ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ดราม่า,ไซไฟ,ทะลุมิติ,ดราม่า,นิยายวาย,แฟนตาซี,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เฮเลน่าอายุเท่ากันกับเฮเซีย ตอนนี้เจ็ดขวบ…
แปด เก้า…
ฮิมเมลนับนิ้วมือตัวเอง
อีกประมาณสองปีต่อจากนี้ตระกูลแอสเธอร์จะทำการก่อกบฏและได้รับชัยชนะมาอย่างสวยงาม จากนั้นก็ตั้งตัวเองขึ้นเป็นราชาของประเทศนี้
แต่ว่านะ…
ความบรรลัยมันยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้
ตลอดระยะเวลาที่ คลาวด์ แอสเธอร์ ปกครอง เขาก็ทำการก่อสงครามไม่หยุดไม่หย่อนจนประเทศทั่วทั้งทวีปต่างก็มองเขาเป็นศัตรูกันหมด แต่เพราะคลาวด์ใช้กลยุทธ์ที่แปลกใหม่และการจัดการระบบที่เฉลียวฉลาดสามปีหลังจากนั้นเขาก็สามารถครอบครองได้เกือบทั้งทวีปและตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ ซึ่งในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีใครทำได้ด้วยระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้มาก่อน
.
.
.
คลาวด์ทำได้ยังไงอันนี้ฮิมเมลเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ไซฮาร์ ไนเรล อายุ16
ชายหนุ่มหรี่ตาคมมองรูปของไซฮาร์ในเอกสารข้อมูลสักพักก่อนจะเอนแผ่นหลังแนบชิดกับที่พิงของเก้าอี้หรูสีแดงถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายพลางคิดในใจ
ไม่ได้เจอนายมานานจนฉันเลิกนับปีไปแล้วแฮะ
เฮฟเนอร์ อีเธอร์
องค์รัชทายาท
เฮฟเนอร์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะยื่นมือไปเปิดลิ้นชักใต้โตะ
ภายใต้ลิ้นชักมีกล่องขนาดไม่ใหญ่มากตกแต่งด้วยอัญมณีอย่างปราณีต แค่ดูผิวเผินก็น่าจะเดาได้แล้วว่าคงจะมีของที่มีค่ามาก ๆ อยู่ในกล่องใบนั้น
เฮฟเนอร์เปิดกล่องออกก่อนจะเผยให้เห็นผ้าพันคอสำหรับฤดูหนาวผืนสีแดงไร้ลวดลายดูเป็นผ้าพันคอราคาถูกทั่ว ๆ ไป เขายื่นมือลงไปหยิบขึ้นมาด้วยความทะนุถนอมราวกับเป็นสิ่งลํ้าค่ายิ่งชีวิต เขาทั้งกำและสูดดมผ้าพันคอผืนนั้น
การสูดดมที่รุนแรงซะจนเสียงดังไปทั่วห้อง ใบหน้าที่เคลิบเคลิ้มมากจนดูโรคจิต
คิดถึง…
เขาทำแบบนั้นอยู่สักพักก่อนจะสงบลง เสียงหายใจถี่ระรัวดังก้องทั่วทั้งห้อง
“แฮ่ก…แฮ่ก แฮ่ก”
นัยน์ตาสีเหลืองทองค่อย ๆ เหลือบลงมองผ้าพันคอในมือที่ถูกเขาทั้งกำทั้งขยัมจนเกิดรอยยับไปหมด
ยับซะได้ไซฮาร์อุตส่าห์ให้มาแล้วแท้ ๆ
เวรเอ้ย…
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง ณ แนวหน้าสนามรบ
“เฮ้ ดูนี่มีจดหมายจากทางราชวงศ์มาที่นี่ด้วยล่ะ”
ชายหนุ่มวัยกลางคนอายุราว ๆ สามสิบพูดขึ้นพร้อมกับก้าวเท้าเดินเข้ามาในเต็นท์ที่มีชายหนุ่มวัยกลางคนอีกหลายนายที่มีแผลเป็นจากการทำสงครามมากมายบนใบหน้านั่งอยู่ข้างใน
“อย่าพึ่งเฉลย อย่าพึ่งเฉลย จากองค์รัชทายาทใช่มะ”
“ปิ้งปอง ถูกต้องครับผมม”
“เขาส่งจดหมายมาถามสารทุกข์สุขดิบนายตลอดเลยนี่ ไม่ตอบกลับเลยสักฉบับไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ”
ชายอีกคนรีบพูดเสริมพลางหันหน้าไปที่เด็กหนุ่มเจ้าของเส้นผมและนัยน์ตาที่เป็นสีม่วงดูมีเสน่ห์ ที่นั่งอยู่มุมเต็นท์
“ดูเหมือนองค์รัชทายาทจะไปขอให้องค์ราชาออกคำสั่งเรียกตัวนายกลับน่ะ แต่เพราะนายเป็นถึงลูกชายของดยุคองค์ราชาจึงให้นายเป็นคนตัดสินใจเองน่ะ นี่ไง”
เขาพูดพลางกางหนังสือจดหมายอย่างเป็นทางการในซองจดหมายให้ทุกคนดู
“ยินดีด้วยนะ จะได้ไม่ต้องมาลำบาทที่นี่อีกแล้วล่ะ นายยังเด็กมากกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองเถอะ”
“ที่ผ่านมารัชทายาทเองก็เขียนจดหมายขอร้องอ้อนวอนให้นายกลับไปใช้ชีวิตแบบที่พวกชนชั้นสูงเขาใช้มาโดยตลอดเลยนี่ แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะถึงขั้นขอร้องให้องค์ราชาออกหนังสือทางการนี่ให้”
“แล้วองค์ราชาก็ยอมออกให้ด้วยนะ สุดยอดเลยไหมล่ะ”
“เขาคลั่งรักนายมากเลยจริง ๆ ”
“คนที่ส่งตัวผมมาที่แห่งนี้ก็คือตระกลูของผมหากสงครามนี้ยังไม่จบลงหรือไม่มีคำสั่งจากตระกลู ผมคงไปไหนไม่ได้ครับ”
ไซฮาร์ทกล่าวด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยดูไร้อารมณ์เหมือนเคย
“เห้อ นายเนี่ย…ชีวิตนายเป็นของตระกูลหรือไง”
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดประชดประชันไซฮาร์แต่อย่างใดแต่เขาพูดเพราะความเป็นห่วงตัวของไซฮาร์เองล้วน ๆ ไซฮาร์เองก็รู้เรื่องนั้น
ไซฮาร์ ไนเรล ถูกส่งตัวมาเข้าร่วมสงครามตั้งแต่อายุเก้าขวบหรือเมื่อเจ็ดปีก่อนนั้นเอง น่าแปลกที่เขายังมีชีวิตรอดอยู่มาจนถึงทุกวันนี้