่ยังเถียงไม่ชนะ แบบนี้มันจะไปตายตาหลับได้ยังไงกัน
.
.
.

    ดวงตาที่ค่อย ๆ ลืมขึ้นมองหลอดไฟยาวที่ติดอยู่บนผนังสีขาวล้วน

     โรงพยาบาลเหรอ?

     ร่างบางค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งด้วยความสะลึมสะลือ

     กูยังไม่ตายอีกเหรอวะ หนังเหนียวจริง ๆ นะมึงเนี่ย

     ในขณะที่ไทป์กำลังคุยอยู่กับตัวเองในใจเสียงเปิดประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้น

     แอ๊ดด…

     ดวงตากลมทอดมองไปตามต้นเสียง

     ชายหนุ่มใส่แว่นในชุดกาวน์ที่เดินเข้ามายืนข้างเตียงไทป์ก่อนจะกล่าวขึ้น

     ?

     “หมอ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ…คุณเป็นโรคพิษสุนัขบ้า”

     ห้ะ!!

     “เดี๋ยว ๆ ขออีกรอบ”

    กูเนี่ยนะเป็นพิษสุนัขบ้า กูโดนรถชนมานะเว้ย ไม่ใช่ละๆ

     “กูโดนรถชนจะเป็นพิษสุนัขบ้าได้ยังไง”

     แล้วทำไมแว่นมึงเรืองแสงงั้นอ่ะเพื่อน

     “ไม่ต้องห่วงหมอจะรักษาให้เองนะ”

     พูดจบเขาก็เอาเข็มใหญ่เท่าแขนไทป์ขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้หวังจะฉีดมันให้กับไทป์

    “ฮิฮิฮิฮิ”

    “เห้ยเดี๋ยวหมอมึงใจเย็น”

    “ม่ายย…”

    เฮี้ยไรวะเนี่ยย!!
.
.
.

    !!!

     จู่ ๆ ไทป์ก็รู้สึกเหมือนเปียก ๆ แฉะ ๆ ที่ขา ใบหน้าค่อย ๆ ก้มลงมอง

    “ขออภัยเพคะ”

    หญิงสาวในชุดเมดที่กำลังนั่งลงอยู่ที่พื้นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย พูดขอโทษเขาซํ้า ๆ อยู่อย่างนั้น

    ไทป์หันหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ สถานที่แปลก ๆ กับผู้หญิงแปลกหน้าในชุดเมคอีกหลายคนที่กำลังมองมาทางนี้

    อะไรวะ ฝันในฝันเหรอ ช่างแม่งมันละกันตอนนี้กูอายมากมองมาทำไมทางนี้กันเยอะแยะ

     “โปรดอภัยด้วยเพคะ”

    ไอ้นี่ก็เหมือนกันขอโทษทำไมซํ้า ๆ แถมยังใช้คำศัพท์ที่ยุ่งยากอีกต่างหาก

    เดี๋ยวนะ… หรือนี่คือต่างโลก หรือยังไงวะเฮี้ยสับสนว่ะ

    “ใครก็ได้ช่วยตอบกูที!”

    ไทป์ตะโกนออกมาสุดเสียงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน

    ‘ใช่แล้ว นี่คือต่างโลก’

     ???

     “เสียงนี่มัน เสียงไอ้หมอคนเหมือนกี้ไม่ใช่เหรอ”

     ‘ใช่แล้ว ผมคือหมอคนนั้นเองครับ’

    “ไอ้เฮี้ยหลอนหูมึงตามกูมาถึงนี่เลยเหรอ”

    “มึงออกไป!”

    “พะ เพคะ”

    หญิงสาวในชุดเมคที่เอาแต่ขอโทษเขาซํ้า ๆ เมื่อกี้ขานรับด้วยความตกอกตกใจ

    “ไม่ได้หมายถึงเธอนะ”

    ‘อ้าวไหนบอกใครก็ได้’

    “เอ่อ ใครก็ได้แหละที่ไม่ใช่มึง”

    “ออกไปดิ๊”

    “ระ รับทราบเพคะ”

    หญิงสาวในชุดเมคที่ยืนอยู่แถวนั้นต่างขานรับพร้อมกันก่อนจะรีบออกไปให้ห่างจากจุดนี้กัน

     “โอ้ย เดี๋ยวใจเย็น”

     “อาา~”

     “เฮี้ยอะไรวะเนี่ยยย”

     ไทป์พูดพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นหยิกไปที่หัวของตัวเอง

     นี่กูพิมพ์ด่ากับคนในเน็ตจนหลอนไปแล้วเหรอวะ



    “เสียสติไปแล้วหรือลูกชายคนนั้นของท่านเคาท์น่ะ”

    เด็กหนุ่มหน้าตาดีอายุราว ๆ 7-8ขวบแต่งตัวดูมีฐานะที่กำลังมองจากระยะไกล